26 ตุลาคม 2552 00:04 น.

สุดหัวใจ

ปาณาดี

เก็บเพียงนิดเกี่ยวเพียงน้อยค่อยๆรัก
หวังสักวันเธอประจักษ์และมองเห็น
ทุกรู้สึก ทุกกระทำ ที่ฉันเป็น
ไม่อาจเทียบกับแสงเพ็ญในคืนใด

เพราะตัวฉันเป็นเพียงแสงหิ่งห้อย
ไม่เลิศลอยค่อยกระพริบวิบวับไหว
ไม่โชติช่วงดังตะเกียงคอยส่องไฟ
เงียบสงบด้วยเจียมใจ ในรักเธอ

ใฝ่ฝันเพียงเธอรู้ได้ในวันหนึ่ง
ซึ่งวันนั้น จะมาถึง หรือรอเก้อ
เป็นเพียงหวัง เป็นเพียงฝัน ที่อยากเจอ
รู้เพียงแต่ รักเสมอ สุดหัวใจ				
28 กันยายน 2552 21:46 น.

เมื่อเยื่อใยสายสวาทนั้นขาดแล้ว

ปาณาดี

เมื่อเยื่อใยสายสวาทนั้นขาดแล้ว
คงไม่แคล้วต้องหมองหม่นเกินทนไหว
อาลัยเอย อาลัยรัก เกินหักใจ
ต่อแต่นี้ จะเหลือใด ให้ภักดี

เหตุอันใดใยความฝันมาผันเปลี่ยน
กอรักน้อยที่เคยเพียรปลูกกับพี่
ถูกละทิ้งเหมือนไม่เคยมีใยดี
ถึงคราวที่สายสวาทมาขาดลง

มองดอกบัวบูชาตรงหน้าตัก
ก็ประจักษ์รักหนอก่อพิษสง
บัวเจ้ายังไม่เหลือใยให้อยู่คง
ฉันใดนั้น รักยืนยง คงไม่มี

เมื่อเยื่อใยสายสวาทนั้นขาดแล้ว
ดังดวงแก้วลอยไปไกลให้หมองศรี
เมื่อเยื่อใยสายสวาทพี่ไม่มี
เอ๋ยฤดี ก็สลาย ด้วยชายแปร				
25 กันยายน 2552 16:05 น.

จึงบรรเลง เพลงไหวตาม นิยามใจ

ปาณาดี

บรรรเลงเพลงครวญคร่ำในยามดึก

ด้วยระลึกถึงใครด้วยใจห่วง

โอ้ว่า..ป่านฉะนี้....ราตรีล่วง

ฤดีทรวง จะมองสรวง ณ แห่งใด

 

ลมหนาวพัดพลิ้วมาเป็นระลอก

อวลกลิ่นหอม ของมวลดอก นอกเรือนใหญ่

เก็ตถวาเจ้าหอมนวลชวนชื่นใจ

หากว่าใจนั้นหอมกว่า มาลางาม

 

ค่ำคืนนี้ดาริกาดารดาษ

นภากาศ ย่อมประดับ อยู่กลางท่าม

เปล่งประกาย ไหววิบวับ จับทุกยาม

จึงบรรเลง เพลงไหวตาม นิยามใจ				
23 กันยายน 2552 22:44 น.

รักแพง

ปาณาดี

จี จีดอกมะลิซ้อน มาซอนกับดอก ท้ายเหิน
จี จีดอกเอื้องเงิน มาซอนกับดอก เอื้องเผิ้ง
ยามพระพายหนอมาตี มาหอมเย็นดี หวั่นเหวิ้ง
ไกวแกว่งเนิ้งอ่อน ทวยลม

ยามนี้ค่ำนี้  มีเดือนขาวนวล อกใจคร่ำครวญ บ่มีไผคู่
อยู่ตัวคนเดียว ไร้แลเหลียวผู้ บ่มีคู่ชู้ เคียงนอน

หมอกเหมยลงมา น้ำตาเปื้อนหมอน บ่ยอมหลับนอน ค่อนคืนเดียวดาย
อ้ายคนใจดี งามกว่าผู้ใด อาลัยหาไผ พ่องกา

อันตัวน้องนี้ มีใจใฝ่หา บ่กล้าบอกมา เพราะเป็นแม่ญิง
ธรรมเนียมรีตรอย บ่ปล่อยแท้จริง ศักดิ์ศรีแม่ปิง ดีล้ำ

รออ้ายผู้เดียว มาเกี้ยวน้ำคำ บ่มีรักซ้ำ ซ้อนกับผู้ใด
จะขอรักนวล สงวนกายใจ  คนเดียวคืออ้าย รักแพง				
16 กันยายน 2552 22:16 น.

อวลกลิ่นเหมันต์

ปาณาดี

หรือมาแล้วเหมันต์อันรอเฝ้า
อวลกลิ่นเจ้าเคล้าละอองของไอหนาว
จันทร์แจ่มแจ้งเดือนแจ่มฟ้าฤดูดาว
เหลือจะกล่าวในยินดีที่เฝ้ารอ

ใบไผ่พลิ้วปลิวปรายในสายหมอก
ลมพัดโชยเป็นระลอกคล้ายบอกต่อ
อันหนาวนี้ หนาวกาย ก็เพียงพอ
อันใจหนอ ขออย่าหนาว ราวกับกาย

ขอเหมันต์เอ็นดูผู้ไร้มิตร
จงสนิท เสน่หา อย่ารู้หาย
สงสารเถิด ... ผู้เฝ้ารอ....อย่างเดียวดาย
เถิด...รับรู้....และรับไว้..ในเหมันต์				
Calendar
Lovers  3 คน เลิฟปาณาดี
Lovings  ปาณาดี เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปาณาดี
Lovings  ปาณาดี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปาณาดี
Lovings  ปาณาดี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปาณาดี