SonyaBeauty
คงเพราะตอนนั้นซอนย่าเริ่มโตแล้ว พอรับยากลับบ้านออกจากโรงพยาบาลวันนั้น
ด้วยอาการทอลซิลอักเสบ พร้อม Antibiotic ถุงใหญ่ พร้อมยาลดไข้ และลดบวม และยาแก้แพ้
ซอนย่าถามพ่อว่า ทำไมหมอต้องดุน้องคนนั้นด้วย...... พ่อบอกว่า น้องเค้าดิ้นจน
มือไปฟาดหน้าหมอ หมอเค้าคงโกรธมั้งลูก....... ซอนย่าเลยถามต่อว่า ก็น้องเค้า
ยังเด็ก เค้ากลัว ทำไมหมอไม่ใจเย็น ๆ แล้วค่อย ๆ ปลอบน้องเค้า ทำไมต้องตวาด
เสียงดังใส่แม่ใส่พยาบาล ใส่เด็กขนาดนั้น ?? พ่อเงียบ.....ไม่ตอบ...............
แล้วซอนย่าก็พูดกับพ่อว่า พ่อคะ ...หนูจะเรียนหมอ... และหนูจะไม่ทำตัวเหมือน
หมอคนนั้น..... พ่อยิ้ม...... แล้วก็พูดว่า อย่าขี้คุยไปหน่อยเลยเรา เรียนทุก
วันนั้นยังไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพาย... รู้มั้ยว่าจะเป็นหมอได้ ต้องเรียนเก่ง ๆ
ซอนย่าเงียบค่ะ ไม่พูดอะไรอีกเลย แต่มีมานะอยู่ในใจว่า ฉันต้องเรียนหมอให้ได้
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็เกินสิบปีแล้วค่ะ...... :)
ซอนย่ายังจำได้อยู่เสมอ ถึงเหตุผลที่ตัวเองเลือกมาเดินทางด้วยสายวิชาชีพนี้
ทุกวันนี้ก็ไม่เคยนึกเลยว่าตัวเองใหญ่โต.... ทุกครั้งที่ตรวจคนไข้ ถ้าเป็นคุณลุงคุณป้า
ซอนย่า ยกมือไหว้ก่อนเสมอ.... ไม่เคยรอให้เค้ายกมือไหว้เลย.......
แต่พอมาทำงานตรงนี้เข้าจริง ๆ เลยรู้ค่ะ ว่ามันหนักหนาสาหัสแค่ไหน ต้องมีความรับผิด
ชอบสูงแค่ไหน ต้องทุ่มเทเวลากับมันแค่ไหน ทั้งไอ้ตอนเรียนก็แสนหนัก
ปัจจุบันมาทำงานในโรงพยาบาลรัฐบาลอย่างที่ฝันไว้แหละค่ะ กินอุดมการณ์
ไม่ยอมไปรวยเหมือนเพื่อน ๆ ตามเอกชน เพราะคิดไว้เสมอว่าอยากช่วยคน
ที่เค้าไม่มีเงิน คนจน... เหมือนที่เราเคยจน แล้วไปใช้บริการโรงพยาบาล
รัฐบาลแล้วเจอหมอใจร้ายแบบนั้น..... แต่วันนี้เราจะทำให้คนที่มารักษากับ
เรา ได้รับความรู้สึกดี ๆ ที่เรามอบให้กลับไป ให้เค้าได้รับความประทับใจมาก
ที่สุดเท่าที่จะมากได้ เมื่อมาต้องทนนั่งรอเป็นชั่วโมง ๆ เพื่อพบเรา พร้อมกับ
ความเจ็บป่วยที่แบกมาและกำลังต้องทนทุกข์ทรมานอยู่......