***** รำลึกวีรบุรุษผู้กล้าแห่งค่ายนเรศวร *****

ลุงเอง

***** รำลึกวีรบุรุษผู้กล้าแห่งค่ายนเรศวร ***** 
  ครบรอบ 1 ปีแล้วกับการจากไปของน้องรักคนนี้ ร.ต.อ. ธรณิศ ศรีสุข ผมขอถือโอกาสนี้พาทุกๆ คน หวนกลับไปยังเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เมื่อวันเสาร์ ที่ 29 กันยายน 2550 รวมถึงภาพและคำไว้อาลัยบางส่วน ที่หลายๆ คนคงไม่เคยเห็นหรือรับทราบมาก่อน
    ผมขอเริ่มที่ตัวผมเองก่อนล่ะกันครับ เช้าวันเสาร์ ที่ 29 กันยายน 2550 เวลาประมาณเกือบ 11.00 น. ขณะที่นั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ ที่กรุงเทพ ผมได้รับโทรศัพท์จากรุ่นน้องที่เคยเรียนมาด้วยกัน ซึ่งก็แปลกใจอยู่นิดๆ ว่าโทรมาทำไมเวลาทำงาน เพราะปกติพวกเราจะไม่โทรมาคุยกันเรื่องทั่วไปเวลาที่ทำงานกัน การพูดคุยเป็นไปโดยปกติไม่มีพิรุธใดๆ ที่จะทำให้ผมต้องสงสัย แต่แล้วปลายสายถึงได้ถามผมเอง คงจะลองๆ คุยกับผมช่วงแรกๆ เพื่อยั่งผมดูก่อนว่าทราบเรื่องรึยัง น้องมันถามผมขึ้นมาว่า "เฮียรู้เรื่องแคนแล้วหรือยัง" ผมก็งงสิครับเลยถามกลับไปว่าเรื่องอะไรเหรอ น้องก็ตอบกลับมาว่า "แคนเสียแล้วน่ะเฮีย" ผมอึ้งไปเลย แล้วถึงถามความเป็นมาของเรื่องราวต่างๆ พอฟังเสร็จผมก็ถามกลับไปว่า ข่าวชัวร์รึป่าว เช็คข่าวแล้วหรือยัง ซึ่งน้องมันก็ไม่กล้ายืนยัน คุยกันได้สักพักผมเลยขอวางสายก่อนแล้วกัน ขอไปเช็คข่าวก่อน
    หลังจากวางสาย ผมก็เข้าเน็ตเสริช์หาชื่อ ธรณิศ ศรีสุข ในทันที ก็ปรากฏพบข่าวในเวปอยู่ 2-3 ที่ แต่อ่านดูแล้วก็สับสน เพราะรายงานไม่เหมือนกันสักที่ ก็เลยเลิกค้นหา คิดว่าโทรเช็คเอาชัวร์กว่า เลยยกหูโทรศัพท์โทรไปหารุ่นน้องอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกันกับแคน คือ สามพราน 54 เมื่อได้พูดคุยกันและได้รับคำตอบว่าแคนเสียชีวิตแล้วจริงๆ ทำเอาผมอึ้งไปอีกรอบ
    เช้าวันเสาร์ ที่ 29 กันยายน เวลาประมาณ 8.00 น. บนถนนสายบันนังสตา-เขื่อนบางลาง "ชุดเคลื่อนที่เร็ว" จำนวน 12 นาย ซึ่งเป็นกองกำลังจาก กองร้อยรบพิเศษที่ 1 กองกำกับการสนับสนุนทางอากาศตำรวจตะเวนชายแดน หรือที่รู้จักกันในนาม "พลร่ม ตชด." แห่งค่ายนเรศวร หัวหิน ประจงบคีรีขันธ์ ได้ออกปฏิบัติภารกิจลาดตะเวนในพื้นที่ต้องสงสัย เพื่อรักษาความปลอดภัย หังได้รับเบาะแสว่ากลุ่มโจรใต้วางแผนดักซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ จะใช้เส้นทางดังกล่าว
    เมื่อชุด เคลื่อนที่เร็วทั้ง 12 นาย ไปถึง "เนินนวรัตน์" ซึ่งภูมิประเทศสองข้างทางเป็นเนินสูงปกคบุมไปด้วยป่าทึบ เอื้นอำนวยต่อการวางกำลังรอคอยเป้าหมายที่จะผ่านเข้ามาใน "พื้นที่สังหาร" ที่กำหนดไว้
    ร้อยตำรวจเอกหนุ่มวัยสามสิบ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุด เจ้าของร่างกายล่ำสันรู้สึกผิดปกติและสำเนียกได้ถึงความเงียบเชียบที่แตก ต่างจากทุกครั้ง มันเป็นเสมือนสิ่งบอกเหตุว่ามีอะไรบางอย่างที่เป็นอันตรายรอคอยอยู่เบื้อง หน้า
    "ผู้กองแคน" ของลูกน้อง ที่ร่วมเป็นร่วมตายกันมาโดยตลอดจึงสั่งหยุดเคลื่อนที่ เพื่อปฏิบัติตามยุทธวิธีและขั้นตอนของการรบนอกแบบ นั่นคือการใช้ส่วนล่วงหน้าเดินเท้าเข้าตรวจสอบในบริเวณต้องสงสัย
    ด้วยความองอาจและหัวใจแกล้วกล้าของนายตำรวจนักรบ ที่มีจิตวิญญาณความเป็นผู้นำอย่างเต็มเปี่ยม ผู้กอแคนอดีต นักเรียนนายร้อยตำรวจสามพรานรุ่น 54 จำทำหน้าที่ส่วนล่วงหน้าด้วยตนเองเหมือนเช่นทุกครั้งที่ออกปฏิบัติภารกิจ ซึ่งเขาจะต้องก้าวเท้านำหน้า พลร่ม ตชด. ที่อยู่ในทีมโดยไม่หวั่นไหวพรั่นพรึงต่ออันตรายใดๆ
    ไม่ไกลจากตำแหน่งที่ผู้กองหนุ่มแห่งค่ายนเรศวรกำลังเคลื่อนที่อย่างช้าๆ กลุ่มโจรใต้ไม่ต่ำกว่า 20 คน พร้อมอาวุธกำลังเล็งศูนย์เข้าใส่เป้าหมายของพวกมัน กาลีแผ่นดินเหล่านั้นรู้จักหน้าค่าตาและชื่อเสียงของ "ผู้กองแคน" ในฐานะหัวหน้าชุด ตชด. แห่งฐานปฏิบัติการเขื่อนบางลาง ซึ่งเป็นนักรบจู่โจมที่มีผลงานยอดเยี่ยมมาโดยตลอด ทั้งในด้านยุทธการและการเข้าถึงมวลชนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี จนทำให้ชาวบ้านหันมาให้ความร่วมมือกับทางการมากขึ้น
    การปรากฏตังของผู้กองแคนในเช้าวันปะทะ จึงเสมือนเป็นการปรากฏของเป้าหมายที่มีค่ามากที่สุดสำหรับการซุ่มโจมตี โจรใต้กลุ่มนั้นจึงหันปากกระบอกปืนเล็งเข้าหาร่างของนายตำรวจหนุ่มเป็นจุด เดียว เพื่อที่จะระดมปืนเด็ดชีพคนเป็น "หัวหน้าชุด" ให้ได้เป็นลำดับแรก แล้วในบัดดลนั้นกัมปนาทการยิงก็แผดสนั่นหวั่นไหว พร้อมๆ กับวิ๔กระสุนแดงวาบพุ่งลงมาเป็นห่าฝน
    วินาทีแรกที่เสียงปืนดังขึ้น ร้อยตำรวจเอกหนุ่มก็โผนเข้าหาที่กำบังด้วยสัณชาตญาณ พร้อมกับร้องตะโกนสั่งให้ลูกทีมทำการยิงตอบโต้ ก่อนที่ร่าของเขาจะล้มร่วงลงบนเนินหินมรณะ
    การปะทะดำเนินไปอย่างดุเดือดนานกว่า 20 นาที แลบะกำลังอีกชุดหนึ่งภายใต้การนำของ "ผู้กองช้าง" หรือ "ร้อยตำรวจเอก สมรัฐ อาวรณ์" ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดปะทะได้รีบเดินทางมาช่วยก่อนที่เสียงปืนจะสงบลง เมื่อฝ่ายตรงข้ามล่าถอยไป
   
    "ผู้กองถูกยิง ! วิทยุไปที่บ้านภักดี ขอ ฮ. มารับด่วน !"
    รองหัวหน้าชุดตะโกนเสียงหลงในทันทีที่มองเห็นร่างของร้อยตำรวจเอกหนุ่มแดง ฉานไปด้วยเลือด มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ลำคอ บอกให้รู้ว่าผู้นำของชุดเคลื่อนที่เร็วต้องคมกระสุนได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการเป็นตายเท่ากัน
    ภายในห้องประชุมกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ ค่ายนเรศวร อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตอนสายวันเดียวกัน นายตำรวจพลร่มชั้นสัญญาบัตรกำลังประชุมอยู่กับผู้บังคับการ เพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายกำลังไปสับเปลี่ยนหน้าที่กับหน่วยที่อยู่ในพื้นที่ สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามวงรอบทุก 6 เดือน
    ทุกคนต่างมีขัวญกำลังใจดีเยี่ยมและกระหายที่จะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจใน พื้นที่อันตรายด้วยความมุ่งมั่น เพราะเท่าที่ผ่านมา "ชุดเคลื่อนที่เร็ว" ซึ่งเป็นหน่วยพลร่มจาด ตชด. ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยมและไม่เคยสูญเสียกำลังพล
     แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของผู้การก็ดังขึ้น ขัดจังหวะการประชุม สายตาทุกคู่จ้องมองไปยังผู้บังคับบัญชาซึ่งมียศสูงสุดในที่นั้น ก่อนที่ทุกคนจะเห็นสีหน้าและแววตาซึ่งเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน
    "ชุดลาดตระเวนของเราถูกซุ่มโจมตีที่ยะลา"
    ผู้บังคับการพลร่มพยายามบังคับเสียงอย่างคนที่ข่มความรู้สึก ขณะที่กล่าวถ้อยคำซึ่งไม่ต่างอะไรกับสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางหัวใจของทุกคนที่ ได้ยิน
    "ไอ้แคนตาย.. เมื่อสองชั่วโมงที่ผ่านมานี่เอง..!"
    นายตำรวจหนุ่มผู้พลีชีพเพื่อชาติกลางสมรภูมิแดนใต้ในเช้าวันนั้นก็คือ ร้อยตำรวจเอก ธรณิศ ศรีสุข รองผู้บังคับการกองร้อยรบพิเศษที่ 1 กองกำกับการสนับสนุนทางอากาศตำรวจตระเวนชายแดน ผู้เป็นแบบฉบับของ "ชายชาตินักรบ" ซึ่งสมควรได้รับการยกย่องในฐานะวีระบุรุษของชาติ ผู้ยึดมั่นในอุดมการณ์อันสูงส่งตราบจนลมหายใจของชีวิต....
    ครับ นี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเช้าวันนั้น ซึ่งถูกตีพิมพ์ลงในหนังสืออนุสรณ์ (เล่มเล็ก) ซึ่งทำออกมาภายหลัง เพื่อแจกจ่ายให้กับเพื่อนพ้อง ญาติสนิทมิตรสหาย ที่ไม่ได้รับหนังสืออนุสรณ์ (เล่มใหญ่) ที่แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2550
    และต่อไปนี้ผมจะนำประวัติของน้องแคนอย่างคร่าวๆ มาบอกกล่าวให้ทุกๆ คนทั้งที่รู้และยังไม่รู้มาให้รับทราบกันอีกทีครับ
ประวัติ ร้อยตำรวจเอก ธรณิศ ศรีสุข
    เกิดเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2520 ที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เสียชีวิตขณะปฏิบัติราชการ เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2550 รวมอายุ 30 ปี 1 วัน เป็นบุตรของ รศ.ดร เกรียงศักดิ์ ศรีสุข ผอ.ศูนย์วิจัยน้ำบาดาล มหาวิทยาลัยขอนแก่น (อดีต คณบดีคณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น) และ รศ. ทพญ. นิธิภาวี ศรีสุข อดีตคณะบดีคณะทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (เสียชีวิต) มีน้องชาย 1 คน ชื่อ นพ. นราธิป ศรีสุข แพทย์ประจำโรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร.ต.อ. ธรณิศ ศรีสุข สมรสกับ ทพญ. คนึงนิจ บุตรวงศ์ ยังไม่มีทายาท
ประวัติการศึกษา
    พ.ศ. 2526-2527 ศึกษาชั้นอนุบาล ที่โรงเรียนอนุบาลพัฒนาเด็กขอนแก่น
    พ.ศ. 2527-2533 ศึกษาชั้น ป.1 ถึง ม.1 ที่โรงเรียนสาธิตมอดินแดง มหาวิทยาลัยขอนแก่น
    พ.ศ. 2533-2534 ศึกษาชั้น ม.2 ที่โรงเรียนมัธยมต้น เมืองแอดมันตัน รัฐเอลเบอร์ต้า ประเทศแคนาดา
    พ.ศ. 2534-2537 ศึกษาชั้น ม.2 ถึง ม.5 ที่โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน อ.เมือง จ.ขอนแก่น
    พ.ศ. 2538       สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 38 ได้เป็นลำดับที่ 1 ของเหล่าตำรวจ
    พ.ศ. 2544       สำเร็จระดับปริญญาตรี จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ เป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นที่ 54
การศุกษาอบรมหลักสูตร
    ปี พ.ศ. 2546 การต่อต้านการก่อการร้ายสากล รุ่นที่ 8 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    ปี พ.ศ. 2547 การกระโดดร่มแบบกระตุกเอง รุ่นที่ 1/47 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    ปี พ.ศ. 2548 พับและซ่อมบำรุงร่มโดด รุ่นที่ 1/48 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    ปี พ.ศ. 2549 การลาดตระเวนจู่โจมสะเทินน้ำสะเทินบก (RECON) รุ่นที่ 36 ของกองทัพเรือ
    ปี พ.ศ. 2550 เก๋บกู้และทำลายวัตถุระเบิด รุ่นที่ 1/50 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    เมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงดรียนนายร้อยตำรวจ ได้สมัครใจเข้ารับตำแหน่ง ผบ.มว. ร้อย 5 รพศ.กก.สอ.ตชด. ค่ายนเรศวร และสมัครใจไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เสี่ยงภัยหลายพื้นที่ ถวายความปลอดภัย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทำหน้าที่เป็นส่วนสมทบ ร.1 พัน 4 และเป็นหัวหน้าชุดสมทบกองวัง ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศ จ.นราธิวาส ถวายความปลอดภัย ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตน์ฯ ทำหน้าที่หัวหน้าชุดปฏิการประจำพระองค์ ได้รับรางวัล ผู้บำเพ็ญประโยชน์ดีเด่นด้านปฏิบัติการของค่ายนเรศวร ประจำปี 2548 เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธปืนสั้นและอาวุธปืนยาวเป็นอย่างดียิ่ง มีความรู้ความสามารถในการเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด และถ่ายทอดวิชาความรู้ด้านต่างๆ ให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นอย่างดี
คติพจน์ประจำใจ
    จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
ข้อคิดฝากถึงเพื่อน
    จง เป็นผู้เสียสละ อย่าคาดหวังว่าเราจะได้อะไรบ้างจากหน่วยงานและประเทศชาติ แต่จงคิดเสมอว่าเราทำอะไรบ้างให้แก่หน่วย   งานและประเทศชาติ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน