21 กุมภาพันธ์ 2548 09:32 น.

คิดถึง..คนไกล

บินเดี่ยวหมื่นลี้

มองจันทร์เสี้ยวบนนภาครายามดึก
พลันย้อนนึกก่อนนั้นวันเราสอง
ร่วมบรรเลงเพลงฝันกลั่นทำนอง
กอดตระกองกลางไพรในคืนวาน

ใจสองใจร่วมร้อยถ้อยเพลงรัก
สายใยถักจากดาวพราวประสาน
ลมหนาวพลิ้วไผ่สีคีตกานต์
สองเราขับบทกานท์หวานรัญจวน

แต่ยามนี้ไกลเจ้าแสนเหงาจิต
ดั่งชีวิตเปลี่ยวคว้างกลางลมหวน
ดุจทนว่ายกระแสโศกวิโยคครวญ
ใจปั่นป่วนถึงนางมิสร่างซา

วอนจันทร์เสี้ยวนำสาส์นความคิดถึง
ส่งไปซึ่งคนไกลที่ใฝ่หา
วอนลมหนาวและเดือนดาวพราวนภา
กระซิบบอกนางว่า ..ข้ารักนาง				
15 กุมภาพันธ์ 2548 16:08 น.

กระบี่...ไร้ใจ

บินเดี่ยวหมื่นลี้



เริ่มต้นจากทวงสัญญาแม่ตาหวาน
จนซมซานบุกเดี่ยวเที่ยวค้นหา
เอ่ยคำรักยกอ้างดั่งวาจา
ที่ผ่านมามิเล่นเพราะเป็นจริง

โดนตอกกลับด้วยกลอนเธอย้อนเจ็บ
ทั้งคำเหน็บเชิงอ่อนเรื่องอ้อนหญิง
ลงดาบเชือดเฉือนไปไม่ประวิง
ยังทนนิ่งทวนคำย้ำหัวใจ

ครั้นด้านหน้าต่อกรออดอ้อนต่อ
สวมบทพ่อนักรักมิหวั่นไหว
ขอท้ารบจอมทัพผู้เกรียงไกร
แม้มากภัยหวังครองจับจองอัล 

กลับเจ็บหนักพ่ายแพ้ในกลศึก
ไม่สำนึกเงาหัวตัวเรานั่น
แค่ไก่อ่อนอวดกล้ามาฟาดฟัน
ช่างแดกดันได้เก่งนักเลงกลอน

จนสุดท้ายร่ายคำเธอย้ำตอบ
ความหมายมอบให้ประจักษ์ในอักษร
ที่เราพร่ำเพ้อหนักทุกวรรคตอน
หาได้คลอนโยกใจได้สักครา

เพราะไร้ใจในรัก.. ? หักใจถาม
ทุกโมงยามเธอผลักไสไม่เห็นค่า
แต่ยิ่งผลักกลับหลงใหลเราหมายตา
แม้รู้ว่าตัวเธอนี้กระบี่...ไร้ใจ

 				
14 กุมภาพันธ์ 2548 16:02 น.

ไร้ใจ..หรือหน่ายรัก

บินเดี่ยวหมื่นลี้

เพราะไร้ใจหรือหน่ายกับความรัก
จึงทึกทักว่าด้านหน้าหลับตาเขียน
ลองตรงดูความหมายใช่นั่งเทียน
ที่เฝ้าเพียรบอกไปในถ้อยคำ

ทุกวลีบ่งบอกไปในรู้สึก
จากส่วนลึกของใจที่ถลำ
แม้นไก่อ่อนแต่ขันได้ขอให้จำ
และยังร่ำร้องสู้อยู่ต่อกร

หากทรามวัยมีใจให้ความรัก
ไม่ต้องหันเหหักเรื่องอักษร
คำต่อคำความหมายแฝงในกลอน
เขียนออดอ้อนเพราะภักดิ์เจ้านงคราญ

หากแหนงหน่ายเพราะเศร้ายังเร้ารุก
ไม่ยอมปลุกเปิดใจให้กล้าหาญ
ต่อกรกับความรักที่ระราน
ขอบอกผ่านจะถอยทัพกลับนคร

กระบี่เจ้าเก็บไว้ในฝักเถิด
มันเลอเลิศเกินชักมาสั่งสอน
แค่ปรายตามาให้ใจข้าคลอน
ดั่งต้องศรองค์รามยามแผลงฤทธิ์				
14 กุมภาพันธ์ 2548 10:39 น.

ณ ราตรีหนึ่ง

บินเดี่ยวหมื่นลี้

กลางขุนเขาลำเนาไพรในคืนหนึ่ง
ราตรีซึ่งไร้เดือนเยือนส่องแสง
ยิ่งดึกดื่นน้ำค้างพรมลมหนาวแรง
ดาวแต่งแต้มโค้งฟ้าน่าภิรมย์

ก่อกองไฟไล่หนาวที่เข้าล้อม
อุ่นอกอ้อมกอดนางช่างสุขสม
กรุ่นกลิ่นอายกายเจ้าเร้าอารมณ์
จนยากข่มใจกระเจิงดั่งเพลิงลาม

เงียบสงัดกลางไพรได้สดับ
เสียงขานรับหัวใจให้วาบหวาม
ราตรีนี้มีสุขทุกโมงยาม
ปล่อยกายตามห้วงรักที่ถักทอ

จวบฟ้าแจ้งน้ำค้างหายสายหมอกลับ
ในใจกลับหวั่นไหวอย่างไรหนอ
รักที่เพียรเฝ้าฝันแห่งการอ
แต่ครั้นพอรุ่งสางต้องห่างกัน

อกแทบแตกแหลกยับรับไม่ไหว
เวลาไกลล่วงมาพาโศกศัลย์
เวลารักเคียงใกล้ในคืนวัน
เวลานั้นสั้นมากยากทำใจ

ตระกองกอดยอดรักยากเอ่ยถ้อย
เราจะคอยกันและกันไม่หวั่นไหว
สัญญารักยังมั่นในหทัย
สัญญาใจยังคงอยู่สู่นิรันดร์
				
12 กุมภาพันธ์ 2548 13:12 น.

นักรัก..นักรบ

บินเดี่ยวหมื่นลี้

แม้ภูผาขวางกั้นยังบั่นบุก
เพื่อจะรุกพบรักประจักษ์ฝัน
ร้อยแม่น้ำเห่ล้อมตั้งป้อมกัน
ก็ไม่หวั่นว่ายทนจนพ้นธาร

ด้วยเพราะเป็นนักรักที่ภักดิ์เจ้า
สิ่งใดเล่าจะบั่นหั่นความหาญ
ต่อหนทางทอดไกลไปเทียมกาล
ห้วงดวงมาลย์เพียงเธอเสมอใจ

เมื่อจับดาบมั่นหมายในนักรบ
ก็พร้อมพบเชิงยุทธไม่หวั่นไหว
วาดวาวคมกวัดแกว่งแทงฟันไป
หลอมหัวใจสู่ศาสตราให้กล้าแรง

ถึงซบร่างฝังกายไม่ไหวหวั่น
เข้าโรมรันต่อสู้ดูกำแหง
เลือดนักรบอาบซ่านฉานสีแดง 
ศักดิ์ศรีแห่งผู้กล้าท้าประลอง

แม้นนักรบเก่งกาจในสนาม
แม่นนิยามการยุทธไม่เป็นสอง
หรือนักรักภักดิ์มั่นบุกบั่นครอง
ขอเป็นรองเพียงเจ้าข้าเฝ้าเคียง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบินเดี่ยวหมื่นลี้
Lovings  บินเดี่ยวหมื่นลี้ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบินเดี่ยวหมื่นลี้
Lovings  บินเดี่ยวหมื่นลี้ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงบินเดี่ยวหมื่นลี้