30 พฤษภาคม 2549 15:05 น.

ม่านหมอกหรือมนตรา

บพิตร

@ กี่ศพที่สาบสูญ
กี่ซากซุกกับกองทราย
กี่หลังพังทลาย
กี่แสนล้านทะเลซุง

@ มัจจุราชประกาศก้อง
ระเริงร้องกลางดอยสูง
ย่อยยับไม้ยางยูง
เกินหยุดยั้งทะยานโยน

@ น้ำป่าดั่งบ้าคลั่ง
กระแทกหลั่งหลังห่าฝน
ขุ่นคร่ำทะเลโคลน
ก็โถมทับดับชีวา

@ ซุงทรามประณามใคร?
ท่อนน้อยใหญ่ใยลับตา
ม่านหมอกหรือมนตรา
จึงบดบังให้มืดมน.				
24 พฤษภาคม 2549 09:24 น.

ขอครูหนูคืนมา(อีกที)

บพิตร

@โอ้คุณครูในมือถือเพียงชอล์ก
ปากพร่ำบอกสอนสั่งอย่าฉาดฉาน
สอนศิษย์ให้ได้มีวิชาการ
มุ่งทำงานเป็นครูผู้อารี

@มัจจุราชยืนมองจ้องเขม็ง
ยกปืนเล็งตรงร่างอย่างภูตผี
กระหายเลือดอสูรร้ายไม่ใยดี
ครูผู้มีแต่ให้ไร้มลทิน

@เสียงปืนร้ายแผดร้องก้องสนั่น
ร่างครูพลันล้มกองต้องด่าวดิ้น
เลือดสีแดงไหลนองกองกลางดิน
ตายเฝ้าถิ่นแดนใต้ถิ่นไทยงาม

@ครูคือครูผู้ให้ใช่นักรบ
กลายเป็นศพฝังดินถิ่นสยาม
เด็กร่ำไห้เสียงก้องร้องประณาม
คนเลวทรามชั่วช้าน่าละอาย

@ครูทำผิดสิ่งใดใคร่รู้นัก
ที่ประจักษ์คือนำทางสร้างความหมาย
ให้ความรู้สอนสั่งทั้งหญิงชาย
เหล่าผีร้ายมาฆ่าครูหนูทำไม?

@เห็นแท่งชอล์กกับกระดานที่ว่างเปล่า
ฝุ่นชอล์กขาวบางพร่าน้ำตาไหล
หยิบแท่งชอล์กเขียนฝากจากหัวใจ
ขอได้ไหม? ขอครูหนูคืนมา				
16 พฤษภาคม 2549 09:07 น.

กรรม...ดี...ชั่ว

บพิตร

@กายใจคงเหนื่อยล้า..........โรยแรง
โหยอ่อนเกินสำแดง.............ต่อได้
กรรมเคยก่อจงแถลง...........บอกกล่าว  
ดีชั่วตราตรึงไว้....................จึ่งให้สังวร


@เหนื่อยกายเหนื่อยใจนัก	
จงเว้นวรรคพักไว้ก่อน
อ่อนล้าไร้แรงจร			
จงตั้งหลักพักกายา

@คลื่นลมโหมกระหน่ำ	
ทั้งเช้าค่ำช้ำอุรา
ลูกเมียเสียน้ำตา			
คำแช่งด่าพาให้อาย

@ใครทำสิ่งใดไว้		
รู้แก่ใจไม่หนีหาย
ดีชั่วถึงตัวตาย			
ไม่เคลื่อนคลายจากใจคน

@ความจริงสิ่งเที่ยงแท้	
มิต้องแก้ให้สับสน
มั่งมีหรือยากจน			
คิดเองได้ใช้ปัญญา				

@หลอกใครไปวันๆ		
ย่อมไหวหวั่นครหา
เกรงกลัวคำนินทา			
คอยหลบหน้าไม่กล้ามอง				

@ทำดีย่อมได้ดี		
แสนสุขีไม่มีหมอง
ทำชั่วผิดครรลอง			
พาหม่นไหม้ไร้รื่นรมย์.				
8 พฤษภาคม 2549 09:57 น.

เพียงตะวัน-เพียงหทัย

บพิตร

@เพียงตะวันส่องฟ้า                ฉาบฉาย
ไออุ่นขับหนาวคลาย                 แผ่นหล้า
คืนวันผ่านผันกลาย                  คงมั่น
ดุจดั่งรักแห่งข้าฯ                      คู่นี้ร่วมเคียง
 
@ เพียงหทัยบ่งชี้                      ศรัทธา
สานต่อทางชีวา                          ย่างก้าว
เป็นพยานผ่านเวลา                   นานเนิ่น
มิหม่นหมองปวดร้าว                   ย่อท้อสิ่งใด

@ใจผูกใจแน่นแฟ้น                 กลมเกลียว
รัดร่วมเป็นหนึ่งเดียว                  มั่นแล้ว
วางใจไม่เฉลียว                          หวาดหวั่น
มีแต่แสงเพริศแพร้ว                   ส่องให้นำทาง

@ ฟ้าสางแสงแจ่มจ้า                    ตะวัน
งามเด่นเกินภาพฝัน                     เอ่ยอ้าง
สามเราร่วมผูกพัน                        แนบแน่น
เรามุ่งสานฝันสร้าง                        ก่อเกื้อแก่กัน.				
4 พฤษภาคม 2549 12:42 น.

นิทานเมกกะโปรเจ็คต์

บพิตร

กาลครั้งหนึ่งชาวนาสองตายาย
ใช้แรงควายแรงคนทนฟันฝ่า
สู้ทำกินปลูกข้าวเป็นชาวนา
ถึงเงินตราไม่พอก็อิ่มใจ
          
          ฟังข่าวคราวรัฐบาลจะเกื้อหนุน
เงินกองทุนหมู่บ้านจัดสรรให้
กู้เงินมาพร้อมขายควายเพิ่มเติมไป
ซื้อรถไถควายเหล็กมาทดแทน

          เพียงทำนาคงไม่รวยช่วยคิดต่อ
ต้องขุดบ่อเลี้ยงปลากุ้งมุ่งวางแผน
ทุนไม่พอรัฐช่วยได้ไม่ขาดแคลน
เงินเป็นแสน ธกส. ขอจำนอง

          ตาบอกยายหวังไว้คงรวยนะ
เป็นเมกกะโปรเจกต์เราทั้งสอง
ตากับยายวาดฝันอันเรืองรอง
มีเงินทองเหลือใช้ไร้ลำเค็ญ

          ใช้ควายเหล็กไถนาตายิ้มย่อง
ยายนั่งมองปลาใหญ่น้อยลอยน้ำเล่น
ให้อาหารพองามตามกฎเกณฑ์
เช้าจรดเย็นไม่หม่นหมองสองตายาย

          สถานการณ์เปลี่ยนแปลงยุคแข่งขัน
ค่าน้ำมันแพงไม่หยุดฉุดใจหาย
รถไถนากินน้ำมันไม่เหมือนควาย
หญ้ามากมายเต็มคันนาไม่น่ามอง

          เจ้าควายเหล็กกินน้ำมันเมินหญ้าอ่อน
ความผุกร่อนมาเยือนเหมือนซ้ำสอง
ค่าซ่อมแซมค่าน้ำมันนั่นเงินทอง
ปวดสมองกุมขมับหลับไม่ลง

          ทั้งกุ้งปลาอ้าปากอยากอาหาร
เหยื่อที่หว่านต้องซื้อหาอย่าลืมหลง
เหมือนโชคร้ายโรคมาปลาปลดปลง
กรรมใดส่งกุ้งก็ตายคล้ายซ้ำเติม

          ข้าวในนาไม่งามยามขาดปุ๋ย
จำต้องลุยซื้อมาอาหารเสริม
ทั้งปุ๋ยคอกปุ๋ยหมักหนักกว่าเดิม
ลงทุนเพิ่มเงินหมุนจนวุ่นวาย

          ฝนขาดเม็ดไม่ตกต้องตามฤดู
ลมแล้งลู่ลามเลียจนเสียหาย
ไร้เมล็ดกรอบแดงยืนแห้งตาย
ตากับยายมองหน้ากันใจสั่นคลอน

          ตาชวนยายไปในเมืองเรื่องพักหนี้
ธกส. จงปราณีพักหนี้ก่อน
เงินหลายแสนจะชดใช้ให้แน่นอน
ขอผัดผ่อนวันหน้าค่อยว่ากัน

          เงินกองทุนหมู่บ้านผ่านกำหนด
เวลาหมดขอก่อนจงผ่อนผัน
ยืดเวลาไม่ลืมหลงคงสักวัน
ถึงวันนั้นจะคืนให้ไม่ต่อรอง

          ผ่านร้านขายหวยบนดินยินดีนัก
จึงหยุดพักจุดความหวังคนทั้งสอง
แทงเลขสวยหวังแจ็คพ็อทยอดใฝ่ปอง
เงินล้านล่องลอยมาร่าเริงใจ

          วันหวยออกหมดหวังนั่งมองหน้า
ทั้งยายตาเงียบงันจิตหวั่นไหว
ตาเอื้อนเอ่ยแผ่วเบาเศร้าฤทัย
สิ้นทางไปคงขายนามาใช้คืน				
Lovers  0 คน เลิฟบพิตร
Lovings  บพิตร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบพิตร
Lovings  บพิตร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบพิตร
Lovings  บพิตร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงบพิตร