19 เมษายน 2546 01:41 น.

นิราศร้างสมิหลา..สงขลาฝั่งนที...

ลำน้ำน่าน

วันเวลาผันผ่านมา..ร้างหลายปี
ก่อนหน้านี้เคยพำนัก...ณ สมิหลา
ฝากรอยรักรอยอาลัย...กาลเวลา
เนิ่นนานมาสมิหลา..ยังคงงาม

ณ คืนหนึ่งดาวแจ่ม....แต้มท้องฟ้า
สมิหลางามเรืองรอง...ในอ้อมฝัน
ริมระเบียงเคียงคู่น้อง...ต้องนวลจันทร์
จากวันนั้นถึงวันนี้.....มีตำนาน

จากทางแรกแยกสำโรง...ตรงสามแยก
เขาหัวแตกเขารูปช้าง...ทางผันผ่าน
รถโพธิ์ทองจอดให้ลง...โรงพยาบาล
ข้ามสะพานนั่งมอไซด์...ไปวุฒิภูมิ

วุฒิภูมิ ๑ ฝากหัวใจ....ไว้กับน้อง
เชื่อมซอย ๒ ไชยมงคล...ร้านตัดผม
เดินทะลุออกนอกถนน...ไชยมงคล
ยังซื่อตรงต่อวิถี.....ที่เติบมา

ย่ำสนธยาเห็นอุกา...ว่าฟ้าเหลือง
แสงรองเรืองที่ริ่มฝั่ง.....สมิหลา
ฝากรอยรักรอยทราย...หมายศรัทธา
วชิราหาดเก้าเส้ง...เย็นเคยเยือน

เดินชมสนทิวไม้...หาดทรายแก้ว
เห็นเกาะแมวแลเกาะหนู..ดูนางเงือก
น้ำซาซัดคลื่นเป็นฝอย....หอยเปลือกกลวง
ร้อยเป็นพวงเปลือกหอยงาม....ให้ทรามวัย

จากมานานคิดถึง...มหาวชิราวุธ
งามพิสุทธิ์สาววรนารี...ที่เคยหมาย
อธิษฐานรักใต้ร่มโพธิ์...วัดแหลมทราย
รักมิคลายเหล่าวานร...ขอนตังกวน

ยิ่งเนิ่นนานผ่านมา...ข้าหวนไห้
แรมร้างไกลจากมา...ณ เมืองหลวง
อยากกลับไปไต่ฝันเก่า...เขาตังกวน
ไปลากอวนงมหอยหิน...ทิ้งระทม

นครนอก..นครใน....ใจคิดถึง
จิตรำพึงถนนเก่า....ร้าวสับสน
สนามติณฯ ถิ่นนาวีที่รวมพล
เคยติดฝนใต้อัฒจรรย์...วันแข่งกีฬา

อีกถนนสายเก่า....ยังเฝ้าถาม
แหล่งพระรามนามนี้...ที่ครวญหา
โรงหนังเก่าเคยเคลียคลอ...หอนาฬิกา
เลือนลับลาแล้วภาพเก่า....ร้าวเนิ่นนาน

สะพานติณฯ ถิ่นนี้...ที่เคยผ่าน
สองสะพานสองต่อ..เกาะยอหรรษา
สิงหนครถิ่นประมง....คนทำนา
อีกถัดมาหัวเขาแดง...แหล่งคนจริง

หลายเวลาหลายที่...มิอยากจาก
แต่ต้องพรากจากบ้านเก่า...กระแสสินธุ์
ตอนจากมาแม่พ่อข้า.....น้ำตาริน
ถอนใจทิ้งถิ่นนครา ...ณ กรุงไกร

กลับมาฝังรกราก...ฝากรอยรัก
แม้นเคยจากฝากน้ำตา....อาลัยหลาย
แต่หัวใจใฝ่คิดถึง....มิคลอนคลาย
จะกลับไปลบรอยทราย...หมายทำกิน...จนสิ้นลม...

........................
สถานที่อ้างอิง
1.  หาดสมิหลา
2. สามแยกสำโรง
3. เขารูปช้าง
4.  รถประจำทางโพธิ์ทอง
5. โรงพยาบาลสงขลา
6. ถนนวุฒิภูมิ 1
7. ถนนวุฒิภูมิ 2
8. สะพานลอยหน้าหอนาฬิกา
9. ถนนไชยมงคลซอย 2
10. ร้านตัดผมตรงปากซอยไชยมงคล
11. ถนนวชิรา
12. หาดเก้าเส้ง
13. แหลมทราย
14. เกาะหนู เกาะแมว รูปปั้นนางเงือก
15.  โรงเรียนมหาวชิราวุธ
16. โรงเรียนวรนารีเฉลิม
17. วัดแหลมทราย
18. ภูเขาตังกวน
19. ถนนนครนอก  ถนนนครใน
20.  ฐานทัพเรือสงขลา
21. สนามกีฬาติณสูลานนท์
22.  ถนนแหล่งพระราม
23.  โรงหนังเพรสซิเด้นท์
24. หอนาฬิกา
25. เกาะยอ
26. สะพานติณฯ
27. อำเภอสิงหนคร
28. หัวเขาแดง
29. อำเภอกระแสสินธุ์
30. สนามกีฬาราชนาวีฯ

แรงบันดาลใจจากลุงม้าก้านกล้วย ใน รอยทราย..สมิหลา  จึงส่งจิตกลับไปตรวจค้น สมิหลา บ้านเก่า..ที่คนที่รักทิ้งชีวิตไว้ที่นั่น...ด้วยรักและคิดถึง หาดสวยที่งดงามกลางหัวใจ นานเนาในความรู้สึกที่หัวใจดวงนี้อยากจะไปใช้ชีวิตอีกครั้งที่นั่น กับวันนี้ที่ได้เรียนรู้ว่า บ้านเก่าเรานั้น งดงามยิ่งกว่าถิ่นใดใด ในผืนแผ่นดินนี้				
19 เมษายน 2546 00:35 น.

เนื่องด้วยข้าว..ที่พร่างพราวเป็นรองรวง..ภาคที่ ๔

ลำน้ำน่าน

ย่างเข้าเดือนเมษา...คราสิ้นหนาว	
ล่องลมว่าวโรยราบ...ทาบท้องทุ่ง
เสียงโห่ร้องก้องสนุก...สุดเสียงซึง
ลานท้องทุ่งกรุ่นกลิ่นฝัน...พลันเรืองรอง

เหลืองอร่ามรวงริ้ว...ทิวทุ่งท่า
ขันก้องป่าสกุณา...ถลาร่อน
หอมกลิ่นแดดระยับยิบ...ทิพย์รวงทอง
กลิ่นแก้มน้องหอมบางเบา...เคล้าแดดมา

ถึงสัญญาหน้าเกี่ยวข้าว...เจ้าจึงกลับ
หอบอุ่นรักมาฝากใจ...ใคร่ครวญหา
ข้าวรอรวงเหลืองสุกปลั่ง...ดั่งมนตรา
อาบทุ่งนาท่าแดนดิน...ถิ่นบ้านเรา

มือเรียวเกี่ยวรวงร้อย...ก้อยเกี่ยวรัก
สุขสมัครรักสมาน...วานพี่พร้อง
ร่วมแรงเกี่ยวเดี่ยวเพลงนา...ท้าเพลงกลอน
สาวบ้านดอนวอนหนุ่มนา...มาช่วยกัน

จากอรุ่ณรุ่งเบิกฟ้า...นภาแจ่ม
สาดแสงแดงเบิกพร่าง...ทางสวรรค์
เหล่าชาวนาร่าเริงทุ่ง...จนสุดวัน
สุขสราญยามหน้าเกี่ยว...เกี้ยวฤดู

จากเย็นย่ำจนแสงจันทร์...กระจ่างฟ้า
ท้องทุ่งนาอาบนวลจันทร์...ฝันเลิศหรู
ว่าเสร็จนาจะขอมั่น...แม่โฉมตรู
ร่วมเคียงคู่อยู่บ้านนา...ท้าทำกิน

พี่ขายข้าวได้เท่าไหร่...เก็บไว้ขอ
น้องจงรอพี่ชาย...อย่าหน่ายสิ้น
ถนอมแก้มเนื้อแดดอ่อน...ของยุพิน
หน้านาสิ้นถิ่นท้องทุ่ง...คงรุ่งเรือง....

...................................................
คงถึงฉากสุดท้ายของรวงข้าวแล้ว  ด้วยรักและรอ จนสาวเจ้าคืนนา
ในวันที่ทุ่งรวงทองเหลืองอร่าม ..ร่วมลงเคียวเกี่ยวรวง
ขายข้าวเมื่อไหร่คงจะได้ไปหมั้นและเก็บเงินไปสู่ขอตามประเพณี 
ครองคู่กันเสียทีนะ....รอฝนหน้าแล้วค่อยหวนคืนท้องนากันอีกคราว				
18 เมษายน 2546 00:40 น.

พุดรำพัน

ลำน้ำน่าน

จากดวงดอกหวานหวาน...บานเริงฝน
เก็บเจือจลบ่มไฟธาตุ....ที่ปรารถนา
ร่อนกลีบขาวพราวไสว...ใต้จันทรา
เบ่งบานมาสืบหาค่า...แห่งใจคน

ดอกพุดซ้อนซ่อนลาย....หมายรักแท้
หนาวดวงแดฤดีร้าว...คราวโศกสม
งามพุดจีบจีบรักเล่ห์....เสน่ห์คน
ล่อลวงตนจมในรัก...ชักซ้อนลาย

พุดรำพันฝันถึงวัน...ระวีระวาด
หอมดื่นดาษวาดความฝัน...บรรเจิดฉาย
สยายกลีบรีดรักร้าว...พร่างพราวพราย
ดอกเลื่อมลายคล้ายเลื่อมรัก....มักปิดบัง

กลีบพุดซ้อนซ่อนกลีบรัก...มักไม่เห็น
กลีบดวงเด่นเห็นขาวนวล....ชวนเพ้อฝัน
ช่อพุดซ้อนบานสอนจิต....ทุกคืนวัน
คะนึงนานใคร่ครวญคร่ำ...หวั่นรักบาน

อารมณ์ซ้อนซ่อนหลายชั้น...หวั่นใจนัก
กลีบความรักจักโรยรา...ใช่บุปฝาสวรรค์
ด้วยด่วนบานทะยานกลีบ...จีบดอกพลัน
ความรักนั้นซ่อนกลีบกลาย....ใช่คอยชม

พุดรำพันย้ำว่ารัก...มักซ่อนลึก
เหมือนโคถึกคึกพิโรธ...โฉดสุขสม
บ้างเหมือนกลีบพุดซ้อน...ซ่อนอกตรม
แมงเชยชมจนกลีบช้ำ...แล้วพลันลา

หวังเบ่งบานอย่างบุปผา...บูชาสรวง
งามเด็ดดวงดอกขาวนวล...ชวนเสน่หา
รู้หลบหลีกแมลงภู่ผึ้ง...มาคลึงคลา
รู้รักษากลีบพุดซ้อน....ซ่อนความงาม				
7 เมษายน 2546 00:40 น.

เนื่องด้วยข้าว..ที่พร่างพราวเป็นรองรวง..ภาคที่ ๓

ลำน้ำน่าน

ย่างเข้าเดือนสิบสอง...ล่องนารัก
ข้าวอุ้มรวงหน่วงหนัก...แล้วน้องขวัญ
ผ่านฤดูไร้คู่หนาว...ร้าวเนิ่นนาน
ให้โศกสัญยามสายัณ...นั้นเลือนลาฯ

หอมเอยหอมกระถิน...ที่ริมรั้ว
งามดอกบัวบานสร่าง...หลังพรรษา
คอยน้องนางแรมร้างทุ่ง...มุ่งคืนนา
ชมดาราอาบรวงข้าว...ที่พราวพรายฯ

เคยพลอดรักภิรมย์...กระทงฝัน
ในคืนนั้นอธิษฐานมั่น...จำได้ไหม
หวังร่วมเรียงเคียงพนอ...หอห้องใจ
สัญญาให้จะกลับมา...เมื่อหน้ารวงฯ

นี่ก็หนาวจวนจะสิ้น...ถิ่นท้องทุ่ง
ข้าวรำพึงรอน้ำค้าง...พร่างจากสรวง
อีกไม่นานทุ่งจะเหลือง...รวงเรื่อเรือง
เพ็ญเต็มดวงหนุ่มสาว...จะเว้ากลอนฯ

ฝนสั่งฟ้าเหมือนว่า...ท้องนาเศร้า
ระบมหนาวร้าวรันทด...อกกลัดหนอง
จากเย็นย่ำตะวันตก...นกคืนคอน
หาถิ่นนอนร่อนลงแล้ว...แถวทุ่งนาฯ

จวบดึกดื่นค่ำคืนนี้...พี่ยังตื่น
หอมระรื่นดอกจำปี...ที่ถวิลหา
จนดาวเลื่อนเดือนคล้อย..ลอยลับลา
รอแก้วตากลับถิ่นทอง...คล้องรวงเรียวฯ

ได้ยินเสียงพี่ครางครวญ...ด่วนรีบกลับ
เคียวเกี่ยวรักลับคมไว้...ให้น้องแก้ว
เพลงเกี่ยวข้าวกลองยาว...เพลงอีแซว
สุขเพริศแพร้วทุ่งสวรรค์...วันคืนนาฯ

..............................................
เสร็จจากงานหว่านไถและปักดำแล้ว ทุ่งนาเหมือนจะเหงาเศร้าลงไป
ด้วยเหตุที่สาวเจ้าไปหางานทำในเมืองกรุงฯ ..หนุ่มนาก็ยิ่งร้าวหนัก
ข้าวก็ออกรวงแล้ว ..รอน้องนางคืนมาร่วมกันเก็บเกี่ยว....เหมือนเช่นเคย
ท้องทุ่งจะงดงามได้อย่างใดหากไม่มีมือเรียวเกี่ยวรวง....				
6 เมษายน 2546 16:55 น.

ดอกไม้ให้คุณ.....

ลำน้ำน่าน

ขอมอบดอกไม้ในสวนนี้เพื่อมวลประชา....
จะอยู่แห่งไหนจะใกล้จะไกลจนสุดขอบฟ้า
ขอมอบความหวังดั่งดอกไม้ผลิ สุดไสวอาณาฯ
เป็นกำลังใจให้คุณ..เป็นกำลังใจให้เธอ....
เป็นสิ่งเสนอให้มา....
	ดวงตะวันทอแสง มิถอยแรงอัปรา...
	เป็นเปลวไฟที่ไหม้นาน....เป็นสายธารที่ชุ่มป่า
	เป็นแผ่นฟ้าทานทน.....
	ขอมอบดอกไม้ในสวนให้หอมอบอวลสู่ชน...
จงสบสิ่งหวังให้สมตั้งใจ..ให้คลายหมองหม่น
ก้าวต่อไปตราบชีวิตสุด.....ดุจกระแสชน..
เป็นกำลังใจให้คุณ....เป็นกำลังใจเธอ
เป็นสิ่งเสนอให้คุณ.

.
บทเพลงรักแสนหวาน.แสนดีในวันนี้แว่วหวานมาหลังฟ้าฝนที่กระหน่ำเมื่อคืน
ให้สดชื่นอาณา.....ยามเช้าตรู่ของวันหนึ่งในวสันตฤดู...
ที่หมู่มวลดอกไม้เบ่งบาน..สะพรั่ง...พร่างพราว 
ในสวนหลังบ้านเล็กๆ หลังเก่า.....หลังงาม
ที่เห็นเนินเขาสูงสุดเสียดฟ้า..ต้องแหงนคอตั้งบ่าถึงจะเห็น..ความงาม
ยอดภูเขาสูงและวิวทิวทัศน์อันตระการตา... ตระการใจ..ไม่รู้ลืมเลือน

ฉันลุกออกจากที่นอนในห้องเล็กๆ ทำด้วยไม้โอ๊กแผ่นสวย..เรียบงาม
ตรงหน้าต่างที่มีมะม่วงป่าพุ่มหนาแตกช่อดอกขึ้นคลุมต้น....
ทึบเทา หอมเย็นๆ....กับอรุณรุ่งของเช้านี้กับบรรยากาศที่สงบ..สวย
ณ บ้านเชิงเขาแห่งนี้...ที่ไกลแสนไกล..
และในโอ่งดินใบสวยหน้าบ้าน..ที่เอ่อเต็มท้นด้วยน้ำฝนที่ตกลงมาเมื่อคืน
ฉันล้างหน้าด้วยน้ำฝนที่เย็นฉ่ำ...
พาให้ดวงหน้าเย็นชื่นรู้สึกถึงความชุ่มฉ่ำ
น้ำฝนและดวงใจที่กำลังซาบซึ้งกับวันใหม่..ของฤดู
ที่กำลังย่างกลายมาให้ดำเนิน...ชีวิต...อย่างไม่มีหยุดยั้ง
กับชีวิตที่อิสระงาม เรียบง่ายและธรรดากับธรรชาติบริสุทธิ์..ไหวหวาน
เนิ่นนาน...ในความทรงจำ..

บทเพลงยังแว่วหวานมาคละเคล้ากับละอองหมอก...ที่ลอยต่ำ..อ้อยอิ่ง
อิงแอบกับเนินเขาสวยและสายธารสายงามหน้าบ้าน...เป็นม่านหมอก 
งดงามและเลือนราง..หลายๆ ความทรงจำลอยละล่องออกมาจากความรู้สึก
ในยามนี้.....

ณ วันนี้  โชคยังดีที่มีบทเพลงหวานและคุณค่าของธรรมชาติ ได้เป็นพลัง....
ให้กับดวงจิตรานร้าว..มาเนานาน...ร้าวรานฤดู
กับ 3 ปีที่ย้ายบ้านมาจากเมืองศิวิไลซ์...ติดสินใจปลดพันธา.. 
ขายที่ดินผืนงาม ทำเลดีๆ ที่กลางกรุงมาตามหาฝันที่กระจัดการจาย
ในความรู้สึก.ประคองดวงใจบอบช้ำแสนระทม..มานานบนหนทางชีวิต
ปลูกบ้านเล็กเล็กหลังนี้.....กระทัดรัด..พองาม..ให้ซ่อนตัวกลางหุบเขา
หวังฝากฝังกายฝังใจ...ไปกับแผ่นดินผืนนี้...
กับวันนี้ที่ได้ตระหนักชัดและพบเจอฝันและคนที่เป็นที่รักที่สุด..ในหัวใจ...
และจนตราบจนลมหายใจสุดท้าย....หยุดลง

ฉันนั่งบนสะพานไม้สนต้นกลม..หน้าบ้านหลังเล็กนี้...
ให้บรรยกาศยามอรุณรุ่ง...แสนงาม.....
สาดส่องเข้ามาบ่มหัวใจรัก หัวใจฝัน...ประโลมใจ...
กับอีกฝั่งเป็นสวนดอกไม้ป่า...บานสะพรั่ง....
อยากจะกำนัลดอกไม้ทุกดอกในสวนสวยแห่งนี้...
ฝากไปยังหัวใจทุกดวง...ในผืนแผ่นดินที่ไกลแสนไกล สุดหล้า.....
ให้เป็นพลัง..และกำลังใจ..ผู้ที่ไฟฝันอันงดงามกำลังจะริบหรี่ลง.....
เพื่อจุดประกายฝันอีกครั้ง...กับกำลังใจและดอกไม้ผลิบาน
ให้เข้มแข็งลุกขึ้นสู้และฟันฝ่าอุปสรรค...เพื่อฝันอันแสนดี..ที่รอคอย...
และให้เรียนรู้ว่า...ตราบใดยังมีรักและศรัทธาทั้งหลายในโลกหล้านี้
ตราบนั้นเรายังมีหวัง..ให้บทเพลงหวานที่กำลังล่องลอยมายามอรุณรุ่งนี้ 
เติมเชื้อไฟฝันของทุกหัวใจให้โชติช่วงและลุกโชน...
กระพือโหมอย่างไม่มีวันมอดดับ......ไปกับหนทางชีวิต
และอุปสรรคใดใดในโลกหล้า.....				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลำน้ำน่าน
Lovings  ลำน้ำน่าน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลำน้ำน่าน
Lovings  ลำน้ำน่าน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลำน้ำน่าน
Lovings  ลำน้ำน่าน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลำน้ำน่าน