24 กันยายน 2547 21:37 น.

สิ้นเรื่องที่เปลืองความ

พี่ดอกแก้ว

 งามเด่นดรุณวัลย์ 
ผกาพันธุ์แย้มยวนตา 
หลงใหลในทัศนา 
จนลืมความตามที่เป็น 

หน่วงเหนี่ยวน้อมอารมณ์ 
เคลือบผสมสิ่งที่เห็น 
รวมภาพฉาบประเด็น 
เป็นเรื่องราวทุกคราวมอง 

มนต์มารผสานอุรา 
ติดตรึงตาคู่ทั้งสอง 
แปลงสารไม่ผ่านตรอง 
จึงเรื่องยาวทุกคราวชม 

หม่นไหม้ไร้สุขสบ 
ได้เพียงพบแต่ขื่มขม 
หรือชื่นระรื่นรมย์ 
ก็เพราะเรื่องที่เปลืองความ 

วงล้อก่อรอบจักร 
รอบวงปลักไม่เข็ดขาม 
เจียนตายจึงหมายตาม 
หาทางรอดปลอดพิษภัย 

ได้พบมนต์ชีวิต 
ร่ายสะกิดเพื่อแก้ไข 
ธัมมจักรสลักใจ 
ย้อนกงล้อต่อต้านมาร 

เมื่อพิศจึงพึงเพ่ง 
ได้แลเล็งถึงแก่นสาร 
ที่กระทบทุกทวาร 
เพียงรูปนามหางามใด 

สิ้นเรื่องที่เปลืองความ 
สิ้นนิยามให้ครวญใคร่ 
สิ้นแรงกงล้อใจ 
สิ้นสงสัยสัจธรรม 
 				
24 กันยายน 2547 13:19 น.

กลางสนามอารมณ์

พี่ดอกแก้ว

กลางสนามอารมณ์บ่มเพาะศึก 
บางครั้งคึกเคลื่อนไหวด้วยใจหรรษ์ 
บางครั้งโหมโถมไล่หมายฆ่าฟัน 
บางครั้งพลันหมดไฟไร้เรี่ยวแรง 

เป็นเช่นนี้เพราะมีสมบัติเก่า 
มาเร่งเร้าอารมณ์ขมเคลือบแฝง 
ส่งสัญญาณผ่านใจให้เปลี่ยนแปลง 
พายุแรงก่อตัวที่ขั้วใจ 

เปรียบเทียบตนบนกาลที่ผ่านมา 
เปรียบเทียบค่าเหตุการณ์ที่เคลื่อนไหว 
เปรียบเทียบผลสูงต่ำทำเศร้าใจ 
เพราะกลไกสมบัติเก่าเจ้าอวิชชา 
				
24 กันยายน 2547 13:16 น.

ทำอย่างไรถึงจะมีความสุข

พี่ดอกแก้ว

วงเวียนกรรมนำพามาให้ผล 
เช่นเป็นคนอายุยืนชื่นวิสัย 
หรือเป็นผู้มีทรัพย์เหนือกว่าใคร 
เกิดเป็นคนสิ้นไร้โรคาพาล 

คือกุศลผลบุญมาหนุนเนื่อง 
ให้ฟูเฟื่องฝ่ายดีมีหลักฐาน 
เคยทำดีเอาไว้ในก่อนกาล 
ผลของทานเมตตามาค้ำจุน 

หากเกิดมาเป็นคนที่จนยาก 
เจ็บป่วยต้องลำบากไร้คนหนุน 
อายุสั้นนั้นคือบาปมาทวงคุณ 
พรากไออุ่นจากไปไร้ชีวี 

เป็นเช่นนี้ที่เหตุผลของคนทุกข์ 
สลักสุขสลับโศกโลกวิถี 
ไม่มีใครมั่นคงในความดี 
จึงต้องมีผลบาปมาฉาบชนม์ 

ในวันนี้มีชีวิตควรคิดไว้ 
ทำอย่างไรจึงสุขศรีมีสมผล 
พ้นจากจนเจ็บไข้ไม่ร้อนรน 
คือทำตนทำใจในบุญกรรม   				
20 กันยายน 2547 20:19 น.

๐๐ลายชีวิต๐๐

พี่ดอกแก้ว

๐๐กลุ่มด้ายดิบหยิบวางอย่างคิดฝัน 
แต่ละอันย้อมสีที่เส้นสาย 
ใจเอิบอิ่มคิดวางสร้างลวดลาย 
ให้เพริศพรายสวยสมอารมณ์จินต์ 

    หยิบขดด้ายหลายสีที่ชุบสรง 
ค่อยบรรจงปักลายตามสายศิลป์ 
ตั้งใจสื่อเสรีให้โบยบิน 
ภาพวิหคผกผินกลางนภา 

   สลับสีแต่งแต้มแซมให้สวย 
เติมภาพด้วยพงไพรใบพฤกษา 
แล้วเพิ่มให้สมจริงด้วยเมฆา 
ทั้งกระแสลมพาภาพสมบูรณ์ 

   เริ่มจากด้ายไร้สีที่วางทิ้ง 
กลับเป็นสิ่งมีค่าหาใช่ศูนย์ 
ขึ้นอยู่กับวิธีการเพิ่มพูน 
ความจำรูญปรากฏดังยศใจ 

  เหมือนมนุษย์ด้ายดิบหยิบไปย้อม 
และปักล้อมลายศีลให้สดใส 
ฝึกดวงจิตให้กล้าเหิรฝ่าไป 
แม้นลมไล่ลมต้านไม่คร้านบิน 

ปักความเพียรเรียนรู้อุปสรรค 
ปักความรักรู้สงบและจบสิ้น 
ปักความแกร่งอดทนให้เคยชิน 
จึงปรากฏภาพบินที่งดงาม ๐๐				
20 กันยายน 2547 11:03 น.

เมินเถิดกับคำผลักไส

พี่ดอกแก้ว


ที่ปลายเนินเดินผ่านธารน้ำน้อย 
ใจล่องลอยคิดไปในความหลัง 
ปุยเมฆขาวพราวฟ้ามาบดบัง 
ผ่อนพลังสะท้อนให้อ่อนลง 

ใต้ร่มไม้ใบพลิ้วปลิวลมร้อน 
เหมือนเสียงวอนให้เลิกความประสงค์ 
ดึงหัวใจให้ดำดิ่งลึกลง 
ห้วงพะวงความหลังหลั่งไหลมา 

เคยฝังใจในสิ่งเป็นมิ่งขวัญ 
เคยสุขสันต์เสียงใสในหรรษา 
แล้วความสุขก็ปลิวไปลับตา 
เพราะชีวาไม่แน่นอนสะท้อนใจ 

เพลงความหลังดังแผ่วแล้วดังเพิ่ม 
แต่เหมือนเติมความช้ำคำผลักไส 
ให้รีบเดินก้าวต่อบนทางไกล 
เพื่อฟื้นใจที่เคยฝังครั้งเขลาความ 

หากย้อนคืนรอยเก่ายิ่งเขลานัก 
คืนสู่ปลักหมองหม่นบนรอยหนาม 
ทางข้างหน้าต้องสดใสและงดงาม 
หากเดินตามทางสวยด้วยรอยธรรม 

นำหัวใจไปถวายพระศาสดา 
น้อมชีวาห่างภัยไม่ถลำ 
ปลดปลิดทิ้งความเศร้าที่ทรงจำ 
กางร่มธรรมเดินทางต่อไม่ท้อใจ 
 				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟพี่ดอกแก้ว
Lovings  พี่ดอกแก้ว เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงพี่ดอกแก้ว