23 มีนาคม 2548 23:58 น.

Venus น้องสาวแห่งโลก ปลั่งรองเพียงสูรย์

ดาวอังคาs

ชื่อดาวศุกร์แต่ศุกร์นี้ที่บ่สุข
ไฟเรืองลุกเลียลามระห่ำเผา
หมุนตามเข็มนาฬิกาแปลกเหลือเดา
อนุมานแต่นานเนาดาวเวียนชน

อุณหภูมิโดยประมาณสี่หกสี่ (464)
องศาซี (Celsius degree) อเวจีนรกหน
ธารลาวาไหลไปทั่วบอมบ์อึงอล
ธาติประกอบที่ปะปนดั่งนี้ฟัง

เกือบทั้งมวลล้วนคือก๊าซคาร์บอนไดฯ (Carbon Dioxide)
ไนโตรเจน (Nitrogen) เบาพราวพรายทั้งมวลผัง
มีฝนกรดซัลฟิวริก (Sulfuric Acid) ตกประดัง
แต่บ่หลั่งโดนผิวดาวเผาละลาย

เม็ดกรดจักระเหยหายเป็นไอพุ่ง
แตกตัวมุ่งกลับขึ้นไปไม่สลาย
วัฏจักรฉากเช่นนี้เวียนซ้ำไป
กลายเป็นเมฆบนดวงไฟในบรรยาฯ

ชื่อวีนัส (Venus) ฝรั่งจัดเพรียกเรียกขาน
ตามตำนานสรรเป็นนางเสน่หา
แสงสุกใสเธอเลยได้เป็นธิดา
แห่งความรักความโสภาสง่าเยือน

คนไทยเราตอนเช้าเรียก ประกายพรึก
ตกตอนดึกหัวค่ำเพรียกเรียกบ่เหมือน
ประจำเมือง ทั้งสองดาวไม่เลอะเลือน
บ่บิดเบือนทั้งสองดาวดาวเดียวกัน

วงโคจรรอบตัวตนวนช้ามาก
สองสี่สาม (243) วันเวียนลากบนโลกผัน
แต่เธอว่าฉันหมุนมาครบหนึ่งวัน
อัศจรรย์อันมากมายในฟ้าพราว

เสริมอีกนิดคนคิดเปรียบเทียบมานาน
ยังเรียกขานศุกร์นี้หนาว่าน้องสาว
ของโลกาเป็นเพราะว่าในมวลดาว
มีเรื่องราวกายภาพทาบคล้ายกัน

+จากหนังสือเล่มเดิม+				
22 มีนาคม 2548 22:41 น.

เข็มขัดดาวเคราะห์น้อย

ดาวอังคาs

เข็มขัดดาวเคราะห์น้อย

     เข็มขัดดาวเคราะห์น้อย...........โยงราว กลมนา

คือเศษเสี้ยวกลางหาว...................คั่นไว้

อังคารหว่างแลดาว........................พฤหัส

รวมร่างบ่ได้ไซร้...........................อาจเพี้ยนแรงกวน ฯ




ดารากรสอนไว้ในการแบ่ง
ดาวเคราะห์แข็งดาวเคราะห์ก๊าซขีดวาดไว้
ใช้เข็มขัดดาวเคราะห์น้อย (Asteroid Belt) แบ่งเส้นตาย
แยกเคราะห์ในและเคราะห์นอกออกจากกัน

เคราะห์ชั้นใน (Inner Planets) แบ่งได้เป็นดังนี้
นับมีสี่ (4) ดวง ทอดต่อ จากสูรย์ฐาน
พุธ ศุกร์ โลก อีกหนึ่งนั้นนั่น อังคาร
ลักษณาการแข็งเห็นเด่นเช่นโลกเรา

เคราะห์ชั้นนอก (Outer Planets) ถัดออกไปต่อจากนี้
พฤหัสบดีและดาวเสาร์
ยูเรนัส ดาวเนปจูน ทอดไปยาว
ถึงพลูโต สุดท้ายดาว ระบบสุริยัน

ดาวเคราะห์แข็ง (Terrestrial Planets) อยู่ชั้นใน แข็งทั้งหมด
มีร่องรอยปรากฏเป็นหลักฐาน
อุกกาบาตฟาดฟันบุ๋มหลุมรอยจาร
ธาตุสำคัญนั้นโลหะประกอบดวง 

ดาวเคราะห์ก๊าซ (Jovian Planets) ถัดต่อมาอยู่อีกชั้น
เป็นก้อนก๊าซอันโอฬารน่านฟ้าหลวง
ไม่มีพื้นผิวแน่นอนตลอดช่วง
ก๊าซทั้งปวงยกเว้นอยู่พลูโตเดียว


เข็มขัดดาวเคราะห์น้อย
ภาพแสดงตำแหน่งดวงอาทิตย์ (A) โลก (B) ดาวอังคาร (C) ดาวพฤหัสบดี (D) และตำแหน่งดาวเคราะห์น้อย 194,881 ดวง (สีฟ้า)

Terrestrial = ลักษณะคล้ายโลก
Jovian = ลักษณะคล้ายดาวพฤหัสบดี				
21 มีนาคม 2548 12:51 น.

กัมปนาทแห่งเอกภพ ซูเปอร์โนวา

ดาวอังคาs

กว่าพันปีกรุ่นไหม้...............................ดาวแดง

ระเบิดอย่างรุนแรง..............................หมดสิ้น

กายภาพเปลี่ยนแปรแปลง....................เป็นฝุ่น ผงแฮ

กระจัดจายป่นชิ้น................................ย่อยคว้างปลิวควัน ฯ



บันทึกในช้างเผือก.............................นานมา

นับมหาโนวา......................................หกครั้ง

แสงสังเกตด้วยตา...............................เปลือยเปล่า ได้เฮย

สว่างกว่าทุกแสงทั้ง.............................หมดแม้สูรย์รอง ฯ



ผองเศษรวมเกิดสร้าง..........................ดวงดาว

ผงฝุ่นในห้วงหาว.................................จับก้อน

กำเนิดใหม่พร่างพราว..........................หนาแน่น ขึ้นเฮย

ตรึกพุทธองค์ย้อน................................ว่ายเลื้อยเวียนวน ฯ

แรงบันดาลใจ
+ อาณาจักรล่องหน Invisibles world +				
20 มีนาคม 2548 00:52 น.

ร่วมจุ๊กจิ๊ก

ดาวอังคาs

จาก
http://www.thaipoem.com/web/poemdata/poemdata_72995.php

จุ๊กจิ๊ก : Apapas Version 19/3/2548
..........นกกระจอกจ๊อก..........ส่งเสียงง๊อกง๊อก..........บินล่อกร่อนเรื่อย
เช้าวันหึหึ..........นี่รึโฉบเฉื่อย..........ถลาเล่นเลยเมื่อย..........แจ้วเจื้อยเลื้อยเหอะ

..........ผีเสื้อเห็นเข้า..........แหมดูงมเงา..........ตัวเรานะเรอะ
จะแปลงเก็บปีก..........หลบหลีกลงเลอะ..........ในน้ำดำเขรอะ..........เป็นฉลามพันธุ์ดุ

ตั๊กแตนตกใจ..........เอ๊ะเอ๋ทำไม..........ใดเปลี่ยนระอุ
เราต้องทำบ้าง..........กลับร่างทะล..........เป็นเรือผุผุ..........ร่อนเร่ลอยลำ

หนอนกอล้อว่า..........จะอะไรนักหนา..........ตาฉันเขียวจ้ำ
อยากให้ดูดี..........ใส่สีงามล้ำ..........พราวพรายเกร็ดคล้ำ..........ปลาช่อนสวิงสวาย

..........จิ้งหรีดกรีดดัง..........ทุกเหล่าจงฟัง..........เสียงสังข์ลับหาย
ราตรีมืดมิด..........ใช้สิทธิ์ตามสบาย..........แวววาวกระจาย..........ดาวรายหมายมาด

..........จิ้งจกจุ๊จ๊ะ..........สง่าดีเลยนะ..........เป็นพระอุ้มบาตร
เหลืองเหลือเอื้ออ่อน..........ชนจรอิงพาด..........เคารพนบนาถ..........หวั่นหวาดบางเบา

..........ตะขาบรำคาญ..........นี่มัวสมัครสมาน..........ฝันหวานแต่เช้า
โลกปนวนปรับ..........ระงับมัวเมา..........จะงาบพวกเจ้า..........ให้หมดทั้งก๊ก

อ่านสนุกๆนะจ๊ะจ้า   ...เช้านี้ดีนะ ....อาภาภัส  19  มีนาคม 2548

...................................................................................................................................................
จุ๊กจิ๊ก : Mars Version 19/3/2548
..........คางคกมาแจม..........กระโดดรอนแรม..........มาจากคูบึง
โดดงับแมลง..........แต้มแต่งท้องตึง..........โปรดอย่าเคืองขึง..........ขอตัวสองตัว

..........ผีเสื้อตัวสวย..........กางปีกสำรวย..........พึ่บพั่บระรัว
แป๊บเดียวหายเข้า..........ปากเราเนานัว..........โดดเข้ากอบัว..........แอบตั้งท่าที

..........เห็นแล้วอยู่นั่น..........ตั๊กแตนตัวนั้น..........น่ากินเหลือดี
ขอพี่สักคำ..........โดดล้ำป่ายหนี..........ตั้งท่าจะลี้..........แต่พี่งับทัน

..........ไม่เคยเสียด้วย..........เจ้าหนอนตัวสวย..........เนื้อตัวอวบอั๋น
คลานดุบคลานดับ..........ลิ้นหนับจับพลัน..........หนอนน้อยตัวนั้น..........รสชาติแปลกคอ

..........นั่นเสียงอะไร..........ลอยมาจากไหน..........จิ้งหรีดข้างบ่อ
หันหลังเผลอไผล..........มั่บหายลงคอ..........มันเยี่ยมจริงหนอ..........เริ่มง่วงนิ่งวาง

..........หลับสัปหงก..........ยินเสียงจ๊กจ๊ก..........หูเชิดตาตั้ง
ชีเม่โจด๊าย!!..........งงหงายท้องผาง..........โดดเข้าปากกาง..........งับกลืนหายไป

..........ของโปรดมาแล้ว..........ตะขาบลอยแก้ว..........โจทย์เก่ามาไว
หลายร้อยแขนขา..........ชะตาจะตาย..........อ้าปากค้างไว้..........รูดหายทั้งตัว

..........เอ๊ะนั่นอะหยัง..........ขายาวเก้งก้าง..........ใจชักสั่นรัว
หนีไม่ทันหนา..........กระสามามัว..........เจ้านกตัวชั่ว..........ฉกจิกพลิกกลืน

เห็นน่ารักอย่างนี้ก็อดไม่ไหวจ้ะ ขอป่วนหน่อยเถอะนะจ๊ะ				
20 มีนาคม 2548 00:50 น.

กระจุกดาวลูกไก่ (Pleiades)

ดาวอังคาs

กระจุกดาวลูกไก่ (Pleiades) 19/3/2548

ชื่อก้องฟ้าเบิ่งทรรศนา ดาราไก่
ลูกหนึ่งครอกมองออกไปใช้นิ้วชี้
จุ้มจ่อจิ้มทิ่มท้องฟ้ากลางราตรี
หนึ่งสองสามหรือว่าสี่ กี่ตัวกัน

อันตำนานของไทยแต่ก่อนเก่า
เป็นเรื่องเล่า แผกแตก ต่างชาติขาน
ย้อนไปกรีกดึกดำบรรพ์โบราณกาล
พลี-ยะดิส (Pleiades) แปลว่าห่าน ตระหง่านโพยม

เรื่องเล่าไว้มี พรานไพร (Orion) ใจพาชัก
แอบหลงรัก เจ็ดสาวน้อย (Seven Sisters) คล้อยบ่สม
เพราะเทพ ซูส (Zues) ฉุดสาวน้อยลอยตามลม
หลุดประโลมจากพรานไพรป่ายนภา

โดยบันดาลเสกเปรี้ยงเพี้ยงเป่าพ่น
นางทั้งเจ็ดเปลี่ยนตนเป็นห่านฟ้า
บินลอยลับจับสวรรค์สรวงดวงดารา
นั่นที่มาดาวลูกไก่ในต่างเทศ

คนส่วนใหญ่จิ้มนับได้ด้วยตาเปล่า
แต่บางคราวนับด้วยตาฟ้าอาเพศ
บางคนตาฝ้าฟางก็เป็นเหตุ
ตานับได้เกินกว่าเจ็ดดวงก็มี

ในความจริงกระจุกพราวดาวลูกไก่
ลองใช้กล้องสอดส่องไปในวิถี
หมู่ดวงดาวน้อยใหญ่นับได้มี
นับพันดวง ปวงทวีกว่า ที่ตาแล

แรงบันดาลใจจาก
หนังสือเรื่อง เอกภพ เพื่อความเข้าใจในธรรมชาติของจักรวาล
วิภู รุโจปการ เขียน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟดาวอังคาs
Lovings  ดาวอังคาs เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟดาวอังคาs
Lovings  ดาวอังคาs เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟดาวอังคาs
Lovings  ดาวอังคาs เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงดาวอังคาs