30 ธันวาคม 2544 20:09 น.

หลังจากกระต่ายพ่ายแพ้เต่า

ม้าก้านกล้วย

วันที่กระต่ายนั้นพ่ายแพ้
ก็ตั้งใจแน่วแน่ จะนอนนิ่ง
ไม่กระโดด กระโจนตาม ความเป็นจริง
ไม่ว่องวิ่งเพราะเจ็บอายขายหน้ามิตร
เป็นกระต่ายเซื่องซมอารมณ์เหงา
นั่งจับเจ่าเงื้องุ่นง่านพาลหงุดหงิด
เพื่อนฝูงหดหายไปไม่ใกล้ชิด
ลืมคิดว่าตนเจนเป็นจ้าวเปรียว
เคยเป็นผู้วิ่งไว ได้เป็นหนึ่ง
ไกลกึ่งเร่งเพียงเวลาเสี้ยว
ห่างเพียงไหน เคยไปมาประเดี๋ยวเดียว
แล้วกลับเหนี่ยวเฝ้ารัง ขังตัวเอง
ข่าวประกาศเจ้าหญิงงามช้ำความรัก
ประชวรหนัก หทัยหัก จักต้องเร่ง
ไปหายาป่าละหาน มารข่มเหง
หากทหารไปเอง ก็กว่าเดือน
แต่จำเป็นต้องเยียวยาเพียงห้าวัน
มิเช่นนั้น ต้องโรคร้ายคล้ายเสมือน
เสียสติ ฤดีดล คนฟั่นเฟือน
ลืมเลือนสมประดีชีวีมลาย
เรื่องต้องเร่งรีบเร้น เช่นฉะนี้ 
หนึ่งเดียวที่มีที่ทำได้
ทั้งพาราล้วนหวังเอา เจ้ากระต่าย
จะเร่งไปเร่งมาหาโอสถ
แม้กระต่ายตั้งตนไม่สนใจ
แต่เรื่องใหญ่ยอมละทิฐิลด
อาสาไปหายาทั้งหมด
ปรากฏ ครบถ้วนความ เพียงสามวัน
กลับมาเป็นจ้าวแห่งลมกรด
ทั่วทั้งหมดยกย่องเยินยอลั่น
กระต่ายฉุกใจคิดได้ครัน
จะดีชั่วตัวเท่านั้นตัดสินเอา
ใครจะเย้ยว่าขี้แพ้ว่าอ่อนหัด
ใครจะหยันให้ถนัดก็ช่างเขา
ความสามารถที่มีอยู่คู่ตัวเรา
อย่าเขลาอย่าปลงจงภูมิใจ
    -(ม้าก้านกล้วย)-				
28 ธันวาคม 2544 00:28 น.

กลอน ตังเก

ม้าก้านกล้วย

กระเบนเบนหัวเรือ      พี่แล้ว
กระโทงกระทุ้งแถว            กราบกร่อน
โลมามาลาแก้ว                  ใจจาก จำจร
ปักเป้าปักใจอ้อน              วอนย้อน ทะเลคืน
    กระพรุนกระพือเพรียก เรียกร้อน
กระพงจะส่งซ้อน               เลี่ยงหลบ
กระสากประสงค์วอน         เร่งเร้า
ฉลามถลาซบ                    หมายให้ จับกุม

กลอนสอง

ตังเก  หาปลา  อุรา  แสนหมอง
จากจาง คู่จอง  นั่งมอง  หมู่ดาว
โต้ลม ต้านเรือ คราบเกลือ ขมขาว
เหงื่อเค็ม  เหม็นคาว สาวไหน  ไม่แล
ผ่านวัน ผันคืน ต้องฝืน ชะแง้
โลมา เพื่อนแท้ เพียงแค่ ร่วมทาง
ลงอวน ลากเอา ฝึกเฝ้า  ถือหาง     
ตั้งใจไม่วาง หวังว่า สักวัน
ได้เป็นไต้ก๋ง คงได้  ดังฝัน
ถ้าเป็น  เช่นนั้น  จะเอื้อน  เอ่ยจอง
บุหงา ดอกงาม ตามใจ  เรียกร้อง
จะเฝ้า  ประคอง นวลน้อง คู่เคียง
เหม่อมอง แสนไกล  ได้ยิน  แค่เสียง
นางนวล บินเคียง เลาะเลี่ยง หลบลม
แต่คง หวังไกล เกินใจ สุขสม
ได้เพียง ชิดชม ในฝัน ฟั่นเฟือน

กลอนสาม

ใจจะคิด ใจจะคอย ใจจะน้อย ด้อยค่า
ก็จะหวัง ตั้งอุรา รอเวลา สักวัน
แม้จะรู้ แม้จะล่า แม้จะว่า ฝืนฝัน
ก็จะมุ ก็จะหมั่น จะขยัน ล่องเรือ
ออกธุระ ออกทะเล คอยคะเน หางเสือ
ไม่ยอมบ่น ไม่ยอมเบื่อ จะทำเพื่อ รุ่งเรือง

กลอนแปด

คืนนี้ คงต้องรอนกลางทะเล
คงว้าเหว่เช่นเคยทำซ้ำซ้ำอยู่
ลูกเรืออวนหาปลาใช่หาคู่
เพราะใจพี่อยู่ที่ฝั่ง ตั้งใจรอ
หวังหาปลามาแลกกับสินสอด
หวังได้กอดเจ้าก่อนถอนสมอ
หวังได้กลับมาจูบเจ้าพะเน้าพะนอ
หวังเพียงขอแม่ย่านาง เข้าข้างรัก
จะออกเรือล่าปลา มามากมาก
จะออกลากอวนออม ลงล้อมหลัก
จะผูกโพงพางผาย ไว้ชายชัก
จะงมควัก มุกเงา มาเอาใจ
จะฝืนฝน ทนลม ข่มพายุ
เรือจะผุ หักปรัง จะรั้งไว้
เรือจะเร่ ห่างฝั่งไปตั้งไกล
ขอแค่ใจมีเจ้า เท่านั้นพอ   

    (ม้าก้านกล้วย)				
25 ธันวาคม 2544 21:07 น.

วันปีใหม่ แก่ลงไปอีกปี

ม้าก้านกล้วย

แก่ลงไปอีกปีแล้วสินะ
อยากได้ไหมล่ะคำสวยสวย
คำหวานหูเลิศหรูอำนวยอวย
จะเอ่ยด้วยก็ได้คล้ายคำคม
แต่ว่าอย่าให้พูดแบบนั้นเลย
คำเชยเชยขอให้มีสุขศรีสม
ระรื่นล่องระเหยหายได้เพียงลม
กล่อมบรรทมก่อนนอนตอนเดียวดาย
เอาอย่างนี้ดีกว่าจะว่ากล่าว
เป็นของคาวคำพ้องของขวัญหาย
อีกไม่นานคงจะพากันตาย
แล้วเราได้ ทำอะไรไว้หรือยัง
จะฝากชื่อเอาไว้ในทำเนียบ
ให้เขาเปรียบเปรยเป็นเช่นความหลัง
จะทำชั่วทำดี หรือทำดัง
ทำตามตั้งใจนำทำไปเลย
ใครบังคับใจใครคงไม่ได้
ใครว่าดี ว่าร้าย ให้เฉยเฉย
ทำลงไปตั้งใจกว่าที่เคย
ชดและเชยเวลาที่ล่าไป
ชีวิตคนแตกต่างกัน ล้วนสั้นนัก
ขอให้ตักตวงตามเวลาไล่
ถ้าทุกข์หม่นจงคิดว่ากรรมพาไป
สุขเมื่อไร นึกถึงบุญ เกื้อหนุนนำ
ทำใจให้สงบ จะพบสุข
ถ้าไฟริษยาลุกจะตกต่ำ
ถ้าอดออมจะรวยรอบเป็นกอบเป็นกำ
มันคือกรรมของผลการกระทำเรา . . . ทั้งนั้นเอย
              -(ม้าก้านกล้วย)-				
21 ธันวาคม 2544 23:16 น.

ว่าวสะนู ฝากฟ้า

ม้าก้านกล้วย

เวลานี้เวลาหนาวว่าวสะนู
ลอยเล่นเริงอยู่ดูสนาน
ชักเชือกโยงผูกพาไว้หน้าบ้าน
พอลมผ่านเสียงดังกังวาลไกล
อี๋-ออ ออดออดสอดเสียงหริ่ง
เรไรยิ่งขับเถียงสำเนียงใส
จักจั่นกรีดปีกก้องรับลองไน
ก็กรีดกรายปีกแกร่งแข่งเสียงครวญ
ดึกสงัดลมกลับขับเรี่ยวแรง
สะนูแผลงฤทธีตีลมหวน
โฉบซ้ายย้ายขวาท้ายั่วยวน
ป่านป่วนปานปาดจะขาดลอย
ใบไม้เคยสดเขียวครั้นฝนขาด
ร่วงโรย เพสลาด สลดสร้อย
แดงเหลืองแลทองพร่างบ้างพรางพร้อย
แห้งละห้อยย้อยกิ่วปลิวตามกัน
ใบไม้ฤา ลอยถึงเจ้า ว่าวสะนู
เจ้าค่าควรสูงอยู่ประตูสวรรค์
เกล็ดใบไร้ค่าราคานั้น
แค่ปลิวปันก่อนกรอบระยอบลง
ล่องไปเถิดลอยไปให้ถึงฟ้า
สมเวลารอคอยปล่อยเสียงส่ง
กรีดให้ดังไปไกลใจจำนงค์
ดังข้ามดงไปไกลให้ถึงนาง
ว่าฝากความคิดถึงมากับลมลอย
ฝากใจน้อยถามหาก่อนฟ้าสาง
ฝากตัดพ้อยามเธอฝันจันทร์ระจ่าง
แล้วบอกนางด้วยว่า จะเฝ้ารอ
เวลานี้เวลาเหงา นะว่าวสะนู
ฝากคนอยู่แดนไกล ถึงไหมหนอ
ต้องส่งป่านไปแค่ไหนให้ไกลพอ
ไปหยอกล้อคนที่หวัง ตั้งใจปอง
---- (ม้าก้านกล้วย) --------				
21 ธันวาคม 2544 19:26 น.

ชีวิตเด็กบ้านไกลไร้รุ่งเรือง

ม้าก้านกล้วย

หนาวนี้ ไม่มีผ้าผวยห่ม
ได้แต่สุมไฟรมพอแก้หนาว
ยามลมกระโชกกรูฤดูร้าว
เบียดกันเข้าก็พออุ่นเกื้อหนุนกัน
ไม่มีเสื้อสวยห่อปิดคอแขน
ก็เอาเสื่อลำแพนมาคลุมคั่น
ไม่มีผ้าพันคอสวยมาช่วยพัน
ผ้าขาวม้าพ่อฉันนั้นสวยดี
ชุดนักเรียนซักแล้วตากตากแล้วซัก
มีชุดเดียวดานดักขยักขยี้
เวลาเรียนพอแดดร้อนตอนแดดดี
มากันเรียนอยู่ที่ใต้ร่มไม้
ใครเขาว่าอนาถา แต่ว่าสุข
ไม่ต้องลุกแหกตาแข่งกาไก่
ไม่ต้องเบียดรถเมล์เหม็นขี้ไคล
ไม่มีเงินก็อยู่ได้ตั้งหลายวัน
พอพักเที่ยง เอาน้ำ มาลูบท้อง
แล้วก็ย่องพลางฉุดมุดรั้วกั้น
หากะปอม กุดจี่ แมงหมี่มัน
พอกินกันอิ่มได้ไม่เลิศลอย
ชีวิตบ้านป่าไกลไร้รุ่งเรือง
แค่ประเทืองประทังไปไม่ท้อถอย
อดมั่งอิ่มได้ใช้แต่น้อย
หวังเพียงคอยพ่อไปขายข้าวในเมือง
จะซื้อตุ๊กตาเอามาให้
ขอชุดสวยชุดใหม่ใส่สีเหลือง
กินขนมบ้าบิ่นกินขนมเบื้อง
จะซื้อเครื่องแบบใหม่ให้สวยนำ
แต่แล้วพ่อกลับมาทำหน้าแห้ง
บอกว่าข้าวแทรกแซงราคาต่ำ
ต้องเอาข้าวเปลือกไปขายจำนำ
เงินที่นำมาใช้ ยังได้ไม่เต็ม
ไม่เป็นไรนะพ่อหนูรอได้
ชุดนักเรียนยังพอใช้ มีด้ายเข็ม
กับข้าวก็พอได้กินชิ้นปลาเค็ม
ไว้ข้าวเต็มราคา ค่อยหาซื้อ
           -(ม้าก้านกล้วย)-				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงม้าก้านกล้วย