31 พฤษภาคม 2550 01:24 น.

วิสาขปุณณมีนิรันดร์ (Everlasting Enlightenment)

ลำน้ำน่าน

พรมธารายามอรุณด้วยกรุ่นกลิ่น
อาบผืนดินด้วยเกสรละอองป่า
หยาดน้ำค้างพร่างสายพรายดารา
ภาวนาอยู่ระวางวิมานพฤกษ์

ดุจริมฝั่งสายธารนิมานรดี
เมทินีสว่างสรวงแม้นห้วงดึก
รับบรรเลงมนต์ธรรมอันล้ำลึก
ผลผลึกอภิญญาณ-ฌานภิญโญ

เมื่ออาทิตย์อุทัยแรกแตกดอกวับ
พร้อมบทเพลงวิหคขับจับกิ่งโผ
บัลลังก์อาสน์ใต้ร่มบรมโพธิ์
มนต์พุทธโทแว่วผ่านวิมานไพร

ทิวาวันวิสาขปุณณมี
มะลุลีผลิรับจากหลับใหล
หยดน้ำค้างหยาดเย็นค่อยเป็นไป
ว่อนไหวเหล่ารุกขชาติดาษอัมพร

ริมธารธรรมสายน้ำยามรุ่งเช้า
ใต้ร่มเงาวนาวัลย์บรรจถรณ์
โพธิสัตว์แสงประทับจับจีวร
พนันดรก็บรรสารทุกธารพราย

มธุปายาสข้าวทิพย์วิจิตรสรร
กรุ่นสุคันธ์สุชาดามาถวาย
เครื่องพลีกรรมอวลกลิ่นมิสิ้นวาย
โลกบาลร่วมเรียงรายรับพิธี

รัตนบัลลังก์นั่งภาวนา
เมื่อทิพย์ทองส่องหล้าพระโพธิ์ศรี
ทินกรร่อนเริงเวิ้งวารี
บารมีคลี่อาบทาบไพรวัลย์

สัตยาอธิษฐานลงธารน้ำ
อรุณยามฤกษ์ล่วงดั่งสรวงสรรค์
ถาดทองทวนลอยย้อยสาครครัน
ทวนกระแสเนรัญฯ เป็นมรรคา

ปฐมยามราตรีค่อยหรี่ล่วง
ยามโสมสรวงเสวยแสงแหล่งเวหา
สมาบัติสำเร็จแจ้งแห่งวิญญาญ์
ซึ่งปุพเพนิวาสา-นุสสติญาณ

มัชฌิมกาลล่วงผ่านทวารสอง
องค์สัมมาลุครรลองจักษุสาส์น
นิรมิตทิพย-จักขุญาณ
สรรพสัตว์เพรงกาลมาวางวาย

ปัจฉิมยามกาลสมัยใกล้รุ่งฤทธิ์
หยั่งพินิจปัจจยาการมินานหมาย
อริยสัจรู้แจ้งสำแดงกาย
คลายซึ่งปฏิจจสมุปบาทอวิชชา

เมื่อแสงทองทอรับจับระบัด
โพธิสัตว์สดับแจ้งแรงตัญหา
ตรัสรู้ลุพระสัพพัญญุตา
ดับสูญสิ้นกิเลสกล้าอัตตามาร

มหัศจรรย์อุบัติซ้องมรรคผล
หมื่นปฐพีดลลั่นธาตุปราชญ์สถาน
ทศพลเปล่งสีหนาทปฐมทาน
ใต้ร่มโพธิญาณอุรุเวฬาฯ

ทิพย์ดนตรีบรรเลงเพลงอภิวาท
เอนกชาติสังสารังองค์คาถา
สัปบุรุษตรัสรู้แล้วแก้วสัมมาฯ
พุทธธาดาโลกนาถทุกชาติภพ

----------------------------------
ยามเช้าที่ดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง 
 ณ ริมฝั่งน้ำเนรัญชราฯ  อุรุเวฬาเสนานิคม
ไม่มีสรรพสิ่งไหนจะเงียบงามเท่ากับภิกษุนั่งบำเพ็ญภาวนา
สงบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติภายในและภายนอก
ในยามที่จิตประภัสสรนั้นย่อมได้มาซึ่งปัญญาญาณ

พระจันทร์ครึ่งเสี้ยวไม่แจ่มฟ้า วิสาขาบูชากำลังจะมาถึง
ทำให้ข้าพเจ้านึกประหวัดไปถึงบรรยากาศริมฝั่งน้ำเนรัญชรา
ณ ตำบลอุรุเวฬาเสนานิคม ดินแดนพุทธคยา ครั้งสมัยพุทธกาล
พร้อมกับบทเพลงบรรเลงดนตรีสายธารธรรม อุรุเวฬาเสนานิคม
มหาอุบาสิกานามสุชาดา และเพลงบรรเลงพระโพธ์แก้ว
กำลังบรรเลงในยามนี้อย่างเงียบลึกในห้วงใจ

การเดินทางของใจที่เที่ยงแท้เยี่ยงดวงหทัยขององค์พระสัมมาฯ 
 ตั้งแต่บำเพ็ญเพียรภาวนา ณ รัตนบัลลังก์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ 
จวบจนลุวิสาขปุณณมีกาล 

มหาอุบาสิกานามสุชาได้นำข้าวมธุปายาสถวาย ทรงอธิฐานลอยถอดทอง
ลงห้วงน้ำเนรัญชรา ผจญหมู่มาร ตลอดจนตรัสรู้เป็นพระโพธิสัตว์  
ความตอนหนึ่งในพุทธประวัติบรรยาย ณ เวลาตรัสรู้ในยามรุ่งอรุณไว้ว่า

"ในขณะนั้น  ก็พอเป็นเวลาที่แสงทองแห่งอรุณทอแสงขึ้นจับขอบฟ้า 
พระบรมโพธิสัตว์ก็ตรัสรู้พระสัพพัญญุตญาณ  ดับสูญสิ้นกิเลสาสวะ
เป็นสมุจเฉทปหาน พร้อมด้วยความมหัศจรรย์ หมื่นโลกธาตุบันลือลั่น
ด้วยการหวั่นไหวแห่งปฐพีดล  พระทศพลจึงเปล่งสีหนาทเป็นปฐมอุทาน
เยาะเย้ยตัณหาด้วยพระคาถาว่า อเนกชาติสํสารํ.."

การตรัสรู้เป็นพระโพธิสัตว์บ่งนำถึงการตั้งมั่นของดวงหทัยที่เที่ยงแท้
ตลอดการบำเพ็ญเพียรภาวนา 

-------------------------------------------------
ลำน้ำน่าน บุรุษแห่งสายน้ำนิรันดร์
รจนาบูชาในวันเพ็ญ ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖


				
23 พฤษภาคม 2550 14:43 น.

เบิกรุ่งพิกุลระบายหล้า (Virtue of Dawning Flower)

ลำน้ำน่าน

โคลงสี่สุภาพ
       (๑) พุทธคุณไตรรัตน์ล้ำ..............รวีอรุณ
พุทธุปบาทกาลบุญ............................เบิกฟ้า
พุทธศาสนิกละมุน.............................พุทธชาด สยามนอ
พุทธบุตรโชติชวาลหล้า......................สว่างเพี้ยงพันแสงฯ

      (๒) เพชรพิกุลเกล็ดแก้วร่วง.........พะไลทราย
พันพร่างธรรมทองพราย.....................พิจิตรฟ้า
กลีบหล่นร่วงโรยวาย..........................วัฏจักร
เบิกรุ่งบุญระบายหล้า.........................โบสถ์เบื้องระเบียงวิหารฯ

กาพย์ยานี ๑๑

อ่อนหวานแลอ่อนไหว
บานละไมในริ้วลม
ดอกไม้ไว้แย้มชม
กลิ่นชื่นสมมิสิ้นไป

ขจรร่อนขจาย
ร่วงลานทรายพรายบ่วงใบ
พรมเนินเพิ่งกวาดใหม่
หอมลมไล้ใกล้โบสถ์พุทธ

พิกุลบุญราศี
แทนความดีพลีพิสุทธิ์
ร่วงลงลานวิมุตติ
แทนสายหยุดหยุดสายลา

ดอกไม้สมุนไพร
โบราณไขแต่ใดมา
ปลูกไว้ในวัดวา
เกสรห้าเครื่องยาไทย

เหลืองนวลชวนให้หอม
ภู่ผึ้งตอมห่อนกรายไหน
เขียวแซมแย้มเรือนใบ
ดอกดวงใจก็แย้มตาม

มาลัยดอกพิกุล
ร้อยพวงบุญกรุ่นทุกยาม
คนเฒ่าเล่าลือนาม
ร้อยแสนงามพุทธบูชา

ดอกไม้คล้ายรูปจักร
ร่วงลงตักรักบ่ลา
ดอกตูมเต่งแตกตา
มินานช้าจักหล่นพราย

ผลิบานตระการต้น
ดอกอำพนบ่วางวาย
เหี่ยวแห้งแล้งเรือนกาย
หอมบ่หน่ายสนิทนาน

หอมธรรมแสนล้ำเลิศ
หอมประเสริฐเทิดผสาน
หอมกลิ่นอภิญญาณ
หอมนิพพานเคล้าพิกุล

พรรษาล่วงลาเลย
ดอกไม้เอยยังเกื้อหนุน
คล้องร้อยสร้อยบ่วงบุญ
คล้องค่าคุณไว้ด้วยกัน

ร่มไม้ในลานวัด
สงบสงัดมิแปรผัน
ระหงในวงศ์วรรณ
พิกุลพรรณพุทธผกา

-----------------------------
เมื่อลมฝนล่องไล้สวนรุกขชาติในวัดป่า
ดอกพิกุลต่างก็โปรยดอกลงแต่งแต้มลานทรายกวาดใหม่
กลิ่มหอมดอกพิกุลนั้น หอมร่ำ อบอวลไปทั่วอาณาบริเวณ
แลเสียงขลุ่ยแว่วหวานดังมาในสายลมเมื่ออรุณเบิกฟ้า

ในมโนคติเนิ่นนานของข้าพเจ้านั้น 
ดอกพิกุลคือดอกไม้แห่งพุทธศาสนา
คนเฒ่าคนแก่โบราณมักใช้เวลาบั้นปลายชีวิตอยู่กับวัด
กวาดลานทรายและร้อยดอกพิกุลเพื่อเป็นมาลัยพุทธบูชา
ภาพหญิงชรานุ่งซิ่นนั่งเก็บดอกพิกุลในวัดป่าแห่งหนึ่ง
ยังคงงดงามตราตรึงอยู่ในความรู้สึก

ดอกไม้หอมที่แพทย์แผนโบราณไทยเราในสารบบ
เป็นเกสรทั้งห้า ได้แก่ ดอกพิกุล ดอกมะลิ ดอกสารภี 
ดอกบุนนาค และ ดอกบัวหลวง

ห้วงพรรษาจะเวียนมาแล้ว ลองหาเวลาเดินไปตามวัดป่าต่างๆ
โชคดีเจอดอกพิกุล แล้วเราจะพบว่า ดอกพิกุลนั้น
กำลังบานพรายแต่งต้นงดงามอยู่ท่ามกลางวงล้อม
แห่งพุทธธรรมทั้งปวง

--------------------------------------------------------
ภาพดอกพิกุลบนใบสักทอง 
ถ่ายโดย ม.ล.ปรมาภรณ์ เทวกุล
สถานที่ วัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลำน้ำน่าน
Lovings  ลำน้ำน่าน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลำน้ำน่าน
Lovings  ลำน้ำน่าน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลำน้ำน่าน
Lovings  ลำน้ำน่าน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลำน้ำน่าน