29 พฤศจิกายน 2547 00:14 น.

ใจขาด...ขาดใจ

อาภาภัส



                              ใจขาด...ขาดใจ
        สลัดหมึกสีดำคล้ำ               หยดลงน้ำสีขาวใส
     สวรรค์ในอกนรกในใจ          จะบรรลัยฤาอยู่ดี
    หากเลือกได้หวังกลายกลับ     ไปนอนนับดาราศรี
    บนหนทางแห่งราตรี               ที่พึงมีสว่างกลางวัน
    เพราะมืดไร้ได้เห็นชัด             แจ้งถนัดเดินสุขสันต์
    ร้องเพลงบรรเลงร่วมกัน         ระวีวันพร้อมอัสดง
    สาดเลือดปนถนนสายเน่า        หนักกว่าเก่าดุจผุยผง
    อนาถแท้ชีวิตปลิดปลง             หักคาลงตรงทางมาร
   ใจสลายร้ายยิ่งเพลิงโหม            ลมประโคมกระหน่ำสาน
   ราวกลบโลกอันตรธาน              เหลือกลางลานเพียงตัวเรา
    เทวษทุกข์คลุกข้างใน                ตรมพองไหม้คุโง่เขลา
    กุลีกรอบจอบบิ่นเบา                  เก็บเพียงเงาซากเดนงาม
    อยากหลับตาซบอกฟ้า               โอบกอดข้าให้คนขาม
    มนุษย์เกิดมีในนาม                     ใช่จะหยามลดต่ำดิน
    บาทาทนด้นดันเดิน                    ทุรเถินทาสเยี่ยงหิน
    บาดคมลึกแสบร้อนวิ่น               ยอมเกือบสิ้นมอดคาลม
     ระรินอ่อนระทวยทน                 สุดทางยลหรือสุขสม
     ภาระส่ำย้ำคาตม                         จึงโศกซมขมขื่นทรวง
     หากมีปีกจะหลีกลี้                       สู่แดนที่พราวราวสรวง
     ทุกอย่างจริงมิหลอกลวง              กอบชีพล่วงสู่รุ้งสราญ

          อาภาภัส     28 พฤศจิกายน  2547  


















				
28 พฤศจิกายน 2547 09:58 น.

....++++++++…เกียร์..ใจ...+++++...

อาภาภัส



                  .++++++++เกียร์..ใจ++++++.........
      แนวหมู่ไม้รายเรียงอยู่ลดหลั่น                 สูงสุดกั้นต่ำเตี้ยละเหี่ยไฉน
เหลียวมองหลังพลังลดหมดแรงใจ             จากนี้ไปจบสิ้นถิ่นเคยเนา
  จะหยิบฟ้ามาวางตรงทางกว้าง                  พร้อมวาดวางถนนใหญ่ใหม่ด้วยเสา
  ให้หลายสิบหยิบหมุดตรึงตอกเพลา          ดุมล้อเกลาบ้านเกวียนเทียนชีวี
  เติมน้ำมันอนันต์ผลพร่างมวลมิตร       สลักจิตปรับแจกแลกศักดิ์ศรี   
 ยอมเฉือนคมถมบาดสังเวยพลี               ลบกลบหนี้ขูดร้างกลางสังเวียน
 หวังโชคช่วยอวยเอื้ออำนวยเหตุ            พระปรกเกตุโปรดเกล้าองค์เหนือเศียร
   พึงขยายเวทมนต์บันไดเจียร                 ส่งทางเตียนต่อสานงานมวลชน   

  นับเวลาลงคลุกในบึงโคลน                        ราวต้องโดนคำสาปทุกแห่งหน
    มาเทลงชีวิตพันละวน                  คลื่นฉงนสาดซ้ำกรรมดำเนิน
    มิได้เคยเรียกร้องกู่ก้องฟ้า                            ยอมเพื่อว่ากตัญญูคู่เขตเถิน
    มาบัดนี้เห็นทีเปลี่ยนทางเดิน                       ขอความเพลินหล่นหล้าพาห่มตัว
    หาอุ่นไอไยเยื่อเจือใจสด                               สะอาดพจน์พราวหูแม้ยลหัวว
    ฤาหยามเหยียดเสียดสีระเนนัว                      ก็มิกลัวสุดท้ายตายดุจเดียว
     ลมหายใจเหลืออยู่สู้เติมต่อ                           ทะนงก่อแม้ร้างชนแลเหลียว
     จิตสำนึกผนึกขั้วรัดลายเกลียว                 ดังขว้างเคียวฟันขาดฟาดครึกโครม
     อาจหาญกล้าแม้ว่าเจอไฟป่า                           เผาชีวาซ้ำเติมราวคลื่นโถม
     ก็ยอมลงนรกบ้างกางกระโจม                        ด้วยเชื่อโคมคือโดมดวงความดี
     คงสนองสำเหนียกตะเกียกตะกาย                  มิได้หมายดินกลบลบราศี
     จักต้องเห็นเย็นผ่อนโรยฤดี                             นับจากนี้เนืองล้นจนสิ้นใจ

                  อาภาภัส   28  พฤศจิกายน 2547


















				
27 พฤศจิกายน 2547 19:10 น.

ชิงช้า.รัก ..

อาภาภัส





                              ชิงช้า.รัก  ..
             ณ ลานกว้างสวยสด                     งามหมดจดบุปผาเหลือง
             ทานตะวันอร่ามเรือง                    ล้อลมเฟื่องฟูตระการ
            เด็กหญิงแก้มแดงเดินชม               เพลินอารมณ์ทิพย์สถาน
            ระดะเรียงดอกไม้บาน                   ชิงช้าสราญชวนแกว่งไกว
             แหงนมองฟ้าสีสว่าง                     เป็นแนวทางสร้างฝันใส
             สงสัยนักในใจ                              เทวาไซร้มีอยู่ฤา
             ยามเย็นนั้นร้องเพลง                     พร้อมบรรเลงขับกล่อมหรือ
             ล้วนทั้งหลายต่างถือ                      หน้าที่คือพรมสุขขจร
             ทำยังไงดีนะ                                  อยากพบพระที่มีศร
             ตัวเล็กคล้ายเด็กอ่อน                      เพื่อขอพรผูกรักตน
             ชิงช้าเอยถึงไหน                            ไกลสุดไกลทั่วแห่งหน
              จงช่วยนำเรายล                             ฟ้าเบื้องบนดังเวียงงาม
              ไม่ช้าสองขาเร่ง                             อยากแกร่งเก่งให้คนขาม
              ปรากฏชื่อลือนาม                          ผู้ติดตามต่อเติมฝัน
              ปีนป่ายนั่งโอนเอน                       ชิงช้าเบนมุ่งสู่สวรรค์
              ยิ้มแต้มพราวลาวัลย์                      สนุกสรรพลันเจิดจินต์
              ไกวลมไหวชีวิต                            ประกาศิตดุจผาหิน
              เกิดมาบนธรนินทร์                        ฟ้ามิสิ้นถิ่นความดี
              ขอจงช่วยประจักษ์                         บำรุงรักอย่าเลือนหนี
              ขอจงชัดแจ้งมี                                 เสริมศักดิ์ศรีค่ามนุษย์
              กลีบละอองตะวัน                            พลิ้วหวิวสั่นปลิวสายสุด
             ขยับเคลื่อนขั้วเกือบหลุด                   ด้วยสะดุดหยุดตรงแพร่ง

                อาภาภัส  27 พ.ย  2547








				
23 พฤศจิกายน 2547 15:57 น.

สกุณา..มหาชน

อาภาภัส



                                          สกุณา...มหาชน
                ภาพที่เห็นเด่นชัด                 ปวงชนนัดจัดพับนก
               สื่อสายใยป้องปก                  คือวิหคนับร้อยพัน

               มีชีวิตติดตัว                           ตลอดทั่วคนรังสรรค์
               ใช้สติผนึก มั่น                      เพื่อแบ่งปันความจริงใจ

               เติมถ้อยคำล้ำค่า                    มนัสจ้าจารึกใส
               เปี่ยมด้วยหวังผืนไทย           สุขละไมไร้ภัยเยือน

              รวมคุ้มครองผองญาติ            มิให้หวาดจิตบั่นเฉือน
               ทุกสายตามิเลือน                   เฝ้าคอยเตือนให้อุ่นทรวง

               สายน้ำไหลล้นฝั่ง                  ดุจคล้ายดังรักเลอสรวง
               อาทรโอบทะลวง                   เพื่อพลิกล่วง มืด มนต์ดำ

                ธาราจากภายใน                    ชื่นฉ่ำใสแทนน้ำคำ
               ทุกข์เขาเรารู้จำ                       โบยกระหน่ำดังทุกข์เรา

               เลือดไทยไหลแรงเหลือ          ต้านเหยี่ยวเหยื่อร้ายโฉดเขลา
               ประกาศกล้าบรรเทา               รักยังเนาไทยแดนทอง

               ศิลาฟ้าจารึก                            รักก้องกึกบินลอยล่อง
               สู่ใต้มณฑลปอง                       ยลพี่น้องมาตุภูมิ

               โซ่ใดอาจตัดขาด                     โซ่รักชาติบานเต่งตูม
                เงินตราบำเหน็จปูม                 ประดับซุ้มใต้แดนดิน

               ซาลาม คือคำทัก                      จงประจักษ์พิทักษ์ถิ่น
               ซามากัน ร่วมกิน                     รักมิสิ้นเลือดรักไทย

                 อาภาภัส    21 พฤศจิกายน 2547
    
เขียนไว้ตั้งแต่ วันที่ 21  เพิ่งมีโอกาส นำลงค่ะ











				
20 พฤศจิกายน 2547 07:02 น.

รักกลางอากาศ..ล้อมรั้วรัก

อาภาภัส



               นานข้างหน้าคราโลกเลื่อนพันปี      เปิดทีวีพิเศษบนสวรรค์
              เห็นฝูงนกกระดาษกว่าล้านพัน         ลอยลงลั่นสนั่นป่าผาทุ่งยาง

              ทุกตัวเตือนเยือนใต้ให้รักมิตร          หวังสฤษดิ์สุขสงบร่วมสะสาง
               ทุกดวงใจคือไทยรักไม่จาง              เหอ้างว้างหันคืนผืนรักเดียว

               รวมถ้อยคำนำมอบจากขอบฟ้า        ถึงเพื่อนยาพี่น้องจงแน่นเหนียว
              อยู่ถิ่นไทยสายเลือดเรากลมเกลียว    เป็นหนึ่งเหนี่ยวหนักรักถักกอใจ

              รอยอักษราอวลอบกลบความเศร้า    สู่เรือนเหย้าญาติเดิมเพิ่มสุกใส
              อันความรักภักดีเพื่อเผ่าไทย             ร่วมผนึกไว้ห่วงล้นท้นอุรา

              จำได้ไหมในวันที่ฟ้าสวย                  แสงแดดช่วยเสริมสิ่งสุขหรรษา
              คราเมฆมืดแค่กลบเพียงเมฆา            ลมก็มาโบยทางสว่างพลัน

              วสันต์เชยเผยให้ใจเจิดอิ่ม                 ได้ดื่มชิมน้ำฟ้าพาสุขสันต์
              ทั่วแหล่งหล้าเท่าเทียมมีคืนวัน          ฟ้าพลิกผันพรมสุขทุกข์มลาย

              แหงนมองหล้าน้ำมาจากหทัย            พี่น้องไทยส่งสาสน์ธารใจสาย
              รักเราอยู่รวมกันไม่เสื่อมคลาย           ห่างเพียงกายคำนึงซึ้งความดี

              จากดวงใจพิสุทธิ์มอบมวลมิตร          สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้สุขี
               จงผ่อนทุกข์ปัดเป่าเจ้าราคี                 พรมชีวีศรีเรือนเพื่อนผองชน

             อยู่ถิ่นไหนไกลใกล้ไทยทั้งนั้น            รักคงมั่นมาตุภูมิภักดีผล
            เทพเทวาแซ่ซ้องบันดาลดล                  มนัสยลเจริญยอดตลอดไป

           
    อาภาภัส   20 พฤศจิกายน 2547















				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอาภาภัส