6 มิถุนายน 2551 17:26 น.

สะพั่งยอดไฮโซ

สะพั่งสะท้านไมภพ

เสียงเพลง ซึ้งใจแม่ยอดรัก ของ พิ้งแพนเตอร์ ดังก้องอบอวลในไนท์คลับ มืดตึ๊บและแสงสีต่างๆหมุนวนจนเวียนหัวแต่ก็ไม่เวียนหัวน้อยกว่าไอ้สุรานอกว่ากันว่ากลั่นจากนอกไม่รู้นอกชายแดนไทยหรือเปล่าทำให้ชายหนุ่มผมหวีเรียบแปล้ มีปอยผมแหลมโง้ง ย้อยลงมาตรงหน้าผาก เสื้อเชิ๊ตลายแขนยาวสีฉูดฉาดฟิตเปรี้ยะนัยยะบ่งบอกถึงไอ้ความคับปึ๋งของผู้สวมใส่ และประทานโทษแว่นตาดำใส่ในนั้นด้วย กลิ่นน้ำหอม กลิ่นลางสาด หอมซะฟุ้ง ในบางทีอาจกลายเป็นแชนแนลนัมเบอร์ไฟว์ สะพั่งใช้มือคีบบุหรี่นอกออกมาจากซองในถุงเท้า และใช้ซิปโป้ ไม่มีใครรู้หรอกว่า เป็นของเก๊ในตอนนี้
   แสงจากประกายเพชรวูบวาบ ใส่ตาสะพั่งสะท้านไมภพ สะพั่งเก๊กท่าด้วยความหล่อ เอ้าแม่ผีเสื้อราตรีประจำร้านนั่นเอง เธอรี่ถลาเข้ามานัยน์ว่าคุ้นๆ หวัดดีค่าพี่ เธอย่อตัวลงซะนมต้มเจ้าประคูณเกือบหล่นออกมากองเพราะความใหญ่ สะพั่งรับไหว้และคาบบุหรี่ไขว่ห้างจุ๊ยซะ นึกในใจตนเองว่า คล้ายๆคางคกดูดบุหรี่เลยวะ สะพั่งยักไหล่ ไอ้เจ้าความคิดของตนเองมันมักจะออกนอกลู่นอกลอยไปเรื่อยๆจนเพื่อนๆที่สนิทมักจะเข้าใจได้ว่า สะพั่งนอกวงโคจรเสมอๆ
   สายตายอดชายหันมาจับที่ร่างของแม่ผีเสื้อที่โผเข้ามา สมองของสะพั่งคิดกลับไปกลับมา ถึงลีลาเสือหนุ่มอย่างเขา ความมืด เครื่องสำอางค์ แสง ทำให้สตรีดูดีเกินกว่าความเป็นจริง สะพั่งนั่งเพลินเกินไปหน่อยจนกระทั่งสายตาเขาเหลือบเห็นแม่เทพธิดาราตรีคนหนึ่งเดินเข้ามา โอ้พระเจ้า
   ในเวที สะพั่งช้อนเอวมือหนึ่งถือมือพาผีเสื้อนางนั้นที่ชอบเมื่อแรกเห็น วาดลวดลายลีลาลีลาศหัดใหม่ซ้ายขวาหนึ่งสองท่องๆไปในเวที เมื่อกลับมาสะพั่งก็ราดรดวิสกี้เย็นวาบซาบซ่านเข้าลำคอ บังเอิญอีสาวผีเสื้อก็ชอบสุราเยี่ยงเดียวกันเลยสาดซัดความเย็นซ่านขมเข้าคออย่างสนุกสนาน
   นอกจากความเป็นซุปเปอร์สตาร์จะทำให้นิ้วก้อยและองคายพของร่างกายของผมสะพั่งกะดิกได้แล้ว ไอ้เนี่ยสะพั่งมองไปที่ขวดวิสกี้แบล็ดเลเบิ้ล หรือชนชั้นสูงจะเรียกว่ากาดำ มีไว้ไอ้พวกกาดำกิน แต่พวก พณ ท่านจะต้องเป็นพวกบลูเลเบิล ซึ่งก็ทำให้สะพั่งข้องใจมากในตอนนั้นว่ารสชาติมันจะเป็นจ๋านใด
   เมาแล้วเมาทั้งคู่ สะพั่งผู้นิยมความบันเทิงในยามค่ำคืน ใช้มือโอบหลังแม่ผีเสื้อถูกใจ กระทั่งร้านปิด ทั้งคู่ก็พากันเดินต๊อกแต๊กขึ้นรถและสะพั่งก็ขับรถเข้าไปนั่งดื่มต่ออีกร้านหนึ่ง
   ในคำถามเธอถามสะพั่งว่าจะไปเข้าโรงแรมจู้ฮุกกรูกันต่อดีหรือไม่
   สะพั่งสะท้านไมภพ หัวเราะ เคี๊ยกๆๆๆ ผมต้องการเพียงนั่งคุยกับหญิงที่รู้ใจก็เพียงพอแล้ว
   เธอผีเสื้อแสนสวย หัวเราะเคี๊ยกๆๆๆๆๆๆ นึกในใจว่า ไอ้พั่งรูปหล่อเอ็งไม่ทางรอดหรอก เคี๊ยกๆๆๆๆ				
5 มิถุนายน 2551 15:31 น.

แอ๊บพลาย

สะพั่งสะท้านไมภพ

สะพั่ง ผิวปากเดินไปขึ้นรถหน้าตาเฉยขณะที่ประชาชนส่วนมากกำลังตำแดงก่ำหัวคิ้วกดต่ำ หน้าดำและคร่ำเครียดกับการงาน ที่แม้แต่ความขยันขันแข็งในการทำงานยังไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดหรือเปล่าเลยจากการโดนปลดเฉดหัวอ้างสาเหตุจากเศรษฐกิจตกต่ำ คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างยังต้องโบกมือลากลับไปหาครอบครับที่บ้านนา ไปจับเขียดแลวหาปูปลากินพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวดีกว่า 
   สะพั่งคิด จริงๆแล้ว ผมก็แย่เหมือนกัน นั่งปั่นหาเงินเพื่อชดใช้หนี้สินไปวันๆ หากในห้วงไหนมีเงินพอใช้หนี้ได้ก็จะสบายไปได้สักราวสี่ห้าวัน หากวันไหนไม่มีเงินเข้าเลย ก็จะมีเส้นสมองบวมเป่ง แต่วันที่ผิวปากแน่นอน เงินเข้าอย่างน้อยก็สามร้อยห้าสิบบาท
   สะพั่งคิด อะไรวะ คนชั้นนี้เพียงแค่สามร้อยห้าสิบบาทเนี่ยจะพอใจได้แล้วหรือ น่าจะได้สักวันละหลายๆตังค์ สะพั่งสะบัดหัวแล้วด่าตัวเอง ไอ้บ้า ฝันไปเปล่าๆ เพ้อเจ้อเหลวไหลไม่ได้เรื่อง ก็ก้มหน้าก้มตาหากเงินไปวันๆ
   สะพั่งมองไอ้พวกบ้าคลั่ง แต่ละฝ่าย
   อย่าคิดว่าคนอื่นเขาไม่รู้เท่า แต่ละฝ่ายก็ห่วงแต่ความร่ำรวยของตนเอง โดยชอบเอาเรื่องเดิมๆมาบังหน้า
   เอากันเข้าไป สะพั่งคิด 
   อากาศก็วิปริตแปรปรวนรวนเรเหมือนแต่ละฝ่าย
   สะพั่งนั่งบนรถสองแถว เห็นสาวๆนุ่งกางเกงสั้นติดเป้า เสื้อยืดคอกว้างเผยเห็นร่องอก เล็บทาสีสดยาว แกก็มองผม แต่ผมก็เมินๆกลัวเขาจะหาว่าเสียกริยา
   รถเมล์สองแถวบ้านผมก็ยังเก็บค่าโดยสารเท่าเดิม ในราคา เจ็ดบาท ผมคิดว่า ก็ไม่รู้อยู่ได้หรือเปล่า แต่คนนั่งดูเหมือนจะเยอะขึ้น ก็ทำให้อาจมีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากเดิมหลายเปอร์เซ็นต์ที่ทำให้พอทนอยู่ได้ แต่ตอนลงรถก็ยังไม่รู้ว่าจะยังต้องจ่ายเจ็ดบาทเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า
   ผมเห็นคนขับรถเก๋ง ป้ายแดงหลายๆคน รถเก๋งของผมได้จอดอยู่กับบ้านจะใช้เฉพาะขี้เกียจเดินเท่านั้น แต่มักจะใช้รถประจำทางรถสองแถวซะมากกว่า นึกแล้วอนาถพวกที่มีรถที่ยังต้องใช้รถขับไปทำงานและส่งลูกเล็กๆ น่าจะสุดลำบากจริงๆในปีนี้และปีต่อไปด้วยหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ แต่ว่ามีแนวโน้ม
   แม้ผมจะผิวปากไปแต่ในสถานการณ์อย่างงี้ ผิวปากทำใจดีสู้เสือ และคอยให้กำลังใจแก่ทุกๆคนอยู่รวมทั้งตัวผมเองด้วยที่ไม่รู้ว่าจะเอาตัวรอดหรือเปล่าในสถานการณ์แบบนี้
   และแล้วคงถึงเวลาแล้วมั้งครับ ที่เราจะต้องใช้สติปัญญาของเรามาคิดว่า ทำอย่างไรจะเอาตัวรอดได้ตลอดรอดฝั่ง
   มีบางท่านเล่นจบชีวิตครอบครัวของตนไปแล้ว ซึ่งก็เป็นวีดีโอเก่าแบบเดิมๆที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีต เพราะเขาขาดซึ่งความหวังที่หวังว่าจะได้เป็นสุขอีกเขาคงคิดว่าเขาคงจะไม่มีโอกาสจะมีความสุขอีกจึงได้ตัดสินใจทำร้ายลูกเมียและตนเองไป
   ผมก็ไม่รู้ว่าเขาคิดถูกหรือคิดผิด แต่ผมคิดได้ว่าหากผมเองต้องการจะหมดหนี้ก่อนแล้วจะมีความสุข ชาตินี้คงไม่มีความสุขได้แน่ แต่ทว่าลองดูครับว่ามีสุขในขณะมีหนี้เนี่ยมันจะมันแค่ไหน ผมต้องใช้สมองบวมๆของผมนั่งกลั่นกลองคิดวิธีหาเงินมาใช้หนี้ทุกวัน
   มีเพื่อนผมหลายๆคนชวนไปงานเลี้ยงสรวญเสเฮฮา ใช่เมื่อก่อนจะชอบมากแต่ทว่าเดี๋ยวนี้รับประทานไม่ลง สถานการณ์อย่างนี้ หน้าตาของลูกเมีย เงินทองที่ใช้ซื้อข้าวสารกรอกหม้อได้เป็นสุขที่สุด
   ผมว่านะบางทีเราน่าจะแอ๊บปลายประเทศเราบ้างก็ดีนะ ไอ้พวกไหนเป็นสมาชิกผู้แทนแล้วปีนั้นเศรษฐกิจตกต่ำก็อย่าให้มันได้มาเป็นอีก ไอ้พวกไหนอยากเป็นนายกมาก ก็ให้มันมาเป็นนายก หากไม่ได้เรื่องก็เฉดหัวมันไป อยากเป็นกันนัก นายกเนี่ย แต่หาได้เรื่องมีไม่กี่คน หรือจะไม่มีเลยก็ไม่รู้
   มีบางคนได้ยินสะพั่งกล่าวถึงเรื่องเป็นนายก
   เอ้า น้าพั่งเป็นนายกบ้างไหม
   ผม สะพั่งสะท้านไมภพ ลุกขึ้นยืนวางมาดหล่อ เปล่งเสียงหล่อๆออกมา ...เอ้อ...อยากเป็นครับ ผมยืนยิ้มเผล่ในท่ามกลางประชาชน ลืมไปแล้วใจตอนนี้ว่าประชาชนต้องการอะไร แต่รู้อย่างเดียวว่าตนต้องการเป็นนายกเท่านั้น
   มีประชาชนคนหนึ่งตะโกนก้องออกมา ไอ้พั่งไม่ต้องแอบพลายเลย โน่น ไปแอ๊บแบ๊ว จะดีกว่า
   ประชาชนทุกคนปรบมือโห่ร้อง
   ครับ สรุปว่า ไม่ต้องแอ๊บปลายมากครับ แอ๊บจนชาวบ้านงุนงง เอาง่ายๆ ให้ชาวบ้านเขามีงานทำ มีเงิน มีข้าวกิน มีกับกิน มีความปลอดภัย และมีความสุขก็พอ
   ประชาชนคนหนึ่งตะโกนออกมา เอาอีกแล้วนะเอาอีกแล้ว น้ำเสียงดุๆ
   ทำตัวฉลาดอีกแล้วนะเรา
   สะพั่งค้อนคนพูดแล้วผิวปากออกจากสโมสรของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในกรุงเทพไป				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟสะพั่งสะท้านไมภพ
Lovings  สะพั่งสะท้านไมภพ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงสะพั่งสะท้านไมภพ