25 มิถุนายน 2547 19:03 น.

รำลึก..สุนทรภู่..ครูกลอน..

ผู้เฒ่า

อภิวาทนบค่าบูชาครู
สุนทรภู่ครูกวีศรีภาษา
ศตวรรษทวิวารที่ผ่านมา
ยังหาค่าผู้ใดจะใกล้เคียง

      ยี่สิบหกมิถุนาเยือนมาถึง
เป็นวันซึ่งเกิดกวีมีชื่อเสียง
ร้อยลำนำคำเทียบท่านเรียบเรียง
สื่อสำเนียงขจรไกลในสกล

      ดั่งดวงแก้วแนวกวีศรีอักษร
ท่านสุนทรส่องทางกระจ่างหน
แบบฉบับความรู้ของผู้คน
ที่ยินยลบนถนนหนกวี

      อภิลักขิตสมัยมอบใจส่ง
ฟ้าแห่งวงศ์วรรณกรรมตามวิถี
แสงสว่างแห่งบรรณวรรณคดี
ขอท่านมีสุขสงบ.ณ.ภพไกล

      ร่วมสืบสานจารีตการขีดเขียน
จากบทเรียนแนวทางท่านวางให้
อย่าพลัดหลงจำแนกผิดแผกไป
จำใส่ใจไป่บิดเบือนหมั่นเตือนตน

      สัมผัสในเกี่ยวถ้อยร้อยคำบอก
สัมผัสนอกงามเหมาะเสนาะผล
ศิลป์ภาษาร่วมสมัยในสกล
จรรโลงบนแบบกลอนท่านสอนมา

      บริพันธ์ถ้อยความงดงามสม
แต่งอารมณ์คมคำให้ล้ำค่า
สนองถ้อยตามเขตเจตนา
คือบูชาสุนทรภู่.ครูกลอนไทย@				
8 มิถุนายน 2547 23:50 น.

ร่ำลา...

ผู้เฒ่า

หยิบถุงผ้าใส่บ่าขอลาก่อน
     เมื่อถึงตอนอ้างว้างบนทางฝัน
     ไม่อาจฝ่าเส้นทางเคยวางกัน
     ถึงทางตันในลิขิตชีวิตเรา

          ในถุงผ้ามากล้ำความลำเค็ญ
     เพราะมันเป็นเหตุผลของคนเขลา
     บรรจุเพิ่มเติมใส่เพราะใจเบา
     ความโศกเศร้าชินชาเกินกว่ากลัว

          ขออำลาอาลัยจำใจห่าง
    หลายบทสร้างด้วยใจมิใช่ชั่ว
    ปรารถนาคนเราอย่าเมามัว
    ดั่งเช่นตัวของเราโง่เขลานาน

         ถ้าขุ่นข้องหมองใจใครคนหนึ่ง
    อภัยซึ่งคนโง่ที่โวหาร
    แผ่เมตตาให้เห็นเป็นพยาน
    ยื่นให้ทานคนจากที่พรากไกล.

        งานเลี้ยงคงมีวันเลิกลาวันแรก ณ. ที่นี่ สำหรับการต้อนรับ..อบอุ่นและ  ซาบ ซึ้งเสมอเมื่อเรามีภาระกิจมากขึ้น..เราจึงต้องบอก..อำลา..

       ทุกเรื่องราวที่ทำให้ท่านใดขุ่นใจ  เราขออภัย..ยกโทษให้เราด้วย
จะไร้ชื่อ  หลายชื่อ  เป็นคนดี  หรือไม่ใช่..แต่ทุกอย่างอยู่ในกรอบที่เราพยายาม

       พยายามรักษาน้ำใจของทุกท่าน..มิเคยจาบจ้วง..นอกจากความปรารถนาดี..
     ในกรอบของมิตรภาพ..เราพยายามช่วยแต่งแต้มความฝัน ของหลายๆท่านให้สวยงาม..  มิใช่ต้องการเปลี่ยนแปลงหรือ  ทำร้ายความรู้สึกใคร..แต่ก็คงเป็นเราที่เข้าใจคนเดียว..

            สิ่งที่เราเห็น อาจไม่ใช่สิ่งที่เราคิดเราพยายามบอกให้ท่านที่อ่าน..มองสิ่งที่ได้เห็น...    มิใช่เป็นเรื่องที่เราคิดและ..คิดว่ามันถูกทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน..ถาวร..

            บทสุดท้าย..เราฝากไว้ สำหรับความรัก ในมุมมองของเรา..สั้นๆ

               บนถนนสายกลางเส้นทางรัก
      คือรู้จักตัวตนและค้นหา
      มิอาจหวังสิ่งใดที่ไกลตา
      ตรองที่ค่าเพียงตนอย่ายลไกล

             อันความรักบางทีใช่ที่เห็น
     เพราะมันเป็นนามธรรมเกินคำไข
     มหาสมุทรเกินเราจะเข้าใจ
     ก็คงไม่ห่างนัก..คำ.รักกัน

            เพียงคิดรัก.ยืนนานคือการให้
    และอภัยเหลือบแลเมื่อแปรผัน
    แม้จะด้อยใครว่าสารพัน
    ความรักนั้นคือการให้..มิใช่ตน

      ผมขอเวลาในการร่ำลา 24 ช.ม นะและตรงนี้ขอเหลือไว้เพียงความทรงจำ ทำอย่างที่ได้แจ้งไว้..และจะไม่สร้างความลำบากใจ ให้ผู้ใดอีก บนขอบฟ้าไกลๆ จะคอยดูและเป็นกำลังใจให้เสมอ..ขอให้มีความสุข

           และขอให้สมาชิกบ้านกลอนไทยทุกท่าน..มีแต่ความสุขตลอดไป.
การให้คือ..ความสุขอย่างหนึ่งในชีวิต.เว้นแต่..   หัวใจมั่นคงดวงเดียว..ที่แบ่งให้ใครไม่ได้แม้มันจะไม่สดชื่นนัก.

                                สวัสดีครับ..
                                  ผู้เฒ่า..โง่งม

..เรน.. ขออนุญาต .. เขียน..ความรู้สึก ..นะคะ..
               เรน..ใจหาย..
                   แบบ ..มีรัย  เกิดขึ้น..  หรอคะ.. 
          บทกวี .. เป็น ของคุณลุง...  นะคะ..           
               แต่  ภาพ ..เป็น ความรู้สึก ..ของเรน..
                      แป๊ปเดี๋ยว ..เรนจะโพส ..ข้างล่าง
       เรน ..ไปเขียนกลอน .ก่อน.นะคะ...				
6 มิถุนายน 2547 22:30 น.

กรรณิการ์

ผู้เฒ่า

สุริโยอับแสงอ่อนแรงฉาย
         ค่อยค่อยหายลับลาฟ้าสลัว
         รัตติกาลกรายหาอุรารัว
         รายรอบตัวความมืดช่างชืดเย็น

                 เจ้าเรไรกรีดร่ำรำพันเสียง
         เป็นคู่เคียงเพียงหนึ่งที่พึงเห็น
        จมภวังค์ดุจเดิมดั่งเริ่มเป็น
        ผู้ลำเค็ญอีกคราไร้ค่ามอง

                เพียงลมแผ่วต้องกายมิวายหวั่น
        ร่วงสวรรค์ขาดชู้เป็นคู่สอง
        เหลือแต่ซากวิญญาน้ำตานอง
       ลมสนองผิวกายยังอายลม

                รวยระรินกลิ่นใดทำให้หอม
       คล้ายเคยดอมเคล้ากลิ่นแล้วสิ้นขม
       แต่ห่างหายสายตาไม่มาชม
      เพราะมัวดมกุหลาบแดงแสลงใจ

              หอมเจ้าดอกกรรณิการ์เคยลาลับ
     โสตสดับกลับหวนจะทวนไหว
     ผิดไปแล้วขาดเขลาเจ้าอภัย
     แม้วันใหม่สิ้นลมก็สมควร

            หอมเจ้าเอยดอกนี้กรรณิการ์
    เพียงน้ำตาคราบนิดยามคิดหวล
    กรรมสนองบาปหนาย้อนมาทวน
    สุดกำสรวลความเก่า.ยังเฝ้าจำ.@				
3 มิถุนายน 2547 21:40 น.

เรือนรักกระดาษ

ผู้เฒ่า

มือที่สั่นหวั่นไหววางไม้สร้าง
           บรรจงวางผังลงตรงที่ฝัน
           กำหนดจุดหลุมแถวเป็นแนวพลัน
           วาดสวรรค์ทั้งที่ใจไหวระรัว

                  ขุดหลุมลึกลำบากวางรากฐาน
           จิตประหารคิดไปใจสลัว
           เหมือนขุดไว้เป็นลางฝังร่างตัว
           ทั้งที่กลัวต้องสร้างเพราะวางใจ

                  ปักเสาเอกเสาโทโห่เอาฤกษ์
           จุดธูปเบิกฤกษ์งามตามพระให้
           เสียงสนั่นแสร้งสนุกแต่ทุกข์ใน
           ที่อ่อนไหวแทรกซ้อนทุกตอนทำ

                   หิ้วอเสขึ้นวางข้างหัวเสา
           ประกบเข้ารอยบากที่ถากซ้ำ
           ใส่สนิทตามครูให้รู้จำ
           อย่าถลำรอยเลื่อนหมั่นเตือนใจ

                  สวมขื่อขวางจับวางหว่างอเส
           อย่ารวนเรหลอกหลงให้สงสัย
           รายละเอียดปลูกสร้างที่วางไป
           ละม้ายไม่ใจคนวกวนเวียน

                  ติดใบดั้งกึ่งกลางระหว่างขื่อ
           ฝันจะสื่อให้ตรงเหมือนลงเขียน
           แบบที่สร้างกำหนดเท่าเคยเล่าเรียน
           ไม่อาจเปลี่ยนเคลื่อนไหวเหมือนใจนาง

                  พาด.อกไก่วางใส่บนใบดั้ง
          อ่อนกำลังไหวหวั่นฝันที่สร้าง
          เรียงลำดับเรื่องรักที่จักจาง
          ช่างอ้างว้างไม่เหมือนใส่อกไก่ลง

                  มือที่จับไม้แข็งอ่อนแรงล้า
          วาสนาปานไกลแต่ใหลหลง
          แม้วางใจแต่ลึกลึกยังนึกปลง
         นวลอนงค์รักซื่อหรือรวนเร

                  วัดระยะเท่ากันจันทันวาง
         สับที่หว่างอกไก่ไม้อเส
         เอาโกร่งขึ้นมิให้งอนอ่อนเหมือนเปล
         อย่าให้เฉร่ำไรดั่งใจคน

                  เป็นภาพแทรกเงาซ้อนที่รอนร้าว
         ทุกเรื่องราวผ่านมาน่าฉงน
         รักหรือลวงจำแนกแปลกพิกล
         ต้องสู้ทนใจประจักษ์เพราะรักเธอ

                  นิ้วครึ่งสามไม้ยางใช้วางแป
         หัวท้ายแก้วางให้ลงตรงเสมอ
         ในห้วงรักใจภักดิ์คิดจักเจอ
         อย่าให้เก้อเป็นแผลเปรียบแปลาน

                 บรรจงวางกระเบื้องต่อเนื่องแถว
         รักษาแนวคู่ลอนซ้อนสมาน
         ใจประหวัดเรื่องราวที่ร้าวราน
         ช่างไม่หวานมองดูเป็นคู่เลย

                 เรือนเจ้าเอ๋ยรักกระจ่างหรือร้างรัก
         ช่างช้ำนักหวั่นไหวเกินใจเผย
         สุดสับสนเกินคำจะพร่ำเปรย
         ไม่อาจเอ่ยเอื้อนถามซึ่งความนัย

                เรือนที่ปลูกไม่เสร็จสำเร็จรูป
         เพราะมันวูบเจ็บจินต์สิ้นความหมาย
         ร้อยหมื่นแผลรุมประดังทั่วทั้งกาย
         อาจจะหายมิเหมือนแผลที่แพ้เธอ

                ปลูกเรือนรักลางเลือนเหมือนกระดาษ
         ลมเป่าขาดพังไปเพราะใจเผลอ
         วาดสวรรค์วิมานปานละเมอ
         สุดท้ายเก้อช้ำชอกรักยอกใจ
            
                ขอจุดเพลิงเผาเรือนที่เลือนลาง
         เพราะมันสร้างด้วยน้ำตาเป็นค่าไข
         ดอกไม้จันทร์วางสลุตแล้วจุดไฟ
         ขอจงไหม้หายลับพร้อมกับเธอ..@				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้เฒ่า
Lovings  ผู้เฒ่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้เฒ่า
Lovings  ผู้เฒ่า เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟผู้เฒ่า
Lovings  ผู้เฒ่า เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงผู้เฒ่า