12 กรกฎาคม 2544 22:10 น.
				
												
				
								ภีม
		
					
				
ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง          แม้อยู่ห่างต่างหาฝัน
รักนะขอยืนยัน                     ไม่แปรผันเป็นอื่นไป
ห่างกันเป็นบางครั้ง              แต่ฉันยังไม่หวั่นไหว
เธอยังอยู่คู่ใจ                       รักหมดใจมอบแด่เธอ
เธอคือกำลังใจ                      ของคนไกลที่คอยเพ้อ
แม้หลับฝันละเมอ                 คิดถึงเธอทุกเวลา
ขอยืนยันอีกครั้ง                   ใจฉันยังคอยห่วงหา
แม้ไกลไปลับตา                    ยืนยันว่ารักเหมือนเดิม
ไม่เคยลดน้อยลง                  ฉันยังคงคอยเสริม
มีแต่จะต่อเติม                      ให้รักเพิ่มขึ้นทุกวัน ฯ				
			 
			
				12 กรกฎาคม 2544 08:54 น.
				
												
				
								ภีม
		
					
				
รื่นเริงร่าร่ายรำระบำใบ
พริ้วไสวชื่นชมลมโลมเล้า
เพียงแค่พัดแผ่วผ่านมาบางเบา
เพียงแค่เป่าลมเย็นก็เอนอาย
พัดแผ่วผ่านเลยไปไม่ห่วงหา
รอยเวลาทิ้งไว้ไร้ความหมาย
ผ่านมาให้เริงรื่นแล้วคืนคลาย
ลาลับหายลาพรากไปจากกัน
แม้เหลือเพียงรอยลมเคยโลมเล้า
เคยหยอกเย้าเริงรื่นแสนชื่นหวาน
ได้รับรสทั้งสุขทุกข์ร้าวราน
เพื่อประสานสร้างเสียงสำเนียงไพร
เพียงสายลมแห่งเวลามาพัดผ่าน
ชั่วหนึ่งกาลก็เริงรื่นชื่นสดใส
สั่นสะเทือนเรือนชีวิตปลิดขั้วใบ
ผลิขึ้นใหม่หมุนเวียนเปลี่ยนฤดู ฯ				
			 
			
				12 กรกฎาคม 2544 08:38 น.
				
												
				
								ภีม
		
					
				
แสงสุรีย์สาดผ่าน              หมอกคลายม่านเลือนลางหาย
น้ำค้างส่องประกาย           พอยามสายก็หายไป
สายลมเอยยามเช้า          พัดหยอกเหย้ายอดหญ้าไหว
ร่ายรำระบำใบ                 โอนเอนไหวไปตามลม
วิหคโผจากรัง                  เจื้อยแจ้วดังอย่างสุขสม
ปีกเสรีบินเล่นลม            ไม่โศกตรมบ้างหรือไร
ดอกหญ้าแซมแทรกกอ    ก้านชูช่อล้อลมไหว
กลิ่นเกษรยวนใจ            ล่อแมงให้ใฝ่เชยชม
ยามเช้าแผ่นดินชื้น         ไม่แล้งรื่นไม่ขื่นขม
มีน้ำค้างพร่างพรม            หยาดชโลมผืนแผ่นดิน ฯ				
			 
			
				11 กรกฎาคม 2544 23:31 น.
				
												
				
								ภีม
		
					
				
จับมือไปด้วยกัน             บนทางฝันของเราสอง
พบทุกข์ร่วมประคอง        แม้หม่นหมองรักมั่นคง
ทางสายนี้อาจไกล           ก้าวเดินไปอาจพลัดหลง
รักฉันนั้นยืนยง              ขอเธอจงคงมั่นใจ
สักวันหนึ่งมาเจอ            ขอเพียงเธออย่าเผลอไผล
ทางสายนี้ที่ไกล              ก็เหมือนใกล้ในใจเรา
จับมือไปด้วยกัน            เพื่อแบ่งปันความโศกเหงา
ทุกข์หนักจักบรรเทา       ด้วยสองเราใจเดียวกัน ฯ				
			 
			
				10 กรกฎาคม 2544 08:11 น.
				
												
				
								ภีม
		
					
				
สองขายังหยัดยืนใช่ฝืนร่าง
อยู่ท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผา
บางครั้งลมพัดพามาเบา ๆ 
ไร้ร่มเงาให้พึ่งพิงอิงแอบกาย
ซอที่ถือมือที่สีเสียงซึ้ง
ดั่งรำพึงชวนให้ใจสลาย
เสียงสะท้อนลำนำคำบรรยาย
เรื่องดีร้ายเล่าขานผ่านเสียงซอ
			
ประสบการณ์ในโลกโศกกำสรด
หนึ่งชีวิตรู้รสหมดแล้วหนอ
ชะตากรรมทุกอย่างต่างเฝ้ารอ
เพียงเพื่อขอเข้าข้องประลองใจ
				
เสียงซอสีอี่ออคลอสายลม
เคล้าอารมณ์โศกเศร้าเหงาหวั่นไหว
ยลยินเสียงโหยหวนปั่นป่วนใจ
เล่าเรื่องใครบางคนบนเส้นทาง
บทเพลงซอขับขานกังวาลแว่ว
ว่าผ่านแล้วไม่พบประสบหวัง
รอเนิ่นนานรันทดหมดกำลัง
สิ้นเสียงดังเพลงซอคลอสายลม  ฯ