ธรรมดำเนิน เรื่องหม้อน้ำแตก..

กุ้งหนามแดง

การระลึกถึงความตายอยู่เสมอๆ ที่เรียกว่า เจริญมรณานุสติ เป็นประจำนั้น ย่อมมีคุณประโยชน์หรืออานิสงค์มหาศาล ยากที่จะหาอะไรมาเปรียบเทียบได้
ผู้ที่เจริญมรณานุสติเป็นนิตย์ ย่อมเป็นผู้ไม่ประมาทมัวเมาในชีวิต ในความเป็นหนุ่มสาว และในความไม่มีโรค
ในอดีตกาลนานมาแล้ว มีชาวนาอยู่ครอบครัวหนึ่ง ประกอบด้วย พ่อ, แม่, ลูกชาย, ลูกสะใภ้, ลูกสาว และคนใช้ ทุกคนในบ้านนี้ต่างเจริญมรณานุสติอย่างเคร่งครัดเป็นประจำเสมอมามิได้ขาด
วันหนึ่ง สองพ่อลูกได้ไปไถนาแต่เช้าตามปรกติ พอตกสาย ลูกชายก็ถูกงูพิษกัดถึงแก่ความตายในทันที พ่อจึงอุ้มร่างของลูกชายไปนอนไว้บนคันนา เอาผ้าคลุมไว้ แล้วแกก็ไถนาไปตามปรกติเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นแหละ
เมื่อมีเพื่อนบ้านผ่านมาและจะเข้าไปในหมู่บ้าน เขาจึงสั่งไปว่า นี่พ่อคุณ! ช่วยกรุณาบอกแม่บ้านของผมด้วยว่า กลางวันนี้ขอให้จัดอาหารมาส่งผมเพียงที่เดียว และบอกให้คนในบ้านมากันให้หมดทุกคน พอสั่งเสร็จ เขาก็ไถนาต่อไป
ฝ่ายแม่บ้านและทุกคนในครอบครัว เมื่อได้รับคำบอกเล่าเช่นนั้น ก็รู้ได้ทันทีว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับลูกชาย ทุกคนจึงเตรียมนุ่งขาวห่มขาว แล้วเดินทางมายังนาพร้อมกัน โดยไม่มีใครร้องไห้เศร้าโศกเลย เมื่อมาถึงก็ช่วยกันหาฟืนมากองไว้ และยกศพขึ้นทำการเผาอย่างง่ายๆ โดยไม่มีพิธีรีตรองแต่อย่างใด
ขณะที่ไฟกำลังไหม้ศพอยู่นั้น มีชาวบ้านมามุงดูกันมาก และต่างก็แปลกใจไปตามๆ กันว่า ชายคนที่ตายเป็นอะไรกับพวกที่กำลังช่วยทำการเผาอยู่ เพราะถ้าเป็นญาติก็จะต้องมีการร้องไห้เสียใจกันบ้าง แต่นี่ไม่มีเลย! บางคนอดใจไว้ไม่ได้จึงถามขึ้นว่า ขอโทษเถอะ! ชายผู้ตายเป็นอะไรกับท่านทั้ง ๕ หรือ ?
เป็นลูกชายคนเดียวของผมครับ ชายผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวตอบ ต่อมาแม่ของผู้ตายก็ตอบ ต่อมาก็เมีย, น้องสาว และคนใช้ได้ตอบกันตามลำดับ
ก็เมื่อเป็นญาติของท่านแล้ว เหตุไฉนพวกท่านจึงไม่ร้องไห้อาลัย เศร้าโศกถึงเขาผู้จากไปเหมือนชาวบ้านทั่ว ๆ ไปเล่า ?
ท่านทั้งหลาย! ผู้เป็นพ่อกล่าวขึ้นด้วยเสียงปรกติ อันว่าลูกชายของผมเขาจากไปและทิ้งร่างไว้เหมือนงูทิ้งคราบ การร้องไห้  คร่ำครวญถึงคราบงูไม่มีประโยชน์ฉันใด การเศร้าโศกถึงคนที่ตายไปแล้ว ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใดฉันนั้น
ท่านทั้งหลาย! ผู้เป็นแม่คนตายกล่าวขึ้น ลูกชายของดิฉันนี้เมื่อเขามาเกิดในท้องของดิฉัน เขาก็มาเอง ไม่มีใครเชื้อเชิญ เมื่อเขาจากไปก็มิได้บอกลา ดิฉันจึงไม่อาลัยถึงเขา
ท่านทั้งหลาย! น้องสาวผู้ตายกล่าว ถ้าดิฉันจะร้องไห้จนผ่ายผอม หรือร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด พี่ชายของดิฉันก็คงไม่ฟื้นกลับคืนมาแน่
ท่านทั้งหลาย! ภรรยาของผู้ตายกล่าว ขึ้นชื่อว่าสามีที่ดีใคร ๆ ก็ย่อมรักและหวงแหนเป็นธรรมดา แต่เด็กแม้จะร้องไห้เอาพระจันทร์บนฟ้าย่อมไม่ได้ ฉันใด การที่ดิฉันจะร้องไห้ เพื่อให้ผัวกลับฟื้นคืนมา ก็ย่อมจะไม่ได้ฉันนั้น เหมือนกัน
ท่านผู้เจริญทั้งหลาย! คนใช้กล่าวบ้าง หม้อ(ดิน) ใส่น้ำที่แตกแล้วย่อมเชื่อมให้สนิทดังเดิมไม่ได้ ฉันใด การที่ดิฉันจะเศร้าโศก, ปริเวทนาการ, ร่ำไห้ถึงนายที่ตายจากไปแล้ว เพื่อให้ฟื้นกลับคืนมาดังเดิม ก็ย่อมมิได้ฉันนั้น ด้วยเหตุนี้ดิฉันจึงไม่เศร้าโศกเสียใจ
..				
comments powered by Disqus
  • รัตน์เด็กเมืองแม่

    11 พฤศจิกายน 2547 11:05 น. - comment id 78953

    คนที่ปลงในความตายนั้นหาได้ยากนัก
    มนุษย์เราม่จิตใจผูกพันธ์อยู่กับ รัก โลภ โกรธ หลง ตัดมันไม่ขาด หากผู้ใดละสิ่งเหล่านี้ได้
    คนนั้นจะประสบความสงบสุขในชีวิตที่แท้จริง
    
  • ทิกิ_tiki 4895

    12 พฤศจิกายน 2547 12:09 น. - comment id 78983

    พยายามเขียนได้ดีแล้วคุณกุ้ง มาเป็นกำลังใจค่ะ
  • กุ้งหนามแดง

    12 พฤศจิกายน 2547 16:41 น. - comment id 78987

    ค่ะ คุณ รัตน์ฯ การเจริญมรณานุสติ นี้ยากยิ่งจริงๆ ค่ะ สำหรับกุ้งฯ
    
    คุณ tiki  ขอบคุณค่ะ (เรื่องนี้คัดลอกมาน่ะค่ะ ไม่ได้เขียนเอง แต่เห็นว่ามีประโยชน์เลยคัดมาให้อ่านกันค่ะ)
    
    ขอบคุณที่แวะมาให้กำลังใจค่ะ..
    
    ...

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน