14 กุมภาพันธ์ 2552 19:17 น.

"รักที่มั่นคง"

ลุงแทน

รักที่มั่นคง
อย่าเรียกร้อง "รักที่มั่นคง" จากคนอื่นมากกว่าตัวเอง

    เมื่อเราเริ่มต้นมีความรัก ทุกอย่างมันก็เหมือนกับถูกกำหนดปลายทางเอาไว้แล้วโดยคน 2 คน . .
ซึ่งไม่มีใครล่วงรู้หรอกว่า มันจะสั้นจะยาวแค่ไหน
แต่ถ้าเป็นไปได้ เราก็คาดหวังว่า อยากให้ปลายทางหรือจุดสิ้นสุดนั้นยืนยาว
ไปจนถึงวันที่ใครคนหนึ่งได้ตายจากไป . .

บางคนโชคดีที่ความคาดหวังกับความจริง เป็นเรื่องเดียวกัน
แต่สำหรับบางคนไม่ได้เป็นเช่นนั้น
แต่นั่น . . ก็ไม่ได้หมายความว่า . .
ความรักของคุณหมดฤดูกาลแล้วเสียเมื่อไหร่

ฉันรู้ว่า . . มันไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ที่จะทำใจยอมรับความจริงอันโหดร้ายที่ผ่านมา
แต่ถ้าเราไม่สามารถหันหลังให้อดีต เพื่อมองปัจจุบัน . .
เราก็จะเป็นคนที่จมอยู่กับอดีตที่มืดมัวไปตลอดไม่ยอมไปไหน . . ชีวิตยังต้องเดินหน้าต่อไป

เราไม่อาจกำหนดได้ว่า หลังจากนี้ต่อไป ชีวิตเราจะเป็นอย่างไร
เหมือนกับที่เราก็ไม่รู้หรอกว่า หลังจากความรักครั้งแรกได้ผ่านพ้นไป . .
อีกนานไหม? ความรักครั้งใหม่จะเดินทางเข้ามา

แต่ก็ไม่อยากให้คุณสิ้นหวัง . .
เพราะบางทีก็อาจที่เป็นไปได้เหมือนกัน ที่โชคชะตาของเราอาจได้ถูกกำหนดมาแล้ว
ให้เราต้องผิดหวังกับคนๆ หนึ่ง เพื่อมาเจอกับใครอีกคนหนึ่ง
ที่เขาอาจกลายเป็น "รั ก แ ท้" ของคุณก็ได้ . . ใครจะรู้

(ไม่ได้ต้องการจะบอกกับคุณว่า . .ให้นั่งรอคอยความรักแบบเป็นบ้าเป็นหลัง
เพราะความรักที่สมบูรณ์มั่นคงแข็งแรงนั้น . .
ควรเกิดขึ้นจากตัวเอง มากกว่าการเรียกร้องจาก " ค น อี ก ค น "
และสิ่งที่อยากบอกคุณก็คือ “ทุกสิ่งในชีวิต . . เป็นเรื่องมหัศจรรย์ได้ทั้งนั้น”)				
13 กุมภาพันธ์ 2552 15:05 น.

ภาษา "บอกรักทั่วโลก"

ลุงแทน

.. ภาษาบอกรักทั่วโลก ..

    *
      Afrikaans - Ek het jou lief
    *
      Albanian - Te dua
    *
      Arabic - Ana behibak (to male)
    *
      Arabic - Ana behibek (to female)
    *
      Armenian - Yes kez sirumen
    *
      Bambara - M'bi fe
    *
      Bangla - Aamee tuma ke bhalo aashi
    *
      Belarusian - Ya tabe kahayu
    *
      Bisaya - Nahigugma ako kanimo
    *
      Bulgarian - Obicham te
    *
      Cambodian - Soro lahn nhee ah
    *
      Cantonese Chinese - Ngo oiy ney a
    *
      Catalan - T'estimo
    *
      Cheyenne - Ne mohotatse
    *
      Chichewa - Ndimakukonda
    *
      Corsican - Ti tengu caru (to male)
    *
      Creol - Mi aime jou
    *
      Croatian - Volim te
    *
      Czech - Miluji te
    *
      Danish - Jeg Elsker Dig
    *
      Dutch - Ik hou van jou
    *
      English - I love you
    *
      Esperanto - Mi amas vin
    *
      Estonian - Ma armastan sind
    *
      Ethiopian - Afgreki'
    *
      Faroese - Eg elski teg
    *
      Farsi - Doset daram
    *
      Filipino - Mahal kita
    *
      Finnish - Mina rakastan sinua
    *
      French - Je t'aime, Je t'adore
    *
      Gaelic - Ta gra agam ort
    *
      Georgian - Mikvarhar
    *
      German - Ich liebe dich
    *
      Greek - S'agapo
    *
      Gujarati - Hoo thunay prem karoo choo
    *
      Hiligaynon - Palangga ko ikaw
    *
      Hawaiian - Aloha wau ia oi
    *
      Hebrew - Ani ohev otah (to female)
    *
      Hebrew - Ani ohev et otha (to male)
    *
      Hiligaynon - Guina higugma ko ikaw
    *
      Hindi - Hum Tumhe Pyar Karte hae
    *
      Hmong - Kuv hlub koj
    *
      Hopi - Nu' umi unangwa'ta
    *
      Hungarian - Szeretlek
    *
      Icelandic - Eg elska tig
    *
      Ilonggo - Palangga ko ikaw
    *
      Indonesian - Saya cinta padamu
    *
      Inuit - Negligevapse
    *
      Irish - Taim i' ngra leat
    *
      Italian - Ti amo
    *
      Japanese - Aishiteru
    *
      Kannada - Naanu ninna preetisuttene
    *
      Kapampangan - Kaluguran daka
    *
      Kiswahili - Nakupenda
    *
      Konkani - Tu magel moga cho
    *
      Korean - Sarang Heyo
    *
      Latin - Te amo
    *
      Latvian - Es tevi miilu
    *
      Lebanese - Bahibak
    *
      Lithuanian - Tave myliu
    *
      Malay - Saya cintakan mu / Aku cinta padamu
    *
      Malayalam - Njan Ninne Premikunnu
    *
      Mandarin Chinese - Wo ai ni
    *
      Marathi - Me tula prem karto
    *
      Mohawk - Kanbhik
#
Moroccan - Ana moajaba bik
#
Nahuatl - Ni mits neki
#
Navaho - Ayor anosh'ni
#
Norwegian - Jeg Elsker Deg
#
Pandacan - Syota na kita!!
#
Pangasinan - Inaru Taka
#
Papiamento - Mi ta stimabo
#
Persian - Doo-set daaram
#
Pig Latin - Iay ovlay ouyay
#
Polish - Kocham Ciebie
#
Portuguese - Eu te amo
#
Romanian - Te ubesk
#
Russian - Ya tebya liubliu
#
Scot Gaelic - Tha gradh agam ort
#
Serbian - Volim te
#
Setswana - Ke a go rata
#
Sign Language - ,,,/ (represents position of fingers when signing'I Love You')
#
Sindhi - Maa tokhe pyar kendo ahyan
#
Sioux - Techihhila
#
Slovak - Lu'bim ta
#
Slovenian - Ljubim te
#
Spanish - Te quiero / Te amo
#
Swahili - Ninapenda wewe
#
Swedish - Jag alskar dig
#
Swiss-German - Ich lieb Di
#
Tagalog - Mahal kita
#
Taiwanese - Wa ga ei li
#
Tahitian - Ua Here Vau Ia Oe
#
Tamil - Nan unnai kathalikaraen
#
Telugu - Nenu ninnu premistunnanu
#
Thai - Chan rak khun (to male)
#
Thai - Phom rak khun (to female)
#
Turkish - Seni Seviyorum
#
Ukrainian - Ya tebe kahayu
#
Urdu - mai aap say pyaar karta hoo
#
Vietnamese - Anh ye^u em (to female)
#
Vietnamese - Em ye^u anh (to male)
#
Welsh - 'Rwy'n dy garu
#
Yiddish - Ikh hob dikh
#
Yoruba - Mo ni fe				
13 กุมภาพันธ์ 2552 14:59 น.

คำบอกรัก "ภาษาต่าง"

ลุงแทน

Valentine' s Knowledge
 
  	
.. คำบอกรักภาษาต่าง ๆ ..

    *
      ภาษาไทย เรียกว่า ฉัน รัก คุณ
    *
      ภาษาอังกฤษ เรียกว่า ไอ เลิฟ ยู (I love you)
    *
      ภาษาพม่า เรียกว่า จิต พา เด (chit pa de)
    *
      เขมร เรียกว่า บอง สรัน โอน (Bon sro Iahn oon)
    *
      เวียดนาม เรียกว่า ตอย ยิ่ว เอ๋ม (Toi yue em)
    *
      มาเลเซีย เรียกว่า ซายา จินตามู (Saya cintamu)
    *
      อินโดนีเซีย เรียกว่า ซายา จินตา ปาดามู (Saya cinta padamu)
    *
      ฟิลิปปินส์ เรียกว่า มาฮัล กะ ตา (Mahal ka ta)
    *
      ญี่ปุ่น เรียกว่า คิมิ โอ ไอ ชิเตรุ (Kimi o ai shiteru)
    *
      เกาหลี เรียกว่า โน รุย สะรัง เฮ (No-rui sarang hae)
    *
      เยอรมัน เรียกว่า อิคช์ ลิบ ดิกช์ (Ich Liebe Dich)
    *
      ฝรั่งเศส เรียกว่า เฌอแตม (Je t''''aime)
    *
      ฮอลแลนด์ (ดัชต์) เรียกว่า อิค เฮา ฟาวน์ เยา (Ik hou van jou)
    *
      สวีเดน เรียกว่า ย็อก แอลสการ์ เด (Jag a Lskar dig)
    *
      อิตาลี เรียกว่า ติ อโม (Ti amo)
    *
      สเปน เรียกว่า เตอ เควียโร (Te quiero)
    *
      รัสเซีย เรียกว่า ยาวาส ลุยบลิอู (Ya vas Liubliu)
    *
      โปรตุเกส เรียกว่า อโม-เท (Amo-te)
    *
      จีนกลาง เรียกว่า หว่อ อ้าย หนี่ (Wo ai ni)
    *
      จีนแคะ เรียกว่า ไหง อ้อย หงี (Ngai oi ngi)
    *
      ฮกเกี้ยน เรียกว่า อั๊ว ไอ้ ลู่ (Auo ai Lu)
    *
      ตุรกี เรียกว่า เซนี เซวีโยรัม (Seni Seviyorum)				
13 กุมภาพันธ์ 2552 14:38 น.

วันแห่งความรัก

ลุงแทน

..........คัลอกมาจากเขาอีกที.........

เคยพลาดพลั้งและทำผิดไป เคยเสียใจเมื่อตอนที่สาย
koie plaat-plang lae tam pit bpai koie sia jai meua dton tee saai

ความรักที่มันดูแลไม่ได้ สุดท้ายก็ต้องเสียใจ
kwaam rak tee man doo lae mai daai soot taai gor dtong sia jai

จนพบเธอที่เดินเข้ามา เรียนรู้ว่าในวันต่อไป
jon pop ter tee dern kao maa rian roo waa nai wan dtor bpai

ทุกวันจะมีความหมาย ทุกวันจะอยู่เคียงข้างเธอ
took wan ja mee kwaam maai took wan ja yoo kiang kaang ter

* วันวาเลนไทน์ มันคงก็เป็นวันไม่สำคัญ อีกต่อไป
wan-waa-len-tai man kong gor bpen wan mai sam-kan eek dtor bpai

เป็นวันธรรมดา มันก็คงเป็นวันไม่พิเศษ สำหรับฉัน
bpen wan tam-ma-daa man gor kong bpen wan mai pi-set sam-rap chan

** วันแห่งความรัก ฉันมีให้เธอทุกวัน
wan haeng kwaam rak chan mee hai ter took wan

ไม่ว่าอาทิตย์ถึงจันทร์ ไม่ว่าจะวันไหนๆ
mai waa aa-tit teung jan mai waa ja wan nai-nai

ดอกไม้ ช่วยรับไปจากฉันที ให้เธอคนที่แสนดี
dok maai chuay rap bpai jaak chan tee hai ter kon tee saen dee

หนึ่งปีไม่มีครั้งเดียว ไม่เกี่ยวจะเป็นวันไหน ยังไงก็รักเธอ
neung bpee mai mee krang dieow mai gieow ja bpen wan nai yang ngai gor rak ter

เคยรู้ตัวเป็นคนปากแข็ง รักแล้วไม่แสดงออกมา
koie roo dtua bpen kon bpaak kaeng rak laew mai sa-daeng ok maa

ความหลังคอยเตือนให้รู้ว่า อย่าทำเมื่อตอนเสียไป
kwaam lang koi dteuan hai roo waa yaa tam meua dton sia bpai

คำว่ารักแค่เพียงหนึ่งคำ พูดซ้ำๆพูดมันให้ชิน
kam waa rak kae piang neung kam poot sam-sam poot man hai chin

ทุกวันเธอจะได้ยิน กับคำว่าฉันรักเธอ
took wan ter ja dai-yin gap kam waa chan rak ter

(ซ้ำ *, **)

วันแห่งความรัก ฉันมีให้เธอทุกวัน
wan haeng kwaam rak chan mee hai ter took wan

ไม่ว่าอาทิตย์ถึงจันทร์ ไม่ว่าจะวันไหนๆ
mai waa aa-tit teung jan mai waa ja wan nai-nai

ดอกไม้ ช่วยรับไปจากฉันที ให้เธอคนที่แสนดี
dok maai chuay rap bpai jaak chan tee hai ter kon tee saen dee

หนึ่งปีไม่มีครั้งเดียว ไม่เกี่ยวจะเป็นวันไหน
neung bpee mai mee krang dieow mai gieow ja bpen wan nai

ก็รัก ฉันมีให้เธอทุกวัน
gor rak chan mee hai ter took wan

ไม่ว่าอาทิตย์ถึงจันทร์ ไม่ว่าจะวันไหนๆ
mai waa aa-tit teung jan mai waa ja wan nai-nai

ดอกไม้ ช่วยรับไปจากฉันที ให้เธอคนที่แสนดี
dok maai chuay rap bpai jaak chan tee hai ter kon tee saen dee

หนึ่งปีไม่มีครั้งเดียว ไม่เกี่ยวจะเป็นวันไหน ยังไงก็รักเธอ
neung bpee mai mee krang dieow mai gieow ja bpen wan nai yang ngai gor rak te				
5 กุมภาพันธ์ 2552 22:34 น.

ตำนาน วาเลนไทน์

ลุงแทน

ได้กลับมาเอาเอกสารที่ลืม เลยแวะมาสักหน่อยก่อนไปต่อ ในวันรุ่งแห่งอุษา มาเยือน


ตำนาน วาเลนไทน์ ทำไม ? วันวาเลนไทน์ หรือ วันแห่งความรัก ต้องเป็น วันที่ 14 กุมภาพันธ์

วันวาเลนไทน์คืออะไร ? และเกิดขึ้นได้อย่างไร?

วาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรักทำไมต้องเป็นวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นคำถามที่น่าสงสัยใช่ไหม มีเกร็ดความรู้

เรื่อง วันวาเลนไทน์ มาฝากติดตามชมได้เลย วาเลนไทน์ (Valentine) คือวันที่ระลึกถึง นักบุญเซนต์ วาเลนไทน์ (Saint Valentine)ผู้เปี่ยมไปด้วยความรักและความปรารถนาดี ต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริงแต ่เขาต้องจบชีวิตลงด้วยการรับโทษประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 หรือเมื่อประมาณ 1,728 ปีล่วงเลยมาแล้ว ในจักรวรรดิโรมัน

ประวัติความเป็นมาของเรื่องนี้ เกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 3 มีผู้นำคริสเตียนคนหนึ่งชื่อ "วาเลนตินัส" เขาเป็นคนที่มีความรักและความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์มาก โดยทุก ๆ วันเขาจะแอบนำอาหารและของใช้ที่จำเป็น ไปวางไว้ประตูหน้าบ้านของคนยากจนโดยไม่ให้คนเหล่านั้นรู้ ซึ่งในสมัยนั้นนะคะ ศาสนาคริสต์ยังไม่เป็นที่ยอมรับในจักรวรรดิโรมัน และถือว่าใครที่นับถือศาสนาคริสต์ จะมีความผิดร้ายแรงมาก พวกคริสเตียนจึงถูกข่มเหงและทารุณกรรมอย่างหนักเพื่อบังคับให้เลิกเป็น คริสเตียน ใครที่ไม่ยอมเลิกนับถือคริสต์จะถูกทรมานและฆ่าทิ้ง วาเลนตินัส ก็รวมอยู่ในกลุ่มขบวนการถูกขู่เข็ญและทรมานบังคับให้เลิกนับถือศาสนาคริสต์ แต่เขาไม่ยอมจึงถูกจับเข้าคุก ในข้อหาเป็นคริสเตียน

ใน ขณะที่เขาถูกจับขังคุกนั้น ก็พบรักกับสาวตาบอดซึ่งเธอเป็นลูกสาวของผู้คุมในนั้น และด้วยความรักและคำอธิษฐานของเขา พระเจ้าได้ทรงโปรดให้ตาของคนรักของเขาซึ่งเธอตาบอด หายเป็นปกติ จากเหตุการณ์นี้เองจึงทำให้ผู้คุมและครอบครัวของเขาหันมานับถือศาสนาคริสต์ เมื่อความนี้นี้เองรู้ถึงจักพรรดิคลอดิอุสที่ 2 ของโรม พระองค์ทรงกริ้วมาก สั่งให้ลงโทษวาเลนตินัส อย่างหนักด้วยการโบยและนำไปประหารชีวิตด้วยการตัดศีรษะ

ใน คืนสุดท้ายก่อนที่เขาจะถูกนำไปประหารนั้น เขาได้เขียนจดหมายสั้น ๆ เป็นการอำลาส่งไปให้หญิงคนรัก ของเขา และลงท้ายในจดหมายว่า "จากวาเลนไทน์ของเธอ" รุ่งขึ้นของเช้าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 วาเลนตินัส ก็ถูกนำไปตัดศีรษะ และเอาศพไปฝังไว้ที่เฟลมิเนี่ยนเวย์ซึ่งภายหลังมีการสร้างโบสถ์หลังใหญ่ ทัคร่อมสุสานของเขาไว้เพื่อเป็น อนุสรณ์รำลึกถึงชีวิตและความรักอันยิ่งใหญ่ของเขา คนทั่วไปประทับใจกับความรักของเขาจึงยึดถือเอาวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็น "วันวาเลนไทน์" ภาษาอังกฤษเรียกว่า Saint Valentine''s Day หรือ Valentine''s Day หรือวันแห่งความรัก ซึ่งต่อมาได้นิยมแพร่หลายไปทั่วยุโรปและอเมริกา และเข้ามาในทวีปเอเชียด้วย


แล้วทำไม? วันวาเลนไทน์ต้องให้ดอกกุหลาบด้วยนะ...สงสัยจัง...

ด้วย ความที่กุหลาบมีมาตั้งแต่สมัยโบราณกาลแล้ว จึงทำให้ความสวยงามของดอกและกลิ่นอันชวนพิสมัยของราชินีแห่งดอกไม้นี้  เป็นที่เลื่องลือมาช้านาน และล้วนกล่าวถึงความงามเป็นสื่อที่แสดงถึงความสุข ความมีไมตรีจิต ความน่ารักความสวยงาม การบูชา และการเกี้ยวพาราสี ดังนั้น กุหลาบจึงเป็นเสมือนตัวแทนแห่งความรัก และความอมตะ จนมีตำนานกล่าวขานกันต่าง ๆ นานา ตั้งแต่สมัยกรีก ตำนานเล่าว่า "คลอรีส" เทพธิดาแห่งดอกไม้ ได้บันดาลให้ร่างของนางไม้กลายเป็นกุหลาบ และยกให้เป็นราชินีของดอกไม้ จากนั้นต่อมาก็มีการมอบดอกกุหลาบแก่ "อีรอส" ลูกชาย ซึ่งเป็นเทพแห่งความรัก

ส่วน ในศาสนาคริสต์เชื่อกันว่า ในสมัยที่พระเยซูถูกตรึงไม้กางเขนอยู่นั้น พระโลหิตได้ไหลหยดลงบนต้นหญ้ามอสส์และได้บังเกิดเป็นต้นกุหลาบที่มีดอกสีแดง สด จึงมีการเรียกขานกุหลาบชนิดนี้ว่า "กุหลาบมอสส์" นอกจากนี้ยังมีการสู้รบกันระหว่าง 2 ตระกูลใหญ่ คือราชวงศ์ยอร์ค ซึ่งใช้สัญลักษณ์เป็นดอกกุหลาบขาว และราชวงศ์แลงแคสเตอร์ ใช้ดอก
กุหลาบ แดงเป็นสัญลักษณ์ และได้เรียกสงครามครั้งนี้ว่า "สงครามกุหลาบ" ซึ่งเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 1948-2028 และในสมัยต่อมา พวกกุหลาบแดงได้มาแต่งงานกับพวกกุหลาบขาว ซึ่งในปัจจุบันกุหลาบได้ถือเป็นดอกไม้ประจำชาติของชาวอังกฤษไป นี่แหละค่ะถ้าทุกคนมีความรักให้แก่กันแล้วโลกจะสงบสุขแน่นอนค่ะ : )

เรามาดูกันในประเทศไทยบ้างค่ะ
มี เรื่องราวเล่าขานถึงความงดงามของดอกกุหลาบไว้โดยปรากฏอยู่ในพระราชนิพนธ์ ของพระมหาธีราชเจ้า รัชกาลที่ 6 ในเรื่อง "มัทนะพาธา" หรือ "ตำนานดอกกุหลาบ" ซึ่งได้ปรากฏชัดว่าดอกกุหลาบได้กลายเป็นดอกไม้ที่นิยมไปทั่วโลก

เรามาย้อนอดีต...กุหลาบ...ราชินีแห่งบุปผชาติกันดูไหม
ด้วย ความโดดเด่นของรูปโฉมอันพิลาส กอปรกับกลิ่นหอมที่มีเสน่ห์เย้ายวนชวนให้น่าหลงไหล กุหลาบจึงเป็นดอกไม้ที่นิยมมาตั้งแต่อดีตกาล โดยสันนิษฐานว่า กุหลาบถือกำเนิดมาตั้งแต่สมัย Taceous หรือเมื่อประมาณ 40 ล้านปีมาแล้ว โดยดูได้จากซากฟอสซิลที่ขุดพบโดยนักวิทยาศาสตร์ แต่หลักฐานที่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดแน่นอนจะอยู่ในราว 5,000 ปี ที่ผ่านมาค่ะ ตั้งแต่สมัย สุเมเรียน (Sumerians)โดยนักโบราณคดีชาวอังกฤษได้ขุดค้นพบน้ำที่มีกลิ่นกุหลาบในหลุม ศพของกษัตริย์ในสมัยนั้น นอกจากนี้ยังค้นพบเครื่องประดับของชาวสุเมเรียน ซึ่งมีรูปทรงเป็นดอกกุหลาบทำด้วยทองคำ

แต่ ในบางแหล่งได้กล่าวไว้ว่า กุหลาบมีกำเนิด ณ เทือกเขาคอเคซัส ประเทศเปอร์เซีย หรืออิหร่านในปัจจุบันและมีชื่อเรียกดอกไม้ชนิดนี้ว่า "คุล" Gol หรือ Gul ซึ่งแปลว่า ดอกไม้ และคำว่า "คุลาพ" หมายถึง กุหลาบอย่างที่คนไทยเราเรียกกัน

สำหรับ ประเทศไทยไม่ทราบแน่ชัดว่า มีกุหลาบมาตั้งแต่สมัยใด หากแต่มีการบันทึกของราชทูตฝรั่งเศส ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ว่าได้เห็นดอกกุหลาบอยู่ในกรุงศรีอยุธยา และอีกหลายแห่งที่ปรากฎหลักฐานว่า มีกุหลาบเข้ามาเมืองไทยแล้วก็คือ กาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก ซึ่งเป็นพระราชนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ที่ได้กล่าวถึงความงามของ
ดอกกุหลาบไว้ด้วย

รูปร่างและสีสันของดอกกุหลาบ...แปลความหมายได้

ดอก กุหลาบนั้นทั้งลักษณะและสีสันของมันสามารถสื่อความหมายถึงคนที่เรามอบให้ ได้ว่าอย่างไร ที่เราทุกคนเรียกมันว่า "ภาษาดอกไม้" อย่างไรไงคะ เรามาดูกันเลยนะคะว่าดอกกุหลาบแต่ละแบบ แต่ละสีสื่อความหมายไว้ว่าอย่างไรกันบ้าง

กุหลาบแดง หมายถึง ความรักและความปรารถนา เป็นดอกไม้ของคิวปิดและอีรอส (คุณกามเทพไง) เป็นสิ่งนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับ
กุหลาบขาว หมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ ความเงียบสงบ และนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับเช่นเดียวกับดอกกุหลาบแดง
กุหลาบสีชมพู หมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์ที่สุด
กุหลาบสีเหลืองหรือสีส้ม หมายถึง ความรักร้อนแรงและยาวนาน ไม่จืดจาง หวานชื่น และมีความสุข
กุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย
กุหลาบบาน หมายถึง ความรักที่กำลังเบ่งบาน ความอ่อนหวาน สดชื่น

เป็นอย่างไรบ้าง หวังว่าคุณคงหายสงสัยแล้วนะคะว่าทำไมวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปีจึงเป็นวันวาเลนไทน์

และทำไมต้องให้ดอกกุหลาบในวันนั้น อ้อ ประเพณีของหนุ่ม-สาวชาวอาทิตย์อุทัย หรือชาวญี่ปุ่นนั่นเองจะแตกต่างกับ ชาติ
อื่น ๆ คือในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ หรือ วันวาเลนไทน์ สาว ๆ จะเป็นคนให้ ช็อกโกเลต (Chocolate) รูปหัวใจขนาดเล็ก-ใหญ่ แล้วแต่ความชอบน้อย-มาก ตัวเองทำเองแก่หนุ่ม ๆ ที่เธอชอบ เรียกว่าวันนั้นหนุ่ม ๆ ยิ้มกันแก้มปริกันเป็นแถวเลย หลังจากวันนั้นอีกหนึ่งเดือนคือวันที่ 14 มีนาคมหนุ่ม ๆ ก็จะมอบดอกกุหลาบ เพื่อเป็นการขอบคุณสาวผู้				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟลุงแทน
Lovings  ลุงแทน เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงลุงแทน