13 เมษายน 2547 22:06 น.

ตอบถ้อย.. **นกตะวัน ..... ครุฑ **..

อาภาภัส


    บินมานาน ผ่านปากแม่นำ โผเข้าไปโฉบใกล้ เรือประมง 
ฉวัดเฉวียนอยู่หลายรอบ หลายตลบ พลันมองเห็นกลุ่มนกหลากหลายชนิด ค่อยๆลอยละล่อง บินฉิว บ้างบินสูง บ้างบินตำ  แต่ก็เคารพในกติกาของลำดับนก อดไม่ได้ต้องถามเสียหน่อย

   เพื่อนจ๋าไปไหนกันเหรอ
  เธอตามเรามาสิ มี บ้านของนกหลังใหญ่ที่เรามักแวะไปเยี่ยมกันเสมอ  บ้านนกตะวัน  
  อือม์ ชื่อแปลกดีนะ  นกแห่งดวงตะวัน ก็เห็นจะมีก็คือครุฑ
 ผู้ที่เหาะเหินเดินอากาศ อยู่ในโลกจริง และโลก ฝัน
 ยังไม่ค่อยเข้าใจ ในโลกจริงคืออย่างไร 
 อ้าว เงินธนบัตรของไทย ไม่ใส่ครุฑไว้ก็ไม่ใช่ของแท้ วันเดือนปีผ่านนานเท่าไร ครุฑก็กางปีกกว้างอยู่อย่างนั้น    
  ไม่เคยได้ยินว่า ครุฑ ปีกหัก    ได้ยินแต่นกปีกหัก
  เธอไปเถอะ เดี๋ยวบางทีฉันก็อาจตามไปเยี่ยม
 นกนางนวลมองตามเหล่าฝูงนกไปจนลับตา 

 แสงตะวันที่โรยตัวอ่อนยามเย็น อากาศกำลังสบาย             เจ้าหล่อนก็เริ่มโผผิน
  ไปแวะบ้านเราที่หน้าช่องสามหนองแขมบ้างดีกว่า มันถูกทิ้งร้างว่างเปล่าไว้นาน จะมีนกตัวใดกล้าแอบไปร่อนลงในป่ารกบ้างไหมนะ  ไหนจะต้นสนใหญ่ ไมยราพยักษ์ พงหญ้ารกๆ จนครอบคลุมไม่เห็นตัวบ้านเลย บินผ่านดีกว่า
แอบไปดูบ้านครุฑ ที่มาอ้อนเราเสียหน่อย 
*********************   +  +  +   +   +   +    +   +   +   +  +*************************

     นกนางนวล  น้องนก  วิหคยักษ์
  ผินลงพัก   โผผิน  แดนดินสวย
  เห็นสวนสน  ส่องเห็น  เจิดจรวย
  เหมือนเสียงอวย พรเหมือน  เตือนตามลม
 
 ถ้อยคำบอก ออกถ้อย  ข้อยสู้ร้อน
หวังมาอ้อน  อิงหวัง   หรือ ขอดขม
สัยสงนัก  ผลักไส  กลัวคารม
คำบาดคม  คงคำ  คล้ายมั่นคง

ยอมมลาย  ฤายอม  ละพยศ
ให้เกียรติลด  ลุให้   ราวลุ่มหลง
อยู่สวรรค์  นั้นอยู่   เหนือเอกองค์
เอื้ออนงค์   หน่อเอื้อ   เจือไมตรี

เอ่ยคำเชย  ชมเอ่ย  เผยจากจิต
ขอผูกมิตร  หมายขอ  ล้อกาศี    (กาศี=ผู้ส่องแสง =ตะวัน)
ด้วยนามน้อง คล้องด้วย  ดวงรวี
ปักษิบดี  ดังปัก  หมุดไทยโพม   (ปักษิบดี= เจ้าแห่งนก)

กวีแกร่ง   ก่องกวี  ศรีสยาม
สมญานาม  งามสม  คารมโหม
นกตะวัน  นั้นนก  เด่นดาวโดม
ล่องพาโคม  คึกล่อง  ก้องนภา
โอ้อกเอ๋ย เอมโอ้  โล้ปีกร่อน
โผฉว่อน วนโผ  ทั่วภูผา
น้องนั้นเป็น แค่น้อง   ไร้หน้าตา
ใยจึงมา  มุ่งไย  เย้าหยอกกัน

โลกท่านกว้าง  สร้างโลก  ด้วยมือท่าน
สวรรค์นั่น  นกสวรรค์  อยู่สุขสันต์
กวีเอก  หนึ่งกวี    เพชรแพรวพรรณ
นกตะวัน   วริศนก  เกริกเกียรติ์ไทย 
      
				
13 เมษายน 2547 14:45 น.

+ Hand in Hand +

อาภาภัส

				
13 เมษายน 2547 14:09 น.

@ ม้านอย ..ยืนคอย..ลูกเป็ด @

อาภาภัส


      กระแสธารไหลรินเรื่อยเอื่อยเอื่อย     
   ชื่นปนเฉื่อย เซ็นซ่าน  ริมธารใส
   เห็นม้าน้อย คอยคู่  อยู่แนวไพร 
   สะบัดไกว โบกหาง ข้างนที

   วารีรี่ ไหลราน ผ่านภูผา
   แนวพนา พฤกษ์ไสว  สวยสดศรี
   ล่องเกะแก่ง  แอ่งน้ำ นานแรมปี
   ชุบชีวี  ปลอบใจ  ให้ผู้คน

   ม้าน้อยก้าว  ดื่มกิน  ริมธารน้ำ
  สุขเหลือล้ำ น้ำใส  ไม่หวังผล
  ดื่มด่ำไอ  เอิบสุข  เนากมล
  อยากยินยล เป็ดเท่ห์  เร่มาเคียง

 ปีกเหลืองเรื่อ ร่อนไป ในวาริน
 ไร้ราคิน บินร่อน อ้อนน้ำเสียง
 เช้านี้หนา ผลาหาร  ห่อนพอเพียง
จึงหลบเลี่ยง  วนมา พนาวัน

 พร้อมคิดถึง ม้าน้อย กลอยใจข้า
ยามอ่อนล้า มีเจ้า เข้าสานฝัน
หาปลาได้ แบ่งเอื้อ  ออมด้วยกัน
สัญญาพลัน จำอยู่ รู้โดยนัย

ฝ่ายม้าน้อย  คอยเมียง  มิเลี่ยงหลบ
ทุกยามพลบ เพลินคิด  รักใสใส
ลูกเป็ดจ๋า  ข้านึก  ทุกวันไป
สัญญาใจ  มอบเจ้า เราสัญญา

 ณ ยามนี้ ไมตรี มีค่าเหลือ
เป็ดโอบเอื้อ มือน้อย ลอยมาหา
ม้าน้อยเล่า ยื่นรับ  แนบอุรา
มิตรตรึงตรา โลกตะลึง  ซึ้งกาลนาน 
 
   


				
13 เมษายน 2547 13:02 น.

@ อรุโณทัย..ชมสกุณา

อาภาภัส

  > 
  อ่านสาราภาษา รจนาหวาน 
สุขสำราญ ผ่านอรุณ อันแจ่มใส 
เจ้านกน้อย ลอยฟ้า ท้าอำไพ 
ลอยล่องไป เปล่งฉาบ อาบแววตา 

ด้วยแดดอ่อน ราวอ้อน อวลอิ่มสุข 
รวีรุก เริงวัน สรรอุษา 
รวมเหล่าแสง แรงร้อย เป็นมาลา 
โปรยปรายมา รินรื่น ให้ชื่นทรวง 

ด้วยนำใจ ไมตรี มีมามอบ 
นกชื่นชอบ ฉ่ำสุข อยู่เรือนหลวง 
จงเย็นใจ ไออุ่น หนุนนานดวง
เคียงคู่ควง อาภา นภาโพยม 

ร่างตำนาน กาลหนึ่ง  เจ้านกน้อย
บินเคลื่อนคล้อย  คลาไคล  กระไอโหม
ไร้เพิงพัก คาขื่อ หรือแดนโดม
เสียงอ่านโอม  อึงอล  ฉงนใจ

รัว รอน ร้อน  เรารี่ ลอยเรื่อยเรื่อย
เจ้าบินเมื่อย หรือ เพลิน สวรรค์ใส
ใกล้เรานัก เจ้าจัก ถูกย่างไฟ
อยู่ไกลไกล  ดีกว่า คราบินจร

ด้วยตัวเรา รวีแรง  เหมือนแกล้งเจ้า
สุขพลันเศร้า เถ้าสุก มิหลอกหลอน
มีโลกกว้าง ฟ้ามี  นกตาวอน
ไทยโพมกลอน กอดกก  นกตะวัน				
13 เมษายน 2547 11:19 น.

++นำเอ๋ย .. นำใจ+++

อาภาภัส

กลอนดอกสร้อย
      
คณะ          บทหนึ่ง มี ๔ คำกลอน  คำกลอนหนึ่งมี ๒ วรรค  วรรคต้นบทมี ๔คำ   คำที่ ๒ เป็น เอ๋ย  นอกนั้นมีวรรคละ ๗ ถึง ๘ คำ คำสุดท้าย บท เป็น เอย

สัมผัส       ตามแผนบังคับ  นอหกจากนี้ ควรมีสัมผัสใน เพื่อความไพเราะเช่นเดียวกับกลอนแปด

 คัดลอก มาจากหนังสือ หลัก และการใช้ภาษาไทย ของ 
ศาสตราจารย์ เสนีย์ วิลาวรรณ      ขออนุญาตค่ะ 
        
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++****************************************************************++++++++++++++
   ><                 
             
             b>  น้ำเอ๋ยน้ำใจ              ซ่อนทรวงใน เนานิ่งพริ้งงามเหลือ

 หลั่งรินรดหยดหยาดสะอาดเจือ       กอบโอบเอื้อ อุ่นไอใสอุรา

จากดวงใจไมตรีที่งามงด                 พร้อมมธุรส วจีวอนหวานหนักหนา

หยาดน้ำใจในคำและลีลา                กลั่นออกมา อวยพร  สงกรานต์เอย 

                                                                                             /font>>
 
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอาภาภัส