10 พฤศจิกายน 2552 18:30 น.

จดหมายถึงนายสามตา

อาภาภัส

จดหมายถึงนายสามตา
                                                                            อาภาภัส ทรัพย์คง
             เสียงโทรศัพท์เรียกเข้า....  แต่..แต่ ....แต่...แต่....
             แต่.....ที่บอกว่าไม่รับไม่ได้  เป็นของเพื่อนสนิท  สาวน้อยน่ารัก ก้อยกระจิ๊ด     รู้อยู่แล้วว่าเจ้าหล่อนกลับไปเยี่ยมบ้านเกิด ตั้งแต่สามวันที่ผ่านมา
             สวัสดีจ้ะ...  กดรับแล้วเอ่ย ทักด้วยน้ำเสียงสดใส..
             ดีด้วย  ..  
             เป็นไง วันนี้ ไปไหนหรือเปล่า ...
            ตั้งใจว่าจะออกไปข้างนอก  แต่กลายเป็นว่าต้องกลับมาดูหยาดน้ำหยดย้อย...   ฝนเทลงมาตั้งแต่เช้า  ไม่ค่อยชอบเลย.. 
            เหรอ ผิดกับเค้าเลยนะ ...   ผู้ที่แทนตัวเองเค้า ชื่อเล่นใกล้เคียงกัน  ..คุณต้อยต้อย  สวยหวานๆน่ารัก กัดแหลก  เจ้าหล่อนแอบบอกตัวเองอย่างนั้น......    เค้าชอบให้ฝนตก   ฝนตกเมื่อไรสบายใจเมื่อนั้น จะให้นั่งติดที่คงยาก  อย่างน้อยขอให้ได้แฉลบล้อฝน เผลอๆ ฝนไม่หยุดตกก็เล่นน้ำจนกว่าจะพอใจ
           อูย..ไม่เอา น่าเบื่อจะตาย ไปไหนก็ไม่ได้....
           อือ..อ้อ .. แล้ววันนี้ คุณพี่  .โทรมาแล้วหรือยัง..
           คุณต้อยต้อย  เอ่ยถามเพื่อน...  หล่อนแอบอิจฉาเพื่อนเจ้าหล่อนทุกวัน คุณก้อยกระจิ๊ด มีคนพิเศษ ที่คอยถามไถ่   เหมือนหมอจ่ายยา  วันละสามมื้อ เช้ากลางวันเย็น  ต่างตรงที่ว่า เวลาที่คนพิเศษของคุณก้อยโทรมา  ..  ก่อนอาหารบ้าง หลังอาหารบ้าง  ก่อนนอน อือ  ช่างน่าอิจฉา..
          นี่ไง..เมื่อกี้ เพิ่งจะวางสายไป  แล้วก็โทรหาเธอนี่แหละ...
          ถามจริง คุยอะไรกันบ้าง...  แล้วเคยเบื่อหรือหงุดหงิดบ้างไหม... 
          ไม่เบื่อ  ..ถามก็ตอบไป  ฟังไปคุยไป..
           อิจฉาสุดสุด...คุณต้อยต้อยคิดในใจ แต่ปากพูดกับเพื่อนว่า  ..โชคดีจังเลยนะ..
           ทำไมต้องโชคดีด้วยล่ะ เรื่องธรรมดา ธรรมดา  ..
           นั่นแหละโชคดี ดีมาก มาก ....  คุณต้อยต้อยคิดถึง โชคที่หล่อนเรียกว่าดี เพราะเจ้าหล่อน ไม่ค่อยจะได้เจอะเจอในแบบที่เพื่อนของหล่อนได้รับ     หล่อนชอบคุย  ฟังคนคุย ชอบดูรูป ชอบให้ได้รับความรู้และเพลิดเพลินขณะคุย   เสียงที่สื่อถึงกัน นั้น ทดน้ำให้เต็มหัวใจได้  น้ำนั้นตั้งชื่อว่า น้ำใจไมตรี  ....    อ้อ แล้วเมื่อวาน ที่บอกให้เธอตะโกนบอก เธอทำให้หรือเปล่า..
             คุณต้อยต้อย ขอร้องให้คุณ ก้อยกระจิ๊ด  ตะโกน ฝากคำไปยัง เกาะหนู เกาะแมว ให้บอกว่า คุณต้อยต้อยคิดถึงมาก   และบอกท้องทะเล และหาดทรายสีขาวว่า...  คิดถึงจริงๆ คิดถึง คิดถึง.
   เงียบ..  คุณก้อยกระจิ๊ดพูดเรื่อง งานที่เจ้าหล่อนทำในตอนเช้าก่อนฝนจะตก  ...
             เฮ้อ...  อ๋อ ..เหรอ..  อือ..  ดีจัง...   คุณต้อยต้อยฟังเพื่อนเล่า
                                                                                                                      หน้า  ๒
        ตอนที่รุ่นๆกว่านี้ มีเด็กเดินตามด้วยนะ   สิบขวบเอง เด็กคนนั้น เดี๋ยวนี้เป็น ผู้กำกับภาพยนตร์ไปแล้ว
        เหรอ...  ยอดเลยเพื่อน.....
        แต่ ตอนนี้  เด็กนั้นคงลืมไปแล้ว ....  คุณก้อยกระจิ๊ดบอก..
        แน่ใจได้อย่างไรว่าเขาจะลืม   ....   เค้าเอง  ตอนเป็นนักศึกษาปีสอง  ไปเข้าค่าย สร้างโรงเรียนไทยรัฐวิทยา ที่บางเลน   ยังเจอะเจอ เด็กรุ่นน้อง คุยเก่ง กะล่อนนิดๆ  งานสร้างโรงเรียนเสร็จ ยังเขียนจดหมายคุยกันเลย...
        คุณต้อยต้อย ย้อนเล่าความจำให้เพื่อนฟัง...   คุณน้อง สามตา  ภานุ  หล่อนตั้งชื่อเองอย่างนั้น
        คิดถึง คุณแม่ของน้องที่ เชิญให้ไปร่วมรับประทานอาหาร  รู้สึกขอบคุณที่ได้เคยรู้จักพวกเขา
        แล้วตอนนี้ยังติดต่อกันหรือเปล่า....
        ตอนนั้น สงสัย เล่นกีฬามาก  ออกไปแข่งนอกมหาวิทยาลัยตลอด  ...    เขียนจดหมายคุยกัน แต่ไม่รู้จดหมายหายไปหมด เพราะย้ายบ้านบ่อย...  คุณต้อยต้อยไม่ได้ตอบคำถามเพื่อน แต่เล่าให้ฟัง
        สรุปว่า... เขาลืมหมดแล้ว...  
         ไม่รู้สินะ  ...แต่เราไม่ลืม  และยังรำลึกถึงเสมอ  ..ไม่รู้ว่ายังอยู่ หรือจากไป หรือว่า  ตกหลังคาหล่นมาอยู่กับบ้านก็ไม่รู้....  ประโยคหลังคุณต้อยต้อยไม่ได้พูดออกไป แต่คิดในใจ เพราะ คุณน้องสามตาเป็นลูกหลานผู้รับเหมาก่อสร้าง...  
          รับรองได้เลยว่า  เด็กคนนั้นลืมหมดแล้ว
        เฮ่อ   ม.ศ สามมั้ง..  ไม่ได้คิดแบบไม่ดี  คนเราการได้รู้จัก คือ มี มิตรที่ดีเพิ่มขึ้น  โชคดีสุดๆเลย 
         กาลเวลาเปลี่ยน...  ลืม..จำ จำ ลืม....
        ใช่  เค้าอยากบอกว่า  ใครดีกับเค้า  เข้าใจ ภาษาใจที่สะอาด   เค้าไม่ลืม   แต่ถ้าแบบห่วยแตก ประเภทที่ไม่รู้จักเคารพตนเอง  ถึงเดินมาทัก ก็จะบอกว่าไม่รู้จัก...  คุณต้อยต้อยพูดกับเพื่อน
         ท่ามกลางสายฝนโปรย  ผู้หนึ่งโทรมาจากบ้านชายทะเลแสนสวยและเต็มไปด้วยความรักและความสุขพร้อมพ่อ ญาติพี่น้อง   ถึงผู้รับ ที่อยู่ท่ามกลางกระท่อมเก่าๆล้อมด้วยต้นมะม่วง  ชมพู่ ทับทิม ดอกไม้ หอมๆ   แต่ ใจเหี่ยวๆ ดัง ต้นไม้ที่ถูกตัดกิ่ง  เหลือเพียงลำต้นยืนตาย รอผุ
           คุยกันไม่นานหร็อก.... สองชั่วโมงกว่าๆเท่านั้น  ...   
           อิอิ ส่งท้าย ..คุณต้อยต้อย อยากจะบอกว่าอย่างนี้เล่าข่าว อ่านข่าว สบายๆ  ...รับรอง..
               และ จดหมายนี้ ถึง น้องสามตาจ้า..
     
               เขียนที่ ทีโอที ชิดลม  .. แต่บ้านอยู่ที่ 19/8 หมู่ 17  บางหญ้าแพรก พระประแดง
                                                      สมุทรปราการ 10130   10 พ.ย 2552    18.21  เสร็จ
				
9 พฤศจิกายน 2552 15:20 น.

นัดที่ไม่ได้เชิญ

อาภาภัส

`                                                         นัดที่ไม่ได้เชิญ
                                                                                                 อาภาภัส
                         กล่องจดหมายขาเข้ามีข้อมูลส่งมามากมาย แต่มีอยู่ฉบับหนึ่งที่มีรูปน่าสนใจ  หัวเรื่องบอกว่าเกิดมาไม่เคยดี    .....
                          นับว่าตั้งแต่เกิดมา เจ้าของชีวิต ค่อยๆเติบโต  รับน้ำ รับอาหาร  ประจำ  ได้เติบโตและอาศัยอยู่ทั้งในแถบที่สูงและอากาศทั้งเย็น ทั้งอบอุ่น  โชคดีสุดๆ  ดังนั้นรูปร่างจึงค่อนข้างเจ๋ง
แต่เมื่อได้รับแต่ดี  ก็ต้องมีที่พลาดบ้าง และก็คงเป็นเช่นเจ้าของชีวิตนั้น
                         ทุกๆครั้ง และทุกๆหน่วย  ต้องโดนทุบ
                         โถ โถ   ภาษาต่างประเทศเขียนว่า  _nut`คำไทยๆเรียก คุณ ถั่ว..
                         คุณถั่ว รัก คุณพ่อ และ พ่อคุณมาก  น่าดีใจจริงๆ............. สาธุ
				
30 ตุลาคม 2552 18:31 น.

เก็บกระดาษรอเก่า

อาภาภัส

ห้องที่เรียงรายด้วยเก้าอี้เล็คเชอร์ สีแดงและดำ   และมีผู้คนนั่งเต็มทุกตัวแต่วันนี้ มีแต่ว่าง   .
         เพลงที่ดังอยู่ในใจ  ลา ลา ลา  สี่ขา เหมือนพวกแมว  ... แล้วก็นึกเพลงใหม่ต่อไป    .....  ถนน ถนน ถนน    มีแต่คน  มีแต่คน    มีแต่คน       คนขับ    
        ร้องให้มันเรื่อยไป ไม่ต้องนึกอะไร
        กลิ่นกาแฟหอมๆ  กับ มุมหนึ่งริมต้นไม้รับสายลมหนาว    คงสร้างความคุ้นเคยให้กับผู้ได้ผ่านการอบรมอีกครา     สู่ยังบ้านเรา    บ้านตนเอง    
        ชีวิต ที่ย่างก้าว  ถึงแม้มุ่งมั่น   แต่ต้องยอมรับรู้ด้วยว่ามีสะดุด
        ..... ยังจำได้ วันที่สองแห่งการอบรม   ....วิ่งๆๆๆๆๆๆขึ้นบันไดไม่นับขั้น วิ่งให้สะใจ  ตามองเลยไกลผ่านกระจก..  โอะแม่เจ้า  เหมือนคนเคยเห็น    ตาเลยมองที่ตาเขา  ไอ้เขาก็รับรู้แล้วมองที่ตาเรา   ....  ไม่ใช่เรื่องรัก   .. แต่เกือบเฮง  สะดุดกับพื้นที่ตรงหน้าประตูเล็กน้อย     เขาก็ โอ๊ะ   เราก็โอ๊ะ   
        บอกแล้วไม่ใช่เรื่องรัก  เพราะฉากนี้ไม่ใช่ พระเอกเจอนางเอก     ...เพียงเขนเขียนมาประกอบ   เหมือนกับแผ่นกระดาษนั่นแหละ    อบรมนี่ลึกซึ้ง   ซ่อม เสย   ราวกับจะปั้นเซียน   
        ....ท้าย สายเวลา  ราคาเพียงกระดาษเก็บรอเก่า รึเปล่า     
       คิดให้บวก บอกให้บวก   เก่าเก็บกระดาษรอราคา      ...
          อย่างไร  ก็ ลองดู ลองสู้กันเถอะ  ..นางฟ้าและเทวดาผู้น่ารัก  ยกเว้น 
ปีศาจอสูร  จงไปไกลๆ  ..				
26 ตุลาคม 2552 20:34 น.

กล้าใกล้กุด

อาภาภัส

`กล้าใกล้กุด
      นั่งรถมาเอื่อยๆ  หัวใจโรยๆ บางทีก็ ปุดๆ      ความสุขที่เคยมานั่งฟังคนน่ารักทั้งนั้นให้ความรู้ แบ่งปันประสบการณ์ใกล้เข้ามาแล้ว
      แสงไฟฉากสุดท้าย สว่างเพียงอวดภาพความสุขสุดท้ายที่จะเห็นรอยยิ้มของ ตัวละครทุกคน   .... เก็บเพียงภาพไว้จำเท่านั้นสำหรับผู้มาชื่นชม
   ดอกไม้ริมหน้าต่างที่เคยเห็นผ่านกระจกตั้งแต่วันแรก   จนถึงวันนี้  กลีบบางๆเปลี่ยนสี และค่อยร่วงลงทีละกลีบ   
  เหมือนอย่างกับจะแกล้ง  ลมแรงพัดมาวูบใหญ่   กลีบดอกไม้ร่วงพรู  จริงสิ..แม้จะร่วงสู่พื้น แต่เจ้ายังอยู่ในใจจำ ว่า เจ้าเคยเป็นดอกไม้ที่เพิ่มชีวิตชีวา

        ในกระถางดิน  แรกเริ่มเขาเพียงเพาะชำเจ้า  แล้วใครๆก็เรียกเจ้าว่า  กล้า  เพาะกล้า    อาจมีบางทีที่ใครจะหยิบเจ้าไป  บำรุงเจ้าใหม่  กล้างามยามที่คนจองและใส่ใจ
          แต่ไม่ใช่กล้าทุกต้น
          กล้าใกล้กุด   มีหัวใจใครเข้าใจ				
12 มีนาคม 2548 12:26 น.

อบอุ่นที่ใจ

อาภาภัส



                            อบอุ่นที่ใจ
             .....ตึดๆๆๆๆๆๆๆๆ เป็นจังหวะของเสียงมือถือ ที่กดเรียกไป
         ..ครับ ...คุณ...
.......ทำอะไรอยู่คะ   คุยได้ไหมคะ....
   ...ได้ ครับได้..
    ..ทำไม..เว็บ ยัง ไม่เห็น ชัดเจนเลยคะ
  ...ส่ง ข้อมูล สิครับ  เดี๋ยวลงให้หมดเลย..
    อ้าว แล้ว ..ไม่มีข้อมูล จากฝ่ายคุณบ้างหรือคะ   ..  เขียน เติมๆลงไปเถอะค่ะ   ไม่อยากให้รู้สึก เหมือนว่า รอคอยว่าต้องมีอะไร
.........เงียบ... ไม่มีเสียงตอบ
.....แล้วที่เราเคยคุยกัน  .... คุณ ไม่มีอะไรให้ช่วยคุณได้เลย ..เหรอคะ
  ....ขอเป็น กำลังใจให้ผมก็พอ....
   ..........................
        ไม่อยากเชื่อ เลย  สิ่งที่เราคิดในใจ  จะตรงกับคำพูด ที่ได้ยิน   ...
       ความรู้สึกแห่งความอบอุ่นเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก  ต่อให้คนเราไม่เคยเห็นหน้ากัน  มันก็เริ่มห่วงและเกรงใจกัน  เริ่มรู้สึกว่า ต้องเหลียวมอง ใส่ใจ ใจของกันและกัน    เราเป็นเจ้าของใจ เราก็เริ่ม งง ใจเราเอง......
............
        เด็กหญิงเปรี้ยวหวาน  นั่งตาลอย  ฟังเสียงละครวิทยุ   ที่ พระเอกนางเอก คุยกัน   เจ้าหล่อนเดาเอา ว่า เป็น พระเอกนางเอก  ก็คุณเธอ  เพิ่งจะย่างห้าขวบ    ....
       เสียงคุณปู่ พูดลอยลมมา    ...ดู ดู  ตัวแค่นี้  มันยังฝัน ..ซะ    ฟังรู้เรื่องหรือเปล่า ก็ไม่รู้
      คุณย่าเสริมคำคุณปู่....
      วันก่อน  ละครวิทยุ ถึงบทเศร้าโศก  ยายเปรี้ยว มันเลยหวาน เสียจนน่าทุบ
  ทำไมรึ..
    น้ำตางี้  ..ไหลแรง ยิ่งน้ำเพ็ญ  เดือนสิบสองเชียว...
     อือ...  โตขึ้น  ...จะเป็นอะไรกันนะ... 
     เปรี้ยวหวาน  มานี่สิ....
     ขา....  คุณปู่ มีอะไรหรือคะ
     นี่แน่ะ  มานั่งใกล้ๆปู่นะ   พนมมือ ..
     เด็กหญิงเปรี้ยวหวาน  คลานต้วมเตี้ยมไปนั่งแหมะข้างคุณปู่
    มุมขวา ของบ้านเรือนไทย ด้านต่อกับหน้าบ้าน  คุณปู่จะจัดวางพระพุทธรูปหลากหลาย มีทั้งขนาดใหญ่ และเล็ก 
ทุก วัน และ คืน โดยสม่ำเสมอ คุณปู่จะนั่งไหว้พระและสวดมนต์ยาวมาก ภาพของชายสูงอายุรูปร่างกะทัดรัด สายตาเด็ดเดี่ยว  คำพูดที่จริงจัง ความรักและความปรารถนาดีจะซ่อนไว้ในน้ำเสียง เปรี้ยวหวานสัมผัสความห่วงใยด้วยกระแสความรู้สึกของตัวเอง
    เปรี้ยวหวานย้ายจากบ้านเกิดมาอยู่บ้านคุณปู่ที่เป็นอาของพ่อ ด้วยความตั้งใจของพ่อ   พ่อเห็นว่า ลูกๆของคุณปู่ยังเป็นโสดทั้งหมด คงช่วยดูแลและสั่งสอนเด็กๆให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้
..............
เอ้า....ว่าตาม   เมตตันจ  สัพพะโร.......  แล้ว ก็จบลง ปุณะเรตีติ

.......
 กราบลงไปงามๆ  อธิษฐาน ตั้งจิตให้ดีว่า  อยากได้อะไร...
 .....  วัยห้าขวบของเด็กหญิงเปรี้ยวหวาน....
 ...เทวดาเจ้าขา ...ขอให้เปรี้ยวหวานมีครอบครัวที่ อบอุ่น  มีความรักและความเข้าใจ ให้ในบ้านของเปรี้ยวหวานมีคนมากมาย มีคุณปู่ คุณ ย่า คุณตา คุณยาย มีคุณพ่อ คุณแม่  มีญาติๆ มีพี่ มีน้อง  ขอให้เปรี้ยวหวาน ได้ดูแล ทุกคนอยู่กันด้วยความรัก และช่วยเหลือเกื้อกูล ซึ่งกันและกัน  ห่วงใยกัน ช่วยกัน รักกัน  มีแต่ความสุข
  ..เทวดาเจ้าขา คุณพระเจ้าคะ  ..ผลบุญใดๆที่เปรี้ยวหวานทำไป ขอช่วยรดใจให้ทุกผู้คนได้เป็นสุข  
อ้อ...แล้วอย่าลืม ผู้ล่วงลับไปแล้วในนรก ขอให้พวกเขา ได้หลุดพ้นจากความทุกข์ทรมาน
และ เปรี้ยวหวานขอแผ่ส่วนบุญให้กับท่านพญายม ...ด้วย
     จิตที่ตั้งหวัง กว่าจะเติบโต  กว่าจะผ่านชีวิตแต่ละวัย  มันบิน พลิ้ว ดุจดังกาลเวลาเดินทางล่วงไปทุกวัน
 ....ตัวแทนแห่งความฝัน มีมากมาย ดุจดัง เด็กหญิงเปรี้ยวหวาน ..นั่งตาลอย ยามนี้หนอ..
...เอ๊ะ  เอ  แล้วเรื่องความรักล่ะ  ..ยังได้เติมรสเลย  ...เปรี้ยวหวาน ยังไง น้อ....

 ..........อิอิ ใครมาอ่าน ขอให้มีความสุข หัวใจกระจ่าง กระโดด กระตึ๊บๆ  อิอิ  ยิ้มสิคะ
           รักๆๆๆๆๆๆ  ..มอบให้ เช้าวันเสาร์อย่างนี้นะ...

            อาภาภัส  12 มีนาคม 2548




				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟอาภาภัส
Lovings  อาภาภัส เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงอาภาภัส