22 กรกฎาคม 2549 02:01 น.

บาป...บุญ...คุณ...โทษ...กฏแห่งกรรม?

นครา ประไพพงศ์

บาป...เพราะใจ ใฝ่ต่ำ อยากทำชั่ว
บาป...เพราะตัว ตามใจ ไปทำผิด
บาป...เพราะใจ ไม่ปราม ห้ามใจคิด
บาป...จึงติด ตรึงใน กาย-ใจตน

บุญ...เพราะใจ ใฝ่ดี หนีความชั่ว
บุญ...เพราะตัว ทำดี มีมรรคผล
บุญ...เพราะใจ เตือนใจ ไม่มืดมน
บุญ...จึงดล สุขกาย สบายใจ

คุณ...คือผล กรรมดี ที่สะท้อน
คุณ...คือพร แห่งสวรรค์ บันดาลให้
คุณ...คือบารมี ที่เกรียงไกร
คุณ...คือชัย ที่สง่า สมค่าคน 

โทษ...คือผล แห่งกรรม เมื่อทำชั่ว
โทษ...คือตัว ฉุดใจ ให้หมองหม่น
โทษ...คือกรรม ที่ตามทัน บันดาลดล
โทษ...คือผล ความชั่ว ติดตัวตาย

กฏแห่งกรรม? บาปหรือบุญ? คุณหรือโทษ?
รู้ตั้งโจทย์ เตือนใจ ยังไม่สาย 
ก่อกรรมใด ย่อมผลให้ แก่ใจกาย
เพราะสุดท้าย ไม่พ้นกฏ "ชดใช้กรรม"				
20 กรกฎาคม 2549 15:49 น.

สงสารใจ...

นครา ประไพพงศ์

สงสารใจ บางวัน ที่มันเหงา
           ในบางคืน มันก็เศร้า ไร้เหตุผล
               บางทีที่ ผิดหวัง มันยังทน
              บางทีมัน สับสน ไม่บ่นเลย

      บางคนทำ มันปวดร้าว นอนหนาวเหน็บ
             บางคนทำ มันเจ้บ มันก็เฉย
           ใจเจ้าเคย หลอกใคร ก็ไม่เคย
           มันถูกเย้ย ทรมาน ...สงสารใจ				
20 กรกฎาคม 2549 13:10 น.

ปลอบใจ

นครา ประไพพงศ์

รู้ว่ารัก ลึกซึ้ง ถึงเพียงไหน
ก็วันที่ รักไกล ไปจากฉัน
รู้ค่าคน ที่ดี ที่สำคัญ
ก็ในวัน ที่ห่างไป อยู่ไกลตา 

เปิดหัวใจ เฟ้นถาม ความรู้สึก
ว่าส่วนลึก มีสิ่งใด ที่ใฝ่หา
พบคำตอบ ว่ารักเธอ เสมอมา
ปรารถนาชิดใกล้ด้วยหมายปอง

ใจสะอื้น ครวญร่ำ น้ำตาไหล
สะเทือนใจ สะท้อนเหงา อย่างเศร้าหมอง
วันใกล้รัก ใจมิกล้า จะคว้าครอง
มามัวร้อง ขออะไร ในตอนนี้

รู้ว่ารัก ลึกซึ้ง ถึงเพียงไหน
ก็เมื่อรัก ที่เคยใกล้ ได้ห่างหนี
ปรามหัวใจ ห้ามรัก พอสักที 
หากเธอมี ใจให้ คงไม่ลา

ใจเตือนใจ ปลอบใจ ให้หยุดรัก
แต่ยั่งหัก ห้ามใจ ยิ่งใฝ่หา
วันที่เธอ ห่างไกล ไม่กลับมา 
ปลอบใจว่า คู่ของใจ ไม่ใช่เธอ				
27 ตุลาคม 2547 01:01 น.

เหยื่อปืนเปรี้ยง!!!

นครา ประไพพงศ์

มาเรียกร้อง สิทธิ และอิสระ
มาเพื่อจะ ใฝ่หา สันติสง่า
หรือมาเพื่อ ก่อการร้าย ป้ายน้ำตา
มาเพื่อเลือด...เพื่อเข่นฆ่า....มาเพื่อใคร

        เรียกร้องรัฐ เพื่อพ้อง ญาติน้องพี่
ด้วยกลวิธี พลังชน ล้นยิ่งใหญ่
เรียกร้องหา ความยุติธรรม ค้ำชูไทย
แล้ว ตากใบ ก็คุกรุ่น ความวุ่นวาย

         ทัพตำรวจ ทหาร มาต้านสู้
ความหดหู่ จึงก่อตาม ความเสียหาย
โจร-ผู้บริสุทธิ์ ...ที่สุดตาย
ความโหดร้าย มืดทมิฬ ...กินชีวิต

         ผู้ถือปืน ในมือ  คือผู้ฆ่า
ปวงประชา ก็หวั่นไหว อยู่ในจิต
ศพที่ตาย ก็คนไทย ไยรอนริด
กลับถูกปลิด เหมือนใบไม้ ไร้ค่านัก

          โจรที่แฝง  ตัวอยู่  กับผู้บริสุทธ์
คือมนุษย์  ที่ชีวิต เดินผิดหลัก
เมื่อแข็งข้อ แล้วงัดข้อ ข้อชงัก
ก็แตกหัก ก็สูญเสีย...ละเหี่ยใจ

          พอปืนเปรี้ยง...เหลือเพียงศพ จบชีวิต
นั่นก็คน ชีพถูกปลิด มันคุ้มไหม ?
หนึ่งคนตาย หลายคนรอ สู้ต่อไป 
แล้วจะสงบ เมื่อไหร่...เมืองชายแดน
				
12 ตุลาคม 2547 02:13 น.

เขียนจากงาน...เรือ... ของกุ้งหนามแดง

นครา ประไพพงศ์

ผมอยู่ที่นี่....
เมืองนี้ที่มีเข่นฆ่า
เมืองนี้เจิ่งนองน้ำตา....
ใต้ฟ้าเมืองไทยชายแดน
         เหยื่อแห่งความกระหาย...หายนะ
จนยากจะป้องปัดสาหัสแสน
มีชีวิต...อยู่ไปไร้แก่นแกน
เพราะถูกแขวนเอาไว้....ที่ปลายปืน!!!!				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนครา ประไพพงศ์
Lovings  นครา ประไพพงศ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนครา ประไพพงศ์
Lovings  นครา ประไพพงศ์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟนครา ประไพพงศ์
Lovings  นครา ประไพพงศ์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงนครา ประไพพงศ์