24 มิถุนายน 2551 11:56 น.

เมฆหม่น

ดาวระดา

DSCF4612s.jpg
คล้ายความเหงาหลบเงาบนปุยเมฆ 
คอยปั้นเสกทุกครั้งที่ฉันส่อง 
คาบความหม่นหมายตามาจ้องมอง 
เค้นความหมองคล้องอดสูมาคู่เคียง 

หรือเพราะใจใฝ่ปองจึงหมองเศร้า 
หรือเพราะเงาเขาหลบไปไม่ส่งเสียง 
หรือเพราะรักผลักไสไยเอนเอียง 
ถึงได้เสี่ยงเบี่ยงหน้าให้ข้าตรม 

แท้ที่จริงความเหงาใช่เงาเมฆ 
ใจเราเสกต่างหากที่อยากขม 
หากหัวใจไม่หมองลองมาชม 
เมฆที่ห่มห่อฟ้าแสนน่ามอง 

โทษคนอื่นยื่นให้ไฟความผิด
ลืมครุ่นคิดว่าตัวเราเร้าสนอง 
สุขเศร้าเหงาหรือชื่นยื่นมารอง 
อย่าเรียกร้องฟ้องใครไม่สมควร 
				
18 มิถุนายน 2551 12:15 น.

รักเหลือ..เมื่อมีใย

ดาวระดา

Rbc5d5bGhD.jpg
ขอบคุณรอยร้าวที่ก้าวไม่ถึง
อย่างน้อยหนึ่งความหวังยังไม่ศูนย์
ยังมีหนึ่งให้นับจับมาคูณ
โอกาสพูนเพิ่มต่อยังพอมี


เพียงสองทางห่างกันในความคิด
แค่สะกิดใจกันอย่าพลันหนี
ยังมีหวังสั่งสมอุดมมี
บนเนื้อที่ที่เราเข้าใจกัน


ฟ้าประทานเรามาฝ่าลมฝน
บนรอยหม่นเปื้อนฝุ่นกรุ่นความฝัน
สานก่อร่างสร้างปลูกความผูกพัน
แม้สูงชันสันเขาเราจะไป


ถึงเหลือใยเพียงน้อยค่อยค่อยถัก
ให้รังรักรื่นรมย์เป็นร่มใหญ่
ไม่เกินรอตอรักจักผลิใบ
แตกกิ่งใหม่มั่นคงเป็นดงดอย
				
16 มิถุนายน 2551 00:20 น.

ข้าวหอมมือเหี่ยว

ดาวระดา

034501022.jpg
สองมือเหี่ยวเกี่ยวข้าวสาวขึ้นเก็บ
ผ่านมือเล็บลิร่วงจากรวงหวัง
ร้อยรอยแยกแตกลายผายผุพัง
สองมือยังบังประคองด้วยสองตา

ใช้มือเหี่ยวเคียวเก่ากับข้าวใหม่
ตัดต้นใบให้เห็นเป็นรวงหรา
ก่อนจะมัดจัดวางข้างคันนา
แล้วหาบบ่าท้าลมขึ้นชมลาน

กว่าจะได้ข้าวงามตามที่คิด
ต้องตั้งจิตต่อเติมเพิ่มข้อขาน
กว่าจะได้ข้าวสีดีหนึ่งจาน
ต้องระรานพาลมือเหี่ยวหมดเรี่ยวแรง

ข้าวหอมหอมดอมดมน่าชมนัก
ผู้คนรักตักกินไม่สิ้นแหนง
ต่างยกย่องเป็นสินค้าราคาแพง
มาแต้มแต่งปลายลิ้นด้วยกลิ่นยวน

แต่มือเหี่ยวใครเล่าจะเฝ้าฝัน
ให้รางวัลขวัญข้าวที่หอมหวน
เห็นมือเหี่ยวหุ้มจนคนไม่ชวน
ทั้งหลายล้วนด่วนตัดสินให้สิ้นดี

จะมีใครขอบใจมือเหี่ยวแห้ง
ท้าลมแล้งแข่งลมฝนทนเสื่อมศรี
ช่างแห้งหดถดถอยร้อยราคี
สองมือนี้แห้งเหี่ยวใครเหลียวแล



				
14 มิถุนายน 2551 01:31 น.

ระหัดร้างกลางนาเกลือ

ดาวระดา

image004.jpg
ระหัดร้างกลางนาที่ข้าพบ
คล้ายดังศพไร้ญาติขาดเพื่อนผอง
ถูกทิ้งร้างว่างวายคนหมายปอง
ดูหม่นหมองดองไว้ในนาเกลือ

ด้วยวิถีทำนามาเปลี่ยนผลัด
เลยพาพัดระหัดส่งไม่หลงเหลือ
ใช้น้ำมันดันนามาจุนเจือ
กลายเป็นเหยื่อทำเกลือไม่พอกิน

ส่วนลูกหลานคลานมาว่าไม่สน
ทำนาจนข้นแค้นแสนดูหมิ่น
เข้าโรงงานร้านค้าเป็นอาจิณ
ลบหลู่กลิ่นสิ้นแล้วคนทำนา

เคยวิดน้ำเข้านามาวิกฤติ
ถูกรอนริดสิทธิ์แค่นอนแบหรา
อยู่กลางแดดแผดไหม้ไร้ราคา
ดูสิ้นค่าหน้าที่ไม่มีเลย

ต่อแต่นี้มีค่าแค่หายาก
เป็นของฝากจากสมัยให้นำเผย
ตั้งตระหง่านหน้าม่านให้ชมเชย
คนเอื้อนเอ่ยเคียงชิดพิพิธภัณฑ์
				
13 มิถุนายน 2551 09:55 น.

ดวงจันทร์ในดวงใจ

ดาวระดา

poompaung01.jpg&usg=AFQjCNGI2Pb5odiPGxqG
โอ้ดวงจันทร์ปั้นแต่งนภาภัพ
ได้ลาลับดับแสงแจรงหล้า
ชั่วข้ามคืนแค่นั้นดวงจันทรา
กลับหวนมาส่องแสงเหลืองประเทืองทัน

แต่หญิงสาวบนจันทร์สุพรรณบุรี
ได้จางสีนิคาลัยสู่สวรรค์
ลาลับล่วงพุ่มพวงแห่งดวงจันทร์
เฝ้ารำพันฝันอาลัยไม่เสื่อมคลาย

จากเด็กสาวบ้านนาหาความหวัง
อยากเด่นดังดั่งจันทร์ที่สุกฉาย
เพื่อพี่น้องท้องเดียวได้สบาย
จึงมั่นหมายเป็นดาวเด่นดั่งเพ็ญพราว

จากรำพึง จิตรหาญย่านสุพรรณ
เป็นพุ่มพวงดวงจันทร์ในห้วงหาว
ฝากเสียงเพลงบรรเลงล้อมมวลหมู่ดาว
สุกสกาวพราวค่าล้ำงามอำไพ

ถึงวันนี้สิบหกปีที่ลาจาก
ยังฝังรากบทเพลงที่ส่องใส
แก้วรอพี่ ยังซึ้งถึงดวงใจ
ฟังคราใดให้หวนชวนคะนึง

ทุ่งนางคอยคอยทางที่คืนกลับ
โสตสดับคราใดให้คิดถึง
เสียงหวานแว่วแก้วเสียงยังตราตรึง
ประดุจหนึ่งราชินีลูกทุ่งไทย


บทกลอนนี้แต่งขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึง พี่พุ่มพวง ดวงจันทร์  
ดวงจันทร์ที่จากฟ้า
แม้ว่าบทกลอนไม่ไพเราะ ซึ้งถึงดวงใจเท่าที่ควร
แต่ดาวระดาอยากแต่งด้วยใจจริงๆครับ

                            จากใจดาวระดา






				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟดาวระดา
Lovings  ดาวระดา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟดาวระดา
Lovings  ดาวระดา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟดาวระดา
Lovings  ดาวระดา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงดาวระดา