21 พฤศจิกายน 2550 15:43 น.

คืนวันจันทร์เพ็ญลอยเด่นดวง

ปราณรวี

loykratong01.jpg
ครบสิบห้าค่ำขึ้น.............เดือนสิบสอง
ริมฝั่งน้ำเนืองนอง...........เอ่อล้น
ระเรียบเรื่อยริมคลอง......เย็นชุ่ม ฉ่ำเอย
จันทร์แจ่มเพิ่งโผล่พ้น.....เด่นฟ้ารำไรฯ

แสงนวลสาดส่องจ้า.........สว่างไสว
กระทบผิวน้ำใส..............พร่างพลิ้ว
เอื่อยเอื่อยเรื่อยรินไหล.....สงัดเงียบ
เพียงคลื่นระลอกริ้ว..........แผ่วพื้นวารีฯ

เสียงประโคมแว่วโพ้น.....ดังชัด
เริงรื่นคืนงานวัด..............ครึกครื้น
กระทงเร่งรีบจัด..............ประกวด กันนา
เสร็จสรรพจึงยกขึ้น.........ส่งให้ประมูลฯ

สาวงามรุ่นใหญ่,น้อย.......ส่งไป
นางนพมาศผู้ใด..............จักได้
เสียงเชียร์เริ่มก้องไกล.....ยามดึก
แม้จักตกรอบไซร้............ส่งยิ้มทั่วกันฯ

ริมน้ำคลาคล่ำด้วย..........ฝูงชน
เด็กเล็กเที่ยวซุกซน........อยากรู้
ผู้ใหญ่วุ่นสาละวน...........ไล่จับ
จุดดอกไม้ไฟสู้...............ปล่อยทิ้งวิ่งตามฯ

หญิงชายต่างเกี่ยวก้อย......เคียงกัน
คืนค่ำแสนสุขสันต์............ชิดใกล้
กระทงเลือกหนึ่งอัน.........เคียงคู่ จับเอย
ยกจรดหน้าผากไซร้.........ร่วมร้อยดวงจินต์ฯ

ปล่อยกระทงลงสู่น้ำ..........พัดพา
อธิษฐานขอขมา...............แม่น้ำ
ทุกข์โศกและโรคา...........ไหลล่วง ไปเฮย
หมองหม่นแลกลืนกล้ำ......ปล่อยทิ้งลงธารฯ      
     
ประเพณีเก่าแก่แล้ว.........นานนัก
ร่วมจิตคิดอนุรักษ์............คู่แคว้น
นานาชาติประจักษ์............เอกลักษณ์ เราเอย
ถิ่นอื่นมิเหมือนแม้น..........ถิ่นนี้เมืองไทยฯ  				
16 พฤศจิกายน 2550 09:27 น.

....กระทงเดียวดาย....

ปราณรวี

picture.jpg
ยิ่งใกล้ยิ่งไหวหวั่นคืนวันเพ็ญ
เห็นจันทร์เด่นลอยดวงบนห้วงฟ้า
วิเวกแว่วแผ่วลมพรมพร่างมา
ตรงหน้าคือสายน้ำยามค่ำคืน

ระลึกหวนทวนย้อนตอนวันเก่า
เหลือเพียงเงาฝากไว้ให้ชมชื่น
กับเรื่องราวกล่าวขานเมื่อวานซืน  
ต้องทนฝืนเดียวดายใต้เงาจันทร์

กระทงเคยเคียงคู่สู่สายน้ำ
กับถ้อยคำอธิษฐานบนลานฝัน
มีเพียงเราเคล้าคลอรอคู่กัน
และคำมั่นสัญญาว่าจะคอย

แต่สายน้ำยามนั้นทำหวั่นไหว
แยกเราสองล่องไปให้เหงาหงอย
คนละทางห่างไกลใจเลื่อนลอย
ลำนำถ้อยดิ่งจมใต้ร่มธาร

อธิษฐานคราวนั้นคล้ายฝันเฟื่อง
ยุติเรื่องหันเหเวลาผ่าน
ปล่อยทุกสิ่งมืดดับไปกับกาล
ไม่อาจต้านตัดพ้อต่อเปลี่ยนแปลง

ลอยกระทงปีนี้ฤดีหม่น
ด้วยไร้คนเคียงข้าง..ดั่งจันทร์แกล้ง
มองสายน้ำหัวใจให้เคลือบแคลง
ไยรักแฝงแต่ทุกข์..สุขลางเลือน  				
12 พฤศจิกายน 2550 09:17 น.

....เปลี่ยน....

ปราณรวี

2006.jpg
ลมหนาวเยือนเยี่ยมแล้ว....อีกครา
ฝนที่โปรยปรายมา...........เริ่มทิ้ง
ลมล้อลิ่วปลิวพา................ยะเยือก เย็นเอย
รายรอบพรายเพริดพริ้ง.....ดั่งรุ้งแพรวพรรณฯ

ฤดูกาลใบไม้เริ่ม.............เปลี่ยนสี
มองแห่งไหนล้วนมี.........แต่งแต้ม
สีสันปลุกฤดี...................ชวนชื่น ชิดเอย
มิต่างดอกแรกแย้ม.........ยิ่งย้ำจำจินต์ฯ

จากมาไกลมากแล้ว........คิดถึง
ยิ่งคิดติดตราตรึง.............หม่นไหม้
แม้ครวญคร่ำคำนึง.........มิอาจ คืนเฮย
จนกว่าบรรลุไซร้.............หนึ่งห้วงเวลาฯ

ป่านฉะนี้จะเศร้า...........ฤๅไฉน
เหลืองแสดแลวิไล.........กลับคล้ำ 
หิมะร่วงคราใด.............คงกลบ มิดเอย
ปล่อยทอดทิ้งต้นช้ำ.......นิ่งแล้วกลางลานฯ

หนาวมาใบไม้ร่วง........โรยรา
หนาวก็นำรักพา...........ห่างด้วย
หนาวกายมิคณา...........ด้วยห่ม ผ้าเอย
ใจสิเกือบมอดม้วย.......ท่วมน้ำตารินฯ

จำใจจำจากแล้ว...........จากเลย
แม้พร่ำคำเฉลย............ร่ำไห้
มิอาจเพรียกรักเอย.......หวนกลับ
หมดสุขทุกข์ลามไล้......ดั่งไม้ดายเดียวฯ 				
30 ตุลาคม 2550 23:36 น.

จำใจต้องจำนำด้วยจำเป็น

ปราณรวี

t1321111.jpg
เปิดเทอมเยี่ยมกรายมาใกล้แล้ว
แม่ใจแป้วกระเป๋าแฟ่บแอบทอดถอน
ค่าใช้จ่ายคงหลายพันทุกขั้นตอน
เมื่อคราวก่อนจ่ายไปยังไม่ลืม

ทั้งค่าเทอมเสื้อผ้าสารพัด
มีจำกัดเก็บไว้ใช่ปลาบปลื้ม
หลายคราครั้งยั้งใจไม่หยิบยืม
น้ำตาซึมขัดสนก็ทนเอา                               

ทั้งคนโตคนเล็กเด็กตัวน้อย
ค่าใช้สอยไล่เรียงไปเคียงเขา
ยิ่งเรียนสูงก็พูนเพิ่มเหมือนเติมเงา
ภาระเบาลงนิดเมื่อปิดเทอม

เปิดกระเป๋าออกนับเงินพับไว้
ค่อยลูบไล้ ถ้วนถี่ นี่เงินเสริม
เก็บสำรองเอาไว้ใช้ต่อเติม
เมื่อเปิดเทอมต้องจ่ายหลายภาระ

ลูกคนโตค่าเทอมเพิ่มห้าหน่วย
คนเล็กด้วยของใช้จิปาถะ
คงมากเกินที่แม่มีเสียแล้วนะ
โอคุณพระ! ทำอย่างไรให้พอดี

หวนนึกถึงเพื่อนเก่าเราเคยพึ่ง
หลายคราซึ่งช่วยไว้ให้สุขศรี
แม้คราวยากฝากความหวังที่ยังมี
ต่อชีวียามจนขัดสนเงิน

จึงแง้มตู้เปิดเอากระเป๋าน้อย
มีสายสร้อยเส้นเขื่องลายเครื่องเขิน
ดูเก่าคร่ำดำไปนิดพิศพอเพลิน
ขัดกับเงินได้เท่าไรไม่อาจรู้

พอตกสายบ่ายหน้ามาตรงนี้
สถานที่เพื่อนหนอรอเราอยู่
หยิบสายสร้อยออกไปให้พิศดู
วอนหลงจู๊ช่วยทีตีราคา

ขอต่อรองนิดหน่อยไม่ค่อยขัด
เขียนใบนัดไถ่คืนชื่นหรรษา
เมื่อเสร็จสรรพรับเงินเดินออกมา
ให้สัญญาเชื่อได้ในน้ำคำ

แม้หดหู่เพียงใดไม่อยากคิด
ทางชีวิตขมขื่นสู้กลืนกล้ำ
เงินไม่พอ..แก้ปัญหาฝ่าระกำ
จำใจต้องจำนำด้วยจำเป็น  				
28 ตุลาคม 2550 17:44 น.

อย่างน้อยหัวใจ..ได้เคยรัก

ปราณรวี

5y1ozdv.gif
คงไกลเกินกว่าจะคว้าถึง
คนหนึ่งพึงพิศเคยชิดใกล้
ฟากฟ้ากั้นกลางหว่างห้องใจ
สิ้นไร้อาวรณ์ดังก่อนมา

กลายเป็นคนอื่นไปเสียแล้ว
เพียงแผ่วลมพลิ้วลิ่วลอยหา
บทเพลงลำนำคล้ายคำลา
ศรัทธาแห่งใครไม่เหลือเลย

ดวงใจแห้งแล้งเรี่ยวแรงสิ้น
โบยบินไม่ไหวแล้วใจเอ๋ย
ขวัญเจ้าจากกันแล้วขวัญเอย
เอื้อนเอ่ยใดใดก็ไร้ความ

มองฟ้ามองฝนดั่งคนผิด
ความคิดกลัดหนองด้วยมองข้าม
ไม่อาจยื้อยุดฉุดรั้งตาม
งอกงามสัมพันธ์ฉันและเธอ

หรือเป็นเพียงเราที่เขลานัก
จมปลักคลั่งไคล้ใจเพ้อเจ้อ
คิดไปฝ่ายเดียวเที่ยวละเมอ
พร่ำเพ้อทุกข์ตรมขมอุรา

เถอะ..อย่างไรใจจำถึงช้ำชอก
พร่ำบอกออกไปแม้ไร้ค่า
ช่วงหนึ่งชีวิตติดตรึงตรา
ปวดปร่าล้าหนักรักเลื่อนลอย

ด้วยลมหายใจยังไม่สิ้น
จึ่งดิ้นต่อไปไม่อาจถอย
ระกำซ้ำซากจากรอคอย
อย่างน้อยก็หัวใจ..ได้เคยรัก
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปราณรวี
Lovings  ปราณรวี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปราณรวี
Lovings  ปราณรวี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปราณรวี
Lovings  ปราณรวี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปราณรวี