8 กรกฎาคม 2552 14:42 น.

จดหมายจากนายฝันละไมถึงสาวขวัญละมุน ( ฉบับที่๔ )

ละไมฝน

จดหมาย ฉบับที่ ๔  ถึงขวัญละมุน  กวีสาวเพียงพลิ้ว
 
สวัสดีบ่ายวันพุธสุดสงวน
มาตามกลิ่นตำบักหุ่งหอมอบอวล
ใส่ปลาร้าหนอนอ้วนอ้วนเชลชวนชิม

สาวโคราช...เมืองย่าโม โก้ใช่เล่น
แม่เนื้อเย็นยังสาวยังพราวพริ้ม
ตอบเพลงยาวยั่วให้ละไมยิ้ม
แก้มอิ่มอิ่มดำดีนี้แหละงาม

ฝันละไมไร้คู่อดสูนัก
ขาดคู่รักหมายปองสาวมองข้าม
อยู่ร้อยเอ็ดเพชรอิสานระบือนาม
เจ็ดย่านน้ำเที่ยวจรมิจนใจ

แม้นห่างกันฝันถึงคะนึงจิต
วันละนิดวันละน้อยพลอยแจ่มใส
เขียนเพลงยาวพราวฝันอันละไม
จากดวงใจถึงดวงจิตมิตรกลอนกานต์

เขียนถึงดาวพราวถึงจันทร์สร้างสรรค์โลก
เขียนถึงสายลมโบกชุบโลกหวาน
เขียนถึงเมฆเสกสรรอนันตกาล
จึงบันดาลสราญรักในอักษรา


ที่โคราชดาวสวยกระจ่างไหม
ดาวดวงใดพร่างพราวสกาวกว่า
ดาวสองดวงดุจเพชรร่วงในดวงตา
ละมุนขวัญนั้นน่าพิศสนิทนาน

อีกดวงหนึ่งในดวงใจละไมฝัน
ดาวดวงนั้นเจิดจ้ามหาศาล
แจ่มกว่าดาวดวงไหนในจักรวาล
เมื่อพบพาน เพียงพลิ้ว พรายพริ้มคำ

ณ บ้านกลอนสื่อกลางระหว่างรัก
แจ้งประจักษ์รักษ์ภาษาคุณค่าล้ำ
กลอนเพลงยาวสาวละมุนอบอุ่นคำ
แม้นแก้มดำแต่ใจดีไม่มีภัย....
อิอิอิ
..................
ด้วยรักและไมตรีจิต
นายฝันละไม				
7 กรกฎาคม 2552 16:02 น.

วนาลัย...สงบล้ำลืมเมือง

ละไมฝน

- ๑ -
จากดินหมายมุ่งฟ้า            ฟายดาว
งามเด่นรังรองพราว           เพชรแพร้ว
เพลินหลงทุ่งดวงดาว         พราวเด่น
งมโง่เขลามิแล้ว               ไล่คว้า...มายาฝัน

ถึงคราลาหลีกเร้น              กรงเมือง
นึกหน่ายแสงสีเรือง           เร่าร้อน
ทำงานบ่นอบเนือง             เรืองรุ่ง อย่าหวัง
คืนถิ่นฤทัยสะท้อน             เท่าฟ้า เคืองดิน

ปลูกเพิงกลางหมู่ไม้           ใบบัง
สุขกว่าเมืองเรืองมลัง         แหล่งหล้า
หอมดินกลิ่นความหลัง        วันเก่า เราเฮย
เนาป่าไกลเมืองฟ้า             อย่าได้ หมายหยัน

อาจเดียวดายเหว่ว้าง           บางวาร
คืนค่ำเพลานาน                  เนิ่นช้า
เพลินฝันอิ่มฝันหวาน           ลืมตื่น
ยามตื่นกลับเย็นฟ้า              ฉ่ำน้ำ หมอกเย็น

มาลาหอมยิ่งเย้า                  ยวนยล
รวยรื่นรสสุคนธ์                   ค่ำเช้า
ดอกดวงดั่งเทพดล              ดาษดื่น วนานา
ดอมกลิ่นดอกคัดเค้า           ค่ำเจ้า...เหยหอม

นานานกร่ายไม้                   ละเมอฝัน
บางคู่คลอเคลียกัน              ร่ำร้อง
ยามเย็นยิ่งรำพัน                  ขันกล่อม
หวานแว่วกังวานก้อง            ก่อนฟ้า นิทราฝัน

ตะวันจรลับฟ้า                     คราแลง
ราวป่าระยับแสง                  หิ่งห้อย
แวววาวดุจดาวแฝง              ฝันจูบ ดินเอย
จันทร์ข่มแสงโคมน้อย         ซบหน้า อายดิน

จันทรากระจ่างหล้า             โลมสมัย
เพลงขลุ่ยวังเวงไกล            กล่อมเศร้า
ครางคร่ำครวญเพลงไพร      หาคู่ ฤาไฉน
จันทร์ช่วยปลอบขวัญเจ้า     จูบให้ หายครวญ

แววดาวเคลื่อนคล้อย          ลอยลับ
ดึกดื่นดวงเดือนหลับ          ก่อนเช้า
แสงรางรุ่งสางขับ               มัวหม่น จางหาย
ดอมกลิ่นผกาเคล้า            ป่าเช้า หอมระเหย

วนาลัยสงบล้ำ                    ลืมเมือง
ไกลห่างแสงรองเรือง         รุ่งฟ้า
คนไพรบ่หลอกเปลือง       ใจเจ็บ ปวดนา
คือแหล่งพักยามล้า            ป่าสร้าง สัจธรรม...

ละไมฝน /ลำนำ				
7 กรกฎาคม 2552 15:32 น.

จดหมายจากนายฝันละไมถึงสาวขวัญละมุน ( ฉบับที่๓ )

ละไมฝน

จดหมายฉบับที่  ๓   วันอังคาร...ยามบ่ายคล้อย 

ส่งถึงขวัญละมุน....กวีสาวนามว่า เพียงพลิ้ว
........................

วันอังคารบันดาลรักประจักษ์จิต 
สู่มิ่งมิตรน้องน้อยผู้อ้อยอิ่ง 
ละมุนฝันบรรเจิดพราวเพริศพริ้ง 
งดงามยิ่งมิตรไมตรีฤดีวัน 
 
ที่ใดมีละไมฝัน...ที่นั่นมีกลอนรัก 
สมานสมัครเขียนเพลงยาวจีบสาวขวัญ
นามเพียงพลิ้ว...พลิ้วพรายเป็นรายวัน
ละเมอฝันฝากกลอนในตอนเมา  (เมารักน่ะ อิอิอิ...)

จดหมายน้อยกลอยใจฝากให้พี่
นายไปรษณีย์ยิ้มแต้...ตั้งแต่เช้า
พอบ่ายคล้อยค่อยอ่านคำกลอนเกลา
คลายหงอยเหงาใจชื่นรื่นอุรา

หยุดหลายวันอยู่บ้านสำราญแท้
ได้กอดแม่...กราบพ่อที่รอท่า
พานพบญาติพี่น้องเที่ยวท้องนา 
กินข้าวปลาร่วมวงจรรโลงใจ

หากอยู่ใกล้ละมุนขวัญในวันนี้
จะเอ่ยชวนคนดีเที่ยวเมืองใหญ่
ชมแห่เทียนวัฒนธรรมงามอำไพ
แล้วแวะไปภูกระดึงถึงเมืองเลย

อากาศบนภูสูงคงยะเยียบ 
น้ำค้างพรมเย็นเฉียบเทียบหมอกเหมย
ดวงตะวันคงผลิแก้มแดงจังเลย
เพราะมิเคยจึงชวนชม... สมอุรา

หรือจะยลร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ 
เมืองน้ำดำกาฬสินธุ์ถิ่นล้ำค่า
สกลนคร สารคาม ล้วนงามตา
ผ่านมุกดา-หารก่อนนครพนมพลัน...  ฯลฯ

เที่ยวไปทั่วหัวเมืองขอบชายเขต
ติดประเทศลาวน้องน้ำของกั้น
ข้ามสะพานมิตรภาพสู่เวียงจันทร์
เมืองสวรรค์หลวงพระบางรางชางนัก

สวรรณเขตชายแดนแคว้นสวรรค์
สุดจำนรรจ์งามตาจำปาศักดิ์
เมืองวังเวียง พงสาลีนี้งามนัก
ชวนน้องรักล่องชมเมืองสวิตเซอร์ลาว

ทุ่งไหหินดินแดนแคว้นเชียงขวาง
จักนำทางท่องชมไหในคืนหนาว
แล้วพิงไหแข่งขันนับพันดาว 
โรมานซ์ราวนิยายขายฝันดี

ครั้นรุ่งเช้าเข้าเขตแขวงบ่อแก้ว
ชมเมืองแล้วชมวัดธาตุจอมษี
แวะผาช้างแขวงเมืองไชยบุรี
แล้วจรลีข้ามสู่เขตประเทศญวน

เพียงแค่คิดแค่ฝันเท่านั้นดอก
คนบ้านนอกจินตนาการหวานล้วนล้วน
พบเมื่อใดฝันละไมคงได้ชวน
แม่เนื้อนวลชมจันทร์ในวันเพ็ญ...
................
ด้วยรักและไมตรีจิต
จาก  นายฝันละไม				
6 กรกฎาคม 2552 15:44 น.

ฤดูฝัน...

ละไมฝน

ฤดูฝัน


ฤดูกาลเคลื่อนผ่านไป
ความตั้งใจมิเปลี่ยนแปลง
ชะตาลิขิตริดรอนแรง
ใจยังแกร่งกล้าเผชิญ

ฤดูกาลเคลื่อนผ่านผัน
หากความฝันมิขาดเขิน
พายุโหมซัดจนยับเยิน
ยังก้าวเดินอย่างมีไฟ

แต่ละก้าวแม้นโดดเดี่ยว
หากแรงเรี่ยวยังพอไหว
ค่อยค่อยก้าวอย่างละไม
ด้วยดวงใจทระนง

หนทางมืดและหม่นเศร้า
โรยความเขลาให้พลัดหลง
ฉุดความฝันอ่อนล้าลง
ใจมั่นคงสู่ปลายทาง

ปลายอุโมงค์แห่งชีวิต
เราลิขิตความสว่าง
มืดที่สุดแล้วรางชาง
อรุณกระจ่างฤดูฝัน

ละไมฝน				
6 กรกฎาคม 2552 15:21 น.

จดหมายจากนายฝันละไมถึงสาวขวัญละมุน (ฉบับที่๒)

ละไมฝน

ฉบับที่ ๒  ในยามบ่ายวันจันทร์

ถึงสาวคนรักขวัญละมุน...กวีน้อยเจ้าสำราญ

................................

ส่งสาส์นถึงขวัญละมุนกวีน้อย
สำราญถ้อยร้อยคำรำพันว่า
คิดถึงพี่ฝันละไมทุกเวลา
ละเมอหาทุกค่ำเช้ายามเหงาใจ

โอ้วันจันทร์วันนี้เป็นวันหยุด
สุขพราวผุดสุขสันต์วันฟ้าใส
เย็นลมรื่นชื่นจิตมิตรละไม
เจ้าเปิดใจตอบรับเมล์พี่ชาย

กวีน้อยเจ้าสำราญมาสานฝัน
ละมุนขวัญกลอนระรื่นชื่นความหมาย
ยามบ่ายนี้ตะวันยิ้มอย่างเอียงอาย
เพราะพี่ชายจูบรับขวัญ...ขวัญละมุน

จดหมายกลอนวอนเว้าคลายเหงาไหม
ส่งทางไปรษณีย์นี้อบอุ่น
อาจถึงช้ากว่าออนไลน์หน่อยแม่คุณ
ได้เกื้อหนุนบุรุษไปรษณีย์มีสตางค์

เคยเคืองใจไปรษณีย์ที่เกียจคร้าน 
ตู้หน้าบ้านนกทำรังออกไข่บ้าง
ยังอุตส่าห์คาบจดหมายบินมาวาง
ริมหน้าต่างห้องนอนตอนเช้าตรู่

นกกระจิบบ้านฉันนั้นน่ารัก
เขารู้จักฟักไข่ข้างในตู้
เย้ยนกเขาในกรงขันจุ๊กกรู
ช่างไร้คู่เดียวดายทั้งบ่ายค่ำ

อ่านจดหมายละมุนขวัญแล้วพลันชื่น
ในค่ำคืนที่ดวงดาวพร่างพราวฉ่ำ
ดาวใหญ่น้อยพลอยยิ้มรับขับลำนำ
ช่างหวานล้ำ...ค่ำคืนดาวสกาวแสง

แว่ววิเวกขลุ่ยแย้มถึงแก้มน้อง
ดาวร่ำร้องรำพันว่าจันทร์แกล้ง
น้ำค้างพร่างพรมกายที่ไร้แรง
นอนอาบแสงดาวระยิบกะพริบรัก

พร่ำบ่นหนาวให้ดาวฟังครั้งคืนนั้น
คลายสะบั้นคลายกลัดกลุ้มร้าวรุมหนัก
ลองพร่ำบ่นให้ดาวฟังบ้างยอดรัก
แล้วดาวจักยิ้มทักทายผ่อนคลายจริง 
      

.................

ด้วยรักและไมตรีจิต
จากพี่ฝันละไม				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟละไมฝน
Lovings  ละไมฝน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟละไมฝน
Lovings  ละไมฝน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟละไมฝน
Lovings  ละไมฝน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงละไมฝน