17 กันยายน 2544 13:49 น.

ปลาดาว

ม้าก้านกล้วย

ทะเลเวิ้ง วันนี้ ยังสีเขียว
รายหาดเรียว เสี้ยวแหว่ง เป็นแอ่งอ่าว
น้ำลด ระดับไป แนวไกลยาว
มีปลาดาว ติดฝั่ง ตั้งมากมาย
ยังดิ้นรน ค้นหา ทางพารอด
ยามน้ำขึ้น ขังตลอด เตลิดว่าย
ไม่รู้ว่า จะพา กันมาตาย
อยู่บนทราย ชายหาด ที่ขาดน้ำ
พวกเด็กเด็ก ตั้งใจ ไปไล่จับ
บ้างก็นับ บ้างเอาไม้ พลิกหงายคว่ำ
เก็บเอาไป หอบถือ เต็มมือกำ
บ้างจะนำ จัดจับ ประดับประดา
เด็กผู้หญิง คนที่ ไม่มีเพื่อน
ค่อยค่อยเก็บ ค่อยค่อยเคลื่อน เหมือนดังว่า
ห่วงใย ปลาดาว เต็มประดา
เก็บปลาดาวปล่อย ทะเลคืน
ฉงนใจ เลยไป ไต่ถามว่า
เสียเวลา ไม่ได้อะไร ไม่ต้องฝืน
ปลาดาว มากมาย ตายดาดดื่น
จะกล้ำกลืน ช่วยไว้ ทำไมกัน
เด็กกลับ ตอบมา ว่าพี่ผิด
แค่ชีวิต ต่อชีวิต ใยปิดกั้น
ปลาดาว ตัวน้อยน้อย พวกนี้นั้น
ชีวิตมัน ก็หนึ่ง เช่นมนุษย์
พี่อาจเห็น ว่าทำไป ช่างไร้ค่า
แต่กับปลา ดาวนี้ มีค่าที่สุด
รอดชีวิต กลับไปก็ เพราะ เร่งรุด
เหมือนได้ผุด เกิดใหม่ ได้คืนทะเล
ได้ฟัง ยังสะอึก นึกไม่ถึง
หนูน้อยซึ่ง ดูคล้ายคล้าย ใจว้าเหว่
เหมือนดลใจ ยกมือไหว้ ไม่ลังเล 
เกินคะเน ใจเด็ก ไม่เล็กเลย
        -(ม้าก้านกล้วย)-				
17 กันยายน 2544 13:42 น.

จดหมาย ลาครู

ม้าก้านกล้วย

ยินเด็กเด็กบ้านท่า กุดปลาขาว
มันมาเล่าขานกัน เมื่อวันก่อน
ว่าเด็กชาย ชาวนา หน้าวัดดอน
จะแรมรอน ตามพ่อ ไปขอทาน
ก็ปีก่อน ฝนแล้ง จนแห้งผาก
ผืนนาตาก แดดแรง แข็งจนกร้าน
นาที่ทำ ไม่ได้กิน เป็นดินดาน
ข้าวที่หว่าน แห้งตาย ให้ควายเล็ม
พอปีนี้ ฝนหนัก ทะลักล้น
เหมือนแกล้งก่น ชะตา เมฆหนาเข้ม
พากันหอบ พัดมา ฝนฟ้าเต็ม
เหงื่อขมเค็ม หยาดลงไป ไม่ได้คืน
เงินของพ่อ ร่อยหรอ ไม่มีเหลือ
แม้จะเผื่อ กินมั่ง ก็ยังฝืน
ซ้ำแม่ป่วย ตรอมตรม ล้มทั้งยืน
เงินจะคืน ธกส. ก็ไม่มี
เขาจะยึด นาเรา เอาไปแล้ว
เสียงพ่อแผ่ว ขายควาย ไปใช้หนี้
เหลือเศษเงิน ขอดเอา ก็เท่านี้
เหลือทางมี สุดท้าย เข้าในเมือง
นั่งแบมือ ถือกะลา มาขอเงิน
ออกย่ำเดิน หวังเพียงถึง สลึงเฟื้อง
ขอเศษใจ คนกรุง คนรุ่งเรือง 
พอฐานะ กระเตื้อง ก็คืนนา 
เด็กน้อย ใจหาย อยากไปเรียน
ไปขีดเขียน เพียรถือ หนังสือหนังหา
เก็บสมุด ดินสอ รอวันกลับมา
จะท่องบ่น ตำรา หาความรู้
แต่วันนี้ ข่มใจ ไม่สะอื้น
แกล้งทำท่า หน้าชื่น ยืนหยัดสู้
เพราะตกยาก ลำเค็ญ ก็เห็นอยู่
มาลาครู ตามพ่อ ไปขอทาน
         -(ม้าก้านกล้วย)-				
16 กันยายน 2544 23:22 น.

---- หนังสือกับเด็ก และ คนบ้า----

ม้าก้านกล้วย

บนศาลา เรือนกว้าง ข้างทางเปลี่ยว	
มีหนังสือ เล่มเดียว ตั้งวางอยู่
กลอนลำนำ คำคัลไลย ใครจะดู	
มีกระทู้ เป็นกวี มีพรรณนา
เด็กมากมาย มาอาศัย ชายคาร่ม	
เกรียวกราวขรม เล่นกัน เป็นหรรษา
บ้างจ้ำจี้  ตีโย โล้ชิงช้า	
บ้างขี่ม้า ก้านกล้วย ไปด้วยกัน
หม้อข้าวหม้อแกง ขายดี ที่ใต้ถุน	
เอาดินฝุ่น ใบไม้ ขายแข่งขัน
บ้างมาหยิบ หนังสือ ยื้อแย่งกัน	
ต่างดึงดัน จนฉีกแยก แตกขาดไป
ไร้คน รู้ค่า ตำราเล่ม	
ไร้คน อิ่มเอม เปรมใจใส่
ไร้ผู้ ที่จะรู้ คู่ความนัย	
ไร้ใคร สนใจ ในลีลา
ครั้นบัดดล มีคน อีกคนหนึ่ง	
เพิ่งมาถึง ใครก็เห็น เป็นคนบ้า
เด็กหนีลิบ หยิบหนังสือ ถือขึ้นมา	
อ่านถ้อยคำ พรรณนา อยู่คนเดียว
ค่อยค่อยกอบ ค่อยค่อยเก็บ เย็บเป็นเล่ม	
ร้อยอารมณ์ คมเข้ม จนเต็มเหนี่ยว
บ้างยิ้มหัว ระรัว ตัวคนเดียว	
บ้างร่ำให้ ใจเหงา เศร้าวังเวง
บนศาลา เรือนกว้าง ข้างทางเปลี่ยว	
คนคนเดียว อ่านหนังสือ ถือคร่ำเคร่ง
ซึ้งคุณค่า บรรณกวี ที่บรรเลง	
เป็นกันเอง รักถนอม ทนุนำ
ถึงใครใคร เห็นแม้ แค่คนบ้า	
ยังเห็นค่า ลีลา พรรณนาพร่ำ
เข้าถึงบท ถึงกลอน สั่งสอนจำ	
แล้วเก็บกำ ตำราไว้ ไปกับตน
จะถามว่า หนังสือนี้ มีค่าไหม	
แค่คนบ้า เก็บไป ใครฉงน
แต่หนังสือ ล้ำค่า คณาจน	
แม้คนบ้า กล้าเก็บขน ไว้ข้างกาย
	-(ม้าก้านกล้วย)-				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟม้าก้านกล้วย
Lovings  ม้าก้านกล้วย เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงม้าก้านกล้วย