สมัครไม่ควรตกจากเก้าอี้ด้วยเหตุผลนี้

โกเต็ก

การกระเด็นตกเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ของนายสมัคร สุนทรเวช อันเนื่องมากจากศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัย(เอกฉันท์)ให้การเป็นผู้ดำเนินรายการชิมไปบ่นไปและยกโขยงหกโมงเช้าของเจ้าตัว เข้าข่ายผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 267 ที่ห้ามไม่ให้รัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีเป็นลูกจ้างของบริษัทเอกชน
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าฤทธิ์ ของยาแรงอย่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ 18 (2550) ของประเทศไทย ทรงอนุภาพแค่ไหน 
แม้ที่มาและที่เป็นอยู่ของรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวจะไม่สวยงาม เนื่องจากเป็นแผลที่ตกสะเก็ดมาจากชายที่ชื่อว่า พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร แล้วถูกนำมาพัฒนาเป็นยา แรงอย่างที่ไวรัสสมัครโดน
เนื่องจากสามารถเทียบเคียงได้ว่ากฎหมายฉบับดังกล่าว(267หรือแม้กระทั่ง265)ร่างขึ้นมาก็เพราะช่องโหว่ในการใช้อำนาจรัฐเพื่อเอื้อต่อธุรกิจเอกชน อย่างที่ ทักษิณทำจนรวยเอื้อซ่าส์ 
นั่นหมายความว่าปกป้องไม่ให้นักการเมืองใช้ตำแหน่งที่ได้มาจากการลงทุน(ซื้อเสียง) ถอนทุนโดยการกระทำอย่างที่ทักษิณทำ
ซึ่งถือว่าเกิดจากเจตนารมณ์ที่ดี...  เรียนรู้จากความเจ็บปวดครั้งเก่าและหาทางแก้ไข
แต่ก็นั่นเอง...ถามว่าใครจะเชื่อว่าสมัครกะใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีปรุงแต่งสองรายการอย่างว่าเพื่อเอื้อแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างที่ทักษิณเคยทำ
เพราะแม้แต่กลุ่มพันธมิตรฯ ยังไม่เชื่อ แต่ด้วยการยืนอยู่คนละฝั่ง เหตุผลของการ กระทำผิดกฎหมายซ้ำซากของนายกรัฐมนตรีจึงถูกหยิบนำมากล่าวอ้างบนเวที ทันที หรือจะพูดง่าย ๆ ว่าเป็นถึงนายกรัฐมนตรีกฎหมายแค่นี้ยังไม่รู้ประสาอีก จึงสมควรแล้ว(สม)ที่พวกเรา(พันธมิตรฯ)ขับไล่
แม้สมัครสมควรที่จะทิ้งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเพื่อเปิดทางสว่างให้กับสังคมไทย  แต่สมัครไม่ควรตกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีด้วยกฎหมายมาตรานี้
อารยะชนที่อ้างว่าเติบโตมาจากอดีต และได้เรียนรู้ตามระบอบประชาธิปไตย จะอ้างว่าสมควรแล้วที่สมัครโดน หรือจะพูดว่าเวรกรรมมีอยู่จริงไม่ได้เด็ดขาด เพราะตามหลักพระพุทธศาสนา กรรม ต้องมีสาเหตุ และที่สำคัญต้องสอดคล้องและอธิบายได้ตามกระบวนการของเหตุผล หรือจะเรียกว่าวิทยาศาสตร์ก็ได้
เพราะฉะนั้นจงอย่าสะใจที่สมัครกระเด็นตกเก้าอี้ด้วยเหตุผลนี้ เพราะจะเป็นการสนับสนุนความไร้เหตุผลภายในจิตใจเท่านั้น  เพราะแม้ผลที่ได้รับจากการพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเท่ากัน แต่ในเมื่อผลที่ได้รับจากการเรียนรู้ โดยผ่านกระบวนการนี้ไม่สมเหตุสมผล ในอนาคตความไม่สมเหตุสมผลนี้อาจเปลี่ยนขั้วมาทำร้ายคนดี ที่ถูกจ้องเล่นงานจากคนไม่ดี ก็เป็นไปได้
ขอยกตัวอย่างสั้น ๆ อย่างการสาดโคลนใส่กันของพวกในสภา กรณีการถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็น หรือทำธุรกิจในบริษัทที่ได้รับสัมปทานของรัฐนั้น คือตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นแล้วว่า  ความรุนแรงจากยาชนิดนี้ ไม่ได้มีไว้เพื่อป้องกันหรือรักษาเท่านั้น ส่วนจะใช้ทำอะไรนั้นเห็นๆกันอยู่
สุดท้ายหากปล่อยให้ยาแรงนี้ทำหน้าที่ต่อไป เมื่อใดเมื่อนั้นที่ไวรัสนักการเมืองปรับตัวได้ คนที่เสียใจก็จะเป็นพวกเราเอง				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน