17 ธันวาคม 2550 21:21 น.

วาสนาในคราเคราะห์

สะพั่งสะท้านไมภพ

ความเข้าใจของคนที่เริ่มต้นโง่ก็จะค่อยๆกลายมาเป็นความเข้าใจอย่างกระจ่างของคนฉลาดได้ในสักวันหนึ่ง
    เมื่อมีสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเรา โดยเฉพาะกับเรื่องของธรรมชาติ จงอย่าลืมว่าธรรมชาตินั้นยิ่งใหญ่มาก อย่าไปล้อเล่นกับมัน ยกตัวอย่างเช่น เรื่องของความรัก เป็นต้น
    ตามหลักการของวิชาจิตวิทยา เขาจะชี้ให้เห็นว่าคนที่ไม่เคยผิดหวัง หรือคนที่มีแต่ความสมหวังมาตลอดชีวิต ก็จะมีความรู้สึกเชื่อมั่นในตนเองจนสูงส่ง มองไม่เห็นอย่างอื่นหรือไม่ติดดิน แต่คนที่เคยผิดหวังมาแล้วกลับมีแรงต้านทานต่อกระแสกระหน่าของชีวิตได้อย่างน่าอัศจรรย์
    ลองสังเกตุกันหรือไม่ครับว่า พระราชาจูมงลำบากตรากตรำแค่ไหนกว่าจะตั้งโกรคูรยอได้ พอดูแล้วก็ไม่ค่อยอยากจะเป็นสักเท่าไหร่ อยากจะไปเป็นคนป่าคนดอยโดดน้ำตกเล่นสนุกสนานจะดีกว่า 
    ผมได้คิดว่าบางครั้งเราดูหนังในทีวี ในสื่อต่างๆมากจนเกินไป มากจนคิดว่ามันจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อันนี้แหละครับเป็นสิ่งที่อันตรายมากสำหรับคนที่ยังคิดว่าเจ๋งแล้วโดยหลงตนเอง
    คนเราก็บ้าบอคอแตกกันไปได้ ตามแต่ละคนจะคิดขึ้นมาได้ ก็คงเป็นพักๆไม่มีใครหรอกจะบ้าได้เรื่องเดียวตลอดกาล คือบางทีเราก็อินมากเกินไปแต่เราก็ไม่รู้ตัวเราเอง ใครมาว่ามาเตือนก็ปรามาสสบประมาทเขา จนกระทั่งเมื่อเราถึงจุดๆนั้นบ้างเราก็จะหัวเราะตนเอง เหมือนๆกับการเชียร์ฟุตบอลไทย หรือมวย คนเชียร์จะเก่งสุด แต่หากไปต่อยหรือเตะเองก็คงจะเข้าใจ
    เสน่ห์ของคนเรามันสามารถต่อสู้กับเสน่ห์ของคนอื่นได้ใครมีเสน่ห์มากกว่าก็ย่อมจะชี้นำชักจูงให้คนอื่นไปสุ่ที่ที่เราเองชอบได้
    แม้ว่าเราอาจจะก้าวพลาด แม้ว่าเราอาจจะสูญเสียสิ่งที่สำคัญในชีวิตไปแล้ว แลและคิดว่าไม่มีทางเอาคืนได้ เหตุนี้มันอาจเป็นสิ่งที่ดีก็ได้นะครับ ที่ทำให้เราจำเป็นต้องทิ้งไปเองโดยความไม่ยินยอม ไม่งั้นเราก็อาจหลงไปไม่อาจทิ้งมันได้ตลอดกาลก็เป็นได้ สิ่งนี้เมื่อมันมาถึงแล้ว สูญเสียไปแล้ว มันคงเป็นความประสงค์ของสวรรค์ หากเราไม่พิจารณาอาจจะกลายเป็นทุกข์ แต่ทว่าหากเราได้มีการพิจารณาจริงๆแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นกลับเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตของเรา และหากพบว่าเป็นดังนั้นจริงแล้ว นั่นแหละครับ วาสนาในคราเคราะห์ที่ผมพูดถึงแหละครับ
    ก่อนจาก ขอร้องว่าอย่าดูโทรทัศน์มากเกินไปนะครับ				
10 ธันวาคม 2550 12:40 น.

รอยตีน

สะพั่งสะท้านไมภพ

บทต่างๆในหนังสือย่อมเขียนเทิดทูนบุรุษผู้มินิสัยโอ่อ่าเปิดเผยเป็นลูกผู้ชายชาตรี หรือนัยว่าเป็นฝ่ายธรรมะในใจ แม้ภายนอกจะดูไร้ค่าไม่โอ่อ่าไม่โอ่โถง แต่ทว่าหากแต่ความประพฤติเขาเป็นที่ยอมรับได้ต่อชนชั้นต่างที่ได้พบปะพูดคุยว่านับว่าเป็นคนดีได้คนหนึ่ง
    ในยามที่สมองของแต่ละคนเฝ้างุนงงกับความสับสนของสติปัญญาที่มักจะไพล่คิดว่าตนเองสูงสุดเลิศเลอในการคิดแต่ละครั้งแล้วก็ตาม แต่ทว่ายามใดที่ตนเองได้คิดก็มักจะเถลไถลหากลืมตัวไปด้วยแล้วยิ่งออกนอกวงโคจรไปเสียตั้งไกล แต่อย่างไรใจก็มักจะเข้าข้างตนเองอยู่เสมอ
   ในสภาพแวดล้อมที่ดูแต่ทีวี อ่านแต่เรื่องที่กินใจ จนกระทั่งเราคล้อยตามจนพยายามคิดไปว่าในชีวิตจริงก็จะต้องเหมือนในนิยายไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งกว่าจะรู้ตัวว่าเรื่องจริงคนละเรื่องกับนิยายบางครั้งก็ทำใจลำบาก
    ในการกระทำที่ตั้งใจหมายมุ่งความดีและความถูกต้อง ก็ต้องพบกับคำว่าสังคมรังเกียจ และเมื่อสังคมรังเกียจแล้วก็ต้องเครียดกับมันจนกว่าจะระลึกได้ว่าทำความดีแล้วไม่ต้องกลัวอะไร
    ตรงกันข้ามกับคนร้ายๆที่มักจะดูหน้าตาสดใส การแต่งกายหรูเลิศงามระยับ ไว้จริตท่าทางเหมือนเป็นเจ้าเ ลีลาการพูดจาหรือการกระทำก็ส่อแสดงให้เห็นชัดๆว่าเจ้าระเบียบเจ้าสำนวนหรือมีลีลากระบวนท่าโข่เขื่องยิ่งนักจนคนที่เห็นเกิดปมด้อยและยอมศิโรราบด้วยความเบาปัญญาเอาอกเอาใจ และเห็นว่าหากเอาใจเขาเธอเหล่านั้นตนเองก็จะได้เป็นแบบเขามั่งในอนาคต และก็จะเชิดเริ่ดหยิ่งให้สาสมกับในอนาคตที่ต้องลำบากเพื่อการนี้ในปัจจุบัน
    เหล่าคนทั้งหลายที่ชอบเอาเปรียบสังคมและหัวเราะกับความโง่จนเจ็บของคนชั้นระดับที่โดนเรียกว่ารากแก้ว แต่ที่แท้จริงแล้วน่าจะเป็นรากที่ไร้ค่าของเขาเหล่านั้นตามที่เขาคิด แต่ทว่า ยามใดที่ตีนของใครก็ตามเหยียบมาจนหญ้าแบนติดพื้นแล้วไอ้รากเล็กๆที่โดนก่นด่าว่าโง่ว่าจนว่าเจ็บนี้แหละก็จะสร้างอนาคตของมันขึ้นมาใหม่
สำนึกหนึ่งแห่งความพอใจในคุณค่าของทุกอย่าง และเข้าใจว่าในอนาคตจะไม่มีวันเวลาที่ประทับใจเลย หากว่า ในปัจจุบันนี้ไม่ได้ใช้สติปัญญาที่จะทำวันนี้ให้ดีที่สุด
    ความเก่งความกล้าหาญหาได้อวดอ้างได้ด้วยหน้าตาท่าทางไม่ ในสถานการณ์คับขันของประเทศ คนเช่นไรจึงจะนับได้ว่าเป็นวีระบุรุษ ก็จะได้เห็นกันต่อไป แต่ทว่าแม้จะมีรอยตีนเต็มหลัง มีความเจ็บช้ำรัดทดปิ้มว่าใจจะสลายสักเพียงใด แม้ว่าจะไร้ซึ่งความหวัง แม้ว่าจะเจอการเห็นแก่ตัวการเอาเปรียบการแข่งดีแก่งแย่งชิงดีจนกระทั่งเหมือนสัตว์แย่งเศษอาหาร ก็ตามทีเถิด แต่เมื่อไหร่ที่หัวใจของเรายังคงยึดมั่นที่จะรักทำความดีเชื่อในความดี สักวันผลของความดีคงจะกลับมาตอบแทนอย่างสาสมเช่นเดียวกัน
    อย่าลืมว่าผลของความดีมันช่างลึกซึ้งนัก บางครั้งคนบางคนยังไม่รู้ตัวเลยว่าขณะไหนความดีที่เขาได้กระทำลงไปได้ตอบแทนเขาแล้ว ถ้าเห็นแล้วก็จะรู้ได้ว่าความสุขที่แท้จริงเป็นเช่นไรแม้ว่าจะมีรอยตีนเต็มหลังก็ตาม				
8 ธันวาคม 2550 16:00 น.

ไม่มีอะไรที่เธอต้องจดจำ

สะพั่งสะท้านไมภพ

ผมเห็นแขนของผมได้กระเด็นออกไปจากตัว และเลือดกำลังไหลรินออกเป็นทาง หัวใจของผมเริ่มจะแผ่วบ้าอ่อนล้ามากขึ้น ลมหายใจก็ติดขัดและเลือดก็ได้ไหลออกมาจากปาก นัยน์ตาของผมเริ่มมีเลือดออกท่วมแก้วตา ในหูของผมได้ยินแต่เสียงวิ้งๆอื้ออยู่ตลอดเวลา
      ครั้งแรกที่คิดได้ก็คือบัดนี้เวลาที่คนเรากลัวที่สุดได้มาถึงแล้ว เมื่อสะอึกความคิดของผมก็พรุ่งไปที่คำพูดของภรรยาว่าอย่าไปอย่าไป แต่ทว่าผมจะไปนัยน์ว่าทำเพื่อชาติแต่จริงๆแล้วลึกๆลงไปก็ทำไปเพราะว่าอยากจะได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้กล้าหาญและผลของการกระทำอาจทำให้ได้โปรโมทเป็นใหญ่เป็นโตต่อไปก็ได้แต่แล้วก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด
      ด้วยบำเหน็จตอบแทนการสิ้นชีวิตก็คงทำให้ลูกและเมียอยู่ได้แต่เมียก็ต้องลำบากหน่อย ใจหนึ่งก็นึกดีใจทีจะตายแล้วมีธงชาติคลุมแต่อีกใจหนึ่งก็เสียใจที่ไม่น่าพลาดเลย
      แล้วก็คิดขึ้นมาได้ว่าถ้ามีโอกาสอีกครั้งแล้วผมจะไม่ทำแบบนี้อีก มันไม่คุ้มเท่าไหร่ เมื่อคิดถึงว่า เรารักษาแผ่นดินไว้ให้มีการแย่งชิง คือป้องกันการแย่งชิงเพื่อให้เกิดการแย่งชิง มันถ้าจะบ้า และมันก็บ้ามานานแล้วตั้งแต่เมื่อสร้างโลก
     ธรรมชาติย่อมยากที่จะต่อต้าน มีแต่พวกหลงตนเองเท่านั้นที่จะเปลี่ยนโลก และผลของการเปลี่ยนโลกย่อมได้รับผลตอบแทนอย่างรุนแรง 
     ในระหว่างนั้นเองผมได้ยินเสียงลูกน้อง นายตำรวจ นักข่าวพากันเข้ามารุมล้อมจะเข้าช่วยเหลือ แต่ทว่าอีกบึมหนึ่งได้เกิดขึ้น เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นอีกหลายเสียง กลิ่นดินระเบิดเจือกลิ่นเนื้อไหม้หอมหวล เลยไพร่ไปนึกถึงเสื่อร้องไห้ แต่ก็แป๊บเดียวเพราะนิสัยขำๆง่ายๆ แต่ก็ต้องมาสลดใจอีกที่ตนเป็นสาเหตุให้คนอื่นต้องรับเคราะห์ด้วย
     พอเงียบลง ผมก็เริ่มสำรวจตนเองใหม่ว่าจะมีแววรอดไหมเพื่อที่จะได้อดทนให้รอดชีวิต 
     ไม่น่าจะรอดวะผมคิดในใจดังนั้นจึงเริ่มนึกถึงพระอรหันต์




 ในความวุ่นวายแห่งอารมณ์มนุษย์ผู้หยิ่งผยองและจองหองในความถือดีว่ามีเกียรติยิ่งกว่าคนอื่นจนลืมตัวตน ลืมรากเง่า ลืมกำพึด ว่าจริงๆแล้วตนเองคือใคร ต้อยต่ำแค่ไหน มีแต่เพียงปากร้ายร้ายและใจร้ายๆเท่านั้นที่ย่ำยีคนอื่นมาตลอดทาง				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสะพั่งสะท้านไมภพ