** อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑**

คนกุลา

อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ แปลว่า เพชรพระอินทร์ หมายถึง ฉันท์ที่มีลีลา
อย่างเพชรของพระอินทร์  บางท่านก็บอกว่าหมายถึง "ฉันท์ที่มีลีลา
ดุจสายฟ้าของพระอินทร์" เป็นฉันท์ที่นิยมแต่งกันมากที่สุด มักใช้
เป็นบทชมธรรมชาติ  หรือพรรณนาความเศร้าโศก
มีลักษณะและจำนวนคำคล้ายกับกาพย์ยานี 11 แต่ต่างกันเพียงที่ว่า
อินทรวิเชียรฉันท์นี้มีข้อบังคับ ครุและลหุ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
          ๑. คณะและพยางค์
          ฉันท์บทหนึ่งมี ๒ บาท บาทละ ๒ วรรควรรคต้นมี ๕ คำ วรรค
ท้ายมี ๖ คำ รวมบาทละ ๑๑ คำ จึงเขียน ๑๑ ไว้ท้ายชื่อฉันท์
           
          ๒. สัมผัส
 สัมผัสระหว่างวรรค มีสัมผัส ๒ คู่ คือ
 คำสุดท้ายของวรรคหน้า สัมผัสกับ คำที่สามของวรรคหลัง แทน
     ด้วย เครื่องหมาย (๐)  ในแผนภาพโครงสร้างด้านล่าง
 คำสุดท้ายของวรรคที่สอง สัมผัสกับ คำสุดท้ายของวรรคที่สาม 
      แทนด้วยเครื่องหมาย ((๐)) ในแผนภาพโครงสร้างด้านล่าง
 สัมผัสระหว่างบท มี ๑ คู่ คือ
 คำสุดท้ายของแต่ละบท สัมผัสกับ คำสุดท้ายของวรรคที่สองของ
      บทที่ตามมา แทนด้วยเครื่องหมาย (((๐))). ในแผนภาพโครงสร้างด้านล่าง
      สัมผัสระหว่างวรรค
      
      สรุปว่าใน ๑ บท มีสัมผัส ๒ คู่ สังเกตจากแผนผังและตัวอย่าง (คำ
สัมผัสในที่นี้คือสัมผัสสระ ) สัมผัสบังคับดูได้จากแผนตาม เครื่องหมาย 
() หรือ(()) บอกสัมผัส 
       ส่วน คำครุ คำลหุ บังคับครุ ลหุ ตามที่เขียนไว้ในแผน และตาม
ตัวอย่าง
    ค ค ล ค (ค)   ล ล (ค)ล ค ((ค))
 ค ค ล ค ((ค))  ล ล ค ล ค (((ค)))
    ค ค ล ค (ค)   ล ล (ค)ล ค (((ค)))
 ค ค ล ค (((ค)))  ล ล ค ล ค ค
ค เท่ากับ คำครุ
ล เท่ากับ คำลหุ
ตัวอย่างบทประพันธ์ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ 
      ธมฺโม หเว รกฺ-   ขติ ธมฺมจารึ 
ชนใดหทัยอิง                 สติยึดประพฤติธรรม 
      ซื่อสัตย์วิรัติชั่ว          บมิกลั้ว ณ บาปกรรม 
เว้นทิฏฐิสารัม                 ภกิเลสและโทษผยอง 
      พร้อมกายวจีจิตร       สุจริตพินิจตรอง 
ธรรมแลจะคุ้มครอง          นรนั้นนิรันดร 
      ให้ปราศนิราศทุกข์     ประลุสุขสโมสร 
หลักฐานสถาพร              ธุระกอบก็เกิดผล 
      ธรรมแลจะแผ่กั้น      และก็กันมิให้ตน 
ตกต่ำถลำจน                  เจอะอบายวิบัติเขว 
       ฉตฺต มหนฺต    วิย วสฺสกาเล 
เหมือนเมื่อวสันต์เท          ชลหลั่งถะถั่งสาย 
       ร่มใหญ่ผิกางกั้น       จะประกันมิเปียกกาย 
ธรรมดุจร่มหมาย             เฉพาะธรรมจารี 
       เหตุนี้ประชาชาติ       ละประมาทประพฤติดี 
ยึดธรรมประจำชี              วิตเถิดประเสริฐแล
         (โดย วัลภา เทียนดำรง)
ตัวอย่างบทประพันธ์ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
ยลเนื้อก็เนื้อเต้น           พิศเส้นสรีร์รัว
ทั่วร่างและทั้งตัว          ก็ระริกระริวไหว 
แลหลังละลามโล-   หิตโอ้เลอะหลั่งไป
เพ่งผาดอนาถใจ          ระกะร่อยเพราะรอยหวาย
ตัวอย่าง อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
๏   พวกราชมัลโดย      พลโบยมิใช่เบา 
สุดหัตถแห่งเขา           ขณะหวดสิพึงกลัว 
๏   บงเนื้อก็เนื้อเต้น      พิศเส้นสรีร์รัว 
ทั่วร่างและทั้งตัว          ก็ระริกระริวไหว 
๏   แลหลังละโลมโล- หิตโอ้เลอะหลั่งไป 
เพ่งผาดอนาถใจ          ระกะร่อยเพราะรอยหวาย 
๏   เนื่องนับอเนกแนว  ระยะแถวตลอดลาย 
เฆี่ยนครบสยบกาย      สิรพับพะกับคา 
  (สามัคคีเภทคำฉันท์) 
ตัวอย่างอินทรวิเชียรฉันท์ชื่อ เล็บนาง 
๏   พี่บอกจะขอยล      นฤมลนขาเชย  
สั่นเทิ้มมิคุ้นเลย          อุระไหวระส่ำกาย  
๏   ลูบไล้ ณ นิ้วนวล    กลชวนภิรมย์หมาย  
สัมผัส มิเสียดาย          ดรุณีสิลืมตน  
๏   ล่วงกาลมินานนัก   นขลักษณ์ก็ฝากผล  
ชายชัง ก็ล่องหน         นฤมลก็หมองมัว  
๏   เล็บนาง ก็กางร่าย   สติชายสะพรึงกลัว  
เล็บนาง สะกิดทั่ว        ปริรอยประทับตรา  
  (โดย หมูอ้วน)  
หมายเหตุ:
ครุ คือพยางค์ที่มีเสียงหนัก 
ได้แก่ พยางค์ที่ประกอบด้วย สระเสียงยาว (ทีฆสระ) 
และสระเกินทั้ง ๔ คือ สระ อำ ใอ ไอ เอา 
และพยางค์ที่มีตัวสะกดทั้งสิ้น 
ลหุ คือพยางค์ที่มีเสียงเบา 
ได้แก่ พยางค์ที่ประกอบด้วย สระเสียงสั้น (รัสสระ) ที่
ไม่มีตัวสะกด 
............
แหล่งอ้างอิง 
http://guru.sanook.com/enc_photo.php?pic
http://www.kruwallapa.com/unit4/unit40104.html
www.prakan.ac.th/Link-Data/e-learning-51/orapin-3.ppt
http://www.st.ac.th/bhatips/chan_poem.html
...........
คนกุลา (เรียบเรียง)
ในเหมันต์				
comments powered by Disqus
  • สดายุ

    29 ธันวาคม 2552 16:54 น. - comment id 26708

    สวัสดีครับคนกุลา....
    เอาฉันท์มาร่วมแจม....
    
    อินทรวิเชียรฉันท์๑๑
    
    ๐ สังคีตประณีตคำ
    เฉพาะพร่ำจะรำพัน-
    งดงามและความฝัน
    นยะนั้นก็หนักหนา
    
    ๐ คร่ำครวญกระบวนถ้อย
    ก็ประดอยประดังอา-
    รมณ์ถึงคะนึงหา
    ทรมาเพราะอาลัย
    
    ๐ เฝ้าคอยละห้อยเห็น
    ฤจะเร้นจะหลบใจ
    พาทย์กล่อมประนอมนัย
    ฤไฉนจะอาจหนี
    
    ๐ พลิ้วผ่านผสานโสต
    ก็ประโมทยะมากมี
    ความนัยและไมตรี
    ณ ฤดีก็ยินดัง
    
    ๐ หวั่นเพียงประเดียงพาทย์
    จะปลาตะกำลัง
    หวั่นไหวเพราะใจหวัง
    ตละครั้งก็สุดคลาย
    
    ๐ นั่งนิ่งคะนึงอยู่
    นิระรู้จะรำบาย
    เพลงแว่วก็แผ่วหาย
    อุระคล้ายจะทอดถอน
    
    ๐ สุดที่จะลี้หลบ
    รติภพะเว้าวอน
    พากย์เพลงประเลงย้อน
    นยะซ้อนประโลมทรวง
    
    ๐ เหมือนดาวจะวาววับ
    และระยับระยิบยวง
    เหมือนในฤทัยหวง
    นยะช่วงเพราะอาวรณ์
    
    ๐ โอบอ้อมถนอมบท
    รติรสะซอกซอน
    แทรกซุก ณ ทุกตอน
    ฤจะผ่อนจะพรางผล
    
    ๐ นัยเพลงประเลงล้อม
    ก็ประนอมประนังพล
    กำเริบและเติบตน
    ปะทุผล ณ ที่ใจ
    
    ๐ บทเพลงประเลงล้อม
    ก็ประนอมประนังนัย
    เป็นขวัญประหวั่นไหว
    ณ พิสัยะใครนี้
    
    ๐ สืบสร้างระหว่างคิด
    สุจริตะใจมี
    หมายว่าประดาปรี-
    ดิพิถีจะทอดไป
    
    ๐ เพียงหวังจะหลั่งพาก-
    ยะละหลากประนอมนัย
    สัมผัสะรัดใจ
    พิสมัยะหยั่งลง
    
    ๐ หวังโสตอุโฆษคำ
    อุปถัมภะจำนง
    สุดคิดจะปลิดปลง
    จิตะคงจะคู่เคียง
  • คนกุลา

    29 ธันวาคม 2552 18:58 น. - comment id 26713

    ผมเพิ่งเรียนรู้และหัดแต่งวันนี้ เอง ครับ
    ช่วยวิจารณ์ ด้วยนะครับ 
    
    ขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ครับ คุณ สดายุ ที่นำ 
    อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ มาแจม นะครับ
  • หอมดอกลำดวน

    30 ธันวาคม 2552 13:02 น. - comment id 26719

    แพรดาววะวาววับ
    ดุจซับสุขารมย์
    เพลินภาพวิภาสม
    อุรรื่นลุชื่นบาน
    
    ลองแต่งดู
    ไม่รู้เรื่องเลย
  • คนกุลา

    30 ธันวาคม 2552 16:00 น. - comment id 26720

    แพรดาววะวาววับ
    ดุจซับสุขารมย์
    เพลินภาพวิภาสม
    อุรรื่นลุชื่นบาน
    
    ลองแต่งดู
    ไม่รู้เรื่องเลย 
    
    หอมดอกลำดวน
    
    """"""""""""""""""
    ผมว่าดีเลยนะครับ ลองแต่งเต็มบทดูนะครับ
    
     
    36.gif1.gif36.gif
  • ราชิกา

    2 มกราคม 2553 18:08 น. - comment id 26754

    ** จันทร์เอยประดับฟ้า........พิศจ้าจรัสชม
    จันทร์งามสิพร่างพรม.......มนชื่นระเริงใจ
    
    จันทราประดับจิต............ศศิพิศก็อ่อนไหว
    จันทร์รอนสิอาลัย..........  หฤทัย ณ.แก้วตา
    
    จันทร์เจ้ามเลืองรอง....... ผิวปองถวิลหา
    จันทร์นวลสิยวนตา.........รตนา ณ.เนื้อกลอย
    
    จันทร์ใดสิงามแท้.............ตละแม่ มิเอื้อมสอย
    ดวงเดือนจะเลื่อนลอย......มนพลอยสิคร่ำครวญ 
    
    จันทราประดับจิต............นิรมิตมิคิดหวน
    แสงส่องพระจันทร์นวล......ตละชวนคนึงนาง
    
    คราใดพระจันทร์ส่อง.........ผิวปองมิวายวาง
    คิดถึงนะนวลปราง.........คคนางค์สิไคลคลา...ฯ
    
    มาขอร่วมแจมค่ะ..คุณคนกุลา..ลองแต่งอินทรวิเชียร ฉันท์ ๑๑...ดูค่ะ..พอสมควรเหมือนกัน
    
    ดูแลสุขภาพนะคะ..
    36.gif16.gif36.gif
  • คนกุลา

    8 กรกฎาคม 2553 10:42 น. - comment id 26867

    สนใจค้นคว้า ดูตัวอย่างอินทรวิเชียรฉันท์ ได้เพิ่มเติมที่
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem135709.html
    
    ได้ ครับ
    
    36.gif16.gif36.gif
  • คนกุลา

    8 กรกฎาคม 2553 10:30 น. - comment id 31541

    สนใจ้นคว้า ดูตัวอย่างอินทรวิเชียรฉันท์ ได้เพิ่มเติมที่ 
    
    http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem135729.html
    
    ได้ครับ
    
    36.gif16.gif36.gif
  • แนน

    30 สิงหาคม 2553 15:21 น. - comment id 32090

    ขอบคุณมากน่ะ
  • น้ำ

    8 พฤศจิกายน 2554 11:33 น. - comment id 35758

    fดีมากเลยครับ
    ขอบคุณมากเลยครับสำหรับข้อมุลนี้
  • นักเรียนรร.วัฒนานคร

    14 กันยายน 2555 15:08 น. - comment id 37201

    41.gifมันดีมากเลย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน