11 มกราคม 2548 15:37 น.

อิงฟ้า

ภาวิดา

แหงนมองขึ้นบนฟ้า         เมื่อเวลาที่สับสน              
ตะโกนบอกเบื้องบน       ว่าลูกทดว่าลูกท้อ 
อยากปลดเปลื้องปัญหา  ที่โถมมาจนเกินพอ      
ตำแหน่งที่ค้ำคอ             อยากจะขว้างให้ทลาย 
ฟ้าเห็นตลอดมา              ว่าลูกนั้นถูกทำร้าย                 
คำขออันมากมาย            ขอให้ฟ้าคอยรับฟัง 
สีหน้าที่ดูยาก                  ทั้งลมปากที่พรูพรั่ง                     
ทำตัวให้คนชัง                 ยังง่ายกว่าจะทำดี 

สมองมีมากมาย              ทั้งแรงกายที่ล้นปรี่ 
แรงใจมันไม่มี                 มันมืดหมดไปทั้งใจ 
โลกนี้ลูกรู้น้อย                ฝากฟ้าคอยโอบอุ้มไว้ 
อ้ายดินอ้ายแดนใด          มาเถอะมาลูกจะทน 
ชีวิตที่เป็นอยู่                  ล้วนต้องสู้กับผู้คน 
หลีกเร้นไปไม่พ้น           จะหลบหน้าไปทางใด 
มืดไปทั้งแปดทิศ            กระทั่งมิตรยังบ่อนไส้ 
ไม่เหลือจะเชื่อใคร          ฝากความขลาดข้างฝากฟ้า 

ปัญหามาดีเดือด              พานองเลือดพาลน้ำตา 
แหงนหน้าขึ้นดูฟ้า           เพื่อจะลบความเดียวดาย 
มีฝนหลั่งลงมา                 ภาวิดาก็ร้องไห้ 
ฝนล้างให้ลางหาย            ฟ้าก็ห่มลมก็หวน 
ลูกรู้มิคู่ฟ้า                       มิควรค่ามาคร่ำครวญ 
แต่โลกที่รายล้วน            ไม่มีใครให้พักพิง 
จึ่งมองมาบนฟ้า                ขอพึ่งพาในทุกสิ่ง 
พบพานให้อ่านอิง             ให้ผ่านพ้นทุกโศกา				
9 มกราคม 2548 22:18 น.

แมวน้อย

ภาวิดา

แมวน้อยคดคล้อยดวงตา                      มองเห็นตู้ปลา
                แหวกว่ายน่าดูน่าชม

แมวน้อยควักคล้อยไหมพรม                เพียรกลิ้งก้อนกลม
                ยาวยูงยุ่งเหยิงโยงใย

แมวน้อยเคียงคล้อยโคมไฟ                  เรียมร้อนไรไร
                สาดแสงสาดส่องสาดสี

แมวน้อยคลับคล้ายเก้าอี้                       เบาะนุ่มใบนี้
                เป็นภาพเจ้านายแจกขนม

แมวน้อยควัดคว้านจานนม                   แนบหน้าดอมดม
                แลบลิ้นแลบเลียลวดลาย

แมวน้อยคิดถึงเจ้านาย                         เจ้านายอยู่ไหน
               เคยให้ เคยห่วง เคยหา

แมวน้อยคอยคล้อยเวลา                       เจ้านายจะมา
               คลอเคล้า คอเคลีย ข้างเคียง

*แก้ไขคำผิดแล้ว ขอบคุณค่ะ				
8 มกราคม 2548 19:18 น.

หัดรัก

ภาวิดา

รักยิ่งนัก ยิ่งแอบรัก ยิ่งลักรู้               เล่นลักรัก ยิ่งแอบดู ยิ่งรู้เห็น
น้องน่ารัก ชื่นชมนัก รักไม่เป็น         เบาบางนัก รักไม่เห็น รักเล่นลม
รักคือโรค ลักบริโภค ในโลกรัก         รักน้องโชค ได้ตระหนัก รักรสขม
โบราณว่า รักเริ่มกาล หวานเป็นลม    ลางลายรัก ร้าวระทม ขมเป็นยา

รักบานผลิ ริเริ่มบน ต้นมะลิ               รักมะรุ่ม หนุ่มนิติ มะลิป่า
รักริมรวง รักลักยิ้ม มะลิลา                 รักหลอกลวง ภาวิดา มโนรมณ์
รักเขารู้ รู้ควรอยู่ มิคู่รัก                     รักควรคู่ ควรดูหลัก รักมิขม
เล่นลักรัก เหลียวดูรัก จักรื่นรมย์       หลังรับรู้ ร้าวระทม คมวาจา

เขามิรัก มิลักหลีก มิปลีกออก              รักคืนเรา มิรักหลอก ชอกช้ำหนา
รักนี้เล่า เราสิ้นหวัง คลังน้ำตา             โรยไหลริน มิสิ้นซา ธาราใจ
รักร้างรา อันตัวภา ต้องลารัก               รักหนอรัก ร้ายลึกนัก ประจักษ์ไหน
รักไม่รัก เลือกที่รัก ที่พักใจ                รักควรคู่ อยู่แห่งไหน ดวงใจเอย				
7 มกราคม 2548 16:23 น.

ชาทอง

ภาวิดา

รายใบเขียวชอุ่มผุ้ม             ครรลอง
เรียวก่ายก้านรองกรอง        กิ่งค้ำ
เรียกกันว่าชาทอง                ทิวก่อ
ราวกับเรือนทองล้ำ               ตกต้องระพี

รายใบเรียวเขียวชอุ่มคลุมกิ่งก้าน          แลเห็นเป็นพุ่มพานผ่านผิวผ่อง
แสงแดดไล้ใบเด่นเป็นแผ่นทอง            รายเรืองรองเรียกชาทองมองต้องตา

บางใบสีขัดข้น                     ขรมเขียว
บางสว่างสีใสเพียว                ผ่องแผ้ว
บ้างเหลือเปล่งปลายเรียว    เรือนเด่น
แปมป่นเป็นลายแพร้ว        พุ่มเตี้ย เย็นตา

บางใบสีขัดข้นระคนเขียว                        บ้างสว่างใสเพียวเรียวใบหนา
บ้างเหลืองใสสดสลับประดับประดา           ปิ่นแปมปนยลเย็นตาคราประชัน

บุปฝาชาติอื่นล้วน                 รายรอบ
ชาปรับประดับขอบ                 ข่ายล้อม
เสริมดวงดอกเสริมชอบ         ชูเด่น
ประหนึ่งประจงพร้อม             พร่างแพร้ว ในสวน

บุปผาชาติดาษดื่นดอกอื่นล้วน                 แจงจัดวางกลางสวนให้ชวนฝัน
ชาประดับทับทวนหวนเหมันต์                  ท้าตะวันกลั่นแสงแจรงลง

คนควรครวญใคร่ไคล้          ดังชา ทองเอย
อาบอร่ามอารามตา                อยู่แล้ว
หลังองคพระปฏิมา                ทองปิด
งามหลบงามเพริดแพร้ว       บ่คิด เด่นดัง

คนควรไคล้ชาทองตรองภาษิต                   ปะทองปิดพระปฏิมาทาบทาหลัง
ความดีงามรอนเร้นหลบเด่นดัง                 ทำความดีไม่หวังคำพรั่งชม          

ชังดาวชิงเด่นด้าว                   ดาลดล
เติมต่อตระกาลตน                   ไต่ขึ้น
ยิ่งศักดิ์ยิ่งสูงจล                         หนาวเหน็บ
ลงต่ำเพียงพอพื้น                     ดั่งไม้ชาทอง

ชังดวงดาวชิงดวงเด่นเพื่อเป็นดาว        ชิงขึ้นสู่เวหาหาวให้พราวสม
ยิ่งอยู่สูงยิ่งเหน็บหนาวถึงชาวชม           ขอโลมลมใต้ฟ้าดั่งชาทอง				
5 มกราคม 2548 21:59 น.

แม่สร้อย

ภาวิดา

จากเด็กน้อยแม่สร้อยคอยฟูมฟัก     คอยให้รักจุนเจือเมื่อแม่หาย
แม่ถูกคุกคุมขังดังแม่ตาย                พ่อนั้นหรือคือใครยังไม่รู้
แม่สร้อยนี้นี่แท้คือแม่เจ้า                ม่ายแก่บอกเล่าอย่างอดสู
กำชับทั้งเพื่อนบ้านอาจารย์ครู          ความลับที่พรั่งพรูอย่างแพร่งพราย

กลัวกลายเป็นปมด้อยดูต้อยต่ำ         กลับกลายเป็นจุดดำค่อยขยาย
กลัวคนตีตราหน้าเด็กชาย                 ว่าเป็นอ้ายลูกกำพร้าหน้าจมดิน
จากเด็กน้อยเด็กซนบนพรมพื้น         แม่สร้อยกลืนความจริงเสียจนสิ้น
เสียงเรียกแม่เปรียบเปรยจนเคยชิน   เพียงคำนี้ทุกครายินยังกินใจ

สุดสายฝันในวัยเล็กของเด็กน้อย      คืออ้อมอกที่คอยเอาใจใส่
แต่แล้วอกที่แสนอุ่นแดนไอ             นั้นหาใช่อกแม่สร้อยที่คอยเคียง
ความเคลือบแคลงคงด่างในร่างเด็ก  ครั้นยังเล็กยังคุ้นเห็นกับเส้นเสียง
จำความได้แม่สร้อยร้อยสำเนียง       กับโลกที่เอนเอียงเพียงมือไกว

จากเด็กโตสดใสวัยแรกรุ่น               ความคุกรุ่นคงกร่างขวางไม่ไหว
จากเด็กน้อยแม่สร้อยคอยเอาใจ      เมื่อเติบโตเติบใหญ่ไม่เชื่อฟัง
จากน้ำคำแม่สร้อยคอยสั่งสอน         ผ่านเวลาสะท้อนคืนย้อนหลัง
ผลาญทรัพย์สินสร้อยพินทร์สิ้นพลัง   เรื่องร้ายประดาดังเป็นวังวน

ดึกดื่นในคืนดัดสงัดเงียบ                 ยามเทียบเทียนดับดูสับสน
สร้อยเศร้าจันทร์จืดดูมืดมน              หาแสงใดประโยมยลแม่คนนี้
หมดเนื้อตัวหมดหัวใจอาลัยจิต         โดนทำร้ายอายชีวิตจึงคิดหนี
เป็นลูกรักพันผูกลูกทรพี                  เพราะแม่สร้อยคนนี้ไม่ดีพอ

เชือกควั่นพันผ่านบนคานขื่อ           ร่ำไห้ห้อยมือถือตะขอ
มีลูกดังห่วงผูกอยู่กับคอ                  แม่สร้อยสวมห้อยศอให้พอปลง
ตัดเยื่อใยตัดใจพรากจากทุกสิ่ง        แม่ขอทิ้งความทุกข์สุขโลภหลง
เมื่อแมลาโลกลับหลับตาลง             ลูกรักคงได้คิดเปลี่ยนจิตใจ

แล้วฟ้าก็หลั่งฝนหล่นเต็มฟ้า            ปล่อยลูกนั้นลูบหน้าน้ำตาไหล
ผ่านเส้นทางชีวิตที่ผิดไป                 ก่อนจะมาคิดได้ก็สายเกิน
ถึงไม่รู้ผู้ใดให้ชีวิต                           แต่ผู้คอยอุทิศควรสรรเสริญ
กลับทำลายทำร้ายและมองเมิน       แล้วชาตินี้จะเจริญได้อย่างไร				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภาวิดา
Lovings  ภาวิดา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภาวิดา
Lovings  ภาวิดา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟภาวิดา
Lovings  ภาวิดา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงภาวิดา