30 สิงหาคม 2553 13:44 น.

เฟรนซ์โทสต์ (French Toast) (=^o^=)

เที่ยนหยด

a1%20(105).gifเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา...คิดถึงเมนูอาหารว่าจะทำอะไร
ทานดี..พอดีนึกขึ้นได้ว่าได้สูตรทำอาหารอย่างหนึ่งจาก
เพื่อนฝน (โคลอน)  มาหลายวันแล้ว...เผอิญยังจำได้อยู่
ส่วนผสมก็มีไม่กี่อย่าง...และหลังจากได้สำรวจวัตถุดิบ
ที่มีอยู่...ก็ตัดสินใจทันทีว่า..ต้องแสดงฝีมือซะแล้ว
เพราะมีครบหมดทุกอย่างเลยง่ะ...แจ่มเลยเรา...อิอิTLC_088-20080430_YoYoXiXi.gif

อาหารที่ว่าเป็นอาหารของชาวฝรั่งเศสเชียวนา..หุหุ 
ฝนบอกสูตรและวิธีทำให้ทางโทรศัพท์.. และด้วยความ
ง่ายของวิธีทำอ้อยเลยจำได้ทุกขั้นตอน...อาหารจานนี้มี
ชื่อว่าเฟรนทซ์โทสต์ (French tost) 
ซึ่งวันนี้จะกลายเป็นอาหารเช้าของข้าพเจ้าเองค่ะ...(=^o^=) 

^
^ 
download.php?id=692787&key=4c7b3d22ef830

และนี่คือส่วนผสมซึ่งประกอบไปด้วย

-  ขนมปังสไลด์ 4-5 แผ่น  
   จะเป็นของฝรั่งเศสหรือของที่มีขายทั่วไปก็ตามสะดวกเลยค่ะ
   วันนี้อ้อยขอใช้เป็น โฮลวีตแล้วกันเพราะที่บ้านมีพอดี
-  ไข่ไก่ 2 ฟอง
-  อบเชย (ชินาม่อน) ป่น  1-2 ช้อนโต๊ะ
-  นมจืด ½ ถ้วย
-  น้ำตาลไอซิ่ง
-  น้ำผึ้ง
-  เนย 2 ก้อน ใช้สำหรับทอด

วิธีทำ >> ก็ง่ายแสนง่าย  นีเป็นคำพูดของ เพื่อนฝนค่ะ TLC_063-20080430_YoYoXiXi.gifdownload.php?id=692788&key=4c7b3d22ef830

เริ่มจากนำไข่มาตี แล้วผสม นมจืด อบเชย เข้าด้วยกัน 
คนจนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน...

download.php?id=692789&key=4c7b3d22ef830
จากนั้นนำขนมปังมาชุบลงไปโดยให้ขนมปังชุ่มทั่วแผ่น
และที่เห็นเป็นผงสีน้ำตาลลอยอยู่นั่นก็คือผงอบเชยค่ะ 
อยากบอกว่า.ผงอบเชยเนี่ย จะทำให้ขนมปังมีกลิ่นหอมมากๆ 
ที่สำคัญช่วยเพิ่มรสชาดให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วย ขอบอกๆ..อิอิ

download.php?id=692820&key=4c7b421e841c9

เมื่อชุบขนมปังจนชุ่มดีแล้ว ก็เตรียมกะทะวางบนเตาพร้อม
แล้วนำเนยมาใส่ลงไปรอจนเนยละลาย  

download.php?id=692790&key=4c7b3d22ef830

นำขนมปังที่เราชุบไข่ไว้ ลงมาทอด กลับไปกลับมาแค่สองสามครั้ง
ก็ใช้ได้สุกง่ายมากๆ  อืม...กลิ่นหอมของอบเชยโชยขึ้นมาเตะจมูก
ท้องเริ่มร้องแล้วเจ้าค่ะ..ฮ่าๆๆ

download.php?id=692791&key=4c7b3d22ef830

เมื่อทอดสุกแล้ว หน้าตาจะเป็นแบบนี้ ที่เห็นเป็นสีน้ำตาลเข้มๆ อย่าเข้าใจว่า
ขนมปังมันไหม้นะคะ ..จริงๆแล้วคือสีของอบเชยอ่ะค่ะ..ถ้าเราใช้ขนมปังขาว
สีก็จะอ่อนกว่านี้ค่ะ..

download.php?id=692792&key=4c7b3d22ef830

หลังจากตักขึ้นใส่จานโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง  แต่งหน้าด้วยสตอเบอรี่อีกสัก
หน่อยให้มันมีสีสัน..จากนั้นก็ราดด้วยน้ำฝึ้ง เพื่อให้มีรสหวานหอม

download.php?id=692793&key=4c7b3d22ef830

มองดูมันโล่งๆยังไงกะไม่รู้...ต้องหาอะไรมาเพิ่มว่าแล้วก็ไปเปิดตู้เย็น
สำรวจดูว่าพอจะมีอะไรบ้าง...อืม..มีส้มซันควิ๊กอยู่ 1 ผล กีวี 2 ผล 
เอาหล่ะแค่นี้ก็แจ๋วสุดๆแล้ว นำส้มกับกีวีมาปอก แล้วหั่นจนได้ปริมาณ
ที่พอใจ..อ้อยก็นำขึ้นมาจัดเรียงทันที..

download.php?id=692796&key=4c7b3d22ef830

และนี่คือหน้าตาของ  เฟรนซ์โทสต์  ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วค่ะ
ว๊าวๆ...ดูดีแฮ่ะ (ขอชมตัวเองนิดนุง..อิอิ)TLC_080-20080430_YoYoXiXi.gif
เป็นอันเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนลิง..พร้อมหม่ำแล้ว .....
ทานพร้อมกับผลไม้...ก็จะช่วยทำให้ความเลี่ยนลดน้อยลง หรือจะทานพร้อม
นมสด หรือไม่ก็กาแฟร้อนสักถ้วยก็ไม่เลว ตามแต่ชอบและสะดวก...

สำหรับเช้าที่บรรยากาศแสนสบาย เนื่องจากมีฝนตกพรำๆ
อ้อยขอทานกับกาแฟดีกว่า...จิบไปฟังเพลงบรรเลงไป เฮ้อ...เป็นช่วงเวลาที่แสน
จะสบายจริงๆ....หลังจากตักคำแรกเข้าปาก..โอ้..อร่อยมากๆสหายฝน...หวานกำลัง
ดี และกลิ่นของอบเชยนี่..ช่วยให้เจริญอาหารจริงๆ...ปรากฏว่าเกลี้ยงจานค่ะ..TLC_33-20080502_yoyo.gif


สำหรับเมนูนี้ขอยกเครดิตให้โคลอน...ที่แนะนำ...
l68.gif

<
<
แล้วพบกันวันหน้ากับอีกหนึ่งเมนูแนะนำจากสหายฝน...
ขอบอกว่ามันไม่ธรรมดา..บาย TLC_3-20080502_yoyo.gif10line04xa9

เทียนหยด (=^o^=)
				
23 สิงหาคม 2553 15:06 น.

ส้มตำ น้ำตก ซกเล็ก

เที่ยนหยด

2010_07_21_133457_mx481jk9.jpgทำไมต้อง "ส้มตำ"   เห็นมีแต่มะละกอมีส้มตรงไหนนี่..อิอิ
ทำไมต้อง "ส้มตำ"   คนอื่นก็ตำกันเยอะแยะ..คนชื่อ ส้ม ตำคนเดียวที่ไหนเนาะ..


54-b5879f00b4c9a2eba14772b5c72f3bf0.jpg

ทำไมต้อง "น้ำตก"  น่าจะเป็นหมูตก หรือเนื้อตกมากกว่านิ..  
แล้วที่ว่า   "น้ำตก"  น่าจะเป็นน้ำอะไรดีน๊ะ หว่าง น้ำตาตก กับ
                              น้ำลายตก..เอ..หรือว่า หก ดี? 55555


soklek2.JPG

ทำไมต้อง "ซกเล็ก" นี่ก็แปลกมีแต่เนื้อสัตว์กะเลือดเป็นตัวนำ...แบบว่า
มันน่ากลัวมากกว่าน่ากินอ่า...หุหุหุ   

ทำไมต้อง "ซกเล็ก" หรือว่า ย่อ มาจาก ซกมกเล็กๆ..ประมาณว่าสกปรก
เล็กน้อยพอทนได้..หรือเปล่า?






อ่านแล้วอย่าว่ากันนิ...มันเป็นแค่เพียงความสงสัยส่วนตั๊วส่วนตัว

ขอยกมาแค่ สามอย่าง  จริงๆแล้วมีอีกเยอะสำหรับชื่ออาหาร

ของบ้านเรา...ที่สร้างความงุนงงและสงสัยให้ตลอดเวลาซิเอา..

                                                                 

ปล.(=^o^=)

ลิงเชียงรายเอ๊ย....

เสียใจด้วยนิ...คำแช่งที่ไร้ซึ่งความหมาย ฮ่าๆๆๆๆ

				
4 สิงหาคม 2553 18:29 น.

เกือบไปแล้ว...ซิเรา

เที่ยนหยด

b5.jpgเช้าวันอาทิตย์หลังจากที่ฉันปฏิบัติภาระกิจส่วนตัวเสร็จ..
  ตั้งใจว่าจะไปตลาดซะหน่อย..แต่ยังไม่ทันได้ออกจากบ้าน 
  ก็มองเห็นหลานชายเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับถามว่า

  "น้าอ้อยครับยายให้มาถามว่าจะไปวัดไผ่โรงวัวด้วยกันหรือเปล่าครับ"
    
  "มีใครไปบ้างจ๊ะ" ฉันถามกลับ
  
  "ก็ไปกันหมดบ้านนั่นหล่ะครับ"
  
  "ไปซิ เดี๋ยวน้าอ้อยเปลี่ยนชุดแป๊บเดียวสตาร์ทรถรอได้เลยจ้ะ"
 
  ฉันใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีก็เรียบร้อย..เพราะเป็นคนแต่งตัวง่ายๆ
  เสื้อยืดกางเกงยีนส์เท่านั้น..ฉันพร้อมไปได้ทุกที่..ดีน๊ะที่ไปวัด
  ถ้าเป็นที่อื่นอาจเป็นกางเกงขาสั้น..อ๊ะๆอย่าตกใจกางเกงขาสั้น
  สำหรับฉันก็คือเหนือเข่าขึ้นมานิดเดียว..แหะๆ..มิกล้าให้สั้น
  กว่านั้นอายตัวเอง..อิอิ 
 
  เวลาในขณะนั้น  9 โมงกว่าๆเราไปด้วยกันทั้งหมด 5 คน ซึ่งก็มี
  แม่ฉัน ที่หลานเรียกว่ายายอ่ะค่ะ   หลานชายกับภรรยาและ
  หลานสาวกับฉันรวมเป็น 5 คนพอดีกับที่นั่งในรถ....ซึ่งระยะทาง
  จากบ้านไปยังวัดไผ่ฯ ไม่ไกลเท่าไรขับรถประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง
  แต่ก่อนที่จะถึงวัดพวกเรามีความเห็นตรงกันว่ากองทัพต้องเดิน
  ด้วยท้อง เพราะทุกคนยังไม่ได้ทานมื้อเช้ากันเลย ซึ่งเวลาขณะนั้น
  เกือบ 11 โมงแล้ว  ก่อนที่จะถึงวัดเหลือระยะทางอีก 30 กว่ากิโล
  ข้างทางจะมีร้านกุ้งเผาตั้งเรียงรายอยู่หลายร้าน...
  
l934.gif

  สำหรับพวกเราจะมีร้านประจำอยู่ร้านหนึ่งซึ่งมีลุงกะป้าสามีภรรยา
  เป็นเจ้าของร้าน..ที่ทำให้เราติดใจมากมายก็คือน้ำจิ้มซีฟู๊ดฝีมือป้า
  แซ่บสุดๆแถบลุงกับป้าก็อัธยาศัยดีมากๆ..เรียกว่าบริการทุกระดับ
  ประทับใจจริงๆ เราสั่งกุ้งมา 2 กิโล ส่วนหนึ่งแบ่งให้ป้าทำต้มยำ
  ที่เหลือก็เผาอย่างเดียว..แต่ฉันยังมีเมนูพิเศษให้ป้าทำเพิ่มให้อีก
  ก็คือไข่เจียว..ปกติเมนูนี้เขาไม่มีขายหรอกค่ะแต่พวกเราขอร้องให้
  ป้าเขาทำให้และด้วยความที่เราไปทานกันบ่อยๆ..ป้าก็เลยมิอาจจะ
  ขัดใจพวกเราได้..น่ารักซะจริงๆ 

  กลิ่นไข่เจียวเริ่มลอยมาแตะจมูก..โอย..ยิ่งทำให้ท้องพวกเราเริ่ม
  บรรเลงเพลงหิวอีกแล้วเจ้าค่ะ...ฉันไม่รอช้ารีบเดินไปหาป้าทันที
  พร้อมกับถือจานรอไข่เจียวจากกะทะ  ป้าอมยิ้มที่เห็นอาการของฉัน
  ก็คนมันหิวนี่ค่ะป้าขา..จากนั้นหลานชายฉันก็เดินไปตักข้าวมาเสริฟ์
  เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา บอกแล้วว่าเราคุ้นเคยเหมือนเป็นบ้านของ
  เราเลยหล่ะ..อิอิ  ทันทีที่ไข่เจียวมาวางบนโต๊ะ พวกเราก็จัดการกัน
  คนละหนุบละหนับ..เผลอแป๊บเดียวไข่เจียวเกือบหมดจาน ...เหอๆ
  ทานกันไปหัวเราะกันไป..ไอ้ความหิวนี่ไม่เข้าใครออกใครจริงจริ๊ง
  อะไรที่อยู่ตรงหน้าเป็นฟาดเรียบ  

l934.gif
 
  พวกเราเริ่มชะเง้อกันอีกแล้ว..เพราะไม่อยากให้การรับทานมัน
  ขาดตอนและป้าคงจะมองเห็นจึงส่งเสียงให้ฉันช่วยเด็ดใบมะกรูดและ
  ใบสะระแหน่ให้หน่อย....เพราะป้าเขาปลูกเอาไว้ใกล้ๆกับโต๊ะม้าหิน
  ที่พวกเรานั่งนั่นหละ...ฉันไม่รอช้ารีบจัดการเด็ดให้ป้าทันที..
  และนี่ก็คือเคล็ดลับของความอร่อย..ทุกอย่างสดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง
  หรือบรรดาเครื่องต้มยำทั้งหลายแหล่..
  ฉันถือหมอต้มยำกุ้งเดินตามหลังป้าซึ่งถือชามใส่มะนาวผ่าซีกและ
  พริกขึ้หนูสดเตรียมไว้ให้เราด้วยเผื่อต้มยำรสชาดไม่แซ่บพอ..
  เราก็สามารถปรุงรสกันไปตามใจชอบค่ะ
 
  ต้มยำกุ้งมาเสิร์ฟได้ไม่ถึง 5 นาที กุ้งเผาจากลุงก็ตามมาสมทบ..คุณเอ๊ย
  กลิ่นไม่ต้องพูดถึงหอมมากๆ..และแล้วได้เวลาเผด็จศึกกุ้งเผาซะที..อิอิ
  แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะกุ้งมันเพิ่งขึ้นจากเตามาใหม่ๆก็ร้อนซิค่ะ...
  แต่ละคนแกะเปลือกกุ้งไปสลัดมือไป..(ลองนึกภาพตามไปด้วยเลยค่ะ)
  สักพักพอกุ้งคลายร้อนไปหน่อยพวกเราก็พร้อมลุยค่ะ..อิ่มและอร่อย
  ด้วยความประทับใจสุดๆ...มีแรงเดินทางต่อแล้ว..ตามมาเลยค่ะ
   
 l322.gif
  
  เราออกจากร้านกุ้งเผาก็มุ่งหน้าสู่วัดทันที..ใช่เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง
  ก็ถึง..ทันทีที่ถึงวัดพวกเราก็ตรงเข้าไปไหว้พระก่อนอันดับแรก...
  หลังจากนั้นเราจึงเดินเข้าไปด้านในเพื่อชมเปรตซึ่งมีเป็นสัญญลักษณ์
  ของวัดนี้ คิดว่าทุกๆคนคงพอจะทราบกันดี..พวกเราเดินตามหัวหน้า
  ขบวนซึ่งก็คือแม่ของฉันนั่นเอง.. แม่จะเป็นคนคอยแนะนำว่าเราจะต้อง
  ไหว้พระตรงไหนก่อน..หลังจากที่เราไหว้พระเกือบหมดทุกจุดแล้วก็มา
  ถึงจุดสุดท้าย..ที่มีองค์พระที่ตั้งอยู่เรียงรายกันอยู่ทั้งหมดสามองค์..
  
  ก่อนที่ฉันจะไหว้พระนั่นเอง   ฉันรู้สึกคอแห้งจึงเดินไปซึ้อน้ำดื่มที่ร้าน
  แถวๆนั้นหล่ะค่ะ..ส่วนแม่กับหลานๆเดินไปอีกด้านหนึ่ง ฉันถือขวดน้ำ
  ไปนั่งดื่มที่ม้าหินโดยถือไว้ที่มือซ้าย ส่วนกระเป๋าเงินอยู่มือขวา..
  ฉันวางขวดน้ำไว้ที่ม้าหินก่อนที่จะขึ้นไปไหว้พระ ส่วนกระเป๋าเงินนั้น
  ก็ยังถืออยู่มือขวาดังเดิม  เมื่อได้ดอกไม้ธูปเทียนแล้วฉันจึงเดินขึ้นไป
  ยังแท่นปูนเพื่อไหว้พระ  เสร็จจากไหว้พระแล้วฉันจึงนำทองคำเปลว
  ไป ปิดที่องค์พระขณะที่ปิดทองอยู่นั้น กระเป๋าก็ยังอยู่ในมือพร้อมกับ
  แผ่นกระดาษเปล่าที่ได้หยิบเอาทองคำเปลวออกมาแล้ว..
  
  ทันทีที่ฉันปิดทองเสร็จก็เดินตรงมาที่ตะกร้าทิ้งขยะซึ่งตั้งอยู่ห่างจาก
  องค์พระเล็กน้อย ฉันทิ้งแผ่นกระดาษเปล่าลงไปแล้ว..ก็เดินกลับมานั่ง
  ยังม้าหินตัวที่ได้วางขวดน้ำไว้ เวลาผ่านไปประมาณ 10 นาทีเห็นจะได้..
      
   "น้าอ้อยค่ะ"  เสียงหลานสะใภ้เรียกฉัน..ฉันหันมองตามเสียงเรียก
   พร้อมกับมองหน้าหลานสะใภ้เป็นเชิงถามว่ามีอะไร
   
  "นี่กระเป๋าเงินของน้าอ้อยหรือเปล่าค่ะ  หลานสะใภ้ซึ่งยืนอยู่ใกล้กับ
   ตะกร้าขยะถามขึ้นมา  ฉันรีบเดินไปดู...ทันทีที่มองลงไปในตะกร้า
  ใจฉันหายวาบ....เป็นไปได้ไงเนี่ย...กระเป๋าเงินของฉันไปอยู่ในนั้น
  ได้ยังไง...แว๊บแรกที่ฉันคิดได้ก็คือ ฉันคงโดนมือดีฉกกระเป๋าไป
  ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้..มันคงหยิบเอาเงินไปจนหมดแล้วแน่ๆ...ฉันรีบ
  หยิบกระเป๋าขึ้นมาเปิดดู..ความรู้สึกตอนนั้น ตกใจอย่างบอกไม่ถูก...
  มือเริ่มสั่นนิดๆในขณะที่กำลังจะเปิดซิบดู..และคิดอยู่ตลอดว่าเงินคงจะ
  หายไปหมดแน่ๆ แต่พอเปิดซิบดู  ให้ตายซิ..ฉันมองเห็นธนบัตรยังคง
  เรียงรายอยู่ในนั้นเหมือนเดิม..เป็นไปได้ยังไงกัน 
 
 l934.gif

  ฉันเริ่มคิด..หรือว่าตัวเราเองหว่า? ...เอาล่ะซิ สมองเริ่มลำดับเหตุการณ์    
  ตั้งแต่ตอนที่เริ่มจุดธูปไหว้พระจนกระทั่งถึงตอนที่ทิ้งแผ่นกระดาษลงใน
  ตะกร้า...ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าฉันอาจทิ้งมันลงไปพร้อมกับกระเป๋า..โดยที่
  เวลานั้นใจฉันไม่ได้จดจ่ออยู่กับกระเป๋าเลย..คิดอยู่อย่างเดียวว่าจะทิ้ง
  กระดาษ....ฉันลองนับเงินที่ในกระเป๋าอีกครั้งมันก็ยังอยู่ครบเหมือนเดิม
  แทบไม่อยากเชื่อเลย นับเป็นความโชคดีของฉันจริงๆ เพราะก่อนที่หน้า
  ที่จะเดินทางมาวัดนั้น ฉันแวะกดเงินจำนวนหนึ่งก็หลายพันบาทอยู่ค่ะ
  ฉันนั่งนิ่งโดยไม่รู้จะพูดยังไง..คิดดูซิค่ะ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คนของเรา
  มาเห็นจะได้คืนหรือเปล่า เพราะเท่าที่สังเกตุจำนวนผู้คนที่อยู่บริเวณนั้น
  ก็มีไม่น้อย..หรือบางทีอาจมีใครเห็นแล้วก็เป็นได้..แต่คงคิดไม่ถึงว่าใน
  กระเป๋าจะมีเงินเหลืออยู่...
  
  หลานสะใภ้ได้เล่าให้ฉันฟังว่าตอนแรกที่เห็นก็คิดว่าฉันคงตั้งใจทิ้งเอง
  เพราะเขาได้ยินที่ฉันคุยกับหลานสาวตอนอยู่ในรถว่า อยากจะเปลี่ยน
  กระเป๋าใบใหม่..ก็ใบนี้น่ะใช้มานานจนคุ้มกับราคาที่ซื้อมาแล้ว..แบบว่า
  ฉันยังรู้สึกเสียดายอยู่นิดๆเลยทู่ซี้ใช้มาตลอด..จากนั้นแม่ฉันพร้อมกับ
  หลานชายหลานสาวซึ่งอยู่อีกด้านก็เดินมา..ฉันจึงเล่าให้ทุกคนฟังอีกครั้ง
  คนแรกที่พูดขั้นมาหลังจากฟังฉันเล่าจบก็คือแม่..แม่ฉันบอกว่าอาจเป็น
  เพราะเราตั้งใจมาทำบุญก็ได้ ผลบุญเลยช่วยไม่ให้เราต้องสูญเสียเงินไป
  ฉันพูดกับแม่ว่าอะไรจะรวดเร็วขนาดนี้..แม่บอกว่าของแบบนี้ไม่เชื่อแต่ก็
  อย่าลบหลู่...ฉันไม่พูดต่อได้แต่อิ้ง..และไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
  ก็นับว่าเป็นความโชคดีที่ฉันไม่ต้องสูญเงินไป...
  
  จากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ฉันได้แง่คิดในเรื่องของความไม่ประมาทและ
  ความมีสติ...ฉันโทษตัวเองเต็มๆที่ประมาทเลินเล่อ..จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้
  เกิดเรื่องราวแบบนี้ได้..เพราะถ้าเราตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาทและมีสติ  
  ทุกครั้งไม่ว่าจะทำอะไร..เหตุการณ์แบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น..คุณว่าไหม?
  

  
  line05.gif				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเที่ยนหยด
Lovings  เที่ยนหยด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเที่ยนหยด
Lovings  เที่ยนหยด เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟเที่ยนหยด
Lovings  เที่ยนหยด เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงเที่ยนหยด