6 กันยายน 2547 07:56 น.

เพราะคาดเดา

พี่ดอกแก้ว

ผุดพร่างพรายดั่งสายชลธาร 
ล้นบาดาลหัวใจไหลสู่หล้า 
เป็นต้นน้ำหลามหลากจากดวงตา 
รินช้าช้าพร้อมความช้ำที่กล้ำกลืน 

ขื่นขมจิตคิดข้างเดียวว่าเดี่ยวโดด 
กำหนดโทษตราใจไม่ขัดขืน 
จินตนาการผ่านเรื่องราวทุกคราวคืน 
ว่าผู้อื่นทอดทิ้งหรือชิงชัง 

นั่งขีดกรอบรอบตนเป็นคนเศร้า 
บ่อยครั้งเข้าเห็นเป็นจริงยิ่งปลูกฝัง 
ทำลายค่าของตนจนภินท์พัง 
เปลี่ยนความหวังเป็นสิ้นหวังพังพริบตา 

ในเรื่องรักบ่อยนักที่คิดผิด 
เพราะใช้จิตอ่อนไหวไขปัญหา 
คาดคะเนเดาความตามสายตา 
คาดน้ำใจเขาว่าต้องเปลี่ยนแปร 

ในครอบครัวรั้วรอบชอบทายใจ 
จึงสร้างภัยด้วยไม่คิดสะกิดแผล 
บางครั้งลูกคิดว่าพ่อแม่ไม่แคร์ 
หรือพ่อแม่คิดว่าน่าควบคุม 

ในมวลมิตรผิดใจในน้ำมิตร 
เพราะใช้จิตเดาคำทำตีขลุม 
แปลความหมายใจน้อยคอยครอบคลุม 
ความเป็นกลุ่มจึงแยกแตกทิศทาง 

เพราะความคิดคาดเดาเขลาความคิด 
เกิดเป็นไฟไหม้จิตจนหมองหมาง 
ใช้ดับเพลิงคือน้ำตามาดับพราง 
อยู่กับความอ้างว้างเพราะคาดเดา 				
5 กันยายน 2547 07:18 น.

พนาไพรใจมนุษย์

พี่ดอกแก้ว

ดนตรีไพรไล่เรียงเสียงประสาน 
ร้องขับขานทำนองดังก้องป่า 
หลายสำเนียงเสียงหวานซ่านวนา 
บางคราวเกรี้ยวกราดมาว่าเดือดดาล 

คราวลมอ่อนวอนกิ่งระวิงไหว 
วิหคไพรเริงร้องซ้องเสียงขาน 
เคียงคู่ที่คาคบสบดวงมาลย์ 
ความเบิกบานเบิกไพรให้น่าชม 
คราวลมนิ่งกิ่งรอขอลมพัด 
หมายสะบัดใบควงร่วงทับถม 
เป็นฉากงามยามผลัดจัดอารมณ์ 
กลายเป็นพรมผืนป่าคราปลิดใบ 

คราวลมร้ายกรายสู่หมู่ไพรกว้าง 
ทำลายร้างภาพก่อนตอนแจ่มใส 
ต่างตระหนกตกขวัญหวั่นผองภัย 
แตกซ่านไปตามแหล่งเพื่อแฝงตน 

พนาไพรใจมนุษย์สุดจะหยั่ง    
ถูกลมคลั่งยากระงับดับสับสน    
คราวสงบอ่อนหวานซ่านกมล 
แต่มากล้นความรกปรกพื้นใจ
				
3 กันยายน 2547 23:18 น.

สวนขวัญบ้านกลอนไทย

พี่ดอกแก้ว


ในสวนงามยามเช้าสกาวแสง
หมู่แมลงเริงร่ากับฟ้าใส
มวลบุปผามาลีคลี่ดอกใบ
เผยกลิ่นให้อวลอาบซาบผกา

หลายหลากพันธุ์สรรหามาต่างถิ่น
ล้วนเป็นเอกทั้งสิ้นในพฤกษา
ด้วยโดดเด่นงดงามตามปรีชา
ต่างมีค่ามีคุณหนุนในตน

ทั้งตำแหน่งแห่งต้นบนลานนี้
จัดสรรสีสลับงามตามห้วงหน
บ้างงามดอกงามใบในปะปน
รวมเป็นความงามล้นแห่งสวนงาม

จะยามไหนชมได้ไม่สิ้นสวย
รื่นระรวยดมดอมหอมล้นหลาม
แม้นโลกเลื่อนเคลื่อนสู่ราตรียาม
ยังคงความสดชื่นให้ตื่นตา

คือสวนขวัญลานกวีศรีอักษร
ปลูกกาพย์กลอนโคลงฉันท์สรรค์ภาษา
ณ สวนบ้านกลอนไทยในพารา
ต่างเป็นเอกเอนกค่ามาสร้างงาน				
2 กันยายน 2547 21:51 น.

๐ ขอร้องใจ ๐

พี่ดอกแก้ว

เชื่ออีกครั้งได้ไหม...อย่าไหวหวั่น 
เรื่องคราวนั้นอย่าจำไว้ให้หม่นหมอง 
ลืมเสียเถิดความช้ำน้ำตานอง 
อย่าจับจองภาพเศร้า...เผาทิ้งไป  

เชื่ออีกครั้งเถิดหนา...อย่าผิดหวัง 
กอบกู้แรงอีกครั้งทำได้ไหม 
หยุดน้ำตาไหลพรากจากดวงนัยน์ 
เริ่มอีกครั้งนะใจ...ที่งดงาม 

ขอร้องใจที่เหงาอย่าร้าวราน 
อย่าพ่ายแผลพิษพาลจากรอยหนาม 
รักษาเนื้อหัวใจไม่ลุกลาม 
กลับสู่ความแกร่งอีกครั้ง...ดังเช่นเดิม 

เติมความหวังครั้งใหม่นะใจนี้ 
เลือกหาสิ่งที่ดีมาสร้างเสริม 
ให้หมดจดงดงามตามแต่งเติม 
คือจรดเจิมจารบุญให้คุ้นใจ 

ขอร้องครั้งที่ร้อยอย่าน้อยขวัญ 
เมฆหมอกนั้นต้องผันผ่านให้สดใส 
แม้นต้องรอครั้งที่พันอย่าหวั่นไป 
ขอร้องใจอีกหนบนหวังงาม 				
1 กันยายน 2547 16:38 น.

ความหวังที่จางหาย

พี่ดอกแก้ว

หนึ่งความหวังตั้งไว้เมื่อวัยเยาว์ 
จากบางเบามาผนึกตรึกใจฝัน 
วาดโครงร่างสร้างแบบแนบชีวัน 
จุดหมายนั้นสวยงามยามคำนึง 

เหนื่อยหรือไม่..ฝันไปไม่เคยท้อ 
ความหวังก่อเป้าหมายไปให้ถึง 
เก็บเกี่ยวกิ่งประสบการณ์มาสานตรึง 
คิดเพียงหนึ่งเป้าหมายไม่คลายคลอน 

แปลกเหลือใจที่คิดไว้ว่าแน่แท้ 
กลับผันแปรที่ใจให้ทอดถอน 
ใจดวงเดิมดับหวัง...ครั้งร้าวรอน 
อุปสรรคบั่นทอนจนเปลี่ยนแปลง

หรือเวลา..มาคว่ำทำฝันค้าง 
หรือผู้อื่น..มาสร้างความแสลง 
หรือฝันนั้น..ยิ่งใหญ่เกินเรี่ยวแรง 
หรือสวรรค์กลั่นแกล้ง...ให้โศกซม 

ตั้งคำถามตามโจทย์โทษผู้อื่น 
หมายหยิบยื่นให้เขาผิดคิดขื่นขม 
ลืมคำถามยุติธรรมนำนิยม 
คือตนเองเป็นปมด้อยพัฒนา 				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว