ความปวดร้าวแห่งเกลียวคลื่น ตอนที่ 4

Completely

" ฟังจากที่แกเล่า ฉันว่ามันมีอะไรแปลกๆอยู่นะ "
" อะไรเหรอ ที่ว่าแปลกน่ะ "
" ก็อย่างการกระทำหลายอย่างที่เขาทำกับแก เพื่อนกันเขาไม่ทำกันแบบนี้หรอกนะ "
" พุธเขาก็ใจดีอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว "
" แล้วที่เขา " ทำซึ้ง "  กับแกล่ะ "
" ฉันไม่รู้ "
" .... แกเองก็ไม่น่าไปดื้อกับเขาแบบนั้น "
" ฉันก็แค่อยากให้เขาเข้ามานอน ข้างนอกนั่นลมแรงจะตาย "
" แล้วตั้งแต่กลับมานี่เป็นยังไงกันบ้าง "
" ก็ไม่เป็นไง ... ไม่ได้เจอเขามาสองสามวันแล้ว "
" ฉันว่าแกกับเขาน่าจะห่างๆกันบ้งนะ เผื่อว่า การที่ไม่ได้เจอกันเลย อาจทำให้แกมีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ... เผื่ออะไรจะดีขึ้น แล้วแกอาจจะหายจากจากโรคพุธลิซึ่มซะที "
" ... "
" ดาว แกกับเขายังเป็นแค่เพื่อนบ้านกันนะ ไม่ต้องไปใส่ใจเขานักหรอก "
" แต่ฉันรักเขาไปแล้วนี่ แกก็รู้ "
" เออ ... ฉันรู้ แต่ก็น่าจะลองปล่อยๆไปบ้างก็ดีนะ " 
" แกจะให้ฉันปล่อยอะไรล่ะ "
" ปล่อยวางไงแก ... เปิดโอกาสให้ตัวเองได้มองคนอื่นบ้าง " 
" ฉันก็เคยคิดนะ แต่พอจะทำแล้วมันทำไม่ได้เลย ... ทุกครั้งที่ฉันลองมองคนอื่นๆดู แกรู้ไหม ... ฉันเห็นแต่หน้าพุธเต็มไปหมดเลย "
" แกเป็นเอามากแล้วล่ะ ... ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าจะช่วยแกยังไงดี เอาเป็นว่า แกต้องพยายามนึกถึงเขาให้น้อยที่สุดนะ หาอะไรทำให้ยุ่งๆดู ... แกไม่ได้จับพู่กันให้มันเป็นเรื่องเป็นราวมานานแค่ไหนแล้ว "
" ก็ไม่นานนะ ... ที่ไปทะเลกับพุธ ฉันก็เพิ่งวาดรูปทะเลที่นั่นไป "
" แล้วแกวาดเสร็จรึยัง "
" ยัง "
" ดี ... ไปวาดให้เสร็จ เสร็จเมื่อไหร่ เอารูปไปเข้าแกลลอรี่ได้แล้ว ... ยัยแก้วแว่นหนาคงบ่นถึงแกตายชักล่ะ แกเล่นไม่เอางานไปส่งเลย ... ยัยนี่ยิ่งงกๆอยู่ด้วย " 
" พิน แกก็พูดเกินไป "
" อ้าว ... ก็มันจริงนี่ ขาดรูปแกไป ร้านยัยแว่นนี่จะมีลูกค้าเข้าร้านสักเท่าไรเชียว ชั้นว่า ยัยแว่นแก้วคงขาดรายได้ไปโขล่ะ ... รู้ไหม รีบๆปั่นงานซะบ้าง เดี๋ยวก็กินแกลบหรอก "
" เออ ... รู้แล้วน่า แค่นี้แล้วกัน แกไปทำงานต่อเถอะ เอาเวลางานมาคุยโทรศัพท์ ถ้าเจ้านายแกมาเห็นเข้า เดี๋ยวก็ถูกตัดเงินเดือนหรอก "
" โอ๊ย ... ชั้นไม่กลัวหรอก ให้รู้ไปสิว่าจะกล้าตัดเงินเดือนเลขาสาวสวยแถมเก่งเจ๋งอย่างชั้น "
" พูดดีไป เดี๋ยวจะรู้สึก ... แค่เนี้ยแหละ ไปทำงานต่อได้แล้ว "
" อือ ก็ได้ ... แกอย่าคิดมากล่ะ "
" รู้แล้ว ... "
" คิดถึงแกนะ ดาว "
" เออ ชั้นก็คิดถึงแกเหมือนกัน "
" มีอะไรก็โทรมาหาชั้นได้นะ ถ้าจะกินเหล้าก็โทรมาชวนบ้าง อย่าบ้าไปคนเดียวล่ะ แกยิ่งเพี้ยนๆอยู่ "
" เออ รู้แล้ว แค่นี้แหละนะ "
ฉันวางสายเพื่อนไปก็เท่านั้น ...  ฉันอัดอั้นจะตายอยู่แล้ว ความรักที่ฉันมีต่อพุธมันช่างมากมายเหลือเกิน ... มากจนฉันคิดว่า มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก ที่ฉันจะหยุดรักเขาได้ ฉันคงติดอยู่ในบ่วงนี้ไปตลอดชีวิต
บ้าจริงๆ ... ทำไมฉันถึงบ้าขนาดนี้นะ รู้ทั้งรู้ว่า ถ้ารักแล้วต้องเจ็บปวด แต่ก็ยังโง่รักเขาอยู่อีก ... 
ในใจฉันมีแต่ภาพเขาเต็มไปหมด
พุธ ... ตอนนี้เขาทำอะไรอยู่นะ ฉันไม่ได้พบเขาเลยตั้งแต่เรากลับมาจากทะเล ... บางทีเขาอาจกำลังนั่งกินกาแฟหรือสูบบุหรี่อยู่นอกชาน ... เมื่อไหร่เขาจะเลิกสูบบุหรี่เสียทีนะ ฉันอยากจะคว้าไอ้แท่งสีขาวๆนั่นออกไปทิ้งทุกครั้งที่เห็นเขาพ่นควันสีขาวขุ่นนั่นออกมา ... ฉันไม่อยากให้เขาลาโลกนี้ไปก่อนวัยอันควร ฉันอยากจะเห็นหน้าเขาไปอย่างนี้ไปอีกนานแสนนาน ... ต่อให้เขาไม่ได้รักฉันเลยก็เถอะ
.......................................................................................................................
" พุธๆ ดาวซื้อไก่ย่างเจ้าโปรดพุธมาฝากแน่ะ " ฉันตะโกนเรียกเขา พลางกดกริ่งติดกันหลายครั้ง
ไม่มีเสียงฝีเท้าวิ่งมาเปิดประตูให้เหมือนเคย
เขาหายไปไหนนะ ฉันนึกสงสัย
" พุธๆ อยู่หรือเปล่า "
ฉันกดโทรศัพท์มือถือโทรหาเขา
... ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก ...
ฉันเดินกลับไปที่บ้านแล้วรีบอ้อมไปยังรั้วหลังบ้าน ที่นั่นมีประตูเชื่อมบ้านของฉันกับเขาอยู่ ... มันไม่เคยล็อก
ฉันเดินไปที่หน้าประตูบ้านเขา ... ที่นั่น ฉันพบบางอย่าง
กระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งแปะอยู่ที่บานประตู ฉันขยับเข้าไปใกล้ มันเขียนไว้ว่า ...
" พุธไปทะเล ปลายเดือนกลับ ไม่ได้เอามือถือไป ดาวไม่ต้องเป็นห่วง แล้วจะซื้อของมาฝาก ปล. อย่าดื่มช่วงที่พุธไม่อยู่นะ "
เขาไปทะเล ... ไปอีกทำไม เราเพิ่งกลับมาจากที่นั่น
บางที เขาอาจไปทะเลที่อื่นก็เป็นได้
เขาน่าจะแวะมาบอกฉันสักคำ ... เขารีบถึงเพียงนั้นเชียวหรือ
ฉันยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นเป็นนาน ท่ามกลางความเงียบอันโหดร้าย
.......................................................................................................................
ฉันเอื้อมมือไปเปิดตู้เย็น มีเครื่องดื่มประเภท น้ำผลไม้ผสมแอลกอฮอล์ล แช่อยู่ข้างใน 3-4 ขวด ฉันเอื้อมมือไปหยิบมัน
...  อย่าดื่มช่วงที่พุธไม่อยู่นะ ...
ฉันชะงัก ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดี เวลาผ่านไปชั่วอึดใจ ฉันปิดตู้เย็น มีขวดน้ำฝรั่งอยู่ในมือ ...
.......................................................................................................................
" แต่ความห่างไกล ไม่เคยห้ามใจ ที่ยังคิดถึง ส่งไปให้ถึงใจเธอ อยากบอกเธอ คิดถึงเธอ ... เหลือเกิน "
สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาอีกครั้ง
พุธ ... ป่านนี้ เขากำลังทำอะไรอยู่นะ นั่งอยู่ข้างนอกนั่นอีกหรือเปล่า ลมแรงออกอย่างนี้
ฉันเปิดม่าน มองฝ่าสายฝนออกไปเบื้องนอก
บ้านของเขามืดสนิท แทบจะกลืนไปกับความมืดมิดแห่งราตรีกาล
คุณรู้บ้างไหม ... ว่าฉันเป็นห่วงคุณเหลือเกิน
ฉันขยับหมอนให้เข้าที่ เอนกายลง จินตนาการถึงวันพรุ่งนี้
ฉันจะเปิดม่าน ... แล้วพบเขายืนล้างรถเหมือนเคย
.......................................................................................................................				
comments powered by Disqus
  • สิดามัน

    23 มีนาคม 2547 14:07 น. - comment id 72039

    รออ่านอยู่  นะค้าบ
  • สิดามัน

    23 มีนาคม 2547 14:07 น. - comment id 72040

    รออ่านอยู่  นะค้าบ
  • กัลปพฤกษ์

    23 มีนาคม 2547 22:54 น. - comment id 72058

    คงไม่ว่าถ้าจะต่อว่าเรื่องอืดซักหน่อย
    ก็ตามประสาคนใจร้อน
    เพราะอยากทราบว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้พุธปวดร้าว
    
  • Completely

    24 มีนาคม 2547 03:11 น. - comment id 72066

    คุณ กัลปพฤกษ์ ที่รัก
           ก่อนอื่นขอหัวเราะก่อนนะคะ 555 ... คุณรู้ได้ยังไงคะว่าพุธเป็นคนทีปวดร้าว ทำไมไม่คิดว่าเป็นดาว หรือพินบ้าง ... อีกประการหนึ่ง ขออภัยด้วยค่ะที่เรื่องอืดในความคิดของคุณ ... คือจริงๆแล้ว เรื่องๆนี้ไม่ควรที่จะเอามาลงในเวบนี้อยู่แล้ว เพราะเวบเขียนไว้ว่า ให้ลงสำหรับบทความและเรื่องสั้น ... แต่เรื่องที่ฉันเขียนมันคือนิยายค่ะ ... มีแผนที่จะรวมเล่มด้วยค่ะ ... เลยลองเอามาลงชิมลางดูในนี้ดูก่อนค่ะ
        ขอขอบคุณมากค่ะ ที่กรุณาติชมมา ณ ที่นี้ ... เราบอกตรงๆเลยว่า เวลาเขียนกลอน หรือเขียนเรื่องอะไรแบบนี้ แล้วมีแต่คำชม ... รู้สึกไม่สบายใจเลยค่ะ เพราะเรารู้ดีว่า ฝีมือเรายังไม่ดี แต่ทำไมถึงไม่เคยมีใครติเลย ... หรือว่าในไทยโพเอม การรักษาน้ำใจกัน ชมกันเป็นสิ่งสำคัญคะ ?

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน