25 มกราคม 2545 01:40 น.

ลิลิต อโยธยา 2

ม้าก้านกล้วย

ในกลางกองเวียงวังพระนคร
ยังลายลอนวาดตวัดจัดพรายเพริด
ให้หวนคำนึงครั้งวังบรรเจิด
คงจะเลิศลอยฟ้ามาเรียงราม
เป็นพุทธิสถานงานประดิษฐ์
ชวนวินิจบรรจงองค์อร่าม
ราวนารายณ์สรรค์เสกสถานงาม
แม้นกาลข้ามยามผ่านมานานนัย
ปรักพังยังงามถึงเพียงนี้
ยามที่เป็นกรุงศรีวิโพธิสัย
ยังมีเวียงวังผงาดกราดเกลื่อนไกร
จะวิไลเพียงใดไม่อาจคนึง

นามธานีศรีอยุธยา
พาราแห่งศิลป์อักษร
ศรีวัชระนคร
อมรโกสินทร์ประทาน
สืบตติยวงศา
เนิ่นกว่าสี่ร้อยปีผ่าน
อารยธรรมบุราณ
แม้นกาลผ่านไปไม่ลด
คงความพิลาสเลอค่า
คงวิจิตราปรากฏ
คงอารามพระคถาคต
คงองค์วินายกพุทธา
เรียงรายล้อมวังยังมี
อารามบารมีสง่า
เทศน์ธรรมนำชาวประชา
วัฏสังขาราเวไนย
ในปรินายกธรรม
คำเทศนาอาศรัย
ตรึงตราตลบกลบไกล
กังวาลทั่วไปทั้งบาง
ความงามท่ามกลางวังเวง
สำเนียงตะเลงประหาร
มอญม่านอาจอุกรุกราน
เปลวทองสะท้านเปลวเพลิง
หวีดหวาดปนกราดเกรี้ยวด่า
เข่นกุดฉุดคร่ายุ่งเหยิง
ธานีขวัญผละกระเจิง
เถลิงยุทธ์ยามยาตรา

          (ม้าก้านกล้วย)				
25 มกราคม 2545 01:40 น.

ลิลิต อโยธยา 1

ม้าก้านกล้วย

อโยธยายิ่งฟ้า		ยังสลาย
ปรักปรังพังทะลาย	กลายกร่อน
คงงามดั่งพิมาย		แมนสรวง ชะลอ
ประดิษฐ์ลายอันอ่อน	สลวย เกินแปลง

ผิวชนตระหนัก	อยุธยาปรัก
เพราะขาดความสมัคร	สมาน
หากยังคงข้ามกาล	อาจจะเกินวิมาน
ดุจจะชิงสถาน		สวรรค์
บัดดลดูดั่งอัน		จะพ่ายคืนแพ้วัน
สาปส่งลงชั่วกัลป์	สมัย
สถานโบราณราย	หากหลับสดับกาย
สำผัสโสตกระสาย	สดับ
จะยินสำเนียงกรับ	ประณีตโคลงกลอนขับ
ทะยอยลำนำรับ	สลอน
ยากจะกู้นคร		ถิเหลือเพียงบัญชร
ถิรากไทรไซร้ชอน 	หลักเสาเลาล้มนอน สลด 
        ม้าก้านกล้วย)				
16 มกราคม 2545 18:57 น.

ลาเด้อ นาง

ม้าก้านกล้วย

บนขบวนสายอีสานพลุกพล่านแน่น
แห่และแหนขดแขนขาจนล้าหลัง
ชะลอมไข่ไหปลาร้าเสื้อผ้าลัง
ล้วนแต่ตั้งใจไปที่ในกรุง
หวังกันจะไปตายในดาบหน้า
หวังว่าคงจะได้ตามหมายมุ่ง
หวังไว้เก็บเงินได้เป็นไถ้ถุง
หวังสูงถ้าโชคดีมีทางรวย
เสร็จงานนาแล้วไม่ยอมย่าน
ไทอีสานบ้านเราเขาไม่ช่วย
แม้นเกียจคร้านเหนื่อยล้าหรือจะรวย
ต้องไปฉวยเสี่ยงสุ่มดุ่มหางาน
ฝากอีพ่ออีแม่ แด เด้อนาง
อยู่ว่างว่างเจ้าคอยดูอยู่ที่บ้าน
แล้วจะซื้อแหวนหวีเสื้อสีหวาน
แม็คโดนัลด์พิซซ่ามาฝากน้อง
จะเร่หาบไข่ปิ้งไปค้าขาย
อาจจะไปขับแท็กซี่รี่ขึ้นล่อง
ขายส้มตำปิ้งไก่ปลาแดกบอง
จะไปร้องขายค้าที่หน้าร้าน
ไปทำงานก่อสร้างนั่งร้านสูง
ขายก๋วยเตี่ยวโต้รุ่งก็บ่ย่าน
งานมากมายล้วนได้ไทอีสาน
ที่บากบั่นทนทำประจำวัน
จนเหมือนเฟืองขับเคลื่อนพลังไท
ดูยิ่งใหญ่ น่าภูมิใจ ว่าไปนั่น
แต่ความจริง ที่แท้ แค่คนงาน
กินรายวัน ร่ำไป ไม่เคยมั่งมี
ฝากใจ อ้ายไว้ แด เด้อนาง
ไม่ใช่ว่าพอห่าง นางก็หนี
ลืมอ้าย คนจนจร วอนคนดี
อย่าได้หนีอ้ายไป หาไผเด้อ 
เด้อนาง เดอ เด้อ เด้อ นางเดอ
  (ม้าก้านกล้วย)				
15 มกราคม 2545 13:12 น.

ลำนำพง นำเนาไพร

ม้าก้านกล้วย

ยามเช้า
วิหคเร้าเย้าแซ่กระชั้นเสียง
ตรงยามตามโมงจรรโลงเพียง
เช่นสำเนียงนาฬิกาว่าเช้าแล้ว
น้ำค้างบนยอดหญ้าดารดาษ
สวยสะอาดใสงามวามปานแก้ว
ลมรำเพยเชยไพรไปเพียงแผ่ว
ปลอบปลุกแนวไม้ป่า วนารมณ์
ยามสาย
สรรพสัตว์ย่างกรายในโลกร่ม
ทึบยอดทาบเก่าไปใหม่ทับถม
แม้นราบล้มใหม่ก็สดขึ้นทดแทน
ชีวิตสัตว์หลากนับพันนับแสนหมื่น
ได้สดชื่นในป่าเป็นปึกแผ่น
โน่นช้างคู่ ชูงวงสูง ยูงรำแพน
กระทิงแล่น ทะยานโจน เคียงกระจง
ยามบ่าย
ชะนีหน่าย เรียกหาผัว กลัวใจหลง
ค่างแว่นขาว ร้องเรียกกัน ดังลั่นดง
มีละอง ละมั่งใหญ่ ทั่วไพรพฤกษ์
สำเนียงไพร กังวาลหวล ไปถ้วนทั่ว
เสียงระรัว เสือคราง ช่างระทึก
กวางเก้งเจ้าตื่นตาถลาถึก
ดั่งอนึกสนั่นไปทั้งไพรสนท์
ยามเย็น
แสงทองทอเส้นสรวงยวงฉงน
แดดลับหลบเหลี่ยมไม้ไปใยกังวล
อุทัยคงคืนมาใหม่ในพรุ่งนี้
เม่นชะมดหมีหมาบรรดาสัตว์
ล้วนผลัดกันตระเวณไพรในถิ่นที่
ยามตะวันลับฟ้า คือราตรี
เวลานี้ เหล่านกกา พากันนอน
ยามค่ำ
จันทรางามฉายแสงโฉมประโลมอ่อน
เสียงหมาป่าเห่เห่ากรรโชกหอน
เสมือนเสียงกล่อมนอนแห่งวนา
หลับแล้ว
เพียงไพเราะเพราะเสียงแว่วจากฟากฟ้า
เผลอภวังค์พลั้งกายฝันร้ายว่า
อีกไม่นานดงป่าคงถูกเบียน
ด้วยฝีมือคนโหดใจโฉดต่ำ
รุมเข้าทำลายดงคงเสถียร
ทั้ง เช้า สาย บ่าย เย็นค่ำ ที่ พร่ำเวียน
ป่าคงเปลี่ยนจากขจีเป็นที่แล้ง
   (ม้าก้านกล้วย)				
14 มกราคม 2545 19:40 น.

นาม น้ำโขง 2

ม้าก้านกล้วย

ยังมีนาคหลากเผ่าพันธุ์ร่วมกันสร้าง
ตกลงวางแนวธารผ่านป่าข้าม
ช่วยขุดเลาะเซาะซัดตัดเติมตาม
เป็นแนวลามลำเลียงล่องลงลุ่มลาน
จนถึงจุดสุดท้ายต้องย้ายทาง
เพราะเมืองตั้งกั้นขวางทางสถาน
กลับตกลงกันไม่ได้ใช่จะพาล
นาคเหล่านั้นจำแยกไปตามใจตน
กลุ่มหนึ่งขุดทางขวาสาละวิน
จนสิ้นเส้นทางตั้งแต่ต้น
กลุ่มใหม่ข้ามไปไกลสกล
แล้วขุดค้นเส้นทางยาว เจ้าพระยา
กลุ่มเดิมตั้งใจไม่ผันแปร
เลี้ยวซ้ายแลเส้นทางวางไว้ว่า
จะผ่านแดนอริยะธรรมนานา
ผ่านห้าชนชาติพิลาศพิไล
จีนไทลาวขอมเขมรญวน
ซึ่งทั้งมวลทั่วถ้วนล้วนได้ใช้
ตั้งอาณาจักรกว้างสล้างไศล
และเป็นไปตามใจปณิธาน
จึงเสกมนต์วาสุกรีน้ำนี้ขุ่น
สีเป็นปูนเย็นยะเยือกทุกหย่อมย่าน
เพียงตักมาดื่มกินสิ้นกันดาร
น้ำธารจะคืนใสให้ชุ่มเย็น				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงม้าก้านกล้วย