13 มีนาคม 2552 09:49 น.

นิราศปารีส-โรม (๖)

บพิตร

...ส่งท้าย...
	
ช่วงแปดวัน ณ แดนไกลได้เรียนรู้
ความเป็นอยู่วิถีทางสร้างบ้านเขา
ประวัติศาสตร์ความเป็นมาศึกษาเอา
ย่านเมืองเก่าเขารักษาน่าชื่นชม

กรุงปารีสทันสมัยก้าวไกลนัก
อนุรักษ์ควบคู่ดูเหมาะสม
เมืองยิ่งใหญ่เลื่องชื่อคือกรุงโรม
ถึงนานนมไม่เสื่อมค่าน่าเชิดชู

คิดคำนึงถึงเมืองไทยไม่น้อยหน้า
มีวัดวาอารามงามเลิศหรู
วัฒนธรรมศิลปะก็น่าดู
ช่างสิบหมู่สืบสานเนิ่นนานมา

โบราณสถานงดงามตามเมืองเก่า
อีกเรือนเหย้าทรงไทยให้คุณค่า
วิถีไทยสี่ภาคหลากลานตา
ทั้งภาษาการแต่งกายหลายเผ่าพันธุ์

ธรรมชาติป่าเขาลำเนาพฤกษ์
เสียงก้องกึกน้ำตกใสไหลลดหลั่น
ปุยเมฆขาวโอบลอยดอยสูงชัน
หลากสีสันดอกไม้งามตามฤดู

เราคนไทยช่วยรักษาอย่าเมินเฉย
อย่าละเลยให้น้อยค่าน่าอดสู
สิ่งดีงามจงอำนวยช่วยเชิดชู
ให้โลกรู้ไทยคือไทยชื่นใจเอย.				
11 มีนาคม 2552 09:14 น.

นิราศปารีส-โรม (๕)

บพิตร

(๕)
...สู่กรุงโรม...

จนบ่ายคล้อยหันหน้าลาปารีส
กลัวรถติดเผื่อเวลามาจัดของ
สัมภาระขึ้นรถไฟได้จับจอง
เตรียมลาล่องไปกรุงโรมสมตั้งใจ

การ์ปารีส เดอ เบอร์ซี่ สถานีออก
เวลาบอกหกโมงเย็นเป็นเงื่อนไข
คืนนี้นอนห้องหกคนบนรถไฟ
หลายร้อยไมล์กว่าจะถึงซึ่งกรุงโรม			

นั่งรถไฟหวนคำนึงคิดถึงบ้าน
จากมานานหลายเพลาพาขื่นขม
อยากเห็นหน้าคนเคยใกล้	ได้ชื่นชม
เย็นสายลมยิ่งหนาวจิตคิดถึงเธอ

สองข้างทางมีแม่น้ำลำธารใส
แดดรำไรฟ้าสีทองนั่งมองเหม่อ
อีกไม่นานกลับไปได้พบเจอ
อยากบอกเธอว่าเหงาจังนั่งใจลอย

จนดึกดื่นพักผ่อนนอนหลับใหล
บนรถไฟไม่คุ้นเคยเลยตื่นบ่อย
นอนฟังเสียงรถแล่นไปใจเลื่อนลอย
ดาวเคลื่อนคล้อยฟ้ารุ่งสางทางอีกไกล

ผ่านทิวเขาท้องทุ่งรุ่งอรุณ
ไร่องุ่นสองข้างทางช่างกว้างใหญ่
ม้าเหล็กแล่นห้อตะบึงถึงกรุงไกร
ล่วงเลยไปห้าโมงเช้าเข้าชาลา

ถึงกรุงโรมเมืองหลวงอิตาลี
ไม่รอรีออกเดินทางไปข้างหน้า
รถวนเวียนชมเมืองใหญ่ตระการตา
เมืองโรม่ากรุงเก่าเขางามจริง

มีแม่น้ำไทเบอร์เอ่อรินไหล
เย็นสวยใสเรือล่องลอยดูอ้อยอิ่ง
ต้นเมเปิลเรียงรายคล้ายแอบอิง
ได้พึ่งพิงน้ำกับไม้ไว้คู่กัน

มองบ้านช่องตึกรามงามสง่า
ทรงคุณค่าแบบโบราณงานสร้างสรรค์
สถาปัตย์สรรค์สร้างอย่างโรมัน
อัศจรรย์ความวิจิตรติดตรึงตรา		

บ่ายสองโมงถึงสถานทูตของไทย
ภาคภูมิใจสวยเด่นเน้นคุณค่า
ความเป็นไทยเลิศหรูดูงามตา
ชื่นชีวาได้พบเห็นเหมือนเป็นบุญ

ท่านเอกอัครราชทูตไทยให้เกียรติยิ่ง
ด้วยใจจริงด้วยไมตรีที่อบอุ่น
ท่านวรพจน์  	สนิทวงค์ฯ ขอขอบคุณ
ที่การุณมาต้อนรับประทับใจ

ลาท่านทูตสู่นครวาติกัน
ตะลึงงันมหาวิหารอันยิ่งใหญ่
เซนต์ปีเตอร์ก้องชื่อเลื่องลือไกล
ศูนย์รวมใจคริสตชนบนโลกา

เซนต์ปีเตอร์มหาวิหารมีลานกว้าง
แลสล้างเสาสูงใหญ่ทั้งซ้ายขวา
โอบลานกว้างจรดวิหารตระการตา
เมื่อเงยหน้าเห็นรูปปั้นนั้นเรียงราย

สวิสการ์ดงามสง่าน่าเกรงขาม
ยืนเป็นยามหน้าประตูดูผึ่งผาย
ชุดสวยเด่นเหลืองแดงพลิ้วเป็นริ้วลาย
ขจรขจายเลื่องลือความซื่อตรง

เมื่อย่างก้าวเข้าข้างในให้ตื่นเต้น
ได้พบเห็นความใหญ่โตความโอ่โถง
แสงสลัวดูเข้มขรึมลืมไม่ลง
รูปปั้นองค์สันตะปาปาน่ายำเกรง

รูปสลักพีเอต้า	น่าสงสาร
ความร้าวรานยามลูกถูกข่มเหง
ความเศร้าหมองผ่านดวงหน้าพาวังเวง
ยามมองเพ่งยิ่งสงสารแผ่ซ่านทรวง

สิ่งก่อสร้างมหัศจรรย์อันยอดเยี่ยม
โคลอสเซียมยุคโรมันอันโชติช่วง
ความยิ่งใหญ่ตระการตากว่าทั้งปวง
เวลาล่วงสองพันปีที่สร้างมา

ประตูชัยคอนสแตนตินถิ่นโรมัน
รู้ทั่วกันสัญลักษณ์นานนักหนา
ชัยชนะอนุสรณ์ย้อนเวลา
ชาวโรม่าภาคภูมิชุ่มชื่นใจ

จวนพลบค่ำชมเทรวี่น้ำพุสวย
น้ำพุ่งพวยหลากรินยินเสียงใส
ผ่านรูปปั้นสลักงามยามต้องไฟ
เหมือนอยู่ในแดนสวรรค์ตระการตา

นั่งหันหลังโยนเหรียญทองผ่านไหล่ซ้าย
สื่อความหมายอธิษฐานเล่าขานว่า
จากไปแล้วไม่ไปลับได้กลับมา
กรุงโรม่าอีกหนคนเล่าลือ

ร้านขายของมากมายรายทางเดิน
จ่ายกันเพลินกระเป๋างามยามลองถือ
อีกเสื้อผ้าเครื่องหนังช่างฝีมือ
เดินเลือกซื้อจนมืดค่ำก่อนอำลา

ทานข้าวเย็นเอมอิ่มต่างยิ้มแย้ม
เข้าโรงแรมแสนสบายคลายเหนื่อยล้า
ชื่อไอบิสพักผ่อนนอนเต็มตา
ตื่นเช้ามาฟ้าสดใสใจเบิกบาน

เก็บข้าวของวุ่นวายไม่ชักช้า
ก่อนมุ่งหน้าชมความงามตามแหล่งย่าน
เรียกบันไดสเปนเห็นเป็นลาน
แล้วลดหลั่นขั้นบันไดได้เยี่ยมชม	

ศิลปินมาสร้างสรรค์ซึ่งงานศิลป์
นั่งบนหินวางเรียงรายให้สะสม
ศิลปะสูงค่าน่านิยม
แสนรื่นรมย์แหล่งศิลป์ถิ่นโรมัน

ร้านขายของชื่อดังตั้งรายรอบ
ตามใจชอบเลือกซื้อหาจ้าระหวั่น
ทั้งของเล็กของใหญ่ไม่ว่ากัน
ส่วนตัวฉันซื้อกระเป๋าเข้าตำรา

ฝากลูกเมียคนละใบไม่มากนัก
แทนความรักด้วยใจที่ใฝ่หา
ของไม่แพงฝากด้วยใจใช่ราคา
เฝ้าตั้งตารอประสบพบรอยยิ้ม

กินอาหารอิตาเลี่ยนเปลี่ยนรสชาติ
รสประหลาดไม่คุ้นลิ้นกินพออิ่ม
เหมือนข้าวต้มขนมปังยังลองชิม
สเต๊กนิ่มรสแปลกแตกต่างไป

อดลิ้มลองพิซซ่าเวลาหมด
ห่อขึ้นรถมุ่งหน้าลากรุงใหญ่
ถึงสนามบินฟิวมิชิโน่โผบินไกล
กลับเมืองไทยบ้านเกิดเถิดพวกเรา

บ่ายสามโมงแอร์จอร์แดนแล่นขึ้นฟ้า
โบกมือลาอิตาลีไม่มีเหงา
ทุ่มสิบห้าถึงอัมมานนานไม่เบา
เวลาเขาเร็วกว่าโรมหนึ่งชั่วยาม

จนตีหนึ่งสิบห้าที่จอร์แดน
เครื่องบินแล่นบินไกลไปสยาม
แอร์โฮสเตสสาวไทยน้ำใจงาม
คอยสอบถามห่วงใยช่างใจดี

แปดชั่วโมงกว่ากว่ามาถึงไทย
ล่วงเข้าไปบ่ายโมงครึ่งถึงที่นี่
ท่าดอนเมืองสนามใหญ่ไม่รอรี
หมู่น้องพี่เบิกบานถึงบ้านเรา				
9 มีนาคม 2552 09:57 น.

นิราศปารีส-โรม (๔)

บพิตร

เช้ายี่สิบกันยาฟ้าสดใส
มุ่งหน้าไปแหล่งเรียนรู้สู่สถาน
พิพิธภัณฑ์นามว่า "ลูฟท์" อลังการ
คนกล่าวขานสุดยิ่งใหญ่ในโลกา

ลานจอดรถอยู่ใต้ดินไม่กินที่
ใต้พื้นมีห้างขายของลองเลือกหา
ทั้งของฝากที่ระลึกเหลือคณา
หลายราคามากนักทั้งหนักเบา		

ปิรามิดแก้วสูงเด่นเป็นสง่า
ดูเหมือนว่าไม่สอดคล้องกับของเก่า
ปิรามิดคว่ำลงล่างสร้างแสงเงา
เป็นทางเข้าไปเยี่ยมชมช่างแปลกตา

เดินเข้าไปสองข้างทางช่างสร้างสรรค์
มีรูปปั้นเรียงรายคล้ายคอยท่า
เป็นรูปคนมากมายหลายลีลา
ล้วนท่วงท่างดงามยามจ้องมอง
			
สถาปัตยกรรมแสนล้ำค่า
ตระการตาช่างยิ่งใหญ่ไปทุกห้อง
มีรูปภาพสมบัติเก่าเจ้าผู้ครอง
ไม่เป็นสองรองใครในโลกา

ภาพเลื่องชื่อผลงานดาวินชี่
อยู่ที่นี่คนยัดเยียดเบียดเข้าหา
ขอเพ่งมองให้ชัดเจนเป็นบุญตา
"โมนาลิซ่า"  ที่โลกลือคือภาพจริง

อีกมากมายศิลปะยอดฝีมือ
ล้วนเลื่องชื่อศิลปินผู้ใหญ่ยิ่ง
เหมือนมีมนต์ดลใจไม่ไหวติง
ของทุกสิ่งงามวิจิตรชวนติดตาม

ศิลปะ อียิปต์ กรีก โรมัน
ทุกสิ่งอันล้วนสูงค่าน่าเกรงขาม
รูปปั้นเด่น "วีนัส " สัดส่วนงาม
ทั่วเขตคามเล่าขานเนิ่นนานมา

ชั่วครึ่งวันผ่านไปไม่เต็มอิ่ม
ภาพรอยยิ้มยังตรึงใจชวนใฝ่หา
คงไม่ลืมจดจำไว้ชั่วชีวา
โมนาลิซ่าช่างเร้นลับจับฤทัย

มื้อกลางวันวันนี้ที่ปารีส
ปลื้มดวงจิตแนะนำคำขานไข
เชิญลิ้มรสคาวหวานอาหารไทย
สำราญใจได้เอมอิ่มยิ้มชื่นบาน

พออิ่มหนำมุ่งหน้าปารีสใหม่
ทันสมัยน่าชมผสมผสาน
"ลาเดอฟรองซ์"  คือเมืองใหม่ใหญ่โอฬาร
แลตระการตึกสูงใหญ่ไล่เรียงกัน

ประตูชัยศตวรรษที่ยี่สิบ
แลสูงลิบเรียก "กร็องอาค" ช่างสร้างสรรค์
กระจกรอบวาววับนับหมื่นพัน
แสงตะวันสะท้อนวาวดูขาวนวล

ไฮเปอร์มาร์ทมากมีที่พบเห็น
สร้างจุดเน้นแบ่งชัดเป็นสัดส่วน
แหล่งการค้าธุรกิจคิดใคร่ครวญ
ไม่รบกวนย่านเมืองเก่าเขาคิดไกล

เห็นภาพข่าวหนังสือพิมพ์ยิ้มไม่ออก
สื่อเมืองนอกพาดหัวข่าวเรื่องราวใหญ่
ยึดอำนาจการปกครองของเมืองไทย
เป็นข่าวไปทั่วโลกาจับตามอง				
6 มีนาคม 2552 08:46 น.

นิราศปารีส-โรม (๓)

บพิตร

เช้าสิบเก้ากันยาฟ้ามืดครึ้ม
ดูอึมครึมทั้งเมฆหมอกบอกความหมาย
อีกไม่นานเม็ดฝนหล่นโปรยปราย
พร้อมกลิ่นอายสายลมหนาวคละเคล้ากัน

รถเดินทางฝ่าสายฝนถนนกว้าง
สองข้างทางมีแมกไม้ใจสุขสันต์
เขียวชอุ่มเรียงรายหลากหลายพันธุ์
ทางลาดชันคดเคี้ยวเลี้ยวเลาะไป

ชั่วโมงครึ่งถึงตำบลคนกล่าวขาน
มีตำนานเรื่องจริงที่ยิ่งใหญ่
จากที่พักล่าสัตว์กลางพงไพร
ถูกสร้างให้เป็นราชวังอลังการ

คนมากมายหมายปองมาท่องเที่ยว
เพื่อเก็บเกี่ยวเรื่องราวที่เล่าขาน
ความหรูหรายิ่งใหญ่หาใดปาน
พิสดารการออกแบบช่างแยบยล								

พระราชวังแวร์ซายส์ยิ่งใหญ่นัก
งามพร้อมพรักทุกสิ่งไปให้ฉงน
ไม่อยากเชื่อนี่หรือฝีมือคน
บันดาลดลทุกสิ่งได้ดั่งใจปอง

พระเจ้าหลุยส์ที่สิบสี่ที่สร้างเสริม
จากของเดิมจนยิ่งใหญ่ไม่มีสอง
ทั้งรูปวาดรูปปั้นงามวามวาวทอง
ทุกหอห้องงามเกินกว่าหาคำชม

สวนด้านหลังวังใหญ่ให้คุณค่า
งามหนักหนาปลูกดอกไม้ไว้งามสม
เป็นรูปร่างแปลกตาน่าดูชม
เหมือนดั่งพรมหลากลวดลายใช้ลาดปู

มีรูปปั้นงดงามท่ามกลางสวน
เหมือนเชิญชวนต้อนรับคอยขับสู้
ทั้งยิ้มแย้มยืนนั่งช่างน่าดู
บ้างเคียงคู่บ้างโดดเดี่ยวคอยเหลียวมอง

ต้นไม้พุ่มแต่งเป็นทรงคงรูปร่าง
ส่วนตรงกลางมีบ่อน้ำงามใสส่อง
หญ้าสดเขียวเป็นลายริ้วพลิ้วชวนมอง
ดอกสีทองเหลืองเขียวขาวราววิมาน

แลไกลลิบน่ามองหนองน้ำใหญ่
อยู่กลางไพรพฤกษามหาศาล
มิได้เกิดขึ้นเองล้วนจัดการ
เป็นผลงานที่สร้างสรรค์ใช่ฝันไป

ก่อนจากวังแวร์ซายส์คล้ายต้องมนตร์
เห็นผู้คนนับหมื่นดังคลื่นไหล
ขอตั้งจิตอธิษฐานผ่านดวงใจ
ขอมาใหม่อีกครั้งฝังฤดี

มื้อกลางวันอาหารจีนคุ้นลิ้นนัก
ได้หยุดพักนั่งพร้อมเพรียงเรียงเป็นที่
พออิ่มหนำเดินทางต่อไม่รอรี
ชมวิถีชีวิตไทยในต่างแดน

งานแสดงวัฒนธรรมนำเสนอ
ได้พบเจอพี่น้องไทยสุขใจแสน
มีของดีสี่ภาคใหญ่จากไทยแลนด์
คนเนืองแน่นเข้าชมงานการแสดง

ศาลาไทยงามเด่นเป็นสง่า
เพลิดเพลินตาสดสวยด้วยสีแสง
ศิลปะวัฒนธรรมไทยไปสำแดง
ให้คนแย่งเข้าเยี่ยมชมสมฤทัย

มีดนตรีฟ้อนรำนำขับกล่อม
คนรายล้อมชิมอาหารหาทานได้
ทั้งหวานคาวผลิตผลของคนไทย
ผลไม้สดสุกทุกสิ่งอัน

นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติทรงครองราชย์
ไทยทั้งชาติแซ่ซ้องก้องเขตขันธ์
จัดแสดงให้ศึกษาพาตื้นตัน
คนนับพันได้ชื่นชมพระบารมี

ออกจากงานเดินชมห้างกลางกรุงใหญ่
ต้องตกใจมีเรื่องราวข่าวน้องพี่
การเมืองไทยผกผันหวั่นฤดี
เกิดเหตุมีปฏิวัติเกินทัดทาน

ข่าวกองทัพยึดอำนาจจากรัฐเก่า
ฟังแล้วเศร้าเมืองไทยให้สงสาร
ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยไม่คอยนาน
รัฐบาลจากเลือกตั้งต้องพังครืน

ไม่มีเหตุรุนแรงคนแจ้งบอก
พูดไม่ออกยังอุ่นใจไม่ขมขื่น
ยึดอำนาจอย่างสงบพบจุดยืน
ไร้เสียงปืนไม่บานปลายคลายกังวล

ลืมเรื่องราวเมืองไทยเอาไว้ก่อน
ลางสังหรณ์ไม่เลวร้ายคลายสับสน
มุ่งหน้าไปศูนย์รวมจิตคริสตชน
ไม่วกวนตั้งตระหง่านตระการตา

นอร์ทเทอดามโบสถ์เก่าแก่อยู่กลางเกาะ
ดูพอเหมาะรอบด้วยน้ำงามหนักหนา
มีเรื่องราวเป็นนิทานเนิ่นนานมา
ชายหน้าตาอัปลักษณ์ปักหลักรอ

คนหลังค่อมนอร์ทเทอดามเป็นยามเฝ้า
ทุกค่ำเช้าตีระฆังนั่งบนหอ
หลงรักสาวยิปซีงามลออ
มิย่อท้อจนสาวเจ้านั้นเข้าใจ
			
เห็นรูปปั้นนักบวชยืนเรียงราย
มีหลากหลายหน้าตาพาสงสัย
เมื่อเพ่งมองให้พรั่นพรึงตรึงฤทัย
จิตหวั่นไหวเหมือนต้องมนต์ ดลบันดาล

มีประตูโค้งงามสามช่องใหญ่
เดินเข้าไปมีเรื่องราวดังเล่าขาน
ดูอึมครึมกระจกลายหลากหลายบาน
แสงลอดผ่านดูหลากสีมีพลัง

คนจุดเทียนกราบไหว้รายรอบห้อง
ควันลอยล่องย้ำความหมายให้ความขลัง
เห็นรูปปั้นบอกสีหน้าท่าจริงจัง
ดูขึงขังบรรยากาศชวนหวาดกลัว

เดินวนรอบออกมาหน้าวิหาร
อยู่กลางลานกว้างใหญ่มองให้ทั่ว
หมุดทองเหลืองวาววามไม่ขุ่นมัว
รู้กันทั่วคือใจกลางหว่างนคร

มีความเชื่อสืบทอดมายาวนาน
ใครต้องการกลับมาจงช้าก่อน
ให้เหยียบย่ำหมุดนี้มีแน่นอน
ได้กลับย้อนมาอีกหนทุกคนไป

ชมความงามวิหารจากด้านนอก
ลวดลายบอกยอดฝีมือเชื่อถือได้
แบบกอทิกที่สมบูรณ์ในสไตล์
สังเกตได้จากประตูดูโค้งงาม

ใกล้พลบค่ำอำลามหาวิหาร 
ราววิมานคร่ำเคร่งน่าเกรงขาม
ได้เหยียบย่ำหมุดทองเหลืองอันเรืองนาม
คงเป็นตามคำบอกไว้ได้กลับมา

รถวนเวียนถึงย่านคนเอเชีย
มีเหล้าเบียร์มากมายให้ซื้อหา
ไวน์ก็ถูกน่าชมสมราคา
หอบหิ้วมาไวน์องุ่นตุนไว้ลอง

ถึงโรงแรมเปิดไวน์จิบคลายเมื่อย
พอหายเหนื่อยไม่ดื่มหนักพักสมอง
นั่งพูดจาคุยกันไปร่วมไตร่ตรอง
ตามครรลองมาศึกษาวิชาการ


นิราศปารีส-โรม (๔)........				
5 มีนาคม 2552 08:28 น.

นิราศปารีส-โรม (๒)

บพิตร

แสงแดดเช้าเดือนกันยาฟ้าสดใส
สัมผัสไอหมอกขาวเคล้าฝอยฝน
เย็นยะเยือกแต่สดชื่นรื่นกมล
เราทุกคนแย้มยิ้มอิ่มฤดี

อาหารเช้าบริการทานจนอิ่ม
ได้ลองลิ้มครัวซองส์ของที่นี่
ขนมปังทาเนยสดรสชาติดี
โยเกิตมีหลากรสให้ทดลอง

เสร็จอาหารตรงเวลาก็คลาเคลื่อน
เสียงไกด์เตือนความปลอดภัยในสิ่งของ
เก็บรักษาติดตัวไว้จงไตร่ตรอง
คนคอยจ้องฉกฉวยช่วยกันดู

เห็นแต่ไกลสวยเด่นเป็นสง่า
ตระการตาความยิ่งใหญ่วิไลหรู
เมื่อเข้าใกล้ยืนจ้องเพ่งมองดู
คนพรั่งพรูมาสัมผัสยัดทะนาน

หอสูงใหญ่ไอเฟิลเกินอวดอ้าง
สิ่งก่อสร้างเอกลักษณ์อัครสถาน
ปีหนึ่งแปดแปดเก้าเขาจัดงาน
มโหฬารสินค้าโลกจึงโชคดี

เฉลิมฉลองปฏิวัติอุตสาหกรรม
ร้อยฉนำครบถ้วนทวนศักดิ์ศรี
คนหลายล้านย่ำไปในหนึ่งปี
บุญคงมีจึงได้เห็นเป็นขวัญตา

มองจากลานจัตุรัสทรอคาเดโร
ความใหญ่โตทุกส่วนสัดชัดหนักหนา
สูงสามร้อยยี่สิบเมตรจากพสุธา
เลียบเมฆาที่ลอยเลื่อนเหมือนมีมนต์

เดินทางถึงประตูชัยไม่ไกลนัก
เอกลักษณ์อยู่สุดสายปลายถนน
ชองป์เซลิเซ่กว้างใหญ่ไม่เวียนวน
เห็นผู้คนยวดยานพลุกพล่านตา

นโปเลียนผู้เกรียงไกรให้ก่อสร้าง
ประตูกว้างสูงใหญ่ให้คุณค่า
แบบโรมันงามวิจิตรติดตรึงตรา
เด่นสง่าสัญลักษณ์ความมีชัย

เสรีภาพการต่อสู้ของผู้กล้า
ฝังกายานิรนามทั้งน้อยใหญ่
จารึกชื่อนายพลผู้เกรียงไกร
ชีพตักษัยกลางสนามยามต่อกร

รถวนเวียนผ่านมาเดอลาคองคอร์ท
มองเห็นยอดเสาใหญ่ใจสังหรณ์
มีลานกว้างประวัติศาสตร์ไม่ขาดตอน
นามกระฉ่อนลานประหารบั่นคอคน

กิโยตินเครื่องประหารหวั่นในอก
มีดหนักตกคอสะบั้นตาถลน
หลับตานึกใจหวาดหวั่นสั่นพิกล
หลายพันคนถูกประหารผลาญชีวี

พระเจ้าหลุยส์ที่สิบหกก็ไม่พ้น
รวมทั้งตนพระชายามาที่นี่
กิโยตินบั่นพระศอพอกันที
นาม มารีอังตัวเนตต์ถูกเด็ดชนม์

ปัจจุบันแปรเปลี่ยนจากเรื่องร้าย
ทิ้งความหมายแดนประหารให้ผ่านพ้น
มีน้ำพุสะดุดตาพาผู้คน
ให้มายลรูปปั้นมือชั้นครู

ต้นเมเปิลรายรอบลานกว้างใหญ่
ทั้งกิ่งใบตบแต่งให้งามหรู
เสาแกรนิตสูงสง่าน่ามองดู
ให้เชิดชูแนวคิดยังติดตา

อาหารจีนมือเที่ยงเลี้ยงจนอิ่ม
เห็นรอยยิ้มทั่วไปทุกใบหน้า
ออกเดินทางหมายมุ่งพุ่งตรงมา
แดนชื่อว่าดิสนีย์แลนด์แดนนิยาย

สามสิบสองกิโลเมตรจากปารีส
ทุกดวงจิตจดจ่อรอที่หมาย
กลับเป็นเด็กอีกครั้งทั้งหญิงชาย
คนมากมายเล่นสนุกลืมทุกข์ตรม

สี่สิบสามยูโรค่าบัตรผ่าน
คอยไม่นานได้ท่องไปให้สุขสม
สารพัดเครื่องเล่นแทบเป็นลม
บ้างเดินชมไม่กล้าพอท้อหัวใจ

ดิสนีย์แลนด์แดนดินถิ่นความฝัน
คนโจษจันทั่วหล้าพาฝันใฝ่
เมื่อมาเห็นด้วยตาช้าอยู่ใย
ทดลองให้ประสบการณ์ไม่ผ่านเลย

เที่ยวเพลิดเพลินมืดค่ำจนหนำจิต
แดนใกล้ปิดจึงกลับไปได้เฉลย
บางคนกลัวจนเงียบขรึมซึมไปเลย
บ้างก็เฉยพูดไม่ออกบอกไม่เป็น

อาหารค่ำวันนี้ไม่มีให้
ปล่อยตามใจพอประสบจึงพบเห็น
ว่ามาม่าจากเมืองไทยไล่ลำเค็ญ
พ้นทุกข์เข็ญเพราะมาม่าน่าขำจริง

บางคนเมื่อยอยากดื่มเบียร์เพลียมาแล้ว
เบียร์หนึ่งแก้วดับกระหายคลายทุกสิ่ง
หกจุดห้ายูโรโหแพงจริง
สั่งหนึ่งดริ้งค์ดื่มสองคนไม่สนใจ


นิราศปารีส-โรม (๓)				
Lovers  0 คน เลิฟบพิตร
Lovings  บพิตร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบพิตร
Lovings  บพิตร เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบพิตร
Lovings  บพิตร เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงบพิตร