14 มิถุนายน 2552 17:15 น.

หัวใจคน

สะพั่งสะท้านไมภพ

แม้เพียงเศษข้าวเล็กๆน้อยๆ สุนัข มันยังกระดิกหางอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยความสำนึกบุญคุณ
แต่คนบางพวก มันกลับมองเห็น ว่าสิ่งที่มันได้รับ เป็นของขวัญจากพระเจ้า แต่ไม่มีปัญญาคิดให้ได้ว่าเงินนั้น เป็นเงินภาษีของคนไทยที่รัฐเก็บเอาไปเพื่อทำให้มันเข้าใจ
มันยังฆ่าคนอยู่ อย่างไม่มีเหตุผล
รอจนถึงวันนั้น
วันที่ได้ข้อสรุปว่าแม้จะช่วยเหลือด้านการพัฒนาแล้วไม่ได้ผล
หยุดเถิดครับ
ไม่มีใครเขาเลี้ยงสุนัข ที่ให้อาหารแล้วยังกัดเจ้าของกันหรอกครับ
มีคนหลายเผ่าพันธ์ที่เขาทำความดีเพื่อต้องการเป็นคนไทย
สักวันอาจจะต้องให้เขาเป็นคนไทย ในพื้นที่นั้น
ดินแดนนั้นจะต้องเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์
ดินแดนที่ไม่มีการใช้ความรุนแรง
เป็นดินแดนของพระเจ้าต่างๆ
ที่คนนับถือทุกศาสนาสามารถมีชีวิตในการแสวงหาจากพระเจ้าของตนได้อย่างเสรี
คนที่มีศาสนาจะอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข				
5 มิถุนายน 2552 07:02 น.

แก้วแรก

สะพั่งสะท้านไมภพ

ผมนั่งนอนสำนึกในการกระทำของผม ที่กลับบ้านดึก และเมามายดังปีศาจสุรา
แม้ว่าอายุจะมากแล้ว นึกว่าภรรยาจะไม่ต่อว่าแล้ว แต่ทว่ากลับโดนหมด
อีกครั้งแล้วที่พลาดผิด 
ผมไม่อาจแสดงความสำนึกในความผิดให้ปรากฏได้
เพียงแต่กล่าวคำว่า ขอโทษ 
ความแตกต่างระหว่าง ความสุขอันเย็น กับ ความสุขชั่วประเดี๋ยวประด๋าว
มันแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
อะไรเล่าคือสาเหตุที่แท้จริง
ผมนั่งนึกย้อนกลับไปในอดีต
ตอนที่ผมยังไม่สำนึกตนว่าสิ่งที่ได้กระทำลงไปนั้นมันบีบคั้นจิตใจคนที่รักเรามากที่สุดอย่างไร
เพียงแค่ความอยาก เพียงแค่ความใจถึง เพียงแค่อะไรหลายๆอย่างที่ไร้สาระ
แต่ทว่าตอนนี้ ผมเริ่มเจอแล้วว่าต้นตอมันคืออะไร
เชื่อไหมครับว่า ชนธงเลย 
นั่นก็คือ เหล้า เบียร์ ไวน์ แก้วแรกนั่นเอง
ในวันต่อมา
มีการเลี้ยงรับเพื่อนฝูง เพื่อนๆมากันหลายๆคน
เบียร์เย็นวางตรงหน้า และรินแจก
สำหรับผม ผมกลับสั่งโค๊กหรือเป๊ปซี่มากิน
ในท่ามกลางความเฮฮา
ผมกลับมีความสุขได้มากกว่าร่วมดื่มกับเพื่อนของผม
ข้ออ้างของผมก็คือ หากผมกิน มันก็จะติดลมยาว
ผมมีความสุขสองอย่าง
หนึ่งได้ร่วมสังสรรค์กับเพื่อนฝูง
สอง ไม่ได้กระทำการเหมือนที่ผ่านมาแล้วในอดีต
ดูว่า
หลังจากที่คิดได้ ถึงสาเหตุความปั่นป่วนในครอบครัว
ครั้งแรกที่กระทำด้วยโค๊กใส่น้ำแข็ง
มันช่างสดชื่นใจอย่างแปลกประหลาด
ทำไมถึงพึ่งมารู้ตอนนี้นะ
สะพั่ง สะท้านไมภพ
------
ขอบพระคุณที่ติดตามผลงาน				
1 มิถุนายน 2552 19:53 น.

ซู๊ดยอด

สะพั่งสะท้านไมภพ

ผมยืนมองยอดตึกระฟ้า บนดาดฟ้าชั้นสี่อาคารใหญ่แห่งหนึ่งในกรุงเทพ
ผมพ่นควันบุหรี่ออกไปเที่ยวแล้วเที่ยวเล่า
สายตามองออกไปยังตึกและครุ่นคิด
แม้ในยามกลางคืนเล่า
แบล๊คกราวน์สีมืดเป็นฉากหลังให้ตึกระฟ้าและแสงไฟหลากหลายระลานตาระยิบระยับยิ่งกว่าดวงดาว สวยเหลือเกิน 
สักพัก ก็ระลึกได้ถึงตนเอง ที่ไม่เคยกร้ำกรายไปในแนวตึกระฟ้าอย่างนั้น
ความจริงไม่เคยคิดที่จะเงยหน้าดู หรือมอง หรือฟัง ของสวยงาม
ใช่แล้วไม่มีเวลาเลย ไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ
แต่ทว่า สะพั่ง สะท้านไมภพ ระลึกได้อีกว่า
เมื่อก่อนผม คิดว่าเป็นลูกผู้ชาย จะต้องรู้ทุกเรื่องให้เจนจบจนสิ้น
แต่ทว่าเมื่อถึงวันนี้ เริ่มคิดได้แล้วว่า ที่ผ่านมามีบางเรื่องที่ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนกลับเป็นสิ่งที่ดีกับตนเอง
ในบริบทที่แตกต่าง พฤติกรรมก็เปลี่ยนแปลงไป
ผมมองเห็นความชั่วร้ายที่ยิ่งกว่าที่ผมชั่วร้ายหลายๆเท่า
บางทีผมก็นึกขยะแขยงและเบื่อหน่ายเกินกว่าจะด่าบ่นก่นซ้ำซากอีกแล้ว
ได้แต่มองดูไปเรื่อยๆ 
วันนี้ก็หมดแรงที่จะทำงาน หมดกำลังใจทุกสิ่งทุกอย่าง
ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะอ่านหนังสือเรื่องราวที่จะปลุกปลอบขวัญและกำลังใจ
มันหมดแรง
ควักบุหรี่ที่ราคาแพงแต่คุณภาพไทยมาดูดอีกมวลหนึ่ง
พอนึกได้ว่าตอนเย็นนี้ต้องกลับไปทำกับข้าวอร่อยๆให้ลูกเมียกิน
ฉับพลันอาการอ่อนเปลี้ยเพลียใจมอดมลายหายไป
มันกลับกลายเป็นความสนุก และรอผลเมื่อลูกเมียกินดื่มเสร็จแล้ว
อร่อย
หากคำๆนี้ได้ออกมาจากปากเมียและลูก
และนอกเหนือจากการทำงาน ตอนเช้า ก่อนไป และตอนเย็นหลังกลับมาแล้ว
การทำกับข้าวให้กับลูกเมียกิน มันเป็นการบอกรักอย่างจริงใจอย่างหนึ่ง
บางที คำว่าลูกผู้ชายที่ผ่านมามันไม่ค่อยจะมีค่าเสียแล้วในตอนนี้
ยามกินเหล้าก็ดูมีความสุขดี
แต่ทว่ายามนอนกอดเมียเนี่ยกลับมีความสุข เย็น สดชื่น ไม่ทรมาน และไม่มีเรื่องราว
ธรรมชาติย่อมพลั้งเผลอได้
แต่สาบาน ผมจะไม่ให้โอกาสมันอีก
นับแต่นี้ไป
ผมจะทำในสิ่งที่ซู๊ดยอดกับครอบครัว
ผมจะไม่สนใจอนาคตอันไร้สาระของการทำงาน
ผมจะไม่ใฝ่หาความรู้ที่แปลกประหลาดใดๆอีก
ผมจะทำกับข้าวเช้า ทำงาน ทำกับข้าวตอนเย็น หากมีเวลาว่างก็จะค้าขายผ่านอินเตอร์เน็ต
สิ่งที่ผ่านไปแล้วปล่อยให้ผ่านไป
แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นใหม่นี่ย่อมยากเย็นยิ่งกว่าที่จะให้ผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีขาดตกบกพร่อง
ผมมีความรู้สึกว่า คำว่าลูกผู้ชายของตัวผม รู้สึกว่ามันจะมีอย่างจริงจังก็ตอนนี้เอง
ขอบคุณที่ติดตามผลงาน				
1 มิถุนายน 2552 07:53 น.

ลืมอีกแล้ว

สะพั่งสะท้านไมภพ

ความตั้งใจของคนๆหนึ่ง 
ฤาจะต่อต้านกับความบ้าคลั่งของจิตใต้สำนึกได้
เพราะความโง่บ้าหลงเพ้อเจ้อของเรานี่เองที่หากไม่สามารถคุมได้มันก็จะทำให้เกิดเรื่องราวในพิภพขึ้น
ความหมุยวนเวียนแห่งความทุกข์ยากทั้งมวลก็เริ่มจากที่นี้เอง
มองเห็นความสุขสดชื่น ตัวละครในซีรีเกาหลี
น้ำตาไหลปลื้มกับสิ่งที่เธอได้รับ
มันล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อเรียกน้ำตาจากคนชม
ในโลกแห่งความเป็นจริง
คนแสดงทีเขียนบทจากอารมณ์ในส่วนลึกของตน
ย่อมทำให้เกิดโศกนาฏกรรมชีวิตที่ยิ่งใหญ่
แม้แต่คนเขียนยังต้องน้ำตาซึม
ขีดเส้นแบ่งนั้นย่อมพลาดพลั้งเลยเกินออกไปได้เสมอ
ชีวิตเริ่มเบื่อหน่ายต่อสิ่งที่ได้เผลอกระทำอีกแล้ว
แต่ทว่า มันก็เกิดความรู้ขึ้น ในระดับนี้
และหยั่งรู้ได้ว่าที่ผ่านมาในอดีตก็เป็นเพราะเหตุนี้
สะพั่ง สะท้านไมภพ แม้จะยิ้มไม่ออก แต่ก็จะจดจำ
เมื่อเห็นเหตุผลของเรื่องราวความผิดแล้ว
สะพั่ง ก็จะต้องหาหนทางที่จะตัดรอนมิให้มีแม้แต่ประกาย
การที่จะรักษาตัวให้เป็นเรื่องราวที่มีแต่ประพฤติปฏิบัติดี
ก็คงจะเริ่มอย่างจริงจังเสียที
และหากรู้ความไม่ดีอย่างละเอียดอ่อนแล้ว
การคิดจะทำคงไม่ยากอีกต่อไป
สิ่งที่ผ่านมาสรุปได้ว่าไม่ใช่เรื่องของโชคชะตาหรือเวรกรรม
แต่หากเป็นจิตสำนึกที่ซ้อนเร้นคุประทุออกมาเสียมากกว่า
หวังว่า สักวันคงจะสำเร็จ
และหวังว่าคงจะไม่มีคำว่า
ลืมอีกแล้ว
อีกต่อไป				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสะพั่งสะท้านไมภพ