21 พฤษภาคม 2551 17:26 น.

อุว้าวสอง

สะพั่งสะท้านไมภพ

สะพั่งมองซ้ายมองขวาดีแล้ว การแก่งแย่งชิงดีกันมีมาตั้งแต่สมัยโบร่ำโบราณแล้วครับ ไม่ต้องอะไรหรอกครับ แค่ผู้ใหญ่บ้านเล็กๆในท้องถิ่นห่างไกลนี่ ก็ล่อกันเลือดสาดแล้ว เว้นแต่ในหมู่บ้านในกรุงเทพมหานครที่แย่งกันไม่เป็น
   ทุกเรื่องของหนังจีนกำลังภายใน มักจะมีจอมมาร หน้าตาดี อาทิ งักปุ๊กคุ้ง ที่วางมาดสุดยอดคุณธรรม เจ้าสำนักคุณธรรม ไปๆมาๆทีแรกนึกว่าจะเป็นเรื่องที่โกวเล้งเขียนตอนเมา เอหรือจะเป็นไปได้ไหมที่โกวเล้งจำลองเอาจากของไทยไป 
   การจะจงรักภักดีต่อใคร ในปัจจุบันขึ้นอยู่กับว่าเขาจะได้ในสิ่งที่เขาต้องการเขาถึงจะจงรักภักดี ส่วนพวกที่ไม่ได้ก็มักจะคิดเรื่อยเปื่อยไปนอกลู่นอกทางซึ่งก็มีมากขึ้น ในยามที่มีปัญหาเรื่องหนี้สินรุมเร้า ข้าวยากหมากแพง เงินค่าเล่าเรียนก็ต้องไปกู้ยืมเขามา นักเศรษฐศาสตร์ก็สรุปแล้วว่ามันวิกฤต นับแต่วันนี้ไปใครเล่าจะมาช่วยได้
   ชาวบ้านทุกคนต่างก็เริ่มเครียดและมองหน้ากัน ผมก็หัวเราะขึ้นมาในยามที่ไม่น่าจะถูกกาละเทศะเท่าไหร่ แล้วผมก็กล่าวต่อไปว่า เราก็ต้องหาที่พึ่งครับ และที่พึ่งที่ดีที่สุดก็คือการพึ่งตนเอง ครับ เจ้า เทพ หรือสิ่งใดก็ตามเราคิดไปเองครับ เราต้องช่วยตนเอง ใช้สมองช่วยตนเองให้รอดจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้
   หลายๆคนพยักหน้า ทำทีว่าจะเข้าใจตามสไตล์ของชาวไทย สะพั่งเล่าต่อว่า สังเกตไหมครับว่าเวลาที่พระเอกนิยายกำลังภายในตกเขา ซึ่งความจริงน่าจะเท่งทึง แต่กลับได้ค้นพบยอดวิชายอดอาวุธพบสัตว์ประหลาดจนกระทั่งเป็นจอมยุทธอันดับหนึ่งตีลังกาขึ้นบนเขาได้ พูดถึงตอนนี้ชาวบ้านที่ฟังก็ยังเฉยๆอยู่ อ้าคล้ายๆกับจะเปรียบเทียบกับหนังน้ำเน่าเรื่องใดดีหนา สะพั่งคิดไปคิดมา อ้อเรื่องนี้ก็แล้วกัน
   เรื่องพระสังข์ทอง ตอนที่นางรจนาต้องไปตกระกำลำบากกับเจ้าเงาะที่กระท่อมปลายนา แม้จะลำบากแค่ไหนแต่ก็มีความอบอุ่นของครอบครัวคอยปลอบประโลมใจให้คลายความเครียดเรื่องทุกข์ยาก
   วิกฤตในวันนี้ก็เป็นอีกอันหนึ่งที่แม้เราจะก้าวข้ามไปได้ยาก แต่อย่างไรก็ตามธรรมชาติมักจะลงโทษล้มกระดานเพื่อการเริ่มต้นให้ใหม่เสมอๆ 
   เคี๊ยกๆ ทำดีไว้ครับ ก็จะได้รับผลแห่งการทำความดีเอง 
   นึกถึงเหล็งฮู้ ตอนร้องเพลงสะท้านยุทธจักรจังเลย
   ในยามนี้ ทุกคนชาวรากแก้วต่างก็หาเงินเพียงแค่พอยาไส้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องเพียงแค่นี้ก็ยังคิดเครียดนอนไม่หลับตอนกลางคืนอยู่หลายๆคืนอยู่แล้ว ยศฐาบันดาศักดิ์เหรียญตราสายสะพายตำแหน่งค่าสมองไหลความเท่ห์ ไม่ได้จิรังยั่งยืน สิ่งที่ทุกคนต่างแย่งชิงกันตลอดมาก็สั่งสมมาจนเป็นกันอย่างนี้ทุกวันนี้ ผมสะพั่ง ในตอนนี้หัวใจของผมเป็นรากหญ้าเล็กๆแล้ว ผมสนใจเรื่องมีกินไปวันๆเท่านั้น 
    หากเจ้ากรรมนายเวรชาตินี้ไม่เพลาๆมือกลั่นแกล้งลงบ้างแล้ว ชาติหน้าถึงตาพั่งบ้างนะคร๊าบ อ้าวเป็นงั้นไป
    เคี๊ยกๆ สรุปนิดหนึ่งกันคุณป้าบางรักซอยเก้าถาม ทำดีไว้ครับ สบายใจครับ
จบ				
20 พฤษภาคม 2551 21:06 น.

อุว้าวเอาอีกแว้ว

สะพั่งสะท้านไมภพ

สะพั่งเอยสะพั่งต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งอีกแล้ว เอ้าเร่เข้ามาพี่น้องท้องไม่ชนกันทั้งหลาย เร่เข้ามามาฟังผมสาธกไม่ลามกจกเปรตใดๆไม่เครียดจ้า ฟรีจ้า เมื่อต่างคนต่างรุมล้อมเข้ามามากขึ้นแล้ว ทั้งทางซ้ายก็เอากระดาษหนังสือพิมพ์ปูแล้ว ทางขวาก็เอาเสื่อหมอนมากะฟังยาว ข้างหน้าก็ตาแป๋ว ทุกคนเงียบสายตาจ้องมายังสะพั่งเป็นจุดเดียว สะพั่งพ่นควันบุหรี่ออกเป็นลำยาวขึ้นบนท้องฟ้า มองซ้ายมองขวาไม่มีตำรวจมาจับปรับสองพันแล้วก็ขยี้บุหรี่เสีย แล้วจิบน้ำชาคำหนึ่ง สายตาที่กระวนกระวายของทุกผู้จับจ้องมองแป๋วแหวว จากประกายตาที่นุ่มนวลสนุกสนานเริ่มเขม็งเกรียวขึ้นทุกที ในความเงียบนั้นเงียบจนราวจะได้ยินเสียงลมหายใจ อะแฮ่ม สะพั่งเรียกน้ำลายให้ชุ่มปากเตรียมตัวสาธก				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสะพั่งสะท้านไมภพ