แม่ของผมมี2คนครับ

โกเต็ก

พอก้าวลงจากรถโรงพยาบาล ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนก๊อปเอามาจากหนังจากละครไม่มีผิด 
รีบยกคนไข้ขึ้นเตียงพร้อมๆกับอุปกรณ์ช่วยชีวิต กันญาติไม่ให้เข้าห้องผ่าตัด  ทุกช่วงทุกวินาทีตอนนี้วุ่นสุดๆ 
ไม่มีวินาทีไหนแน่ๆที่ไม่สำคัญ นอกจากเหตุการ์ณที่ผมกำลังเล่านี้ มันเป็นเพียงหนังเป็นเพียงละครเท่านั้น
               ก่อนหน้านี้สัก 3 ชั่วโมง ผมและเพื่อนๆน้องๆกลุ่มใหญ่ ยังกระโดดเล่นนำอย่างสนุกสนาน
 ทั้งๆที่เวลานั้นมันน่าจะเลยเวลาเล่นน้ามของมนุษย์มนาไปแล้ว 2 ทุ่มกว่าๆเห็นจะได้ 
              หนึ่งอ้าย น้าพัดรถจนตี่สะพานบ้านร้อง แม่อ้ายวานบ้าอิ้วไปส่งไปผ่อน้าพัดตี่โรงบาลปุ้น 
            แล้วเป็นจะไดพ่อง
            แม่หลวงก้บ่ฮู้แหละ นี่แม่อ้ายฝากบ้าก้องไว้นี่ แม่อ้ายบอกว่าถ้าหนึ่งมาฮื้อไปโตยหาตี่โรงบาล
       พอเล่นนำเบื่อผมก็กลับบ้านพร้อมๆกับเจ้ารถมอเตอร์ไซคันเก่าของผม จำได้ว่าทั้งเนื้อทั้งตัวเปียกจนตัวสั่นเลยหละ
แต่ไอ้บทสนทนาของ ยายและผมข้างบนก่อนหน้านี้ ถึงแม้ไม่เปียก ถึงแม้ไม่เย็นเท่ากับเสื้อผ้าชุดนี้ของผม 
แต่คำพูดสั้นๆเหล่าของยาย ก็เพียงพอเลยหละที่จะเล่นเอา หลานชายคนนี้สั่นไปทั้งเนื้อทั้งตัว
 สัก 5 นาทีได้มั้งจากบ้านถึงโรงพยาบาล แล้วก้พบกับ แม่ของผม ดูเธอสั่น ตาลอยพูดอะไรไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย
         หมอว่าจะเอาน้าพัดส่งโรงบาลเวียง ตอนนี้น้าพัด ยังบ่ฮู้ซึกตั๋วเตื่อ ยามแม่จะปิกบ้านก่อนหนา ไปเอาครัวก่อน
จะได้โตยน้าพัดไปเวียงกับรถโรงบาลหนี้
          เป็นหยังและแม่ยามจะไดหนึ่งไปโรงบาลเวียงโตยรถโรงบาลหนี้ก่ได้แม่ก่อยโตยไปทีหลัง
          เออจะเอาจะอั้นก่ได้ ........
         หลังจากยื่นกุญแจรถให้แม่ผมก็รีบตรงไปที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลทันที ผมกวาดสายตาไปทั่วห้อง และคงจะด้วย
อาการสั่นและตื่นของผมด้วยแหละจึงทำให้ ผมยังมองไม่เห็น น้าสาวของผม ที่เห็นก็ผัวขี้เมาของเธอที่นอนทำแผลอยู่
ที่เตียงด้านติดประตูทางเข้าเท่านั้น และก็......หญิงแก่ๆที่ถูกล้อมไปด้วย ทั้งหมอ ทั้งพยาบาล แวปแรกที่เห็นคือเท้า
ของหญิงแก่ๆ ดูเหี่ยวๆและซีด มีคราบเลือดเปรอะอยู่พอสมควร และก็ด้วยคราบเลือดนี่แหละที่ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า
หญิงแก่คนนั้น ไม่แน่อาจจะเป็นน้าของผม ที่พึ่งถูกรถชนมาหยกๆ
         ศรีษะที่ถูกพันด้วยผ้าขาวจนเกือบจะกลายเป็นสีแดงอยู่แล้ว ปากที่เปรอะไปด้วยเลือด 
พร้อมๆกับสายอะไรสักอย่างที่ถูกสอดเข้าทางช่องปากเพื่อดูดเอาเลือดหรือเสมหะออกมา 
และใบหน้าที่มีทั้งบาดแผลและเลือด นี่แหละคือสภาพใบหน้าของเธอ ที่ผมสัมผัสได้และจำติดตามาจนถึงทุกวันนี้
         ด้วยสภาพของร่างกายและเสื้อผ้าชนิดหมาน้อยตกนำ ได้เดินทางมากับรถโรงบาลจาก อำเภอปัว สู่
อำเภอเมือง อำเภอที่น่าจะพร้อมกว่า หากนี่คือหลทางรอดของน้าผมแม้ก่อนการณืผ่าตัด หมอคนนั้นจะบอกว่าโอกาส
รอดมีไม่ถึง 10เปอร์เซน เรารอช้าไม่ได้ สมองซีกซ้ายของคนไข้ถูกกระทบกระเทือนแรงมาก เราต้องรีบผ่าตัด
นี่แหละคือ คำพูดของหมอที่ผมพอจะสรุปและจำได้ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ 
         หลังจากผมจรดปากกาเซ็นยินยอมมอบชีวิตน้าของผมให้หมอแล้ว จำได้เลยหละว่า ตอนนั้นผมไม่แน่ใจจริงๆ
ว่าผมทำถูกหรือผิด ผมคิดผิดหรือปล่าวที่เซ็นตกลง แทนที่จะรอให้แม่ของผมมาก่อนเผื่อเธอจะคิดหาทางส่งน้าของ
ผมไปโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้ โรงพยาบาลที่มันจะบอกผมได้ว่าโอกาสรอดมีมากกว่า10เปอร์เซน
           ผมกลัวจริงๆมันไม่เหลือความแน่ใจ มั่นใจ หรืออะไรใดๆทั้งนั้น
         พอแม่และเพื่อนบ้านพวกที่อยากมาดูอาการของน้าผมมาถึง จากอาการที่รีบเร่ง รีบร้อน ก่อนที่จะฟังผมอธิบาย
เรื่องทุกอย่าง แต่หลังจากนั้น ทุกคนต่างได้แต่นั่งทำใจไว้ร่วงหน้า คอตก พูดไม่ออก และ ร้องไห้ 
        หลังจากนั้นสัก 2 ชั่วโมง ก็เหลือแต่ผมกับแม่เท่านั้นที่รอดูอาการของน้าผม 
เพราะหลังจากการผ่าตัดจบสิ้นทุกๆคนที่มาเยี่ยมก็กลับไป เหลือไว้แต่ คำพูดปลอบใจเล้กๆน้อยๆที่ฝากไว้ให้ผมกับแม่
        เวลาสักตีสี่เห็นจะได้ ผม สะดุ้งตื่นขึ้นมา 
เงียบ เท่านั้นแหละที่สำผัสได้ แม่ไปไหนก้ไม่รู้ หารอบๆก้ไม่เจอ เดินหาสักพัก ก้พบเธอกำลังคุยโทรศัพท์ ผมรีบ
เดินเข้าไปหาเธอ เธอไม่รู้ด้วยซำว่าผมกำลังเดินเข้าไปหาเธอ ทั้งๆที่ขณะนั้นโรงพยาบาลเงียบมาก เหตุผลหนะเหรอ
เธอ ร้องไห้  และที่สำคัญที่สุดผมไม่เคยเห็นเธอร้องมากไห้แบบนี้เลย ผมพึ่งรู้ว่าคนที่รักน้าผมคนนี้มากที่สุดก็คือพี่สาว
ของเธอคนนี้นี่เอง
         ไม่มีใครเชื่อแน่ๆหากจะไปบอกว่า พี่สาวคนนี้ รักน้องสาวคนนี้มากที่สุดมากกว่าใครๆจะรักแต่ถ้าไปบอกว่า
น้องสาวคนนี้ของเธอรักหลานชายคนนี้มากที่สุดเชื่อแน่ว่าใครๆก็จะตอบว่า ใช่  แต่เหมือนสิ่งที่ทุกคนแสดงออกมันตรงข้าม
แม่ไม่เคยแสดงออกมาว่ารักน้องสาวคนนี้มากถึงขนาดนี้ ผมไม่เคยมีท่าทีว่ารักเธอกลับเลยแม้แต่น้อยทั้งๆที่ใครก็รู้
ว่าผมนี่แหละคือคนที่น้าสาวคนนี้รักมากที่สุด 
และที่สำคัญ คุณรู้ไหมว่านี่มันคือรักจากผู้หญิงคนนึงที่ใครๆต่างบอกว่า  เธอไม่เต็ม
       ตั้งแต่เด้กมาแล้ว ที่ผมรู้จักกับเธอ น้าสาวผมนี่แหละ จำไม่ได้ด้วยซำว่ารู้จักกับเธอตอนไหน ญาติๆมักจะบอกว่า
เธอหนะชอบหอมแก้มผม กอดผม เล่นกับผม และทำทุกๆอย่างเพื่อจะให้ผมยิ้มเพื่อให้เธอได้ยิ้มเวลาที่ผมยิ้มเพราะเธอ
  พอเริ่มจำความได้ ใช่ เธอมักจะตามใจผมแทบทุกอย่าง ชอบมาคุยด้วย มาเล่นด้วย หาอะไรอร่อยๆมาให้ทาน จน.....
จนผมลำคาญเธอมาก พูดไม่ดีกับเธอ ไม่เคยเรียกเธอว่าน้า ผัด นี่แหละที่ผมใช้เรียกเธอ       
เหมือนเธอรู้ แต่ไม่เคยแสดงอาการน้อยใจออกมาเลยที่ผมไม่ค่อยชอบขี้หน้าเธอ เธอคงอยากมีลูกไว้ให้เธอรักและพร้อม
ที่จะรักเธอกลับมั้ง เธอจึงตัดสินใจแต่งกับหนุ่มขี้เมาจากพะเยา ใช้เวลารู้จักกันไม่ถึง5 เดือนเขาและเธอก็มีลูก บ้าก้อง
ที่คุณเห็นตั้งแต่ต้นนั่นแหละ ลุกรักของเธอเอง
       ชีวิตหลังแต่งงานและมีลูกของเธอ มีแต่คำว่าแย่ คำว่าเน่า คำว่าเลิก อยู่ตลอดเวลา เธอทำงานหนักเพื่อเลี้ยงผัว
ขี้เมาที่ไม่ยอมแตะอะไรเลย และลุกน้อยที่เธอรัก เธอจะไม่ยอมเลยหละ
เวลาที่ใครๆมานินทาเธอว่าเธอโง่ที่แต่งงานกับคนที่รู้จักกันไม่ถึง 3 เดือนเธอจะด่าจะว่าแบบไม่อายใคร ไม่แน่นะบางครั้ง
อาจมีใช้กำลังส่วนวิธีการเลี้ยงลูกของเธอหนะหรอ เช้ากินนม กลางวันนอน ก็ไม่เห็นแปลก แต่ด้วยอาการ
ที่ใครๆเรียกเธอว่าไม่เต็มนี่แหละกลายเป็น สิ่งสำคัญที่ทำให้ผมไม่เคยเห็นเด้กน้อยคนไหนที่อายุเท่าหลานของผมฉลาด
มี่ความกล้าที่จะคิดที่จะพูดเท่ากับหมอนี่เลย ชอบเล่นกับลูกแปลกๆ ชวนให้ลุกคุยหัวเราะแบบแปลกๆ ชอบทายปัญหา
ลูกตั้งแต่เขายังไม่เกิด มิหนำซำจะโกรธลูกอีกต่างหากเวลาลุกไม่ตอบ ชอบชวนลูกเต็นรำแบบแปลกๆชนิดไม่อายใคร
กลางตลาด    ทั้งหมดที่ว่าแปลก ที่ว่าเหมือนไม่เต็มเหล่านี้ อาจจะไม่ใช่ หากเรามาเห็นลูกที่ถูกเลี้ยงด้วยแม่แบบนี้
วางแผนได้แบบนี้ เดินไปบอกแม่ว่า พ่อขอเงินกินเหล้า สักพักก็เดินไปบอกพ่อว่า แม่ให้มาเอาเงินที่พ่อไปซื้อขนม
ทั้งๆที่ท้ายที่สุดแล้วผลมาเฉลย ว่าลูกรักของเธอ เดินไปซื้อขนมมาแจกให้เพื่อนๆของมัน ทั้งๆที่มันอายุประมาณ 3ขวบ
กว่าๆมั้ง แต่เพื่อนๆมันหนะหรอ ป.1 ป.2แทบทั้งนั้น ที่สำคัญในกลุ่มคล้ายๆกับจะเป็นลูกน้องมันด้วยซำ
จากทั้งหมด เลยกลายเป็นสิ่งที่ไม่แปลก ที่จะเห็นพวกแม่ค้าพ่อค้าในตลาดรักเธอและลูกมาก
   เธอหมดสติไปแล้วหลังจากการผ่าตัด ไม่มีแล้วจะยิ้ม จะหัวเราะ จะคุย เสียงของเครื่องช่วยหาย
ใจเท่านั้นที่ดังออกมาจากตัวเธอ หน้าที่ของเธอดูเหมือนจะหมดไปแล้วบนโลกใบนี้ ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วย
ตัวเองแบบนี้ จะเดิน จะวิ่ง จะคุย ก้ไม่มีทาง ............อาบนำ ใช่แล้วหละครับเธอยังอาบนำได้ เพียงแต่เธอแค่ยืมมือของผม
และพวกพี่ๆพยาบาลเท่านั้น เธอคอยหันหลังให้ผมเช็ดตัว เธอไม่บ่นด้วยซำเวลาผมเผลอทำนำเข้าหูเธอ เธอนั่ง เธอนอน
เป็นเด็กน้อยตัวขาวๆ ให้ผมและพี่ๆพยาบาลอาบนำได้โดยง่ายที่สุด ผู้หญิงไม่เต็มคนนี้ไม่เคยสร้างปัญหาจริงๆ
  ตั้งแต่เกิดมาแล้วผมไม่เคยร้องไห้ให้กับเธอเลยแม้วันนั้นวันที่เธอนั่ง นอนนิ่งๆอยู่บนเตียง เป็นเพราะอะไรผมก็ไม่รู้
ไม่รักเธอมั้งที่ผมคิดออกจากคำถามคำถามนั้น แต่...........................................
นี่แม่อ้ายกะ
ช่วงที่แม่ผมกลับบ้านหลังจากเหตุการ์ณที่แม่ผมร้องไห้ที่ตู้โทรศัพท์ 10.30 ของวันใหม่ พยาบาลก็มาเช็ดตัวให้เธอ
สงสัยเค้าคงเห็นผมนั่งเฝ้าเธออยู่มั้ง จึงถามคำถามคำถามนั้นออกมา นี่แม่อ้ายกะ ผมไม่ตอบออกมาเป็นคำพูด
แต่ผมใช้นำตาตอบแทน แทนคำพูดที่อยากจะบอกว่า ใช่ครับแม่ผมเอง 
  หากถามว่าผมรักเธอไหม ผมกล้าตอบนะว่า ไม่ ทำไมหนะหรอ ดูการกระทำที่ผมเล่าให้คุณฟังแต่แรกของผมที่มีให้เธอสิ
สมควรไหมที่จะบอกว่า ผมรักเธอ ผมเสียใจที่เธอจากไป มันสมควรไหม ผมน่าจะดีใจด้วยซำที่เห็นเธอจากไปแบบนี้
หากเปรียบเทียบกับคำว่าลำคาญเธอเวลาเธอมาเอาใจ				
comments powered by Disqus
  • pigstation

    28 มกราคม 2548 10:53 น. - comment id 82343

    งานนี้คุณเริ่มคลี่คลายแล้ว
    อย่างนี้ค่อยน่าอ่าน

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน