ฉันเกลียดวันปีใหม่

กระต่ายใต้เงาจันทร์

ในค่ำคืนความมืดมิดมาเยือน   แสงสีเหลืองนวลของดวงจันทร์สาดส่องหน้าต่างทอดยาวเป็นเงาสลัวปนเสียงละอองฝนที่โปรยปรายท่ามกลางสายลมของฤดูหนาวของปลายเดือนธันวาคม
จะปีใหม่แล้วสิน่ะ.....ฉันแก่ขึ้นอีกปี...รำพึงรำพันอยู่ในใจท่ามกลางสายฝนของฤดูหนาว
ใครๆก็ชอบส่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่  มอบของขวัญและมอบความรักคำอวยพรต่อกัน
แต่สำหรับฉัน   วันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่พรากคนที่ฉันรักมากที่สุดในชีวิตไปจากหัวใจถึงสองคน   พ่อคือคนหนึ่งในนั้น
พ่อเป็นคำพูดสั้นแต่มีความหมายมากมายสุดคนานับ
                       พ่อในความทรงจำของฉันสดสวยงดงามเสมอ
                       พ่อมักเอาฉันขี่คอพ่อไปโรงเรียน   ไปดูแม่น้ำคนพายเรือที่ยู่ในแม่น้ำ นั่งดูแพ  ดูพระอาทิตย์และเล่าเรื่องสนุกๆๆในวัยเด็กของพ่อให้ฟังเสมอ
                        พ่อคือผู้ที่รักลูกสาวทั้งหวงทั้งเห่อเพียงอาจเพราะมีคนชมฉันเสมอว่าเหมือนพ่อ  ทุกอย่าง  
                         พ่อไม่ยอมให้ฉันทำอะไรเลยอาจเพราะพ่อเห็นฉันร่างกายออ่นแอขี้โรค  หรือไม่เพราะฉันเป็นลูกหลงลูกสาวคนเล็กที่พ่ออยากได้หนักหนา
                          พ่อมักมีคำพูดที่ฉันได้ยินจนติดหูเป็นประโยคประจำตัวของพ่อ
.....นี่ลูกสาวผม.....นี่ลูกสาวผม....ไว้ว่าฉันจะรำอวยพรที่ไหน หรือเล่นกีฬาอะไรพ่อจะรับส่งและอยู่แถวหน้าเป็นกองเชียร์
                          พ่อไม่เคยยอมให้ฉันนั่งรถเมลย์หรือไปไหนคนเดียว จนกระทั่งฉันเข้ามหาลัยถึงทำงาน พ่อก็ยังไม่ยอม
                          เหตุผลของพ่อคือฉันเป็นผุ้หญิงขึ้นรถเมลย์อันตรายจะเบียดเสียดกับผู้คนดูไม่งาม
                         พ่อทำให้ฉันทุกอย่างขับรถรับส่ง  เป็นเพื่อน  บางครั้งฉันเคยรู้สึกอึดอัดในสิ่งที่พ่อทำ  เพราะฉันรู้สึกว่าฉันน่าจะเรียนรู้ด้วยตัวเองไม่ใช่พ่อจัดการเรื่องต่างๆให้ทุกครั้งเพราะความรัก
                        พ่อเคยน้ำตาคลอเพราะฉันเพียงเพราะฉันพูดในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ฉันเข้าใจและรู้สึกเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป
                         แต่พ่อคงเป้นพ่อที่รักลูกเสมอเพียงหอมแก้มพ่อ  กอดพุงพ่อพ่อก็กลับมาเป็นพ่อที่น่ารักตามเดิม
                          แล้วฉันทำงานพ่อก็ยังรับส่งฉัน  ทั้งที่ฉันขับรถยนต์ได้ โตพอที่จะนั่งรถประจำทางกลับบ้านได้แต่พ่อเหมือนเดิมใช้เหตุผลแบบเดิมทั้งที่เวลาเปลี่ยนไป   อายุฉันเปลี่ยนไปแต่พ่อไม่เคยเปลี่ยน
                          วันที่30ธันวาคม  พ่อขับรถมารับฉันเพื่อกลับบ้านไปทานข้าวและทำบุญ ฉันบอกพ่อว่า  ฉันกลับเองได้   แต่พ่อบอกว่าจะมารับฉันไปหาแม่และอีกอย่างพ่อมีของขวัญมาให้ปีใหม่ฉันไม่ใช่ตุ๊กตาที่ฉันขออย่างทุกปีเพราะฉันโตมากจนเกินจะเล่นแล้วรู้ไหม....ที่คือประโยคสุดท้ายของพ่อ.....
                         แม่โทรมาบอกว่า...ปีใหม่ปีนี้พ่อสั่งทำของพิเศษให้ฉันเป็นของรักแทนใจของพ่อกับแม่รวมกัน....แต่มีเพียงสร้อยคอทองคำขาวกับพระองค์เล็กที่พ่อกำแน่นแม้ลมหายใจสุดท้าย
                         ปีใหม่คนฉลองมีความสุข แต่พ่อถูกรถชนเพราะคนขับเมา
                        ทั่วร่างกายพ่อมีแต่เศษกระจกทิ่มตำตามเนื้อตัว  ฉันอาบน้ำศพให้พ่อ ใจมันเจ็บเหลือเกิน  พ่อคงทรมาน  ฉันอยากให้ความเจ็บนั้นมาลงที่ฉันไม่ใช่พ่อ   ร่างกายฉันชาสมองไม่รับรู้อะไรแม้เศษกระจกจะบาดมือฉันในเวลาที่ฉันอาบน้ำให้พ่อ แต่มันไม่ทำให้ฉันรู้สึกเจ็บสักนิด   ....น้ำตาคงไหลผ่านอยู่อย่างนั้น...
หัวใจแหลกสลาย  ร่างกายเหมือนคนไร้วิญญาณ...ทำไมไม่เป็นฉัน....ทำไมต้องเป็นพ่อ...เพราะอะไร..ทำไม...ความคิดฉันวนเวียนอยู่เพียงเท่านั้น...
                       วันเวลาผ่านมีคนบอกว่าเวลาจะรักษาแผลใจได้  คงจะจริงและพ่อคงอยากจะเห็นฉันแข็มแข็งยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง
                       ฉันเพียงอยากบอกผ่าน...สายน้ำ....ท้องฟ้า....ดวงดาว..ดวงจันทร์..ว่าความฝันที่พ่ออยากเห็นฉันได้ตำแหน่ง  หน้าที่การงานอยากเห็นฉันใส่ชุดที่พ่อใฝ่ฝันและที่สำคัญเหนืออื่นใด
พ่อค่ะ....ยายตัวเล็กของพ่อขึ้นรถเมล์เก่งแล้วค่ะ..
รักใดเล่าจะแท้หนอเท่าพ่อรัก
ผูกสมัครรักพ่อรักมั่นไม่หวั่นไหว
ห่วงใดเล่าเท่าพ่อห่วงดั่งดวงใจ
ที่พ่อให้คือรักลูกทุกเวลา
ยามลูกขื่นขมพ่อตรอมตรมกว่าหลายเท่า
ยามลูกเศร้าพ่อก็โศกวิปโยคกว่า
ยามลูกป่วยพ่อก็ห่วงดั่งดวงตา
ลูกสุขสบายพ่อมองมายังห่วงใย
ลูกเติบใหญ่หวังให้ลูกช่วยรักษา
เมื่อถึงคราใกล้ล่วงลับจะดับไข
หวังให้ลูกได้ปิดตาเวลาตาย
พ่อจะได้สู่สรรค์นิรันดร
คำสอนพ่อยังคงก้องที่สองหู
รับและรู้ในทุกอย่างที่พ่อสอน
ลูกคนนี้อยู่เพื่อพ่ออย่างแน่นอน
ทำตามสอนเหมือนพ่อหวังอย่างตั้งใจ
คนอีกคนคือคนที่ฉันรอมาเกือบครึ่งชีวิตกับพันธะสัญญาและความทรงจำมีคนหลายคนมักบอกว่ารักครั้งแรกมักอยากจะลืมฉันคงเป็นหนึ่งในนั้นที่ยึดมั่นคำสัญญาและความรัก    การรอคอยของใครอีกคนที่กลับมาในช่วงปีใหม่ของทุกปีแต่กลับมีแต่ความว่างเปล่าไร้เงาของใครอีกคน  เคยนึกว่ากาลเวลาจะลบเลือนแผลใจได้แต่กลับยิ่งซุกซ่อนรุมทำร้ายให้บาดแผลเป็นรอยขนาดใหญ่กว่าเดิม				
comments powered by Disqus
  • กระต่ายใต้เงาจันทร์

    18 มกราคม 2554 21:39 น. - comment id 88807

    สวัสดีคะคุณโอละหนอ
    สวัสดีคะคุณกิ่งโศก
    สวัสดีคะคุณรมณีย์
    
    ขอบคุณนะคะที่แวะมาจะเขียนให้กำลังใจขอบพระคุณมากคะ11.gif
  • กิ่งโศก

    5 มกราคม 2554 08:39 น. - comment id 109626

    ท้องฟ้า...บางคราวย่อมสะกาวใส แผ่ประกายทำให้บนหล้า ได้รับความจ่างแจ้งเหล่านั้น
    
    ท้องฟ้า...บางครั้งก็หม่น หมอง คล้ายทาทาบด้วยรอยสลด หดหู่
    
    ..แต่เชื่อเถอะ...เดี๋ยวก็มีสว่าง  มีมืดมน สลับกัน เสมอ..
    ..จะมืดหรือสว่าง เพียงเราอยู่กับมัน โดยจิตที่มั่นคง.
    
    ๐ จันทร์กระจ่างฟ้า......เพื่อส่องหล้าให้คลายหม่น
    หรือแสงสุริยนต์.......ยังทออุ่นเอื้อโอบดิน
    
    สวัสดีจ้าครูกระต่าย
  • รัมณีย์

    5 มกราคม 2554 10:09 น. - comment id 118479

    36.gif36.gif36.gif
  • โอ้ละหนอ

    4 มกราคม 2554 22:53 น. - comment id 119071

    เสียใจด้วยกับเรื่องราวเศร้า ๆ ที่เกิดขึ้นในปีใหม่........ทั้งสองเรื่อง........
    แต่....ชีวิตต้องดำเนินต่อไป....ใช่ไหมจ๊ะ.......ส่งความสุขมาให้......กระต่ายใต้เงาจันทร์.......
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gifชีวิต.........มันก็เจ็บปวดเช่นนี้แหละ..........
    ใช่มีแต่เราเท่านั้น........นะ.....นะ......
    .............จากดวงใจเพื่อนบ้านกลอนจ๊ะ..........

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน