* แดนพิศวง ตอน ๘ *

แก้วประเสริฐ


               แดนพิศวง ตอนที่ ๘
                    (ทดลองวิชา)
       ภายหลังนั่งพักผ่อนพอสมควรแล้ว ฉับพลันเขาก็แลเห็นรถ
ยนต์สามคันแล่นเข้ามาในบริเวณบ้าน  เนื่องจากเขาเป็นคนไม่
ค่อยจะสุงสิงต่อคนเท่าใดนักจึงได้  รีบลุกขึ้นเข้าไปในห้องพร้อม
สั่งแม่ม่อมอย่าให้ใครไปรบกวนเขา เพราะต้องการอ่านหนังสือ
     ครั้นรถยนต์มาจอดบริเวณหน้าบ้าน ร่างของชายหนุ่มนิวัฒน์
ก็ก้าวลงมาพร้อมกับ คนทั้งหมดจำนวน 5 คนด้วยกัน ชายหนุ่มสอง
คนมีอายุกลางคนมากแต่ดูยังแข็งแรงอีกสองรวมทั้งนิวัฒน์เจ้าของบ้าน
   “บ้านน่าอยู่นะคุณวัฒน์  แหมติดกับชายทะเลอีกด้วย 
อากาศช่างดีจริงๆ”
     เสียงหญิงสาวรูปร่างงดงามเอ่ยขึ้น
    “จริงๆอย่างที่คุณพัชรากล่าวไว้ไม่ผิด”
พลางหันไปมองบริเวณรอบๆบ้าน  ที่เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้
ออกดอกสวยงามมากมายหลายๆอย่าง 
ส่วนชายมีอายุกำลังคร่ำเคร่งสนทนากันอยู่ไม่สนใจเท่าใดนัก
   “คุณจะเดินชมบริเวณรอบบ้านก็ได้นะครับ คุณพ่อคุณแม่ผม
ไม่อยู่ท่านไปต่างประเทศอีกนานกว่าจะเดินทางกลับ”
   “ขอบใจมากคุณนิวัฒน์  แต่เรามาเรื่องงานก่อนไม่ดีกว่าหรือ???”
   “ถ้าอย่างนั้นก็ขอเชิญไปข้างในบ้านเถอะครับ ผมสั่งแม่บ้าน
ให้จัดเตรียมอาหารไว้พร้อมแล้วสำหรับมื้อกลางวันครับ”
   “ถ้าอย่างนั้นไม่เกรงใจกันล่ะ เราคนกันเองทั้งนั้นนี่นา”
   “แล้วเรื่องน้องชายคุณคงจะไม่มีปัญหานะ เพราะคุณกล่าวไว้
หวังว่าคงไม่สร้างความผิดหวังแก่ผมนะ”
   “ผมคิดว่าคงจะไม่หรอกครับ เพราะหมอนั่นมันสนใจแต่เรื่อง
ตำราบ้าๆบอๆอะไรนั่นแหละ  ป่านนี้คงขลุกอยู่ในห้องและครับ
ขอเชิญทุกๆคนเลยครับ”
     ภายในห้องรับแขกถูกจัดไว้ด้วยโต๊ะอาหารเครื่องดื่มต่างๆไว้รอ
รับอยู่แล้วพร้อมทั้งแม่บ้านและเด็กสาวสองสามคนรอการต้อนรับอยู่
เมื่อทั้งหมดนั่งลงสนทนาโดยมีแม่บ้านและเด็กสาวช่วยกันเสริฟน้ำให้
   ครั้นทั้งหมดสนทนาไปถึงเรื่องราวที่พวกเขาต้องการพอสมควรแล้ว
ชายหนุ่มเจ้าของบ้านก็เชิญทุกๆคนทานอาหารทันที
   ในระหว่างการทานอาหารและสนทนาของบรรดานักค้นคว้า
กับพี่ชายของเขาอยู่นั้นอย่างคร่ำเคร่งนั้น
   ทางด้านชายหนุ่มทราบเรื่องต่างๆด้วยอำนาจโทรจิตของบุคคล
เหล่านี้ได้ว่ามีความต้องการสิ่งใด  เขาไม่ค่อยสนใจนัก
    พลันนึกถึงในตำรากล่าวถึงอำนาจของมนตราที่บันทึกไว้  กล่าวไว้ว่าอัน
อำนาจของเวทย์มนต์นั้นอยู่เหนือธรรมชาติ  ที่สามารถจะบังคับ
จิตใจของผู้ที่อ่อนแอกว่า  ในทำนองเดียวกันชายหนุ่มก็คิดถึงใน
พระไตรปิฏกก็กล่าวถึงอำนาจลึกลับไว้เช่นกัน  แต่มันเพียงอำนาจ
ที่แอบแฝงไว้เท่านั้นหาได้ยั่งยืนจีรังก็หาไม่   
   ดังนั้นเขาครุ่นคิดว่าอำนาจนี้เมื่อไม่จีรังยั่งยืนก็ย่อมมีการทำลายล้าง
อำนาจดังกล่าวได้  จึงนำมาเปรียบเทียบกับอำนาจพลังงานกับอำนาจ
ของเวทย์มนต์คาถาอาคมต่างๆ  ก็ถึงจุดแห่งความสว่างแก่เขาว่า 
มาดแม้นว่าอำนาจทางพลังเวทย์จะยิ่งใหญ่ก็ตามแต่หาที่จะต้านทาน
อำนาจของพลังงานแห่งจักรวาลหาได้ไม่  หากผู้ฝึกฝนทางพลังงานย่อม
สามารถทำลายอำนาจแห่งเวทย์มนต์ต่างๆได้  เมื่อทราบแก่ใจเช่นนี้
ความกลัดกลุ้มที่จะช่วยเหลือนครต้องสาปนี้ให้แปรสภาพดังเดิมก็คง
จะไม่มีปัญญา  แว๊ปหนึ่งผุดขึ้นในสมองของเขาว่า  ในเมื่อมันเป็นคน
ละมิติกันอำนาจพลังงานที่เขาฝึกปรือไว้จะสามารถนำไปใช้ได้อีกหรือ
ไม่ซึ่งเขาไม่แน่ใจ   พลังงานดึงดูดของโลกเราผสมผสานกับพลังงานใน
ห้วงจักรวาลจะบรรลุจุดประสงค์หรือเปล่า   ข้อนี้นี่เองทำให้เขากังวลนัก
    แต่ช่างเถอะในเมื่อได้รับปากจากท่านทั้งสามไว้แล้ว   ด้วยความตั้งใจ
แน่วแน่ของบุคคลทั้งสามนี่เองทำให้เขาเกิดความมุมานะพยายามหาหน
ทางที่จะช่วยเหลือให้ได้   เขาจึงทดลองรวบรวมพลังงานทั้งทางโลกและ
ทางจักวาลโดยอาศัยดวงแก้วสองดวง  มาไว้ในฝ่ามือก็บังเกิดแสงกลมๆ
เป็นรังสีคล้ายๆกับสายฟ้าออกสีปรอทหลากสีอยู่ในอุ้งมือทั้งสองเปล่ง
ประกายสดใสงดงามยิ่งนัก   ด้วยบุคคลรวมทั้งพี่ชายเขายังทานอาหาร
ไม่เสร็จสิ้น  จึงชำเลืองมองไปนอกหน้าต่างที่เปิดไว้เป็นแนวทะเลอัน
กว้างสุดสายตาจึงยกพลังงานที่เขากำหนดไว้ดันออกจากฝ่ามือเพื่อทดลอง
  
      แล้วก็ผลักออกไปทางหน้าต่างทันที  พลังงานที่ก่อตัวเป็นผนึกกลม
ดวงนั้นก็พุ่งตรงไปยังท้องทะเลทันทีอย่างรวดเร็ว  จุดที่เขาเล็งไว้คือเกาะ
แห่งหนึ่งที่อยู่ไกลสุดโพ้น   เสียงระเบิดดังกึกก้องได้ยินมาถึงเขาพร้อมกับ
น้ำในทะเลเกิดกระแสหมุนวนอย่างรวดเร็วพุ่งขึ้นสูงไปในอากาศทันที
จุดเล็กๆที่เขานึกว่าเป็นเกาะก็ระเบิกแตกแยกจากกัน
เป็นแสงสว่างรุ่งโรจน์   แรงสั่นสะเทือนมาถึงบ้านที่เขาพักอาศัยอยู่ 
 ทำเอาบรรดาแขกของพี่ชายเขาต่างตกอกตกใจไปตามๆกัน 
 ผืนแผ่นดินเกิดการไหวค่อนข้างรุนแรงน้ำทะเลหมุนเวียนวน
และต่างกระฉอกกระทบฝั่งดังเกิดสินามิน้ำทะเลล้น
เข้าหาฝั่งอย่างมากมาย  แต่น้ำทะเลไม่ได้ล้นเข้ามาภายในบ้านเลย
   “เกิดอะไรขึ้นหรือพ่อนิวัฒน์ หรือว่าแผ่นดินไหวทำไมรุนแรง  ดูซิน้ำ
ทะเลพุ่งเข้ามาเกือบถึงบ้านเรานะ”
   ด๊อกเตอร์รพีและด๊อกเตอร์กมลอุทานอย่างตกใจรวม
ทั้งลูกๆของเขาด้วย
     บรรดาเข้าของบนโต๊ะอาหารต่างตกลงมาแตกกันหมด  
นิวัฒน์พลันตอบว่า
   “ไม่รู้ซิอาจารย์  ผมเองก็แปลกใจนัก  อยู่ดีๆไม่น่าจะเกิด 
ทางอุตุก็กล่าวว่าวันนี้อากาศปลอดโปร่งแจ่มใส ปราศจากคลื่นลม
 น้ำทะเลหนุนตามปกตินี่ครับ”
ชายหนุ่มนิวัฒน์หันไปตอบด้วยสีหน้าความตกใจเช่นเดียวกัน
   “เมื่อกี้นี้ก็อากาศแจ่มใสอยู่ดีๆทำไมถึงเกิดเหตุกระทันหัน??..”
   แล้วทุกๆคนก็รีบวิ่งไปที่ประตูบ้านพลางมองไปในทะเล
ก็พบคลื่นขนาดยักษ์กำลังม้วนตัวเข้าหาฝั่งอย่างรวดเร็ว
   “สินามิหรือค่ะคุณพ่อ”
   หญิงสาวอุทานลั่นด้วยความตกใจ พลางยกมือขึ้นลูบอก
   “ไม่รู้ซิ  แปลกที่ไม่มีวีแววว่าจะมี  อากาศก็แจ่มใสไม่มี
วี่แววว่าจะเกิดขึ้นท้องฟ้าก็ปราศจากเมฆดำครึ้มนี่นา  อีก
อย่างทางอุตุนิยมวิทยาเขาก็มีเครื่องวัดอุณหภูมิและเครื่องมือ
ความสั่นสะเทือนเกี่ยวกับเรื่องนี้  ก็ควรแจ้งให้ทราบแต่นี่
ไม่เห็นมีข่าวคราวอะไรเลย”
   ด๊อกเตอร์รพีเอ่ยตอบลูกสาว  ทุกๆคนรีบออกไปนอกบ้าน
มองไปในท้องทะเล  รวมทั้งสาวใช้เด็กๆภายในบ้านด้วยต่าง
เอามือทาบอกทุกๆคน   ยกเว้นชายหนุ่มที่นอนอยู่ในห้องเท่านั้น
เพียงคนเดียวที่ไม่ออกมาดูเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด
   ในไม่นานนักเหตุการณ์ก็สงบลงอย่างปกติ เป็นที่วิจารณ์ของ
หนุ่มแก่ที่กำลังค้นหาสิ่งบางอย่างจากลายแทงก็กลับเข้ามาในห้อง
อีกครั้ง  ต่างช่วยกันเก็บหนังสือและแผนที่ลายแทงไว้  ส่วนเข้าของ
คนใช้ก็รีบมาจัดการอย่างรวดเร้ว ทุกอย่างก็คืนสู่ความปกติอีกครั้งหนึ่ง
   “คงจะเป็นการแยกตัวของภายในรอยแยกของผิวโลกอย่าง
กระทันหันกระมังโดยไม่มีการส่งสัญญาณเตือนใดๆอีกนะ”
   “ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับด๊อกเตอร์เพียงแต่แปลกใจนิดหนึ่ง”
   “อะไรหรือ???...คุณกมลคุณแน่ใจเหมือนผมเช่นเดียวกันหรือ??”
   “อ้าวๆๆพวกเราต่างก็ได้รับผลเช่นเดียวกันนี่นา  จะไม่แปลกใจได้
อย่างไรกัน  เมืองเราเรื่องแผ่นดินไหวนั้นมีมาเรื่อยๆก็จริงแต่ตามเหตุ
การณ์นั้น  ทางฝ่ายควบคุมก็มักจะทราบและเตือนล่วงหน้าก่อนทุกๆครั้ง
ไปนี่นา  แต่นี่ซิผมถึงว่าแปลกด๊อกเตอร์รพี”
    “ใช่ครับ  นี่เกิดกลางวันดีนะหากเป็นกลางคืนจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้”
   บรรดาชายหนุ่มหญิงสาวอุทานเกือบพร้อมๆกัน
   “ผมเคยอ่านหนังสือมาเล่มหนึ่งเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้คล้ายๆกัน
เรื่องเกี่ยวกับมิติเชื่อมต่อกันผมไม่แน่ใจ  เพราะฝรั่งได้บันทึกไว้แต่ไม่
มากนัก  เกี่ยวกับการเชื่อมโยงต่อระหว่างปัจจุบันกับอดีตครับ แต่ผมไม่
ได้นำมาด้วยเท่านั้น  เห็นว่าคงไม่สำคัญเท่าใด อีกอย่างหนึ่งผมก็ไม่ค่อย
จะเชื่อถือเท่าใดนัก”
      ด๊อกเตอร์รพีซึ่งค่อนข้างมีอาวุโสสูงกว่าใครเอ่ยขึ้น
   “แล้วมันเกี่ยวกันอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ล่ะคุณรพี”
   “คือว่าหากเกิดพลังงานหมุนเวียนจนเกิดมิติผสมผสานกับปัจจุบัน
จะเกิดแรงสั่นสะเทือนแล้วประตูมิติจะเปิดขึ้นเอง 
 แต่เพียงชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น  เป็นการบันทึกของนักวิทยาศาสตร์”
   “การค้นคว้าของพวกฝรั่งนี้ก้าวล้ำไปกว่าของพวกเรา  ก็น่าสงสัย
เหมือนกันหรือว่าจะเป็นไปได้อย่างที่คุณอ่านมาก็ได้นะครับ”
   “นั่นซิผมก็อ่านมานานแล้วตอนยังหนุ่มๆ ก่อนจะได้บันทึกและ
ลายแทงมาครับด๊อกเตอร์”
   “อืมม!!!!???....หากเป็นเช่นนั้นจริงๆกระมังดังเหตุการณ์ที่
พึ่งเกิดเมื่อกี้นี้เอง  สงสัยประตูมิติจะเปิดแล้วปิดเสียกระมัง”
   “เหมือนนิยายในหนังเชียวล่ะ   หากคุณกล่าวเช่นนี้”
    พลางหัวร่อเบาๆ
   “แต่ว่าเมื่อกี้นี้จะสอดคล้องหรือเปล่านะผมตอนนี้ชักไม่แน่ใจ
เสียแล้วซิอาจารย์ทั้งสอง”
   “เพราะไอ้น้องชายผมก็เคยสัพยอกผมบ่อยๆว่า  ไปเที่ยวมาก
ให้ระวังคล้ายๆกับอาจารย์บอกนั่นแหละครับ  ผมได้แต่ว่ามันบ้า”
   “ซ้ำๆมันยังเคยพูดว่าหากมีเหตุการณ์นี้พี่อาจจะไม่ได้กลับมาอีก
นะอาจไปหลงในที่ใดที่หนึ่งก็ได้  เพราะระหว่างนี้โลกเราเปลี่ยน
แปลงมากเสียด้วย  หากพี่หายไปพ่อแม่จะทำอย่างไร ดูๆซิมันพูด
แบบนี้  ผมเองก็งงเหมือนกันและไม่เชื่อ แต่เมื่อกี้นี้ทำให้ผมชักสงสัย
เสียแล้ว ยิ่งฟังอาจารย์รพีกล่าวเช่นนี้อีก  ก็เลยนึกขึ้นได้ครับ”
    ชายหนุ่มนิวัฒน์เอ่ยแก่ทุกๆคนฟังด้วยใบหน้าฉงนใจนัก
     เสียงหนุ่มๆสาวๆต่างกล่าวกันเรื่องต่างๆนาๆ  ยิ่งได้รับฟังจาก
ชายหนุ่มเจ้าของบ้านด้วยแล้ว  ต่างหันมามองหน้ากันเหลิกหลั่ก
   “หากเป็นเช่นนี้จริงๆ  ตำราที่ผมสอนในมหาวิทยาลัยคงจะต้อง
เริ่มต้นใหม่เสียแล้วล่ะ??  แต่ช่างเถอะเมื่อเหตุการณ์ผ่านไปรู้เฉพาะ
พวกเราไม่กี่คนเท่านั้นนะ  มากล่าวถึงบันทึกแผนที่ประหลาด
ก่อนดีกว่า  คุณนิวัฒน์ว่าน้องชายคุณนะรอบรู้ตำราต่างๆมากจะ
สามารถช่วยแปลให้แก่พวกเราได้หรือ???....”
    “เรื่องนี้ผมก็ไม่รับปากครับ เห็นมันเป็นหนอนหนังสือในห้องมัน
เต็มไปด้วยหนังสือในที่ต่างๆทุกมุมโลก ผมไม่สนใจแต่เขาซิอ่านได้
อ่านดี  ไม่ยอมไปเที่ยวเตร่พักผ่อนบ้างเลยหมกมุ่นอยู่กับตำราเหล่านี้
คุณพ่อคุณแม่ผม ยามไปต่างประเทศก็เสาะหามาฝากมันเสมอๆครับ”
   “เมื่อไม่มีอะไรอีกแล้ว  คุณนิวัฒน์ช่วยไปเรียกเขามาเดี๋ยวก็รู้ล่ะว่า
เขาจะช่วยเหลือเราได้หรือไม่???”
   “ครับผมจะไปเรียกมันเดี๋ยวนี้แหละครับ คอยเดี๋ยวนะครับ”
   “ผมว่าแปลกนะเหตุการณ์เช่นนี้ทำไมเขาไม่ออกมาดูก็ไม่รู้ซิ
อย่างน้อยก็คงจะต้องออกมาบ้างนะ???...”
    “เขาเป็นคนแบบนี้แหละครับอาจารย์ นอกจากฟ้าผ่าหัวมันนั่น
แหละถึงจะทำให้มันเสด็จออกจากห้องหนังสือมันได้ครับ คอย
เดี๋ยวนะครับผมจะไปเรียกมัน”
   “หากเขาไม่ว่างไม่ต้องก็ได้นะคุณนิวัฒน์”
   ด๊อกเตอร์กมลเอ่ยขึ้น  พลางหันหน้าไปมองด๊อกเตอร์รพีและทุกๆ
คนอย่างแบบจะไม่เชื่อใจเท่าใดนัก   
   นิวัฒน์ก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าห้องชายหนุ่มน้องชาย  พลาง
ตะโกนเรียกทันที
   “เฮ้ยๆๆๆรุทธ์โว้ย  หลับหรือเปล่าออกมาหน่อยซิว๊ะ มีเรื่องจะ
ให้ช่วยหน่อย”
     หนุ่มพี่ชายไปเคาะประตูห้อง เพราะใส่ลั่นกลอนเอาไว้  ชายหนุ่ม
รู้เรื่องราวหมดด้วยสายตาเขา ด้วยอำนาจแห่งพลังงานโทรจิตและ
พลังงานที่เข้านำมาสะสมไว้ในทุกอนุภาคของร่างกายทำให้เขานั้น
สามารถที่ใช้พลังงานดังกล่าวได้ อีกทั้งสายตาเขาก็สามารถมองผ่าน
วัตถุต่างๆได้เหมือนปกติธรรมดา ครั้นได้ยินเสียงเรียกจากพี่ชายเขา
 พลางยกมือขยี้ผมให้ฟูแล้วแสร้งทำเป็นงัวเงียออกมาเปิดประตูห้อง 
 ด้วยท่าทีอิดโรยเพราะผ่านการนอนมานั่นเอง ร่างอันสง่างาม
ประดุจนักรบโบราณของเขาด้วยความสูงใหญ่กว่าคนธรรมดา
ก็ปรากฏที่หน้าประตูห้อง พลางเหลือบตามองแบบเฉยเมย
ไปยังบรรดาแขกของพี่ชายอย่างไม่สนใจใยดีเท่าใดนัก
   การปรากฏกายของชายหนุ่มครั้งนี้สร้างความตกตลึงแก่
บรรดานักค้นคว้าสมบัติโดยเฉพาะพี่ชายเขา ถึงกับอุทานออก
มาพลางขยี้นัยน์ตาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เขาเห็น  ด้วยรูปร่างอัน
สง่างามสูงใหญ่กว่าเขามากนัก ใบหน้าที่หล่อเหลาได้รูปทรง
เนื่องจากเขาไม่เคยสนใจน้องชายคนนี้เลย ถึงกับอุทานว่า
   “นี่เจ้ารุทธ์หรือ  ทำไมร่างกายแกถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้ได้เล่า”
ทุกๆคนต่างตกตลึงไม่คิดว่าคนหนอนหนังสือจะมีร่างกายที่สง่างาม
ได้เช่นนี้  โดยเฉพาะสาวพัชราถึงกับปากอ้าตาค้างไปทันทีอย่างคาด
การณ์ไม่ถึงว่า ที่เรียกว่าหนอนหนังสือมักจะร่างกายขมุกขมัวผ่ายผอม  แต่ที่
หล่อนเห็นกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง  พลางยกมือทั้งสองทาบอกทันที....
                * แก้วประเสริฐ. *

Cartoon_Animation_08.gif1139348gm3744qpip.gif76.gif				
comments powered by Disqus
  • กิ่งโศก

    26 กุมภาพันธ์ 2555 20:31 น. - comment id 127473

    มีตัวละครเพิ่มมาอีกคณะหนึ่งแล้ว
    กำลังสนุกครับครู
  • อนงค์นาง

    24 กุมภาพันธ์ 2555 23:58 น. - comment id 128543

    ตอนนี้เริ่มสนุกแล้วค่ะครู 
    
    36.gif36.gif36.gif29.gif
  • แก้วประเสริฐ

    25 กุมภาพันธ์ 2555 13:20 น. - comment id 128546

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ อนงค์นาง
    
             การเขียนครูมักจะอารัมบทก่อน แล้วค่อยๆ
    ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆจ้า รักศิษย์เรามากเสมอ
    
                     16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • แก้วประเสริฐ

    26 กุมภาพันธ์ 2555 20:53 น. - comment id 128550

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ กิ่งโศก
    
              ครูแค่วางเค้าโครงเรื่องไปอย่างสั้นๆจ้า
    สงสัยจะมีตัวลครมากกว่านี้อีกแหละ ติดตามเอา
    ก็แล้วกันนะ รักศิษย์เราเสมอ
    
                     16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif
  • ทางแสงดาว

    9 มีนาคม 2555 00:40 น. - comment id 128578

    สวัสดีครับคุณชายฯ
    มาสัญญา..อ่านแดนพิศวง..ครับ
  • แก้วประเสริฐ

    9 มีนาคม 2555 14:11 น. - comment id 128582

    36.gif16.gif36.gif
    คุณ ทางแสงดาว
    
              คุณหญิงครับผมก็เขียนไปเรื่อยๆฝึกสมอง
    ทั้งสองด้านแหละครับ ขอบคุณรักคุณหญิงเสมอจ้า
    
                       16.gifแก้วประเสริฐ.16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน