30 ตุลาคม 2552 15:57 น.
				
												
				
								เที่ยนหยด
		
					
				
 ๏ รู้ตัวว่าครานี้ถึงทีแล้ว               
       ไร้สิ้นแววจึงหมองไม่ผ่องใส  
       พี่ทำร้ายข่มเหงมิเกรงใจ             
       ตัดเยื่อใยสายสวาทสิ้นขาดกัน
       ๏ รู้ดีว่าพี่ทำเจ้าช้ำหนัก 
       สัญญารักเลือนหายมลายฝัน             
       เคยพนอเคียงชื่นทุกคืนวัน
       กลับสะบั้นเพราะพี่ย่ำยีใจ
       ๏ หากเจ้ายังฝังใจในความเจ็บ
       ทนฝืนเก็บความเศร้าคราววั่นไหว
       พี่มากรักทำลายซึ่งสายใย
       ขอชดใช้ให้สิ้นด้วยยินดี
       ๏ ยอมรับกรรมเพราะทำให้ช้ำจิต
       เผลอทำผิดทิ้งน้องจนหมองศรี
       ขอพี่เจ็บทั้งกายพ่ายฤดี
       สิ้นศักดิ์ศรีแห่งชายจวบวายปราณ
  
       ๏ แม้ชอกช้ำอาลัยฤทัยหวน
       มิคร่ำครวญกับใครให้สงสาร    
       ดั่งถูกเถือเนื้อหนังเจ็บฝังนาน
       ทนทรมานดุจไฟไล่สุมทรวง
       ๏ หากน้องยังเศร้าหมองและร้องไห้
       ชอกช้ำในความรักสุดหนักหน่วง
       จากผู้ชายคนนี้ที่เคยลวง
       จนตกบ่วงเล่ห์กลหม่นอุรา
  
       ๏ ขอชดใช้ในบาปตราบชีพสิ้น
       รอยมลทินเจ็บฝังรั้งใจผวา
       ให้ตรอมตรมจมบ่วงห้วงเวลา
       ทั้งชีวาสิ้นทางเวิ้งว้างไกล
       ๏ แม้นชาติหน้ามีจริงขออิงแอบ
       สะเทิ้นแนบเนื้อนวลชวนขานไข
       ซ่านรำพันฝันรักสลักใจ
       วอนเทพไท้อุ้มสมภิรมย์ทรวง
                  "เทียนหยด"
๏ รู้ตัวว่าครานี้ถึงทีแล้ว               
       ไร้สิ้นแววจึงหมองไม่ผ่องใส  
       พี่ทำร้ายข่มเหงมิเกรงใจ             
       ตัดเยื่อใยสายสวาทสิ้นขาดกัน
       ๏ รู้ดีว่าพี่ทำเจ้าช้ำหนัก 
       สัญญารักเลือนหายมลายฝัน             
       เคยพนอเคียงชื่นทุกคืนวัน
       กลับสะบั้นเพราะพี่ย่ำยีใจ
       ๏ หากเจ้ายังฝังใจในความเจ็บ
       ทนฝืนเก็บความเศร้าคราววั่นไหว
       พี่มากรักทำลายซึ่งสายใย
       ขอชดใช้ให้สิ้นด้วยยินดี
       ๏ ยอมรับกรรมเพราะทำให้ช้ำจิต
       เผลอทำผิดทิ้งน้องจนหมองศรี
       ขอพี่เจ็บทั้งกายพ่ายฤดี
       สิ้นศักดิ์ศรีแห่งชายจวบวายปราณ
  
       ๏ แม้ชอกช้ำอาลัยฤทัยหวน
       มิคร่ำครวญกับใครให้สงสาร    
       ดั่งถูกเถือเนื้อหนังเจ็บฝังนาน
       ทนทรมานดุจไฟไล่สุมทรวง
       ๏ หากน้องยังเศร้าหมองและร้องไห้
       ชอกช้ำในความรักสุดหนักหน่วง
       จากผู้ชายคนนี้ที่เคยลวง
       จนตกบ่วงเล่ห์กลหม่นอุรา
  
       ๏ ขอชดใช้ในบาปตราบชีพสิ้น
       รอยมลทินเจ็บฝังรั้งใจผวา
       ให้ตรอมตรมจมบ่วงห้วงเวลา
       ทั้งชีวาสิ้นทางเวิ้งว้างไกล
       ๏ แม้นชาติหน้ามีจริงขออิงแอบ
       สะเทิ้นแนบเนื้อนวลชวนขานไข
       ซ่านรำพันฝันรักสลักใจ
       วอนเทพไท้อุ้มสมภิรมย์ทรวง
                  "เทียนหยด"  
 
				
			 
			
				15 ตุลาคม 2552 15:51 น.
				
												
				
								เที่ยนหยด
		
					
				
 ๏ สายตาเฝ้าจับมองส้นรองเท้า
            มือคอยเนาแต่งเก็บเย็บถ้วนถี่
            เพราะชราจึงล้าด้วยท่าที
            แต่ยังมีรอยยิ้มที่อิ่มใจ     
            ๏ บนฟุตบาทเช้าเย็นมองเห็นอยู่ 
            นั่งคุดคู้ทุกวันไม่หวั่นไหว
            ฝ่าเปลวแดดกรำฝนทนทำไป
            ไม่ท้อใจเพียงหวังประทังตน
            ๏ ขอแค่ได้เงินมาพอยาไส้
            และกินได้นอนหลับไม่สับสน    
            ถึงชีวิตลำบากเพราะยากจน
            ไม่เคยบ่นหรือรอขอใครกิน
            ๏ อยู่ลำพังคนเดียวไม่เกี่ยวข้อง
            ใครจะมองไร้เงาเฝ้าหยามหมิ่น
            แค่คนซ่อมรองเท้าเพียงเถ้าดิน
            มิเคยสิ้นยอมแพ้แก่ชะตา
            ๏ ผ่านเรื่องราวหนาวร้อนค่อนชีวิต
            สิ่งถูกผิดติดตนไม่ค้นหา
            ใช้ชีวิตพอเพียงเคียงกายา
            ไม่ไขว่คว้าสิ่งใดไกลเกินตัว
        
            ๏ ซ่อมรองเท้าเช้าตรู่สู้ไม่ถอย
            ตะวันคล้อยลาดับลับสลัว
            แม้สายตาอ่อนล้าและพร่ามัว
            ปวดเมื่อยตัวยังขืนเฝ้าฝืนตน
            ๏ ด้วยทุกวันฉันเห็นเป็นเช่นนี้
            ไม่เคยมีหยุดพักเลยสักหน
            ฉันเคยถามเหนื่อยไหมใยต้องทน
            แกไม่บ่นสักคำเฝ้าทำไป
            ๏ เป็นแค่เพียงชายชรารักษาเกือก
            มิใช่เปลือกภายนอกบอกขานไข               
            หากหยั่งลึกแนบแน่นถึงแก่นใจ
            ฝั่งรากไว้พอเพียงเคียงสิ้นกาล ๚๛
                                          เทียนหยด
๏ สายตาเฝ้าจับมองส้นรองเท้า
            มือคอยเนาแต่งเก็บเย็บถ้วนถี่
            เพราะชราจึงล้าด้วยท่าที
            แต่ยังมีรอยยิ้มที่อิ่มใจ     
            ๏ บนฟุตบาทเช้าเย็นมองเห็นอยู่ 
            นั่งคุดคู้ทุกวันไม่หวั่นไหว
            ฝ่าเปลวแดดกรำฝนทนทำไป
            ไม่ท้อใจเพียงหวังประทังตน
            ๏ ขอแค่ได้เงินมาพอยาไส้
            และกินได้นอนหลับไม่สับสน    
            ถึงชีวิตลำบากเพราะยากจน
            ไม่เคยบ่นหรือรอขอใครกิน
            ๏ อยู่ลำพังคนเดียวไม่เกี่ยวข้อง
            ใครจะมองไร้เงาเฝ้าหยามหมิ่น
            แค่คนซ่อมรองเท้าเพียงเถ้าดิน
            มิเคยสิ้นยอมแพ้แก่ชะตา
            ๏ ผ่านเรื่องราวหนาวร้อนค่อนชีวิต
            สิ่งถูกผิดติดตนไม่ค้นหา
            ใช้ชีวิตพอเพียงเคียงกายา
            ไม่ไขว่คว้าสิ่งใดไกลเกินตัว
        
            ๏ ซ่อมรองเท้าเช้าตรู่สู้ไม่ถอย
            ตะวันคล้อยลาดับลับสลัว
            แม้สายตาอ่อนล้าและพร่ามัว
            ปวดเมื่อยตัวยังขืนเฝ้าฝืนตน
            ๏ ด้วยทุกวันฉันเห็นเป็นเช่นนี้
            ไม่เคยมีหยุดพักเลยสักหน
            ฉันเคยถามเหนื่อยไหมใยต้องทน
            แกไม่บ่นสักคำเฝ้าทำไป
            ๏ เป็นแค่เพียงชายชรารักษาเกือก
            มิใช่เปลือกภายนอกบอกขานไข               
            หากหยั่งลึกแนบแน่นถึงแก่นใจ
            ฝั่งรากไว้พอเพียงเคียงสิ้นกาล ๚๛
                                          เทียนหยด				
			 
			
				7 ตุลาคม 2552 13:51 น.
				
												
				
								เที่ยนหยด
		
					
				
 คืนเงียบเหงามีเราเฝ้ามองฟ้า
             เคียงจันทราแอบฝันสุดหวั่นไหว
             คิดถึงใครคนหนึ่งซึ่งห่างไกล   
             แอบฝันใฝ่เดียวดายใต้เงาจันทร์
             เย็นน้ำค้างค่ำคืนสุดฝืนจิต
             เคยแนบชิดเคียงใกล้ร่วมใฝ่ฝัน
             ถึงคราวต้องพลัดพรากจากชีวัน
             เหลือเพียงฝันเลือนรางจางหว่างทรวง  
             คิดถึงเธอคนดีที่ปลายฟ้า
             ทุกเวลาเฝ้าคิดด้วยจิตห่วง   
             ฝากกระซิบแผ่วผ่านดาวล้านดวง
             ราตรีล่วงเงียบเหงาเศร้าอุรา    
             พิณบรรเลงเพลงหวานผ่านดวงจิต
             เฝ้าครวญคิดถึงเธอละเมอหา
             ไม่เคยลืมถ้อยคำวันอำลา    
             ยอดชีวาคนไกลหัวใจเดิม
             อยากให้รู้เป็นฉันทุกวันนี้
             เธอคนดีเคียงข้างและสร้างเสริม
             มอบใจภักดิ์รักมั่นคอยหมั่นเติม    
             ใจดวงเดิมสี่ห้องเป็นของเธอ
             จะรอเธอคนดีตรงที่เก่า
             และคอยเฝ้าเก็บใจไม่ไผลเผลอ   
             นานแค่ไหนขอผ่านพานพบเจอ
             รักเพียงเธอคงมั่นตราบนิรันดร์
                                            เทียนหยด
คืนเงียบเหงามีเราเฝ้ามองฟ้า
             เคียงจันทราแอบฝันสุดหวั่นไหว
             คิดถึงใครคนหนึ่งซึ่งห่างไกล   
             แอบฝันใฝ่เดียวดายใต้เงาจันทร์
             เย็นน้ำค้างค่ำคืนสุดฝืนจิต
             เคยแนบชิดเคียงใกล้ร่วมใฝ่ฝัน
             ถึงคราวต้องพลัดพรากจากชีวัน
             เหลือเพียงฝันเลือนรางจางหว่างทรวง  
             คิดถึงเธอคนดีที่ปลายฟ้า
             ทุกเวลาเฝ้าคิดด้วยจิตห่วง   
             ฝากกระซิบแผ่วผ่านดาวล้านดวง
             ราตรีล่วงเงียบเหงาเศร้าอุรา    
             พิณบรรเลงเพลงหวานผ่านดวงจิต
             เฝ้าครวญคิดถึงเธอละเมอหา
             ไม่เคยลืมถ้อยคำวันอำลา    
             ยอดชีวาคนไกลหัวใจเดิม
             อยากให้รู้เป็นฉันทุกวันนี้
             เธอคนดีเคียงข้างและสร้างเสริม
             มอบใจภักดิ์รักมั่นคอยหมั่นเติม    
             ใจดวงเดิมสี่ห้องเป็นของเธอ
             จะรอเธอคนดีตรงที่เก่า
             และคอยเฝ้าเก็บใจไม่ไผลเผลอ   
             นานแค่ไหนขอผ่านพานพบเจอ
             รักเพียงเธอคงมั่นตราบนิรันดร์
                                            เทียนหยด