22 มิถุนายน 2547 19:01 น.

ซินเดอเรลลา

ปากกาดอกไม้(2)

ท้องฟ้า ราตรี กลุ่มดาว
สกาว ราวกับ ความฝัน
แสงเอย แสงดาว แสงจันทร์
ช่วยฉัน บอกรัก สักที
[ ]
รถม้า ราตรี กลุ่มดาว
สกาว ราวกับ ความฝัน
เจ้าชาย ม้าขาว คนนั้น
พบกัน คืนวัน จันทร์เพ็ญ

เท้าเอย เท้าแก้ว แวววับ
งามจับ งามตา สวยเด่น
อยากได้ อยากสวย อยากเป็น
ฉันเช่น เธอใน นิทาน
[ ]
เจ้าเอย เจ้าชาย ม้าขาว
ถึงคราว ท่านต้อง ตามหา
ผู้เป็น ซิลเดอ เรลลา
ร้องว่า เธออยู่ หนใด
[ ]
เสียงเอย เสียงใด เรียกหา
ถึงข้า นางซิน ละนี่
โอ๊ยเขิน โอ๊ยอาย ทันที
โครม..โอ๊ย ดันละเมอ ตกเตียง
--เสียดายเจ้าชายจัง--

งุงิ ขอให้คุณๆทุกคนหลับฝันดีนะครับวันนี้ (โดยเฉพาะคนที่กำลังตามหาเจ้าชาย)				
21 มิถุนายน 2547 20:13 น.

น้ำตาหยดสุดท้าย

ปากกาดอกไม้(2)

น้ำตา...หยดสุดท้าย          แม่จะได้...พิศแลเห็น
ไหลหลั่ง...ทั้งเช้าเย็น            ยามแม่สิ้น...ชีพชีวา
      บัดนี้...แม่เอนกาย          อิงแอบภาย...ใต้กอดข้า
ซบแน่น...แนบอุรา               มือของข้า...สั่นระรัว
     น้ำตา...ร่วงเป็นสาย         พระพรั่งพราย...เพราะความกลัว
นี่ฉัน...ฆ่าแม่ตัว                   ฉันจะอยู่...ได้อย่างไร
     โทสะ...มาบังตา                อวิชชา...มาดลใจ
สะบั้น...หั่นสายใย                 ให้ร้าวรัก... ลงหักพลัน
     วจี...คำสุดท้าย                 ที่แม่ได้... มอบให้ฉัน
แสงลาง...กลางแสงจันทร์      แม่รักลูก...เหนืออื่นใด
 [ ]    
     น้ำตา...หยดสุดท้าย          ที่แม่ได้...พิศแลเห็น
บัดนี้...กายแม่เย็น               ยังห่วงหา...ยังอาวรณ์
     มือเจ้า...ที่เปื้อนเลือด       ที่เจ้าเชือด...เฉือนอาภรณ์
แผลงฤทธิ์...ยุทธ์ราญรอน      ทิ่มแทงข้า...มารดาตน
     แม้เจ้า...จะเกลียดโกรธ    เจ้าจะโทษ...ว่าข้าจน
เพียงแค่...เป็นเศษคน          ให้ลูกได้...ระบายความ
     ท้องฟ้า...ช่างกว้างใหญ่      ย่อมสดใส...ในสีคราม
แม่รัก...เจ้าทุกยาม                แม้นฟ้ามืด และมนไป
  [ ]  
    น้ำตา...หยดสุดท้าย            ข้าร้องไห้...ละอายตัว
โอ้ว่า...ลูกชาติชั่ว                    ลูกต่ำช้า...ทั้งกายใจ       

----- ไม่ทราบว่ายังมีคนจำเราได้มั้ยเนี่ย พอดีมีเรื่องทะเลาะกลับแม่นิดหน่อย
ตอนนี้สำนึกได้และไปขอโทษท่านแล้ว จึงอยากฝากกลอนไว้เตือนใจสำหรับใครบางคนในตอนนี้ อาจจะไม่ไพเราะเท่าไร แต่ทั้งหมดก็เขียนมาจากใจที่อยากให้เป็น-----				
26 พฤษภาคม 2547 23:42 น.

กลลวงดวงจันทร์(1)

ปากกาดอกไม้(2)

ขอขอบพระคุณผู้ที่มาเยี่ยมชมผลงานผมที่ผ่านมานะครับ
ไม่ว่าจะเป็นคุณอัลมิตรา   แก้วประเสริฐ  ผู้หญิงไร้เงาและอีกบางท่าน แม้คนจะเยี่ยมชมน้อยแต่ก็ยังพอมีแรงใจที่จะก้าวต่อไปได้ครับ^^                 



ครั้นแต่ก่อน ค่อนแต่เก่า เรายังเด็ก
เรายังเล็ก เด็กนัก เป็นหนักหนา
มีนิทาน กาลเก่า เล่าต่อมา
ถึงจันทรา ลวงกระต่าย ให้หมายจันทร์

ยามหญ้าพริ้ว ปลิวตามลม น่าชมนัก
มิเหมือนรัก หักลงแล้ แค่เพียงฝัน
ใยจันทรา มาล่วง ลวงรักกัน
ปล่อยให้ฉัน นั้นไร้คู่ อยู่เดียวดาย

กระต่าย

ถึงพระจันทร์ ผู้กระจ่าง อยู่กลางฟ้า
นี่ตัวข้า นายกระต่าย ผู้ต้อยต่ำ
เมียงสายตา มองฟ้า ราตรีค่ำ
แล้วคอยย้ำ พร่ำว่าฉัน รักจันทรา    

จันทรา

ถึงกระต่าย นายหนุ่ม ผู้ต่ำต้อย
จันทราน้อย ยังคอยเฝ้า เจ้ากระต่าย
จนวันเดือน เลื่อนล้า มาปีกลาย
จนรู้ว่า กระต่าย นั้นหมายจันทร์

กระต่าย

ยามค่ำคือ ฝืนมอง กลางท้องฟ้า
แล้วจูบลา จันทรา ที่เลือนหาย
ทุกอรุณ อุ่นหล้า ข้าเดียวดาย
เพราะกระต่าย อย่างข้า เที่ยวหมายจันทร์
เสียงข้าร้อง น้องเอ๋ย เคยฟังไหม
หรือดวงใจ ไกลทาง มาขวางกั้น
ใยฟ้าเอย เลยแสร้ง มาแกล้งกัน
เปลี่ยนตะวัน ผันรอน มาจรแทน
นี่แหละหนา เขาว่า จันทราลวง
เพียงอยากช่วง ชิงรักพี่ ที่หวงแหน
อยากจะลี้ หนีไป ให้ทุกแคว้น
เข้าสู่แดน พงไพร ลงในโพรง

จันทรา

เพราะเพียงคำ ล้ำกวี วจีร้อย
มาถดถ้อย ร้อยเรียง เสียงภาษา
เพียงมิอาจ สื่อจากฟ้า สู่ธารา
ใยจึงว่า จันทรา มาลาลวง				
25 พฤษภาคม 2547 22:36 น.

สุภาษิตสอนชาย

ปากกาดอกไม้(2)

ร้อยเล่ห์กลมารยา         ร่านรอนมาพาชายหลง
ล้วงรักแล้วหักลง           สายสวาทร่วงขาดพลัน

ร้อยเล่ห์รานร่านล้าน     มารยา
ใครใคร่ในเงินตรา       เท่านั้น
ล้วงลวงล่วงรักมา           เมียงม่าน เชยชม
มิใช่ให้สมครั้น              ครั่นเนื้อครางครวญ

มารยาร้อยเล่มเกวียน   ดุจจักเจียนเกวียนเทียมควาย
ชายใดต้องมนต์กลาย    ดุจจักควายลากเกวียนเทียม

มารยาพันเล่มร้อย        เรียมหญิง
หาใช่สัตย์ตรัสจริง         ยิ่งแท้
ล้วนมิใช่ตามสิ่ง             ตรงแต่ คำแฮ
หวังไป่เพียงเพื่อแล้      ล่อล้วงเทียมชาย

***อันนี้ไม่ได้พูดว่าผู้หญิงนะครับ   เพียงแต่ไว้เตือนสติผู้ชายบางคน
    ว่าบางครั้งสิ่งที่ตัวเองทำมันไม่ใช่ความรัก หากแต่มันคือความหลง
    หลงจนลืมตัวตน  รอแต่ให้เค้าสวมเขาให้ นี่คงไม่อาจเรียกว่าความรัก***				
24 พฤษภาคม 2547 20:53 น.

น้องใหม่คับ+ช่วยวิจารณ์กลอนผมด้วยคับ

ปากกาดอกไม้(2)


   พระวิสุทธิ์ผุดวิศิษฐ์บ่มิสิ้น                  ดุจเทวัญดั่งเทวินทร์ถวิลหา
   ทั่วทุกไท้ไทยทั่วทิศสถิตย์นา             เพียงแด่พ่อพอได้พาบุญญาไป
   
   อันนี้ขอมอบแด่พ่อของเพื่อนที่ได้เสียชีวิตไป

  พระคุณพ่อสิเพียงหญ้า       แต่ใหญ่กว่าฟากฟ้าไกล
  เพียงฟ้าสุราลัย                  ฤาจะเทียบเปรียบบุญญา
  
  หนักเพี้ยงเพียงภูผา          ยิ่งใหญ่กว่าทุกธารา
  ลึกล้ำสุดคณา                     ไพศาลกว่าพื้นดินใด
  
  หญ้ายังเขียวขจี                  เพราะยังมีผืนดินไทย
  ดินยังเย็นอยู่ไซร้              หากหญ้าไร้ดินคงพัง
  
  จงฟังคำลูกเอ๋ย                  พ่อจะเอ่ยคำให้ฟัง
  แม้นลูกจักสิ้นหวัง             พ่อจะยังอยู่เคียงกาย
  
  หากพ่อยั้งยืนอยู่                พ่อจะสู้จนมลาย
  เพื่อลูกพ่อยอมวาย             เพียงเห็นลูกอยู่ยืนยัง

  เงี่ยโสตเถิดลูกเอ๋ย             พ่อจะเอ่ยคำอีกครั้ง
  เงี่ยโสตสดับฟัง                   ลูกจงตั้งจิตดวงมาน

  ผองภัยที่แผ้วพาน               จงพัดผ่านอย่ารอนราน
  แม้นในรัตติกาล                 พ่อจะส่องชี้ทางนำ

  หากทางยังมืดมิด                 จงตั้งจิตคิดถึงธรรม
  คำพ่อจักคอยย้ำ                   จักชี้นำสู่ปลายทาง

***อันนี้ผมแต่งให้พ่อผมเองงับ ขอพี่ๆช่วยแนะนำด้วยนะคับถ้าแต่งผิดพลาดหรือบกพร่องไป***				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปากกาดอกไม้(2)
Lovings  ปากกาดอกไม้(2) เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปากกาดอกไม้(2)
Lovings  ปากกาดอกไม้(2) เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปากกาดอกไม้(2)
Lovings  ปากกาดอกไม้(2) เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปากกาดอกไม้(2)