เสียงกระซิบข้างหัวใจ (๓)

พี่ดอกแก้ว

วันเวลาได้ล่วงผ่านไปตามสามัญ 
ต่างคนต่างสามารถที่จะอยู่อย่างที่เขาอยากอยู่ 
ต่างก็มีสิ่งเกี่ยวข้องพึ่งพากัน ฉาบฉวยบ้าง 
และต่อเนื่องกันไปอย่างไม่มีจุดจบ 
ชีวิตแห่งความสับสนวุ่นวาย ทามกลางถนนหลากสาย 
ต่างล้วนปะทะระลอกกรรมกระหน่ำชีวิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า 
ด้วยความอดทนกัดฟันสู้ 
เพื่อความอยู่ได้ไปวันๆ 
ก่อนม่านดำแห่งค่ำคืนจะคลี่ห่มให้ตกจมลงสู่ภวังค์ 
 หลายชีวิตไม่มีทางล่วงรู้ได้เลยว่าเขายังมีลมหายใจมาถึงตรงนี้ได้..เพราะอะไร 
หลายชีวิตไม่มีทางล่วงรู้ได้เลยว่า... 
แพรทองผ่องพลิ้วสะพรั่งผืนด้วยดวงสุรีย์ฉายในวันใหม่ที่จะมีมานั้น...เขาจะมีโอกาสได้ยลกับแพรทองผืนนั้นไหม 
มากมายหลายชีวิตได้ถูกอำนาจกรรมตัดขาดจากการเห็นลงเสียแล้ว ช่างน่ากลัวยิ่งนัก กันสิ่งที่คาดหมายไม่ได้เลยเช่นนี้...ก็เพราะว่า ภาระหน้าที่รวมถึงพันธะที่แต่ละคนเพียรสร้างขึ้นมาและผูกมันไว้กับตนเอง 
เฉกเช่น..สายสร้อยคล้องคอบ้าง กำไรคอมือบ้าง แม้กระทั่งกระพวนข้อเท้า สิ่งเหล่านี้ล้วนมีอาถรรพณ์อันมากเล่ห์ด้วยเสน่ห์แห่งมายาชีวิตนั่นเอง... 

                                                   ยังมีมุมแสงแห่งตะวันอยู่อีกด้าน...
ที่ยังสาดส่องแสงเพื่อขับไล่ความมืดและความอับเฉาแห่งชีวิต 
ที่ยังทรงเปี่ยมด้วยพลังแห่งพุทธานุภาพที่พร้อมจะโต้ตอบและขับไล่ปัญหาต่างๆให้หมดไปได้ 

                                                       เพียงรักที่จักแจ้งอริยธรรม 
                                            เพียงน้อมนำสู่จิตให้ประจักษ์ด้วยศรัทธา 

                                            ก้าวสู่หนทางที่เต็มไปด้วยสาระประโยชน์ 
                                            ก้าวออกจากความคลั่งไคล้และเพ้อเคลิ้ม 
                                            มุ่งสู่จุดหมายปลายทางที่สงบแห่งสันติธรรม 
อาจจะยากเย็นเข็ญใจในการที่จะล่วงรู้....ตามคำสอนแห่งศรีสัพพัญญูเจ้า 

                                                               แต่ขอให้มั่นใจเถิดว่า.. 
 หนทางนี้เท่านั้นที่จะปลดเปลื้องเครื่องพันธนาการทั้งหลายให้หลุดออกได้ 
 หนทางนี้เท่านั้นที่จะยุติชีวิตที่ต้องดิ้นรนไปกับความทุกข์นานัปการให้พินาศลงสิ้น 
หนทางนี้เท่านั้นที่จะมอบบรมสุขให้เราได้ทุกๆคน 

                                                                      หนทางนี้ก็คือ... 
                                                           หนทางแห่งมรรคอันมีองค์แปด 
                                                 ที่เหล่าอริยเจ้าทั้งหลายท่านเดินนำทางไว้แล้ว 

                                                              เธอจะเดินผ่านไปในที่สุด 
                                                              แม้สะดุดหกล้มต้องก้มหน้า 
                                                              กี่หยาดเหงื่อรินรดหยดน้ำตา 
                                                              มิหยุดเธอหรอกถ้าศรัทธามี.. 

                                                                       จาก    พี่ดอกแก้ว				
comments powered by Disqus
  • ชัยชนะ

    9 พฤษภาคม 2547 17:22 น. - comment id 73998

    (ยังมีมุมแสงแห่งตะวันอยู่อีกด้าน)
    ก็อยากไปรับแสงตะวันตอนนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝนอย่างไรก็ไม่รู้(ออกนอกเรื่องเล็กน้อยครับ)
    
    หนทางมีทั้งด้านมืดและสว่าง
    แต่บางทีหนทางที่สลัว ก็ยังไม่มั่นใจว่าจะมืดหรือสว่างกันแน่
    จะพยายามย่างก้าวไปหนทางที่คิดว่าดีที่สุดในชีวิตครับ
    
  • ชะเอม

    9 พฤษภาคม 2547 21:33 น. - comment id 74000

    ครึ้มฟ้าครึ้มฝนอย่างนี้
    อยากเห็นแสงตะวันของโลกอีกด้าน
    อย่างน้อยก็จะได้สว่างและมีความสดชื่น
    เป็นถ้อยความที่มีความหมายดีจริงๆค่ะพี่ดอกแก้ว
  • พี่ดอกแก้ว

    9 พฤษภาคม 2547 21:47 น. - comment id 74001

    @...ชัยชนะ...
    
    ความสว่างเพียงเล็กน้อยที่กระทบกับม่านตา
    จะนำพาเราไปสู่ความสว่างที่มากขึ้น 
    จนในที่สุดก็จะเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน
    แม้กระทั่งตนเอง..
    ...และแสงที่นำความสว่างที่สุดแก่ชีวิตก็คือแสงแห่งพระธรรมค่ะ
    ทำให้เห็นตนเองและผู้อื่นไม่แตกต่างกัน
    
    ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะชัยชนะ
    
    
    
    
    
  • พี่ดอกแก้ว

    9 พฤษภาคม 2547 21:53 น. - comment id 74002

    @...ชะเอม...
    
    ครึ้มฟ้าครึ้มฝน ก็เพียงบางวันเท่านั้น
    แต่ชีวิตของเราทั้งหลาย แต่ละวันนั้นมืดครึ้มไปด้วยปัญหา
    อย่างไม่รู้สิ้น...
    ได้แต่อาศัยแสงสว่างจากพระธรรม
    มาน้อมนำใจให้ไม่มืดสลัวไปตามสิ่งที่เกิดขึ้น
    
    ขอบคุณนะคะที่แวะมาอ่าน
  • ยโส อรินครับ

    9 พฤษภาคม 2547 23:45 น. - comment id 74012

    "หนทางนี้ก็คือ... 
                                                               หนทางแห่งมรรคอันมีองค์แปด 
                                                     ที่เหล่าอริยเจ้าทั้งหลายท่านเดินนำทางไว้แล้ว\"
    ***ชอบมากครับ ... ทำให้คิดขึ้นมาได้ว่า ธรรมะจะห่างหายไปจากใจคนมากขึ้นทุกวัน ๆ***
    
  • วงปี

    10 พฤษภาคม 2547 11:33 น. - comment id 74028

    ขอบคุณมาก ๆค่ะพี่ดอกแก้ว^____^
  • พี่ดอกแก้ว

    10 พฤษภาคม 2547 16:00 น. - comment id 74038

    @...ยโส อริน...
    
    ค่ะ ...ธรรมะเป็นสิ่งที่ชาวพุทธส่วนใหญ่ลืมไปแล้วในวินาทีนี้
    
    ขอบคุณมากนะคะที่แวะมาอ่าน
    และให้ความรู้สึกที่ดีไว้ค่ะ
  • พี่ดอกแก้ว

    10 พฤษภาคม 2547 16:01 น. - comment id 74039

    @...วงปี...
    
    สวัสดีค่ะ..ยินดีที่ได้พบกันที่นี่และทุกแห่งหน..

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน