9 กรกฎาคม 2552 23:05 น.

โขงบ่กั้น (๓) พงสาลี...แดนนี้มีมนต์ขลัง

ละไมฝน

๓

พงสาลี...เมืองนี้มีมนต์ขลัง


ทะเลเมฆโอบภูฟ้า..........เมืองสวรรค์
พงป่าผากผาชัน..........สลับซ้อน
เยือกหนาวในหมอกฝัน...........พงสาลี
ย่ำเย็นฤทัยสะท้อน..........พร่ำเพ้อ ละเมอฝัน



แพรหมอกกอดยอดผา 
ละมุนตาพาชวนฝัน
หอมกลิ่นลดาวัลย์ 
ทิวานั้นหมอกมิวาย

เมืองหนาวบนภูสูง 
สุดสายรุ้งแม้นมุ่งหมาย
ชีพชนม์จักวางวาย 
มิเคยคลายหวนคำนึง


คะนึงหาพงสาลี 
เมืองรมณีย์ใฝ่ฝันถึง
เปรียบสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ 
ให้ตราตรึงจุมพิตดาว

เฮือนน้อยแนบคลื่นเขา 
วิเวกเหงาในหมอกหนาว
น้ำค้างเพชรร่วงพราว 
ย้อมฝันวาววิสุทธิ์ใส

แสงสุรีย์อาบยอดดอย 
นับร้อยพันกาลสมัย
พฤกษ์แย้มหน้าต่างไพร 
ถวิลไหวหาวิลาวัลย์

ภูฟ้ายอดเสียดฟ้า 
เอื้อมมือคว้าได้ดาวฝัน
ใกล้ฟ้าหอมดาวจันทร์ 
เสน่ห์ขวัญประภัสสร

พระธาตุงามบนผาเมฆ 
ใครปั้นเศกแต่ปางก่อน
ต้องแสงตะวันรอน 
วับสะท้อนระยิบพราย

ธารทิพย์กระซิบฝัน 
รำพันรุ้งระยับสาย
น้ำอูพะแพร้วพราย 
กรวดทรายแก้ววับแวววาม

ชุบชีวิตแห่งชนเผ่า 
ม้งเย้า อาข่า ผ่านเขตข้าม 
บุปผาจากเวียดนาม 
ช่างงดงามราวนางไม้

เพ้อหลงพงสาลี 
แดนทิพย์นี้ชวนหลงใหล
เมืองลอยฟ้านภาลัย 
สุดห้ามใจฝันรำพันมา....

ละไมฝน/ลำนำ				
9 กรกฎาคม 2552 22:30 น.

จดหมายจากนายฝันละไมถึงสาวขวัญละมุน ( ฉบับที่ ๕ )

ละไมฝน

ฉบับที่ ๕
ถึง ขวัญละมุน กวีสาวเพียงพลิ้ว ผู้แก้มดำ ตาตี่


สวัสดีกวีสาวละมุนขวัญ
อากาศร้อนร้าวอุรากว่าทุกวัน
เลยไม่ทันมาต่อกลอนในตอนบ่าย

ทั้งหน้าที่การงานค้างนานแล้ว
ถ้อยคำแก้วกานต์วลีลี้ห่างหาย
นั่งหน้าดำคร่ำเคร่งวังเวงวาย
แสนเสียดายเวลาฝันถึงกัลยาณี

คืนวันพฤหัสจำรัสถวิล
รวยระรินกลิ่นผกามาถึงนี้ 
คล้ายกลิ่นแก้มขวัญตามารตี
แก้มดำดีสีไม่จางจึงหอมนาน

มิอยากเชื่อกรรมกรร่ายกลอนพลิ้ว
หรือสิบนิ้วชุบน้ำผึ้งจึงหอมหวาน
ภาษาสวยรวยคำคลุกน้ำตาล
จินตนาการพลิ้วพร่างกระจ่างใจ

โถ...ตาไม่ตี่ก็ตู่ตาว่าตีบตี่
แก้มหอมสีชมพูดูสดใส
ก็ปดว่าแก้มดำเพราะช้ำใน
ซ้ำมีภัยพิษร้ายทำลายรัก

จะถ่อมใจถึงไหนนะขวัญฟ้า
หรือเกรงว่าฝันละไมใคร่รู้จัก
ถึงถ่อมตนตัวดำระกำรัก
สวามิภักดิ์น้อยไปหรือไรหนา

คืนนี้ฝากฝันสวยมาด้วยนะ
สารัตถะทั้งปวงคือห่วงหา
ฝันละไมฝากรักฝากศรัทธา
ฝากภาษาบอกความนัยห่วงใยเจ้า

หากเหนื่อยหนักในคืนที่เหน็บหนาว
อ่านเพลงยาวขานรับกับความเหงา
ผ่านสายลมละเมอซึ้งถึงน้องเรา
ไล่ความเศร้าห่างหายจากภายใน

ท้อบ้างไหมในการงานที่ผ่านมาก
ความลำบากพรากฝันจากขวัญไหม
ความหวังวาดอย่าขลาดขลังพลังใจ
อย่าหวั่นไหวไมตรีจากพี่ชาย

หนาวมากไหมในฤดีฤดูดาว
ระยิบวาวสกาวส่องแสงเฉิดฉาย
ค่ำคืนนี้ดาวกระจ่างงามพร่างพราย
ฝากความหมายลำนำให้คำนึง

เหงามากไหมในราตรีที่หม่นเหงา
ขอแบ่งเบาอารมณ์อันขมขึ้ง
รื้อลิ้นชักซ่อนตัวตนก่นรำพึง
ร่ายกลอนถึงเพียงพลิ้วปลิวลมมา

ฝากไออุ่นสุนทรีย์วลีถ้อย
แม้นจะน้อยเพราะถ้อยคำอันล้ำค่า
หากห่วงใยละไมฝันถึงขวัญตา
เพียงพลิ้วจ๋าหน้างอไยโลกไม่งาม

เรียน พี่ๆนักกลอนทุกท่าน

            ขออภัยที่ไม่สามารถตอบกระทู้ของท่านที่มาเยี่ยมชม  และแสดงความคิดเห็นในบ้านกลอนของพี่ๆได้  เนื่องจากระบบคอมฯ ที่บ้านไม่ตอบสนอง แปลกนะ มันโพสต์ได้อย่างเดียว  แสดงความคิดเห็นไม่ได้เลยครับ

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ด้วยรักและไมตรีจิต
นายฝันละไมฝน				
8 กรกฎาคม 2552 14:52 น.

โขงบ่กั้น ( ๒ ) เวียงภูผาลดาทิพย์

ละไมฝน

โขงบ่กั้น ( ๒ )
เวียงชัย...เวียงภูผาลดาทิพย์

ล่องเรือยามบ่ายคล้อย                   แสงสมัย
จากซำเหนือสู่เวียงชัย                   สุดหล้า
สองฝั่งหมอกละไม                       เย็นฉ่ำ
ภูผาสูงเสียดฟ้า                            สลับสล้าง...เขาเขียว


ละอองไอลออฝัน                         ชุบวสันต์วนาสมัย
นวลนุ่มละมุนละไม                       ลอยเลื่อนไหลพลิ้วสายลม

โอบกอดอ้อมอกผา                      ชื่นชีวาต์หมอกฟ้าห่ม
ละมุนเหมยเฉลยลม                     หวานรื่นรมย์สุนทรีย์

ขุนเขาสูงสลับซ้อน                     ครามเขียวอ่อนสลับสี
ป้องปกวนาลี                              อุ่นฤดีฤดูกาล

สวรรค์เสกเมฆวิจิตร                    นฤมิตคุณค่ามหาศาล
หยาดเย็นเป็นห้วงธาร                  สูงตระการน้ำตกเหนือ

พลิ้วพลิ้วพร่างเป็นชั้นฉาก             ฝอยน้ำจ้ากงามหลากเหลือ
น้ำซัมใสน่าล่องเรือ                     เย็นน้ำเหนือชวนว่ายวน

หากนงพะงาเจ้ามาด้วย                 คงได้ช่วยสร้างกุศล
พายเรือน้อยล่องลอยชล              ข้ามฝั่งพ้นนทีกรรม   

สู่ดินแดนประวัติศาสตร์                กู้เอกราชในเถื่อนถ้ำ
อเมริกามหาริยำ                           มาครอบงำทำสงคราม

ถ้ำกษัตริย์สุพรรณวงศ์                    วิจิตรบรรจงโอ่อ่าอร่าม
ถ้ำคำใต้ระบือนาม                         ล้วนงดงามไม่แพ้กัน

ช้างลอดชื่อถ้ำใหญ่                     กระจ่างใจวิสุทธิ์สรรค์
งามดุจช้างเทียมแม่นั้น                   เชิญเทียบฝันดวงจำปา

แปลงนาข้าวเขียวลดหลั่น               หอมข้าวขวัญสิเน่หา
หอมใดเทียบแก้มกานดา                หอมปานว่าจำปาลาว

หวนหอมฝันถึงนงลักษณ์                จึงประจักษ์ว่ารักเจ้า
ยามเย็นย่ำเหม่อมองดาว                คิดถึงสาวที่ฝั่งไทย...

ละไมฝน/ลำนำ

หมายเหตุ....น้ำจ้าก เป็นภาษาลาว  หมายถึง น้ำตก				
8 กรกฎาคม 2552 14:42 น.

จดหมายจากนายฝันละไมถึงสาวขวัญละมุน ( ฉบับที่๔ )

ละไมฝน

จดหมาย ฉบับที่ ๔  ถึงขวัญละมุน  กวีสาวเพียงพลิ้ว
 
สวัสดีบ่ายวันพุธสุดสงวน
มาตามกลิ่นตำบักหุ่งหอมอบอวล
ใส่ปลาร้าหนอนอ้วนอ้วนเชลชวนชิม

สาวโคราช...เมืองย่าโม โก้ใช่เล่น
แม่เนื้อเย็นยังสาวยังพราวพริ้ม
ตอบเพลงยาวยั่วให้ละไมยิ้ม
แก้มอิ่มอิ่มดำดีนี้แหละงาม

ฝันละไมไร้คู่อดสูนัก
ขาดคู่รักหมายปองสาวมองข้าม
อยู่ร้อยเอ็ดเพชรอิสานระบือนาม
เจ็ดย่านน้ำเที่ยวจรมิจนใจ

แม้นห่างกันฝันถึงคะนึงจิต
วันละนิดวันละน้อยพลอยแจ่มใส
เขียนเพลงยาวพราวฝันอันละไม
จากดวงใจถึงดวงจิตมิตรกลอนกานต์

เขียนถึงดาวพราวถึงจันทร์สร้างสรรค์โลก
เขียนถึงสายลมโบกชุบโลกหวาน
เขียนถึงเมฆเสกสรรอนันตกาล
จึงบันดาลสราญรักในอักษรา


ที่โคราชดาวสวยกระจ่างไหม
ดาวดวงใดพร่างพราวสกาวกว่า
ดาวสองดวงดุจเพชรร่วงในดวงตา
ละมุนขวัญนั้นน่าพิศสนิทนาน

อีกดวงหนึ่งในดวงใจละไมฝัน
ดาวดวงนั้นเจิดจ้ามหาศาล
แจ่มกว่าดาวดวงไหนในจักรวาล
เมื่อพบพาน เพียงพลิ้ว พรายพริ้มคำ

ณ บ้านกลอนสื่อกลางระหว่างรัก
แจ้งประจักษ์รักษ์ภาษาคุณค่าล้ำ
กลอนเพลงยาวสาวละมุนอบอุ่นคำ
แม้นแก้มดำแต่ใจดีไม่มีภัย....
อิอิอิ
..................
ด้วยรักและไมตรีจิต
นายฝันละไม				
7 กรกฎาคม 2552 16:02 น.

วนาลัย...สงบล้ำลืมเมือง

ละไมฝน

- ๑ -
จากดินหมายมุ่งฟ้า            ฟายดาว
งามเด่นรังรองพราว           เพชรแพร้ว
เพลินหลงทุ่งดวงดาว         พราวเด่น
งมโง่เขลามิแล้ว               ไล่คว้า...มายาฝัน

ถึงคราลาหลีกเร้น              กรงเมือง
นึกหน่ายแสงสีเรือง           เร่าร้อน
ทำงานบ่นอบเนือง             เรืองรุ่ง อย่าหวัง
คืนถิ่นฤทัยสะท้อน             เท่าฟ้า เคืองดิน

ปลูกเพิงกลางหมู่ไม้           ใบบัง
สุขกว่าเมืองเรืองมลัง         แหล่งหล้า
หอมดินกลิ่นความหลัง        วันเก่า เราเฮย
เนาป่าไกลเมืองฟ้า             อย่าได้ หมายหยัน

อาจเดียวดายเหว่ว้าง           บางวาร
คืนค่ำเพลานาน                  เนิ่นช้า
เพลินฝันอิ่มฝันหวาน           ลืมตื่น
ยามตื่นกลับเย็นฟ้า              ฉ่ำน้ำ หมอกเย็น

มาลาหอมยิ่งเย้า                  ยวนยล
รวยรื่นรสสุคนธ์                   ค่ำเช้า
ดอกดวงดั่งเทพดล              ดาษดื่น วนานา
ดอมกลิ่นดอกคัดเค้า           ค่ำเจ้า...เหยหอม

นานานกร่ายไม้                   ละเมอฝัน
บางคู่คลอเคลียกัน              ร่ำร้อง
ยามเย็นยิ่งรำพัน                  ขันกล่อม
หวานแว่วกังวานก้อง            ก่อนฟ้า นิทราฝัน

ตะวันจรลับฟ้า                     คราแลง
ราวป่าระยับแสง                  หิ่งห้อย
แวววาวดุจดาวแฝง              ฝันจูบ ดินเอย
จันทร์ข่มแสงโคมน้อย         ซบหน้า อายดิน

จันทรากระจ่างหล้า             โลมสมัย
เพลงขลุ่ยวังเวงไกล            กล่อมเศร้า
ครางคร่ำครวญเพลงไพร      หาคู่ ฤาไฉน
จันทร์ช่วยปลอบขวัญเจ้า     จูบให้ หายครวญ

แววดาวเคลื่อนคล้อย          ลอยลับ
ดึกดื่นดวงเดือนหลับ          ก่อนเช้า
แสงรางรุ่งสางขับ               มัวหม่น จางหาย
ดอมกลิ่นผกาเคล้า            ป่าเช้า หอมระเหย

วนาลัยสงบล้ำ                    ลืมเมือง
ไกลห่างแสงรองเรือง         รุ่งฟ้า
คนไพรบ่หลอกเปลือง       ใจเจ็บ ปวดนา
คือแหล่งพักยามล้า            ป่าสร้าง สัจธรรม...

ละไมฝน /ลำนำ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟละไมฝน
Lovings  ละไมฝน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟละไมฝน
Lovings  ละไมฝน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟละไมฝน
Lovings  ละไมฝน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงละไมฝน