สะพานบุญ(ผ้าป่าหนังสือ)

กระต่ายใต้เงาจันทร์


ทุกอย่างในความเป็นไปในโลกนี้   มีทั้งความเป็นไปได้และไม่ได้พอๆกัน   ในความคิดกระต่ายเองคิดว่า   ถ้าเรามีศรัทธามากพอมีความจริงใจและแสดงให้เห็นในความจริงใจนั้น   โอกาสและจังหวะช่วงเวลาดีๆของชีวิตมักเกิดขึ้นได้เสมอขอเพียงเรามุ่งมั่นและทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์แม้ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆก็ตาม
       เมื่อตัวเองได้เดินทางมาอยู่ที่เชียงรายพร้อมดร.ฤทธิชัย คู่ชีวิต    ท่านได้พากระต่ายไปกราบมนัสการ    เจ้าอาวาสวัดพระแก้ว  คือ  พระธรรมราชานุวัตร   ท่านได้พูดมาประโยคหนึ่งกับกระต่ายว่ามาเป็นคนเชียงรายน่ะ    
          ซึ่งประโยคนี้ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความเมตตาและคิดเสมอมาว่า   การมาเป็นคนเชียงรายนั้น   เราจะทำประโยชน์อะไรได้บ้าง    ทำตัวมีประโยชน์อย่างไร    ให้สมกับที่ท่านเมตตา และ พระอาจารย์อีกรูปที่จะต้องกล่าวถึงในความเมตตาและมีบุญคุณต่อตัวกระต่ายและคู่ชีวิต คือ   พระครูวิมลศิลปกิจ   ที่คอยช่วยเหลือดูแลไม่ว่าเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
        ในสมัยเด็กๆจนกระทั่งเติบโตพ่อจะปลูกฝังและสั่งสอนในเรื่องศรัทธาในพระพุทธศาสนา  อยู่ไหนต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์ จากไปต้องให้คนยกย่องกล่าวขวัญถึง  ต้องทำทุกอย่างออกมาจากหัวใจและคิดว่าดีที่สุดแล้ว  ผลออกมาอย่างไร   กระต่ายน้อยจงภูมิใจและยอมรับในสิ่งนั่น
          ในการให้มีผ้าป่าหนังสือในครั้งนี้  เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อและคิดว่าตัวเองไม่น่าจะทำได้  เพราะ   เป็นจุดกำเนิดจากการคุยเอ็มในอินเตอร์เน็ตกับคุณลุงไพโรจน์ซึ่งเรื่องที่คุยเป็นเรื่องการนั่งสมาธิ   จนกระต่ายเองได้บอกคุณลุงไปว่า  ที่ มจร.วัดพระแก้ว    มีการนั่งสมาธิและปฏิบัติธรรมทุกวันเสาร์โดยเป็นนโยบายเจ้าอาวาสวัดพระแก้ว   ให้มีขึ้นทุกวัดในจังหวัดเชียงรายมุ่งเน้นพัฒนาด้านจิตใจเพื่อส่งเสริมศีล  สติ   สมาธิ  ปัญญา โดยการนำของ พระสุธีสุตสุนทร(พระมหาดร.สมพงษ์ ) ซึ่งท่านเป็นผู้อำนวยการ มจร.ห้องเรียนวัดพระแก้ว    และในส่วนของตัวกระต่ายเองได้ไปช่วยงานห้องสมุดโดยเป็นอาสาสมัครและเต็มใจเพราะตัวเองรู้สึกว่า   ตัวหนังสือ   ตัวอักษรมีคุณค่าและมีชีวิตและได้ช่วยชีวิตตัวเองไว้เมื่อเมื่อครั้งอดีตที่เราคิด  คิดฆ่าตัวตาย   แต่เมื่อเรากลับมาในเรื่องของงานเขียนและมีเวลาอ่านหนังสืออีกครั้งตัวเองมีความสุขทำให้ได้ข้อคิดหลายอย่างสำหรับชีวิตนี่คือ   บุญคุณยิ่งใหญ่เราต้องตอบแทนดูแลและรักษาตัวอักษรที่อยู่ในหนังสือ
                จึงคุยกับคุณลุงไพโรจน์ทางเอ็มว่า   อยากได้หนังสือเข้าห้องสมุด  เพราะหลายเล่มที่พระนิสิตและนิสิตฆราวาสมาถามหาในห้องสมุดไม่มีคุณลุงได้ทำบุญโดยบริจาคหนังสือส่วนตัวมาหนึ่งลังมาที่ห้องสมุดและได้ให้ส่งรายชื่อหนังสือไปทางอีเมล์  ซึ่งกระต่ายเองก็ขอรายชื่อหนังสือที่ต้องการมาจากพระอาจารย์   อาจารย์   ผู้สอน    พระนิสิตและนิสิตฆราวาสเขียนและต้องการที่จะใช้ในการเรียนการสอนส่งให้ไปเป็นเวลาเกือบหกเดือนซึ่งมีรายชื่อหนังสือเป็นร้อยเล่มโดยให้หม่อมหลวงศรันสุข  สุขสวัสดิ์  ซึ่งกระต่ายเรียกสั้นๆว่า  คุณอาหน่อย ซึงเป็นกัปตันสายการบินที่เชียงรายมาเก็บข้อมูลและไปนำเสนอที่รุ่น
                คุณลุงไพโรจน์และคุณอาหน่อยได้กรุณา  นำเรื่องนี้   ไปปรึกษารุ่นของคุณลุงคือ  คณะวิศวกรรมศาสตร์รุ่นที่  5 มหาวิทยาลัยขอนแก่นและได้นำมาเป็นหนังสือที่ซื้อให้ตามรายชื่อจำนวน ๓๙๐ เล่ม  นอกจากนี้ยังมีหนังสือทางวิชาการมือสองแต่ยังมีสภาพใหม่อีกจำนวนหนึ่งและยังมี สมาชิกรุ่นคุณลุงบริจาคส่วนตัวมาอีกเป็นลังๆ  ไม่ว่า จะเป็น  ท่านองอาจ  พร้อมจรรยากุล    รองอธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน  ประธานรุ่น  5 และท่านอื่นๆรวมหนังสือที่นำมาบริจาคให้ห้องเรียนวัดพระแก้วในครั้งนี้ จำนวน ๕๐๐ เล่มและยอดเงินบริจาคอีก  39019 บาทรวมทั้งสิ้นยอดเงินบริจาคทั้งหมด  99999  บาท
                นอกจากนี้ส่วนที่กระต่ายขอไปจาก  สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์  กรมศิลปากรซึ่งผู้อำนวยการสำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรม ศิลปากรได้เมตตาบริจาคมากว่าร้อยเล่มเข้าห้องสมุดครั้งหนึ่งแล้ว    และครั้งนี้ ก็ได้ร่วมบริจาคเพิ่มเติมมาอีกครั้งหนึ่ง   โดยคุณ ประสิทธิ์   แสงทับ  เป็นผู้ประสานให้   
                กระต่ายจึงอยากขอบคุณหลายท่านที่ตั้งใจมาในครั้งนี้ซึ่งมาจากกรุงเทพ  เป็นจำนวน   25คน  และท่านที่ไม่ได้มาในครั้งนี้ เหนืออื่นใด บุคคลที่กระต่ายต้องกราบขอบพระคุณคือ  คุณลุงไพโรจน์ที่ได้สืบสานโครงการครั้งนี้จนเป็นผลสำเร็จไปตระเวนหาซื้อหนังสือให้หลายรอบและกราบขอบพระคุณอาหน่อยที่คอยประสานงานและไปนำเสนอ เรื่องนี้จนประสบผลสำเร็จพร้อมทั้งที่ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมมือร่วมใจต่อสะพานบุญจนทำให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดีคะ
                                                                        ขอบคุณจากหัวใจ
                                                                            กระต่ายใต้เงาจันทร์
				
				
				
				
				
				
				
				
				
comments powered by Disqus
  • รัมณีย์

    26 ตุลาคม 2553 22:02 น. - comment id 119424

    สาธุ อนุโมทนาด้วยครับ
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    26 ตุลาคม 2553 22:39 น. - comment id 119426

    สวัสดีคะการัณยภาส
    
    ด้วยความยินดีและเต็มใจคะ11.gif
    ที่มาร่วมอนุมโทนาบุญครั้งนี้
    
    ถ้ามีโอกาสเชิญมาร่วมทำบุญด้วยกันนะคะ
  • การัณยภาส

    24 ตุลาคม 2553 21:39 น. - comment id 119573

    แวะมาเยี่ยมชมค่ะ ก็ขอร่วมเสริมและอนุโมทนาบุญด้วยคนนะคะ
  • แก้วประภัสสร

    25 ตุลาคม 2553 12:04 น. - comment id 119589

    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะคุณกระต่ายฯ
    
    36.gif36.gif11.gif
  • เพียงพลิ้ว

    25 ตุลาคม 2553 13:02 น. - comment id 119590

    อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    26 ตุลาคม 2553 22:47 น. - comment id 119630

    สวัสดีคะคุณแก้วประภัสสร
    
    ด้วยความยินดีและเต็มใจคะ11.gif36.gif
  • อาทิตยา ภัทรประสิทธิ์

    26 ตุลาคม 2553 22:47 น. - comment id 119631

    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ น.ส.อาทิตยา ภัทรปรสิทธิ์
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    26 ตุลาคม 2553 22:50 น. - comment id 119632

    สวัสดีคะ  คุณ  เพียงพลิ้ว
    
    ด้วยความยินดีและเต็มใจคะ11.gif36.gif
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    26 ตุลาคม 2553 22:55 น. - comment id 119633

    สวัสดีคะ คุณต้า
    
    ด้วยความเต็มใจและยินดีคะ11.gif36.gif
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    26 ตุลาคม 2553 23:13 น. - comment id 119635

    สวัสดีคะน.ส.อาทิตยา ภัทรปรสิทธิ์
    
    ด้วยบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำทั้งก่อนหน้านี้และในปัจจุบันที่สะสมมาเรื่อยๆขอยกให้น.ส.อาทิตยา    ภัทรประสิทธิ์ทั้งหมด  ขอให้น.ส.อาทิตยา  ภัทรประสิทธิ์  สมหวังและประสบความสำเร็จเรื่องงานและพบเจอแต่สิงดีๆและคนดีๆ  เรื่องดีๆในชีวิตเทอญ
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    26 ตุลาคม 2553 23:18 น. - comment id 119636

    เคล็ดไม่ลับ...คู่มือบุญ (บุญกิริยาวัตถุ ๑๐) ทุกคนทำได้ ง่ายนิดเดียว... ไม่ต้องใช้เงินใช้ทองมากมาย
    : 
    พระพุทธเจ้าทรงสอนวิธีทำบุญ คือ วิธีทำความดี ทำสิ่งที่ทำแล้วได้ชำระความเศร้าหมองเร่าร้อน 
    ทำแล้วได้ผลเป็นความดี ทำแล้วเป็นบุญเป็นกุศลรวมทั้งเป็นการประพฤติดีประพฤติชอบ 
    ทางกายวาจาไว้สิบวิธี ทำได้เสมอโดยไม่ต้องใช้วัตถุสิ่งของเงินทองเสมอไปก็ทำบุญได้ 
    และเป็นบุญได้ เรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ เป็นเคล็ดไม่ลับที่มีคุณค่าหาประมาณมิได้ 
    ให้เราสามารถสะสมบุญได้มากมายมหาศาลในชีวิตประจำวันนี้เอง 
    โดยไม่ต้องมีเงินทองมากหรือไม่มีเลยก็ยังได้ 
    
    บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ 
    
    (๑) ทาน 
    คือ ทำบุญด้วยการให้ จะใส่บาตร ให้สิ่งของ ให้ขนม ปันเงินทอง ก็เป็นทาน 
    นอกจากนั้น ให้ใบหน้ายิ้มแย้ม ให้ความเข้าใจ ให้ความช่วยเหลือ 
    ให้หูที่รับฟังความทุกข์เดือดร้อน ให้ที่นั่ง ให้ความรู้ ให้ธรรมะ ฯลฯ ก็เป็นทาน 
    (จะเห็นว่าข้อ ทาน นี้ ยังมีคนจำนวนมากเข้าใจว่าต้องให้เงินให้ทองให้สิ่งของเท่านั้น 
    จึงจะเป็นทานที่ทำแล้วได้บุญ แต่ที่จริงแล้ว การทำทานให้เกิดบุญนั้น 
    ทำได้กว้างขวางกว่าการให้สิ่งของเงินทองมากมายนัก 
    อะไรๆ ก็สามารถฉลาดหยิบยกมาทำให้เกิด ทาน ได้ไปแทบจะทั้งหมด) 
    
    (๒) ศีล 
    คือ ทำบุญด้วยการตั้งใจระงับ เว้นและงดสิ่งไม่ดีทั้งหลายทั้งทางกายและวาจา 
    เช่น ไม่ทำร้ายใคร ไม่พูดปด ไม่พูดร้าย ไม่ส่อเสียด ไปทำงานตรงเวลาไม่อู้ 
    ไม่ทำอะไรที่จะเดือดร้อนตนเดือดร้อนคนอื่น ล้วนเป็นศีลทั้งสิ้น 
    
    (๓) ภาวนา 
    คือ ทำบุญด้วยการพัฒนาฝึกอบรมทางด้านจิตใจ 
    เช่น การศึกษาเล่าเรียนหรือใคร่ครวญข้อธรรมะ การสวดมนต์ไหว้พระ 
    การทำสมาธิ การเจริญสติ การเจริญวิปัสสนากรรมฐาน 
    
    (๔) อปจายนะ 
    คือ ทำบุญด้วยการมีใจเคารพอ่อนน้อม อ่อนน้อมถ่อมตนกับมารดาบิดา 
    ผู้หลักผู้ใหญ่ ครูอาจารย์ กราบพระ ไหว้พระเจดีย์พระวิหารด้วยใจเคารพ เป็นต้น 
    
    (๕) เวยยาวัจจะ 
    คือ ทำบุญด้วยการเอาใจใส่ช่วยเหลือมารดาบิดาและผู้อื่นอย่างเต็มกำลัง 
    ให้บุคคลเหล่านั้นทั้งหลายไม่ต้องกังวลทั้งเรื่องทางโลกที่ไม่มีโทษและเรื่องทางธรรม 
    เช่น ช่วยดูแลเรื่องการงาน ดูแลผู้ป่วยไข้ ช่วยทำความสะอาดบ้านช่อง 
    ช่วยงานปฏิสังขรณ์วัด ช่วยงานบุญงานกุศล งานปริยัติปฏิบัติต่างๆ 
    
    (๖) ปัตติทาน 
    คือ ทำบุญด้วยการแบ่งความดีที่ตนทำแล้วให้ผู้อื่นพลอยปลาบปลื้ม 
    และได้รับความดีนั้นไปด้วย เช่น การแผ่และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล 
    หรือเมื่อทำบุญหรือความดีใดๆ ก็บอกให้ผู้อื่นได้พลอยปีติยินดี 
    และอนุโมทนาบุญนั้นๆ ไปด้วยกัน 
    
    (๗) ปัตตานุโมทนาทาน 
    คือ ทำบุญด้วยการอนุโมทนาบุญ กุศลหรือความดีที่ผู้อื่นทำและบอกเล่า 
    ให้ร่วมอนุโมทนาด้วยจิตใจที่พลอยแช่มชื่นเบิกบานและปีติยินดีไปด้วย 
    
    (๘) ธัมมะสวนะ 
    คือ ทำบุญด้วยการฟังธรรม อ่าน ศึกษาธรรมะ ด้วยจิตใจอ่อนโยนชุ่มชื่น 
    เบิกบานแจ่มใส โดยมุ่งให้เข้าใจและรู้จักบาปบุญคุณโทษ 
    ให้รู้ในสิ่งที่มีประโยชน์และไม่มีประโยชน์ ตั้งใจเพิ่มพูน 
    และพัฒนาสติปัญญาของตน 
    
    (๙) ธรรมเทศนา 
    คือ ทำบุญด้วยการบอก แนะนำ ให้ธรรมะ อย่างบริสุทธิ์ใจ 
    ไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทน แต่มุ่งให้ผู้ฟังได้สติ เกิดศรัทธาและปัญญา 
    รวมไปถึงการแบ่งปันความรู้ทางโลกที่ไม่มีโทษให้กับผู้อื่น 
    เช่น สอนความรู้ทางการแพทย์ การเกษตร 
    
    (๑๐) ทิฏฐุชุกัมมะ 
    คือ ทำบุญด้วยการตั้งใจทำความคิดเห็นของตนให้ตรงให้ถูกต้องตามธรรม 
    ตั้งใจพัฒนาสติปัญญาให้ตนเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจตรงต่อ 
    ความเป็นจริงของธรรมชาติ ตั้งใจไม่ให้ตนเป็นคนมีความคิดเห็นที่ผิด 
    หรือเบี่ยงเบนออกไปจากความเป็นจริง 
    
    ทว่า บุคคลจะสร้างบุญกุศลทั้งสิบข้อดังกล่าวให้เพิ่มพูนได้อย่างดีมีประสิทธิภาพเต็มที่นั้น 
    พึงเริ่มต้นจากการชำระตนเองคือทำตนเว้นจากการทำความชั่วทั้งปวงก่อน 
    กล่าวคือ บุคคลพึงเว้นจากการกระทำไม่ดีทั้งทางกาย วาจาและใจ ก่อน 
    รวมทั้งเพียรพยายามเสาะแสวงหาวิธีทำตนให้เป็นคนที่มีความคิดเห็นถูกต้อง 
    สั้นๆ คือ ทำตัวให้มีศีลและมีปัญญาก่อนเป็นลำดับแรกที่สำคัญ 
    เมื่อมีตนเป็นผู้มีศีลแล้วและยังมีปัญญารู้เหตุรู้ผลควรไม่ควรต่างๆ ด้วย 
    การจะเพิ่มพูนความดีในตนให้มากขึ้นด้วยบุญกิริยาวัตถุทั้ง ๑๐ วีธี 
    ก็จะเป็นไปอย่างสะดวกง่ายดายขึ้น ทำให้ยิ่งสามารถทำความดีทั้งสิบ (บุญกิริยาวัตถุ ๑๐) 
    ได้อย่างมั่นใจ เข้าใจ ทำได้ถูกและตามที่ควรจะทำได้ยิ่งๆ ขึ้นไป 
    ทำให้ ฉลาดในบุญ ยิ่งๆ ขึ้นไป ได้บุญมากหนักแน่นและเต็มที่ยิ่งๆ ขึ้นไป 
    
    การตั้งใจและเว้นจากการไม่ทำความชั่วทั้งปวงนี้เรียกว่า 
    กุศลกรรมบถ พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ ๑๐ ประการต่อไปนี้ 
    
    กุศลกรรมบถ ๑๐ 
    
    (๑) 
    ตั้งใจและเพียรระวังเพื่อเว้นจากการทำไม่ดีทางกาย 
    ด้วยการไม่ฆ่าสัตว์ เบียดเบียนสัตว์อื่นให้ได้รับความทุกข์เดือดร้อน 
    (ปาณาติปาตา เวรมณี) 
    
    (๒) 
    ตั้งใจและเพียรระวังเพื่อเว้นจากการทำไม่ดีทางกาย 
    ด้วยการไม่ลักทรัพย์ ถือเอาของที่เขาไม่ให้ด้วยอาการขโมย 
    (อทินนาทานา เวรมณี) 
    
    (๓) 
    ตั้งใจและเพียรระวังเพื่อเว้นจากการทำไม่ดีทางกาย 
    ด้วยการไม่ประพฤติผิดในกาม 
    (กาเมสุมิจฉาจารา เวรมณี) 
    
    (๔) 
    ตั้งใจและเพียรระวังเพื่อเว้นจากการทำไม่ดีทางวาจา 
    ด้วยการไม่พูดเท็จ 
    (มุสาวาทา เวรมณี) 
    
    (๕) 
    ตั้งใจและเพียรระวังเพื่อเว้นจากการทำไม่ดีทางวาจา 
    ด้วยการไม่พูดจายุยงส่อเสียด 
    (ปิสุณาวาจา เวรมณี) 
    
    (๖) 
    ตั้งใจและเพียรระวังเพื่อเว้นจากการทำไม่ดีทางวาจา 
    ด้วยการไม่พูดจาร้าย หยาบคายด่าทอ 
    (ผรุสวาจา เวรมณี) 
    
    (๗) 
    ตั้งใจและเพียรระวังเพื่อเว้นจากการทำไม่ดีทางวาจา 
    ด้วยการไม่พูดเพ้อเจ้อ กล่าววาจาไม่เป็นประโยชน์ 
    หรือกล่าววาจาโปรยประโยชน์ 
    (สัมผัปปลาปา เวรมณี) 
    
    (๘) 
    ตั้งใจและเพียรระวังเพื่อเว้นจากการทำไม่ดีทางใจ 
    ด้วยการไม่คิดเพ่งเล็งอยากได้ของของผู้อื่น 
    (อนภิชฌา) 
    
    (๙) 
    ตั้งใจและเพียรระวังเพื่อเว้นจากการทำไม่ดีทางใจ 
    ด้วยการไม่คิดไม่ดี คิดไม่พอใจ โกรธ คิดร้าย 
    คิดพยาบาทอาฆาตจองเวรผู้อื่น 
    (อพยาบาท) 
    
    (๑๐) 
    ตั้งใจและเพียรพัฒนาใจของตนเอง 
    ด้วยการพยายามศึกษาหาความรู้เพื่อให้ตนเป็นผู้มีปัญญา มีความเห็นชอบ 
    คิดเห็นถูกต้องตามทำนองคลองธรรม 
    (สัมมาทิฏฐิ) 
    
    กุศลกรรมบถ ๑๐ จึงเป็นจุดเริ่มต้น และบุญจึงไม่ใช่เฉพาะต้องมีวัตถุเงินทองถึงจะทำได้ 
    บุญอยู่ที่ความตั้งใจ อยู่ที่เจตนา การทำบุญด้วยวัตถุเงินทอง (ในข้อทานมัย) นั้น 
    ก็เป็นเพียงส่วนเดียว แท้ที่จริงแล้วบุญนั้นสามารถเพิ่มพูนได้ตลอดในแทบทุกอย่าง 
    ในชีวิตประจำวัน บุญอยู่ที่ความเข้าใจ รู้ว่าอะไรอย่างไรคือบุญ ทุกครั้งที่มีโอกาส 
    โดยไม่ต้องใช้เงิน ไม่ต้องมีเงินทองวัตถุข้าวของมากมายเสมอไป 
    ก็สามารถสะสมเพิ่มพูน บุญ ได้มากมายมหาศาลเท่าเทียมกันทุกคน 
    
    
    + + + + + + + + + + + + + + + + + 
    
    รวบรวมและเรียบเรียงจาก 
    พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ 
    โดย พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต) 
    พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม 
    โดย พระธรรมปิฎก (ป.อ. ปยุตโต) 
    ปรมัตถโชติกะ มหาอภิธัมมัตถสังคหฎีกา ปริจเฉทที่ ๕ เล่ม ๒ 
    กัมมจตุกกะ  มรณุปัตติจตุกกะ 
    รจนาโดย พระสัทธัมมโชติกะ ธัมมาจริยะ 
    ๖๐ คำถามที่ต้องการคำตอบ เล่มที่ ๒ 
    โดย คนเดินทาง ชมรมอนุรักษ์ธรรม 
    http://www.dhammajak.net/ 
    http://www.raksa-dhamma.com 
    
    โดยคุณ : deedi - อีเมล์ deedi.deedi@gmail.com - 07/05/2008 22:32
  • อาม่าวัยใส

    8 พฤศจิกายน 2553 20:19 น. - comment id 119905

    41.gif
    โมทนาสาธุค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน