จังหวะก้าว ..

อัลมิตรา

..ผิดจากเมื่อก่อน เสียงหัวเราะเริงร่าในวัยเด็ก ถูกกลบด้วยเสียงดิจิตอลของเหล่าเครื่องกลต่างๆ ที่ผู้ปกครองพยายามสรรหามาสนองความต้องการ(ก็ไม่รู้ว่าของผู้ใดกันแน่) ม้าก้านกล้วยที่เคยเป็นคู่หูตัวเอกสมัยคุณพ่อยังเด็ก กลายเป็นของที่จินตนาการไม่ถึงสำหรับเด็กยุคนี้ และนี่ก็เพียงอีกหนึ่งเสี้ยวในชีวิตเท่านั้น การเจริญเติบโตของเด็กๆถูกปลูกฝังให้มีการแข่งขัน เดี๋ยวนี้เด็กอนุบาลถ้าไม่รู้ภาษาอังกฤษ ก็ดูเหมือนว่าจะทำความอับอายให้แก่ผู้ปกครองเสียแล้ว ทั้งที่เมื่อก่อน กว่าจะอ้าปากตะเบ็งเสียงแข่งกับครู เอ บี ซี ก็ปาไปเกือบสิบขวบ  ก็พยายามเหลือเกินที่จะดิ้นรนให้ลูกหลานได้เรียนโรงเรียนมีระดับกู้หนี้ยืมสินก็เอา ยิ่งโรงเรียนเกรดดี (ไม่ยักจะเรียกว่าเกรดเอ) เสียค่าแป๊ะเจี๊ยะมากมาย ก็ทนเอา นัยว่าเพื่อเป็นการปูทางสร้างสังคมให้อยู่ในกรอบผู้ดี  เขาว่ากันงั้น
     ..มันจะคุ้มกันหรือเปล่า คงต้องกลับไปย้อนถามตัวเองกันเสียหน่อย ความรู้สึกว่าต้องวิ่งตลอดเวลา(ไม่ได้วิ่งคนเดียว หนำซ้ำยังลากจูงผลักเข็น สารพัดกับเด็กๆเสียอีก)  เพื่อแข่งขัน ทำให้ต้องแลกกับการสูญเสียความสุขในชีวิตวัยเยาว์ไป และเมื่อนานวันขึ้น ภาระดังกล่าวก็หนักอึ้งไปทุกๆที ค่านิยมในสถานศึกษา แม้กระทั่ง สายการเรียน ก็ยังส่งผลให้ดูเหมือนกับว่า มันสำคัญนักจนกระทั่งวัดเกรดชีวิตของผู้ที่ศึกษา .. โอ้หนอ !! และจะยิ่งย่ำแย่ไปกว่านั้น หากว่า ไม่สามารถฟันฝ่ากระโดดข้ามกำแพงค่านิยมนี้ได้ คำว่าเอนท์ไม่ติด ดูเหมือนว่าคำนี้จะเป็นคำสยองเสียเหลือเกินสำหรับเด็กมัธยมปลาย บางคนเสียขวัญไปตั้งแต่เริ่มเข้าสู่มัธยมต้นด้วยซ้ำไป เอนทรานซ์หรือเอนท์สะท้าน ลุ้นพอๆกับจับใบดำใบแดงของบรรดาลูกผู้ชายตัวจริง 
     ..ข้าพเจ้าไม่มีโอกาสสัมผัสชีวิตที่เรียกว่าสมัยใหม่นัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนสมัยเก่า ข้าพเจ้ามีโอกาสร่ำเรียนในระดับอุดมศึกษา แต่ก็นับว่าโชคดี ที่ไม่ได้ไปมีความรู้สึกเครียด สยอง อะไรหนักหนา กับสิ่งที่เรียกว่าเอนทรานซ์ อาจจะเป็นเพราะว่า ต้องทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย การตัดสินใจเลยไม่ต้องวุ่นวายนัก และก็หลุดกรอบของสังคมไปเลย รู้สึกว่าโชคดีมิใช่น้อย ที่ไม่ต้องไปลุ้น วัดดวง วัดความสามารถแข่งกับใคร .. แข่งกับตัวเองนี่แหละ ตอนนั้นคิดเช่นนี้ .. แต่ก็จับตามองเสมอ ในสนามเอนทรานซ์ สถานที่ซึ่งมีผู้ชนะและผู้ปราชัย สถานที่มีรอยยิ้มและคราบน้ำตา 
..ผู้ที่เอนทรานซ์ไม่ติด ไม่ได้หมายความว่าชีวิตที่เหลืออยู่จะต้องดับมอดลงไป และผู้ที่เอนทรานซ์ติด เช่นเดียวกัน มิได้หมายความว่า ชีวิตที่เหลืออยู่หนทางจะราบรื่น .. ทั้งหมดอยู่ที่ การก้าวเดินต่อไปต่างหากว่าจะเลือกเส้นทางไหนเพื่อดำเนินต่อไปในชีวิตต่างหาก  ว่าจะไม่ยกตัวอย่างก็อดเสียไม่ได้ 
     ..อาตี๋หัวขี้เท่อ ลูกชายคนเล็กของเจ๊ที่ขายก๋วยเตี๋ยว เจ๊คนนี้ลูกดกเสียเหลือเกิน รายได้จากการขายก๋วยเตี๋ยวนี่ ดูถูกกันไม่ได้เชียวนา ลูกแต่ละคนเรียนระดับมหาวิทยาลัยทั้งนั้น จะเหลือก็แต่อาตี๋นี่แหละ ที่สงสัยจะเรียนไม่เก่ง เซ่อซ่าชอบกล ข้าพเจ้าเคยเห็นเจ๊เอาที่ลวกเส้นเคาะหัวด้วยซ้ำไป ฐานเสริฟก๋วยเตี๋ยวผิดโต๊ะ และทำอะไร ดูเหมือนว่าไม่ถูกใจเจ๊เสียหมด หน้าตาของอาตี๋ก็บู้บี้ชอบกลนะ  แบบว่า หน้าไม่รับแขก  ประมาณนั้น  สงสัยว่าด้วยความที่เรียนไม่เก่ง เจ๊เสียดายเงินค่าเทอม หรืออาตี๋สมัครใจเองที่จะไม่เรียนต่อ อาตี๋ก็เลยอยู่กับเจ๊  ศึกษาวิธีกลเม็ดต่างๆในการทำก๋วยเตี๋ยว ใครจะไปรู้ได้ว่า ตอนนี้อาตี๋นะ เปิดร้านขยายสาขาไปใหญ่โต หนำซ้ำยังขายที่ห้างสรรพสินค้าอีกต่างหาก กลายเป็นอาเสี่ยไปซะแล้ว ย้อนกลับมาดูบรรดาอาเฮีย ทั้งหลายที่เรียนมหาวิทยาลัย ตอนนี้ก็ยังเตร่ๆหางานทำกันอยู่เลย  แอบรู้มาอีกว่า อาตี๋นี่แหล่ะที่ส่งเสียบรรดาอาเฮียให้เรียนจนจบ และมีแผนส่งให้เรียนต่อปริญญาโทด้วย  ก็ไหนๆยังหางานทำไม่ได้ ก็เรียนไปอีกเพื่อที่จะไม่ตัน แน่ะ อาตี๋ใจป้ำซะอย่างนี้ เจ๊ก็ยิ้มแปร้สิ
     ..อาตี๋ หนอ อาตี๋  ทุกๆครั้งที่เดินผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวของเจ๊  อดไม่ได้ที่จะชื่นชมในความอุตสาหะของอาตี๋  เห็นทีจะต้องเรียกใหม่เป็นเสี่ยตี๋ ซะแล้ว
     ..วกกลับมายังประเด็นเรื่องสักหน่อย การก้าวเข้าสู่เส้นทางอุดมศึกษา อย่าคิดว่าทุกอย่างจะถูกจัดสรรอย่างเอื้ออาทร เหมือนนโยบายของรัฐบาล การแข่งขันยังคงไม่สิ้นสุดเพียงแค่นั้น คงจะคุ้นกับคำว่า หากเราหยุดก้าว ก็หมายถึงเราถอยหลัง  คิดอย่างไรก็เป็นจริงเสมอในสมการนั้น หลายต่อหลายคนดิ้นรนสุดชีวิตที่จะได้เรียน เรียกว่า รักดี แต่ก็แปลกที่มีอีกหลายคน ใฝ่ไม่สูง  อุตส่าห์มีโอกาสเรียน แต่ก็ประพฤติไม่เหมาะสม บ้างก็เป็นเอเย่นต์ค้ายา บ้างก็ขายตัว แบบนี้ น่าจะให้ อาตี๋จับไปหัดล้างจานซะให้เข็ด หรือไม่ก็ไหว้วานให้เจ๊เอาที่ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวเคาะกระโหลกเสียบ้างจะได้สำนึก 
 				
..๏ ทุกทุกก้าวในวิถีของชีวิต 
ความถูกผิดถูกวางบนทางแพร่ง 
เป็นทางเลือกที่ไม่มีใครชี้แจง 
ทุกอย่างแฝงปริศนาน่างุนงง 

เธอต้องคอยระวังคอยยั้งคิด 
ทางผิดมักลวงใจล่อให้หลง 
ทางเรียบง่ายปลายมักวกเข้ารกพง 
พาเธอลงหุบเหวสิ่งเลวทราม 

หนทางดีแม้สูงชันต้องฟันฝ่า 
เธอต้องกล้าต้องเก่งอย่าเกรงขาม 
เธอต้องมุมานะพยายาม 
เพื่อสร้างความฝันใฝ่ให้เป็นจริง 

ถึงแม้มีบางครั้งเธอพลั้งพลาด 
ต้องสามารถยิ้มรับกับทุกสิ่ง 
ต่อให้เธอไร้หลักไว้พักพิง 
ก็ต้องหยิ่งที่จะสู้อยู่ลำพัง 

ขอแค่มีหัวใจไว้ใฝ่ฝัน 
ตราบมีวันพรุ่งนี้ย่อมมีหวัง 
ทำสิ่งที่ควรทำเต็มกำลัง 
คิดทุกครั้งก่อนจะทำอะไร 

ขออย่ายอมเหนื่อยหน่ายหรือพ่ายแพ้ 
ยามอ่อนแอเก็บน้ำตาอย่าให้ไหล 
สู้ไปเถิดอย่าท้อสู้ต่อไป 
เหนื่อยแค่ไหนอย่าท้อขอให้เดิน 

ชั่วชีวิตอุปสรรคฤๅสิ้นสุด 
มหาสมุทรยังมีที่ตื้นเขิน 
ตั้งสติ รอเวลา กล้าเผชิญ 
แล้วจะเพลินหาฝันอย่างมั่นใจ 

..๏ ทุกทุกก้าวในวิถีของชีวิต 
แม้พลาดผิดหนึ่งก้าวเพียงก้าวใหม่ 
อนาคตยังยาวทางก้าวไป 
ความสำเร็จคือเส้นชัยคนไม่แพ้ ๚ะ๛          				
comments powered by Disqus
  • ลอยไปในสายลม

    10 สิงหาคม 2547 16:53 น. - comment id 75981

    เป็นข้อคิดที่ให้กำลังใจมากเลยค่ะ แวะมาทักทายนะคะ อิ อิ
  • อัลมิตรา

    12 สิงหาคม 2547 08:17 น. - comment id 76019

    สวัสดีค่ะ คุณลอยไปในสายลม ขอบคุณมากค่ะ ที่แวะมาเยี่ยมชม อัลมิตราเพิ่งจะหัดเขียนบทความค่ะ หากวกวนความไม่กระชับ ต้องขออภัยด้วยนะคะ
    
    ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
  • ฤกษ์ ชัยพฤกษ์

    12 สิงหาคม 2547 17:51 น. - comment id 76034

    ก็กำลังก้าวอยู่นะ แต่วังเวง เดินอยู่คนเดียวเหงาง่ะ บทความอย่างนี้ไม่ใช่ระดับหัดแต่งแล้ว ต้องส่งประกวดมากกว่า
    ถ้าเป็นกรรมการ ได้ถ้วยไปเลย อิอิ
  • somebody

    12 สิงหาคม 2547 21:49 น. - comment id 76036

    คุณฤกษ์ค่ะ .... จริงๆนะคะ เพิ่งหัดเขียนบทความเอง ด้วยความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ช่วงเวลาในขณะนี้ เขียนให้มากๆ เพราะนอกจากงานประจำที่มีอยู่แล้ว อัลมิตรายังมีอีกภาระกิจหนึ่งที่ได้รับมอบหมายมา .. ค่ะ
    
    :) 
    ขอน้ำเขียวใส่ถ้วยด้วยนะคะ .
    
    
    
  • pigstation

    12 สิงหาคม 2547 22:43 น. - comment id 76037

    ในบทความพูดถึงการแข่งขันอย่างเกินอัตราความเร็วที่คนจะทำได้ตามธรรมชาติ ถูกเร่งเกินขีด
     ส่วนนายตี๋ขี้เท่อมีเวลาลองผิดลองถูก ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวหลายครั้ง ปรุงน้ำซุปหลายหน ไม่ต้องพะวงคะแนน หรือ เกรด a b c จึงทำไป แก้ไป จนเจออัตราส่วนที่พอเหมาะ ทำจนชำนาญ
       คนอื่นนอกเหนือจากเร่งรีบเรียน ทำงานเข้ากะ ได้อาศัยก๋วยเตี๋ยวนายตี๋นี่แหละ
      จากนั้นเงินส่วนหนึ่งก็มากองอยู่กับตาตี๋ ส่วนคนอื่นนอกจากรีบกิน รีบโซ้ย ยังมีความเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพทรุดโทรมด้วย เพราะร่างกายถูกกระตุ้นไม่มีโอกาสฟื้นฟูสภาพตัวเองบ่อยนัก
    
       เมื่อตาตี๋มีเงินจึงดูเป็นความสำเร็จตามธรรมเนียม ตามสูตร ถ้าตาตี๋พอใจแค่ร้านเดิมๆ
    คงไม่น่ามีอะไรกล่าวถึง ที่กล่าวถึงเพรานายตี๋ใช้วิธีการศึกตามอัธยาศัย เรียนรู้นอกระบบ เป็นการศึกษาอีกวิธี ที่สถาบันเรียกว่าฝึกงานนั่นเอง
    
      มหาลัยตั้งหน้าผลิตผลลัพธ์ออกมา เพื่อเพิ่มบัณฑิต ก็มีบ้างที่คุณภาพต่ำกว่าเกณฑ์ แต่ที่เหนือมาตรฐานก็พยุงให้สังคมดีมีสุขพอประมาณ
    
      ม้าก้านกล้วยเป็นของเล่น เกมส์ออนไลน์ก็เป็นทักษะใหม่ในโลกของเด็กยุคนี้ และเรากลางเก่ากลางใหม่ก็เป็นตัวเชื่อมโยง
      หากไม่มีดิจิทัล  เราคงไม่มีเวทีอย้่างนี้
      
      เด็กใจแตกมีอยู่เสมอ เป็นเพราะพวกเขาไม่ใช่คนจำพวกอยู่ในห้องแคบๆ ห้องเรียนเขาคือชีวิตจริง แต่มันไม่มีเวทีให้เขาเหล่านั้นที่เหมาะสม
      สถานประกอบการยั่วเย้าหุ้นส่วนใหญ่ก็นักการเมืองท้องถิ่นแหละ
       เป็นธรรมดา  ดีที่ยังมีกลุ่มก้อนที่ตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นความไม่เข้าถึงในการศึกษาในหลายๆระบบ ค่านิยมบางประการ
     แต่เห็นไหม ยังไม่ระคายผิวเราเลย
        ดังนั้น เมื่อเราสร้างโอกาสให้เราร่มเย็นและอบอุ่นได้ จงอย่ารีรอที่ยื่นโอกาสให้ใครบางคนที่ยังเก้ๆกังๆ อย่ามองแค่ความเกเร หรือความเจิดแจ๋น เพราะเขายังขาดไกด์ชีวิต
       
        ทานน้ำเขียวมากๆ จะทำให้เม็ดเลือดแดงน้อยใจ
       PIGSTATION  \"\"\"น้ำเปล่าดีสุด ดีกว่าน้ำต้มใบไม้อ่อนที่ชื่อชาเขียวเสียอีก เฮ้อ โดนสะกดจิตทั้งประเทศ สงสัยเรากำลังอยู่ในระบอบการปกครองใหม่-- นั่นคือ ประชาเขียวธิปไตย
  • อัลมิตรา

    12 สิงหาคม 2547 23:34 น. - comment id 76039

    สวัสดีค่ะ คุณpigstation ..
    
    มีคำหนึ่งที่ยังคงเป็นจริงเสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปการณ์ใด \" เลี้ยงได้แต่ตัว แต่เลี้ยงใจไม่ได้\" ... เด็กๆก็เช่นกันค่ะ สิ่งที่พวกเขาต้องการนอกเหนือไปจากปัจจัยสี่ ที่พวกเราร่ำเรียนกันมา ยังมีอีกแยะที่เดียวที่ ไม่ได้ถูกกล่าวถึง ..
    
    การที่ใครสักคนจะปลูกต้นไม้ คงไม่ใช่เพียงแต่การลงเมล็ดพันธุ์ลงดิน ให้ปุ๋ยให้น้ำให้แสง ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จะเห็นได้ว่า การทำนุบำรุงด้วยวิธีต่างๆ บ้างก็ไปยืนคุยกับต้นไม้ บ้างก็เปิดเพลงให้ฟัง ทั้งหมดนี้มีการพิสูจน์กันทางวิทยาศาสตร์มาแล้วว่า มีผลต่อการเจริญเติบใตของต้นไม้
    
    แต่ก็แปลกตรงที่ว่า มนุษย์เรา มักจะสนใจสิ่งรอบข้างมากกว่าตัวเอง .. และถ้าหากมีเหตุการณ์ใดที่ก่อวิกฤตขึ้นมา ก็มักจะมองไปรอบๆ แล้วก็พาดพิงถึงก่อนเป็นอันดับแรก แปลกตรงที่ว่า ฤๅความสำคัญที่ควรถือเป็นอันหนึ่งนั้น มิใช่ตัวตนของมนุษย์เอง ..
    
    สิ่งที่อยากจะฝันถึง (ขอแค่ฝัน..) ใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ เด็กนักเรียนนั้งบ้าน นอนเอกเขนกบ้าง ต่างก็ตั้งใจฟังครูสอน ฟังครูเล่าเรื่องธรรมชาติ \"..วันนี้อยากเรียนอะไร จ๊ะ... เอ๊า ! อยากรู้เรื่องถั่วงอกจ๊ะนักเรียน ใครรู้บ้างว่าถั่วงอกเป็นญาติอะไรกับถั่ว ..\"  ทำนองนี้ แค่ฝันก็ยังมีความสุขแล้ว  
    
    ประเภทที่ปาลูกดิ่งแล้ว แข่งกันว่า ใครบังคับให้อยู่ท่าฟรีได้นานกว่ากันชนะ อัลมิตราคิดว่า ปาลูกข่าง สนุกกว่ากันแยะ ( ความจริงเล่นลูกข่างไม่เป็นค่ะ พี่เห็นพี่ชายในตอนนั้น พวกเขาคงสนุกมากๆเลย) 
    
    วันก่อนยังเจออาตี๋ อีกนะ ที่ร้านเจ๊ นั่นแหล่ะค่ะ มองหน้าเขาแล้วก็ยิ้มๆ อาตี๋ไม่รู้ตัวหรอกว่าตอนนี้กลายเป็นพระเอกในบทความเรื่องนี้เสียแล้ว .. หน้าไม่รับแขกเหมือนเดิม ... ๕๕๕ นี่ถ้าก๋วยเตี๋ยวไม่อร่อยจริง ไม่สนนะนั่น ..
    
    มิตรภาพตราบสิ้นฟ้า ..
    
    ปล .. น้ำเขียวที่เป็นน้ำหวานค่ะ ชื่นใจดีนะคะ ปกติไม่ค่อยทานน้ำอัดลม (แบบว่า จน ค่ะ..) น้ำเปล่าเป็นน้ำดื่มที่ดีที่สุดจริงอย่างคุณว่าค่ะ อีกอย่าง เจ้าหนอนเขียว คนอื่นมองว่าน่ารัก แต่อัลมิตรา มองอย่างไรก็ไม่น่ารักนะคะ เจอตามต้นไม้ทีไร กระโดดโหย๋งทุกที .. นึกหน้าแล้วพาลจะทานชาเขียวไม่ลงค่ะ 
    
    

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน