25 กุมภาพันธ์ 2550 02:50 น.

ทำไม...ฉันหลับไม่ลง...

วิภาวดี

เวลานี้            ฉันเศร้า             ตีสองเศษ

นี่อาเพศ         อย่างไร              ใจฉันนี่

นอนไม่หลับ    ข่มตา                  เสียเปล่าปลี่

ตัวเรานี้          ช้ำหนัก              รักเศร้าเอย




เมื่อก่อนเคย        พบรัก          ใจเป็นสุข

วันนี้ทุกข์             เป็นไป          รวดเร็วนัก

อยากบอกเพื่อน   บอกใคร       ใจจมปัก

ใจต้องพัก            ช้ำหนัก          ซบอกใคร




นั่งเหม่อลอย       เหมือนบ้า       อยู่คนเดียว

หันแลเหลียว      ซ้ายขวา          บ้าใบ้นัก

โอ้ความรัก          ทำฉัน            เหมือนถูกกัก

อยากเลิกรัก        แต่ใจ           ไม่เหมือนคิด



นี่ฉันผิด               อีกแล้ว         หรือเธอจ๋า

ถึงต้องมา              นั่งเศร้า       เดียวดายจิต

ไม่ฟูมฟัก             เธอไป          ฉันนั่งคิด

นี่ฉันผิด              ฉันผิด           อย่างไรนี่


หัวใจพี่                บอบบาง        แสนปวดร้าว

เหมือนรวงข้าว    ขาดน้ำ           จึงเหี่ยวเฉา

อยากตัดใจ          ไม่คิด            ไม่นั่งเศร้า

แต่ใจเรา             เหตุไฉน       ตัดไม่ลง


คงต้องปลง           เลิกรัก           มองข้ามโลก

ไม่โฉลก              ความรัก         แน่แท้เชียว

อยู่คนเดียว          ดีกว่า            มุ่งท่องเที่ยว

ไม่ต้องเกี่ยว         หญิงใด         ไหนอีกเลย.......				
20 กุมภาพันธ์ 2550 22:45 น.

ตายทั้งเป็น.....

วิภาวดี

ค่ำคืนหนึ่ง        ฉันยืน           กลางสายฝน

ที่ใจตน             แสนทุกข์      ไร้สุขฝัน

เธอทิ้งไป          ไม่บอก          ฉันโดยพลัน

เธอไปกัน          กับชาย         ที่เธอปอง



ฉันเข้าใจ          หัวใจ             ของเธอนั้น

ยามเธอฉัน       รักกัน            ฉันดูแล

เธอทุ่มเท          ความรัก         เป็นที่แน่

ฉันนั้นแพ้        รักเธอ            สุดหัวใจ



ที่สุดใน            ความจริง          ย่อมเปิดเผย

เธอมาเอ่ย        เดินทาง           ไปเมืองนอก

เธอนั้นบอก      ไปธุระ              ตามนายบอก

ฉันช้ำชอก        ที่เธอบอก         นั้นไม่จริง



ในใจนิ่ง           เก็บไว้               ไม่บอกเธอ

ที่ฉันเจอ           เธอนั้น              ไปกับชาย

ฉันทำดี            ใจเศร้า              หน้าแทบหงาย

เจ็บแทบตาย     เกินคน             จักทนได้



เธอร้องขอ         เพิ่มเงิน             ค่าครองชีพ

ฉันใจตีบ          เป็นข้ออ้าง          เหินห่างฉัน

พอไม่ได้           เธอบอก              ทางใครมัน

เหมือนตายพลัน  เธอไป              ไม่ใยดี



โอ้เธอนี้             ไม่รู้                    ความรักฉัน

ที่มีนั้น               ให้เธอ                รักเต็มที่

ต่อแต่นี้             คงเศร้า              เหงาทั้งปี

เธอคนนี้           ฆ่าฉันได้             ตายทั้งเป็น...				
18 กุมภาพันธ์ 2550 18:22 น.

สี่ปี...กับปริญญาตรี..กับน้ำตาพ่อ...แม่..

วิภาวดี

เด็กบ้านนอก            คนนี้               สู้ชีวิต

มีความคิด                 คนึง               แสวงหา

วิชาการ                    มุ่งมั่น             ปริญญา

ก้าวเข้ามา                เมืองหลวง       สวงสวรรค์




แล้วถึงวัน                 ยืนงง             ที่หน้ามอ.

ใครกันหนอ              ขวักไขว่         เดินไปมา

ไม่รู้จัก                     ไม่กล้าทัก       ตามคิดกว่า

ฉันนี้หนา                 งงไป              สับสนจริง



คิดเกรงกริ่ง              อยู่นาน          จนลืมกลัว

เลยไปมั่ว                 กับเขา            ที่คณะ

นิติศาสตร์                กฏหมาย         คนมากน่ะ

ฉันคิดจะ                 เรียนจบ          เป็นนายคน



เลิกสับสน                 สมัครเสร็จ      เริ่มเรียนต่อ

บอกคุณพ่อ               คุณแม่             ลูกคนนี้

จะตั้งใจ                    สำเร็จ             ในชั้นปี

คุณพ่อนี้                   บอกว่า            เรียนต่อไป




เริ่มแกว่งไกว           เรียนไป          สอบตกมาก

นี่มันยาก                  ไม่ง่าย             อย่างคนบอก

ฉันงันงก                   ตั้งสติ              ไม่นอกคอก

เหมือนจับหอก          แทงตรง           ที่จุดหมาย



เหมือนอยู่ปลาย         ผาชัน               หุบเหวลึก

ฉันเริ่มนึก                หาทาง               ศึกษาจบ

หาเทคนิค                 หาช่อง               หาจนพบ

เลยเหมือนกบ           โดดสูง               พุ่งลิ่วพลัน



คุณพ่อนั้น                 ดีใจ                   ลูกพ่อจบ

คุณแม่พบ                ความสุข              เหมือนลูกนั้น

ฉันเรียนจบ             สี่ปี                      กำหนดพลัน

น้ำตากลั้น                หยดริน               ที่ปริญญา



อีกหนึ่งปี                  ทำดี                    ให้พ่อแม่

ฉันเริ่มแส่               เรียนเนติฯ          อีกปีหนึ่ง

เรียนเคร่งเครียด    จบได้                  ตามใจถึง

น้ำตาซึม                  พ่อแม่กอด          ฉันร้องไห้.....				
17 กุมภาพันธ์ 2550 16:41 น.

คนน่ารักในโพเอ็ม...ภาค ๕

วิภาวดี

นี่ก็ถึง                  อีปิ              โสดห้าแล้ว

ไม่ต้องแผ่ว          บุกต่อ         เลยดีไหม

มาพูดต่อ              น้องใหม่      ใจกล้านัก

มาร้องทัก            "มู๋กี๊ฟ "        แอบมาแซว



ใจเริ่มแป๋ว           ถ้อยคำ      เริ่มหมดสิ้น

เริ่มมีกลิ่น            สดใส          พัดมาหา

ฝน...นั้นไง          มาไกล          จริงจริงนา

ฉันเรียกหา         "โคลอน"       ชื่นใจจริง




เริ่มมีสิ่ง              แตะร่าง          บนยอดหญ้า

ใจเริ่มมา            สายลมไง        ใจสดชื่น

"คอนพูทน"        คนจริงใจ        ไม่มีอื่น

จึงสดชื่น             เพื่อนตรึม       ในโพเอ็ม



ใจไม่เค็ม          จริงหรือ            โอยอดคน

คุณยอด  ทิว       เฉยฉิว            ใช้เหตุผล

รักอย่างเดียว     ไม่สน               แม้เล่ห์กล

มักเป็นผล         "  จ.จันทร์สุวรรณ"    สุขยิ่งเอย



สุขจริงเลย         เอ่ยเพื่อน           ที่รู้จัก

ที่เคยทัก           สุขจิต                 สุขหรรษา

เอะนี่ฉัน           ลืมใคร                หรือแก้วตา

คิดไปมา            ที่แท้                   ลืมหนึ่งคน



อันตัวตน             คนนี้                คนสำคัญ

อ่านกลอนพลัน     คนนี้                จิตสร้างสรร

นามของเธอ       "กระต่าย            ใต้เงาจันทร์"

กลอนเธอนั้น       มีพลัง                แสนออดอ้อน


ในเดือนก่อน       มกรา                ธันวาไง

เข้ามาใน              โพเอ็ม              พบกลอนหวาน

เป็นครั้งแรก        สมัครใจ           ไหนจักปาน

เหมือนพบพาน      สิ่งสวยงาม       ดามจิตใจ



กลอนทำให้          ใจฉัน                เริ่มผันแปร

อยากเป็นแม้        สิ่งไม่เคย          แต่งกลอนนั่น

จึงแต่งกลอน        ไม่ดี                  แสนขบขัน

ทันใดนั่น             อาจารย์ดี          "กุหลาบขาว" ไง....


****จบภาค ๕ นี้  จะมีต่อภาค ๖ เมื่อไร  ชวนให้ติดตามต่อ 

สำหรับเพื่อนๆที่ไม่กล่าวฃื่อถึง  เพราะยังไม่เคยทักทายกันนั่นเอง

สำหรับบางท่านที่ทักทายแต่ไม่เป็นสมาชิกโพเอ็ม ขออนุญาตไม่กล่าวถึง

แต่คำนึงถึงตลอดเวลา อย่าห่างหายไปเสียเล่า....ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมา///

ครับ////****				
17 กุมภาพันธ์ 2550 14:55 น.

คนน่ารักในโพเอ็ม...ภาค ๔

วิภาวดี

เธอ"ผู้หญิง         ไร้เงา"         ร่าเริงนัก

ฉันรู้จัก               ครั้งแรก       แปดมกรา

เธอเข้ามา            ทักทาย        ไม่ระอา

อวยพรมา            วันปีใหม่      สุขใจพลัน



เธอคนนั้น          สองสอง         เจ็ดเจ็ดสี่

งงแล้วซี              เธอคือใคร    ใครคือเธอ

เธอมอบให้          มิตรภาพ        ไม่มีเก้อ

ฉันชะเง้อ            มองเธอ          "ผึ้งมิ้ม"เอง 



ฉันไม่เกรง        คนนี้                ที่ปลายฟ้า

เธอเก่งกล้า        อ่อนโยน           แสนหวานยิ่ง

เธอเหมือนคลื่น  "ทะเลใจ"         ที่แสนนิ้ง

ดูรูปปิ๊ง               ใครอยากเห็น   คลิ๊กเองเลย



ไม่อยากเอย       ให้ใคร              ได้ฟังขาน

ไม่เบิกบาน        มีแผลใจ            ต้องรักษา

"สุสานสี             น้ำฟ้า"               ดูที่ตา

เศร้าเรียกพา     เธอนั้น               ทุกฃ์คืนวัน


แต่งกลอนมัน     อ่อนหวาน         ได้ทุกอย่าง

ไม่แตกต่าง        เปรียบเทียบ      คำนำเสนอ

"  ปราณรวี"       นามนี้                 จักเคยเจอ

ถึงกับเพ้อ           นับวัน                 ร้อยพันปี 



เธอคนนี้             อีกแหละ             เคนซิโร่

คิดไม่โพล่           เอะใคร              ใจหรรษา

นาม"ฝากฟ้า        ทะเลฝัน"          จำนรรจา

เธอเกินฟ้า         เกินใจ                เกินสรรหา(ภาค ๔/ยังมีต่อ)				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิภาวดี
Lovings  วิภาวดี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิภาวดี
Lovings  วิภาวดี เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟวิภาวดี
Lovings  วิภาวดี เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงวิภาวดี