บ้านน้อก บ้านนอก ตอนที่ 2

ทิดโส

ตอนที่ 2 ..ฝนแรก
............ฟ้ามืดมาตอนประมาณบ่าย 3 แล้วฝนแรกของปีก็พรูพลั่งลงมาราวฟ้ารั่ว พี่ชายคนที่ 3 นำเอาตะเกียงแก๊สมาทำความสะอาด ขัดโป๊ะทองเหลือง ซึ่งกรรมวิธีก็ไม่มีอะไรมาก เอามะขามเปียกและขี้เถ้าคลุกผสมกัน นำมาขัด พักเดียวโป๊ะทองเหลืองก็จะเป็นมันวาว ทำให้เวลาส่องไฟจะเห็นได้ไกลขึ้นใช่แล้ว คืนนี้เราจะไปหาอาหารในท้องทุ่งกัน
.............พ่อกลับมาถึงบ้านแล้ว หลังจากกินข้าวกินปลาเสร็จ 3 คนพ่อลูก ถือตะเกียงแก๊สออกจากบ้าน ซึ่งเจ้าตะเกียงแก๊สกรรมวิธีในการใช้ก็ไม่ยาก เตรียมถ่านแก๊ส ลักษณะคล้ายหินตามทางรถไฟก้อนสีเทาอมฟ้าหม่น จัดให้อยู่ในกระป๋องล่าง ส่วนกระป๋องบนจะใส่น้ำไว้ เวลาจะใช้งานก็เปิดวาวล์น้ำให้หยดลงบนก้อนแก๊ส ทำปฏิกริยาออสโมซีส 5555 ทำให้มีแก๊สจุดไฟติด ต้องการสว่างมากน้อยได้โดยการเร่งหยดน้ำ
..............พ่อกับพี่ชายถือฉมวกคนละอัน ส่วนผมยังเล็ก มีหน้าที่สะพายข้องเปล่า 2 ใบ แม่ไม่ลืมเอางอบมาสวมหัวให้ กันฝนหน่อยลูก เดี๋ยวเป็นหวัด.. 
..............เราเดินกันมาพอได้ครึ่งเหนื่อย (ใช้พลังงานไปประมาณ 0.73 กิโลแคลเลอรี่ 555) ก็มาถึงจุดหมาย หนองน้ำขุ่น เสียงกบเขียดร้องระงม พ่อเดินไปตามเสียง โดยลูกหาบทั้งสองเดินตาม ไม่นานเกิน 3 ลมหายใจ กบตัวแรกก็ย้ายบ้านมาอยู่ในข้องเล็กเรียบร้อย อะฮ้า!! ตัวใหญ่ซะด้วย ไข่คงเต็มละ ฮิฮิพอได้ตัวแรกพ่อก็หยุด ไม่ส่องไฟอีกแล้ว แต่กลับปลดข้องจากไหล่ของผมออก นำไปวางไว้ข้างคูนาที่มีน้ำท่วมหลังเท้า พ่อบอกว่าเราโชคดี กบตัวที่เราได้เป็นตัวผู้ (เพราะพ่อจะดูที่คางของกบ จะมีปื้นสีดำอยู่แสดงว่าเป็นตัวผู้) เราไม่ต้องหาให้เมื่อย เดี๋ยวพ่อเสกคาถาเอง ว่าไปนั่นแน่ะพ่อเรา 555 ..
................หลังจากวางข้องกบไว้แล้ว พ่อก็พาเดินขึ้นเนินไปอีกหน่อย จะมีทางน้ำไหลลงมาสู่หนอง เจ้าประคุณเอ๊ย!! ปลาหมอไทย แถกเหงือกกันอยู่เต็มไปหมด พ่อเล่าว่า ปลาพวกนี้มันได้กลิ่นน้ำใหม่ มันจะไปหาที่วางไข่น่ะ ก็สนุกผมสิครับ จับปลาหมอใส่ข้องใบใหญ่ซะเพลินไปเลย ตอนแรกก็เอาหมด แต่หลังจากมากเข้าก็เริ่มไม่เอาตัวเล็กแล้ว หาตัวใหญ่ ๆ ท้องนูน ๆ เลย รับรองไข่ทุกตัว ปลาหมอหรือปลาเข็ง นี่นะครับ ย่างพอน้ำตก สับละเอียดเอาก้างออกก่อนนะ ตำข่าอ่อนใส่ ปรุงเครื่องลาบ เหยาะน้ำปลาร้าสุกเข้าไป สับมะม่วงเปรี้ยวเข้าไป โอ้โห!! ผมว่าเป็นปลาที่ลาบอร่อยมาก มันกำลังดีเลย
.................ได้ปลาหมอมาเต็มข้อง จนผมสะพายไม่ไหว พ่อก็รับหน้าที่นั้นไปโดยดุษณี ช่วยไม่ได้ ก็ผมน้องเล็กนี่ 555 เราเดินกลับมาที่ข้องกบอีกครั้ง โอ้โห!!!!! กบตัวเมีย ตัวอวบอ้วน ไข่เต็มท้องทั้งนั้นเลย มาลอยคออยู่ข้าง ๆ ข้องเต็มไปหมด ได้จับกันสนุกเลยละครับ พ่ออธิบายให้ฟังว่า  กบตัวผู้ที่เราใส่ข้องไว้ตอนแรก มันจะส่งเสียงร้องออกมา ทำให้ตัวเมียที่ได้ยินจะเข้ามาผสมพันธุ์ ดังนั้น เมื่อเราได้กบตัวผู้แล้ว เราก็ไม่ต้องเมื่อยเดินหาตัวอื่นเลย เอาตัวนี้แหละ เป็นตัวเรียกพรรคพวกมันเข้ามา เออ ง่ายดีแฮะเก่งนะพ่อเรา 5555
.................คืนนั้น เรากลับถึงบ้านยังไม่สองยามเลย เพราะไม่มีอะไรจะใส่ได้แล้วทั้งกบและปลา เต็มมาทั้ง 2 ข้อง แม่จัดแจงเทปลาใส่โอ่งเล็กขังไว้ ส่วนกบก่อนจับออกมาจากข้อง ต้องหักขาก่อน (อึ๋ย) ไม่งั้นกระโดดหนีหมด ทั้งสนุกทั้งตื่นเต้น ผมลืมหนาวไปเลย ล้างแข้งล้างขาเสร็จ คลุมโปงหลับสบาย..
.................ฟ้าเริ่มสว่าง มองเห็นลายมือราง ๆ แล้ว ผมตื่นขึ้นมา ถือตะกร้ากับพี่ชายไปด้วยกัน เข้าสวนเก็บมะม่วง เพราะเมื่อคืนลมแรง คงพัดมะม่วงหล่นลงมาโขอยู่ มะม่วงแก้ว อกร่อง และพิมเสน หล่นเกลื่อนเต็มไปหมด เราเลือกเก็บเฉพาะลูกที่ไม่แตก เพราะลูกที่หล่นตอนแรก ๆ จะแตกหมด เนื่องจากดินยังแข็ง แต่ช่วงหลัง ๆ ที่ฝนตกลงมาแล้วดินจะนุ่ม ลูกที่หล่นทีหลังเลยยังไม่แตก
.................เช้านั้น แม่ทำอ่อมกบ แกงปลาหมอหน่อไม้ดอง เราอิ่มกันจนแทบไม่อยากไปโรงเรียนเลย////				
comments powered by Disqus
  • ..สีน้ำฟ้า..

    23 มิถุนายน 2546 17:48 น. - comment id 69040

    จองตั๋ว แถวหน้า ทุกวันพุธ นะคะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน