17 กันยายน 2555 13:06 น.

เจ้าสายฝนยังกลับมาเมื่อหน้าฝน

บุญเพิ่ม

เจ้าสายฝนยังกลับมาเมื่อหน้าฝน


สายฝนจางร้างลาเริ่มหน้าหนาว
ทอแสงดาวพราวฝันเฉิดฉันฉาย
พฤกษ์พงไพรใบเฉียงหล่นเรียงราย
หมอกม่านพรายเบาบางน้ำค้างริน

ดวงแดดสาดแสงทองละอองอุ่น
ลมพัดฝุ่นหมุนกลบตลบถิ่น
ทุ่งลำธารแห้งขอดตลอดดิน
นกกาบินร่ำร้องกล่อมท้องนา

แสนอาลัยเสียดายเจ้าสายฝน
เคยสู้ทนทำงานที่บ้านป่า
ซึ่งตัดใจเอ่ยคำกล่าวอำลา
หอบเสื้อผ้าเข้ากรุงอันรุ่งเรือง

เพียงหน้าหนาวเริ่มต้นหลังฝนห่าง
ก็ทิ้งทุ่งลืมบางกองฟางเหลือง
รอนแรมเช่นนกขมิ้นจรถิ่นเมือง
ฤๅเจ้าเคืองหนาวลมที่ห่มไพร

ผ่านหน้าหนาวและร้อนลา ครึ้มฟ้าหม่น
เจ้าสายฝนกลับมาบ้านนาใหม่
ส่งรอยยิ้มอิ่มแปล้มาแต่ไกล
พูดจากใจ ห่วงแม่ครับ จึงกลับมา! ฯ

                       อริญชย์
                   ๑๕/๙/๒๕๕๕				
15 กันยายน 2555 07:39 น.

คอยหวัง

บุญเพิ่ม

คอยหวัง

จงร้อยพจน์บทความไปตามฝัน
ให้เฉิดฉันบรรจงชวนหลงใหล
ใช้ศิลป์ศาสตร์วาดคำด้วยน้ำใจ
มีอะไรมากมายระบายกลอน

เธอแต่งถ้อยคำงามฉันตามอ่าน
เพื่อสืบสานจารสลักมนต์อักษร
เติมเรื่องราวให้สนุกได้ทุกตอน
เอื้ออาทรต่อกันทุกวันคืน

วันหนึ่งเธอหายไปฉันใจเศร้า
ทุกค่ำเช้าตรอมตรมอยู่ขมขื่น
รอเธอจุดความหวังให้ยั่งยืน
เก็บใจฝืนอาวรณ์สะท้อนทรวง

โปรดกลับมาแต่งคำเริงรำร่าย
สื่อความหมายปลายฝันสวรรค์สรวง
ส่องแสงเด่นเช่นดาวสกาวดวง
หวานดั่งรวงผึ้งรินกวินมา

สักเพียงนิดสามวรรคสลักพจน์
บริบทกลอนอบอุ่นทรงคุณค่า
รัก ห่วงใย ธรรมชาติ ปรัชญา
ฉันคิดว่า เธอยังมีสิ่งดีพอ!ฯ

                           อริญชย์
                       ๑๒/๕/๒๕๕๕				
14 กันยายน 2555 12:05 น.

หมอกม่านหม่นมัวสลัวแสง

บุญเพิ่ม

หมอกม่านหม่นมัวสลัวแสง

เดินโดดเดี่ยวเดียวดายสู่ปลายฝัน
ยิ้มยืนยันเหยียบย่างบนทางฝุ่น
ท้อทุกข์ทนท่วงท่ายังการุญ
เหน็บหนาวหนุนเนื่องในหาได้เกรง

เกี่ยวเกื้อกูลเก็บก่อไม่ท้อถอย
ค่ำคืนคอยใคร่ครวญทบทวนเพ่ง
ข่มขมขื่นขีดเขียนพากเพียรเอง
เรียบเรียงเร่งเร็วรี่สุนทรีกลอน

โหยหิวหาหดหู่ยังสู้ต่อ
พากเพียรพอพึ่งพิงไม่ยิ่งหย่อน
ลบลืมเลือนแล้งลาให้อาวรณ์
จำใจจรจากจึงซาบซึ้งทรวง

มองหมอกม่านหม่นมัวสลัวแสง
ทาบทอแทงท้าทายดูคล้ายบ่วง
ความคิดแค้นคับแคบคือแบบลวง
ปั่นป่วนป่วงปกปิดชีวิตงาม ฯ

                        อริญชย์
                    ๑๓/๑๑/๒๕๕๕				
13 กันยายน 2555 11:22 น.

งามเด่นเดือนสกาว……….โจ่งแจ้ง

บุญเพิ่ม

ดวงจันทร์โจ่งแจ้ง

ดาวทอแสงแจ่มฟ้า..วะวับวาว
งามเด่นเดือนสกาว.โจ่งแจ้ง
ลมเย็นผ่านพัดพราวจากป่า ไพรแล
ฉันนั่งริมทุ่งแล้ง....เหม่อเศร้ารอฝน ฯ

ฟังเรไรร่ำร้อง.....ลอยลม
เป็นห่วงควายตาคม...อดหญ้า
พิรุณบ่โปรยพรม.......แนวทุ่ง นาเฮย
จึงหม่นกันทั่วหน้า....อ่อนทั้งคนควาย ฯ

ดวงจันทร์งามเจิดจ้า.....ดวงเดียว
ดาวอื่นใครฤๅเหลียว..แจ่มบ้าง
นกไพรร่อนปราดเปรียวยามดึก 
เงาหนึ่งใครเคียงข้าง....เบิ่งแล้วชวนสยอง ฯ

                             อริญชย์
                         ๑๒/๑๑/๒๕๕๕				
12 กันยายน 2555 11:53 น.

๐มองภาพถ่ายข้างฝาเวลาดึก๐

บุญเพิ่ม

๐มองภาพถ่ายข้างฝาเวลาดึก๐

มองภาพถ่ายข้างฝาเวลาดึก
สุดระทึกวาบในดวงใจฉัน
เป็นของเก่าที่ผ่านคืนวานวัน
ห้อยตรงนั้นแน่แน่วกรอบแก้วบาง

เสียงออดแอดสายลมพัดพรมพลิ้ว
ชวนหวาดหวิวทุกคราริมหน้าต่าง
ยามเมื่อฟ้ากำสรวลร้องครวญคราง
ยิ่งเป็นลางบอกเหตุสื่อเลศนัย

เพราะภาพถ่ายทุ่งข้าวรวงพราวเหลือง
สื่อสารเรื่องชาวนาน้ำตาไหล
เมื่อหนุ่มสาวลูกหลานแห่งบ้านไพร
แรมร้างไกลจากถิ่นแผ่นดินตน

ต่างทำงานปลดเปลื้องในเมืองหลวง
ทิ้งทุ่งรวงสีทองให้หมองหม่น
ด้วยครอบครัวลำบากแสนยากจน
เหลือเพียงคนแก่เฒ่าอยู่เฝ้าคอย

มองภาพถ่ายข้างฝาเวลาดึก
จึงระทึกวาบในดวงใจบ่อย
คล้ายกับแว่วเสียงเพลงวังเวงลอย
ที่เรียงร้อยเรื่องราวของชาวนา!ฯ

                             อริญชย์
                         ๘/๗/๒๕๕๕				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบุญเพิ่ม
Lovings  บุญเพิ่ม เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบุญเพิ่ม
Lovings  บุญเพิ่ม เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟบุญเพิ่ม
Lovings  บุญเพิ่ม เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงบุญเพิ่ม