@@..... เพื่อนออนไลน์ ..ชายแปลกหน้า.....@@

ฉางน้อย

"  เฮ่ย ...อย่าคิดอะไรมากซิ วา แค่เพื่อนนะ คิดซิ แค่เพื่อนออนไลน์ไง "
.....เสียงพี่ก้อย เพื่อนต่างรุ่นเข้ามาทักทาย อย่างสนิทสนม
.........ยัยวา สะดุ้งตื่นจากภวังค์ จากความฝันอันแสนหวาน พลางอมยิ้ม 
        อ่ะ ...ก็จะไม่ให้อมยิ้มได้ไง ก็เขาคนนั้น ( คนแปลกหน้า ) บอกว่ามีโอกาสจะมาหา
        จะมาชวนทานข้าวด้วย อิ อิ ก็เขินอ่ะน่ะ ( แอบขำในใจด้วยอีกต่างหาก )
"  โห .. พี่ก้อยก็รู้นี่ว่า วาน่ะ เห็นแก่นๆ เซี้ยวๆนะ เหมือนก๋ากั่นน่ะ แต่จริงๆแล้วทำเก่งไปงั้นน่ะ  "  
"   วา ก็อาย เขินเป็นน่ะพี่ ให้พี่ไปเป็นเพื่อน พี่ก็ไม่ยอมไปด้วยนี่คะ  " 
.....ยัยวา เริ่มแจ่มใสขึ้น หลังจากที่เหงามานาน เพราะมีเพื่อนคนแปลกหน้าคนใหม่วนเวียนเข้ามาในชีวิต ..... เพื่อนออนไลน์ ..คำนี้ใครๆก็รู้จักกันดี 
"   พี่ก้อย จ๋า ไม่ไปจริงๆเหรอจ๊ะ นะจ๊ะ นะคะ นะ น๊า  " 
..... ยัยวาออดอ้อนเสียงหวาน อ้อนพื่ก้อยคนเก่ง เพื่อนต่างวัย แต่ใจเดียวกัน
"  เอ๊ ..เด็กคนนี้นี่ ยังไงนะ บอกว่าไม่ไปก็ไม่ไปซิ "  ....พี่ก้อยยืนยัน เสียงหนักแน่นเชียว
"   อ่ะๆๆ ไปเองก็ได้ แล้วอย่ามาถามนะ ไม่เล่าให้ฟังด้วย เชอะจำไว้เลย   "
.....ยัยวา ตอบเพื่อนสาวต่างวัย ด้วยใจร่าเริง พลางมองค้อนอย่างน่ารัก (หรือ น่าเตะไม่ทราบได้ซินะ ) ( ดีนะที่ พี่ก้อย ไม่เอาตะปูส่งมาให้ด้วยน่ะ อิอิ )
          .........วา จำวันแรกที่เริ่มต้นรู้จักเขา (คนแปลกหน้า) คนนั้นได้ดี ทำไมจะจำไม่ได้ล่ะ 
.....ย้อนไปเมื่อราวๆกลางเดือนมิถุนายน 2547 (มั้ง) ที่พี่ก้อยเริ่มแนะนำ โปรแกรมสนทนา หรือ ที่ทางภาษาเน๊ตเรียกว่า โปรแกรม เอ็มเอสเอ็น ซึ่งมีไว้ใช้สนทนา ผ่านการสื่อสารทางตัวอักษร และมีรูปให้คู่สนทนาได้เห็นหน้าได้อีกด้วย 
.....เพียงเพราะ พี่ก้อยนั้นเห็นว่า ยัยวาเพิ่งจะอกหัก (หรือเปล่า) แล้วมาเหงาๆคนเดียว 
พี่เค้าเลยแนะนำให้เล่นดู คลายเหงา จะได้มีเพื่อนคุย แต่ก็กลัวโดนหลอกเหมือนกัน 
         ..........และนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ยัยวาได้มีโอกาสเจอเพื่อนใหม่ ต่างวัย ต่างเพศ และเป็นคนที่ยัยวาคิดว่า คือ...คนพิเศษ.. สำหรับยัยวาไปเสียแล้ว เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็ไม่รู้ซินะ เพียงเพราะว่า ยัยวา ชอบอ่านหนังสือ ชอบอ่านกลอนด้วยมั้ง เลยได้มีโอกาสมาเจอกันโดยบังเอิญ ( ยัยวา เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ และ ชอบอ่านกลอน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ยัยวาจะเขียนกลอนได้เก่งเหมือนอย่างที่อ่านนะคะ ฝีมือไม่ได้เรื่องค่ะ)
 .........ยัยวาแอบอ่านกลอน ของเขา( คนแปลกหน้า )คนนั้นอยุ่บ่อยๆ นานๆเข้าเลยกล้าเข้าไปพูดคุย สนทนาด้วย   เขา (คนแปลกหน้า )คนนั้น ให้การต้อนรับอย่างดีค่ะ พูดจาดี เป็นกันเองดี  ก็ยังไม่คิดอะไรมากเกินกว่าคนแปลกหน้าค่ะ
          ..........ยัยวาเองก็ไม่คิดหรอกว่า มิตรภาพที่แสนอบอุ่นที่เกิดขึ้น ระหว่างเธอกับเขา (คนแปลกหน้า )คนนั้นจะยาวนานมาจนถึงป่านนี้.....ไม่เคยคิดเลยจริงๆ
..........เพราะตลอดเวลาที่พูดคุยกันมานั้น ยัยวาไม่เคยแม้จะได้เห็นใบหน้าว่าเขา (คนแปลกหน้า )คนนั้น จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ยัยวาก็เต็มใจ ที่จะพูดคุยกับเขา
..........ทางด้านยัยวานั้น คิดว่า ตัวเองจริงใจ เต็มใจในการคบคน จริงใจให้เพื่อนเต็มร้อย ( แม้บางครั้งสิ่งที่ยัยวาได้รับมาแค่ 30จาก100) ยัยวาพูดคุยกับเขาอย่างสนิทใจ มีอะไรก็เล่าให้ฟัง จนกระทั่งเหมือนคนสนิท คนคุ้นเคยกันมานานแสนนาน 
          ........... จากวันเป็นเดือน จากเดือนเลื่อนมาเป็นปี ก็เป็นเวลาประมาณ 1 ปี กับ 4 เดือนแล้วมั้ง ที่เราสองคนรุ้จักกันมา จนยัยวา หลงคิดไปเองหรือเปล่าว่า เหมือนความผูกพันธ์กัน ..... ปีกว่าแล้วซินะที่เราพุดคุยกันทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้า หรือได้ยินเสียง 
..........ยัยวาจะมีความรุ้สึกอบอุ่นในใจทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับเขา ( คนแปลกหน้า ) แม้ว่าในบางเรื่อง วาเองได้แต่เออๆออๆไปเพราะคุยเรื่องได้สาระไม่เก่ง แต่ถ้าเรื่องไร้สาระล่ะก็ ยกให้ยัยวาเขาเลย  บางครั้ง วาก็พูดจากวนๆด้วย แกล้งแหย่ แซวเล่น ( ก็มันอดกวนไม่ได้น่ะนะ คนไร ขี้โม้ อิอิ โม้ว่า ตอนหนุ่มๆสาวตรึม อิอิ โม้จัง )
.......... ไม่รู้ล่ะ ยังไง วาคุยกับเขาคนนั้นแล้วมักนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทุกที เอ ....อาการแบบนี้เขาเรียกว่า อะไรดีล่ะ ไม่รู้ซินะ รุ้เพียงสบายใจเวลามานั่งโม้กับเขาในจอ 
     .....ยัยวา ไม่มีโอกาสได้รู้หรอกว่า เขาคนนั้นของเธอ คิดเช่นไรกับเธอ แค่คิดไปเองว่า อย่างน้อย เขาก็เป็นคนหนึ่งล่ะนะ ในสายตายัยวา ใครจะว่า เขากะล่อน เจ้าชุ้ ช่างเหอะ 
".......... เฮ้อ ....อาการอย่างงี้ เขาเรียกว่า อะไรดีล่ะ รักเหรอ ?  "  
" ไม่น่าจะรักนะ เอ๊ะ หรือว่า ใช่ โอ๊ย หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้น่ะ ยัยวาเอ๋ย "
"   รักอย่างงั้นหรือ ไม่รู้ซิ เพราะตลอดที่ผ่านมานั้น วาเองยังไม่รุ้เลยว่าเขาเรียกว่า รักได้หรือเปล่า ? " 
......... ไม่รู้ว่าด้วยว่า จริงๆแล้ว ความรักคืออะไร รู้แต่ว่า เวลานี้เหมือนมีความผูกพันธ์กับเขา (คนแปลกหน้า )จังเลย มีความคิดถึง เป็นห่วง อยากให้เขาสบายใจ ไม่อยากให้เขาคิดมาก หรือ เครียดเรื่องงาน
............. เฮ้อ ...ยัยวาเอ๋ย ใครจะมาช่วยเฉลยข้อสงสัยให้เราได้บ้างหนอ  ใครก็ได้ช่วยหาคำตอบให้ยัยวาจอมเปิ่นคนนี้ทีซิ 
"  หลงหรือเปล่า ไม่ใช่น่ะ รักน่ะต้องมาก่อนหลงอยุ่แล้วนี่  อืม ... หรือว่าใช่ ยัยวาหลงแน่เลย หลงตัวอักษรที่สื่อสารผ่านโลกสมัยใหม่ ยัยวา นี่เธอหลงตัวอักษรของเขาอย่างงั้นหรือ เป็นไปได้ไง "  ..... ( ก็มันเป็นไปแล้วนี่นา )
          ........."  วา ..ยัยวา พี่ถามจริงๆนะ วาชอบคนแปลกหน้าคนนั้นจริงๆเหรอ ? "
"    วา จำคำพี่ไว้นะ เขาอาจไม่ได้มีวาเพียงคนเดียวนะ โลกอินเตอร์เน๊ตน่ะ สื่อสารกันง่าย สื่อสารกันทั่วโลก เขาอาจมีคนอื่นด้วยนะ ใครจะไปรู้ พี่เป็นห่วงวาน่ะ   " 
    ..... เสียงพี่ก้อย เตือนวาด้วยความหวังดี เพราะพี่ก้อยคนนี้เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด แม้ว่าจะต่างอายุ ต่างวัย แต่เวลาวาทุกข์ใจ ได้พี่ก้อยนี่แหละ ช่วยแก้ปัญหาให้ 
  .......พี่ก้อย เป็นเพียงคนเดียวที่รุ้เรื่อง วากับเขา ( คนแปลกหน้า)คนนั้น พี่เขาคอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆด้วยความเป็นห่วง
"  โถ ....พี่ก้อยขา อย่าห่วงวา ไปเลยคะ วาอาจแค่ชอบเขามั้งคะ  แต่รักน่ะหรือพี่ ไม่รู้ซิคะ วาตอบไม่ได้ วาตอบไม่ถูกค่ะ "
"   แหม ..... วาจะไปรักเขาได้ไงคะ วาอาจเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินผ่านเข้ามาในชีวิตเขานะคะ  เขาอาจมีผู้หญิงมากมายให้เขาเลือก หรืออาจมีใครหลายๆคน ใครจะไปทราบล่ะค่ะพี่ .... วา อาจแค่ผ่านมาแล้ว ก็ผ่านเลยในสายตาเขามั้งคะ   " 
          ..........ยัยวา ตอบพี่สาวคนนั้นด้วยอาการไม่มั่นใจ หรือ อีกที เธอตอบเพื่อหลีกเลี่ยงต่อการตอบคำถามอีกมากมายที่อาจตามมา เลยแบ่งรับแบ่งสุ้ ตอบแบบขอไปที
..........ยัยวา ทำไมเธอจะไม่รุ้ใจตัวเองเชียวหรือ  รู้ซิ ไม่ใช่แค่ชอบนะ จะบอกให้ยัยวา สามารถตะโกนก้องฟ้าได้เลยว่า ..ความรู้สึกที่มีนั้นมันมีมากกว่าชอบ แต่คือ รัก ...
.....รัก รักทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยพูดคุยกัน รักกับคนแปลกหน้า ช่างเป็นฝันที่ลมๆแล้งๆสิ้นดี ยัยวาเอ๋ย ......
..... ก็ไม่รุ้นี่  ว่ารักที่แท้จริงคืออะไร รู้แต่อบอุ่นเวลาพูดคุยสื่อสารผ่านอักษร สบายใจเวลานั่งหน้าคอมพ์  ..... ตอบไม่ถูก  บอกไม่ได้ว่า ทำไมถึง รักมากมายจัง 
.....รู้แต่เพียงรัก ...รักมิได้หวังครอบครอง ...รักมิต้องการจับจองเป็นเจ้าของ...รักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนจากเขา.....รู้อย่างเดียว ....ขอเพียงได้รัก ขอเพียงรักก็สุขใจแล้ว....ขอเพียงแค่รู้ข่าวว่า ทุกๆวัน ทุกๆคืน เขาคนนั้นของยัยวา อยู่สุขสบายดี ขอเพียงเขามีความสุข สบายกาย สบายใจ ... แค่นี้ ...ยัยวา ก็สุขใจแล้ว
...... ยิ้มกับตัวเอง เวลานึกถึงเขา (คนแปลกหน้า )  ดีใจ ปลื้มใจ เวลาเขาบอกว่า คิดถึง เป็นห่วง (ทั้งๆที่แค่ ตัวอักษร แต่วาก็ดีใจแล้วล่ะ)  การพูดจา เขาก็แนะนำสั่งสอนหลายเรื่อง ตักเตือนหลายอย่าง อย่างที่ผู้ใหญ่พึงสอนแก่รุ่นเด็ก รุ่นน้อง หรือ แม้แต่รุ่นหลาน
.......... ยัยวา ยังถามเขาบ่อยไปว่า ทำไมมาคุยกับวาได้นานๆ ทำไมชอบคุยกับวา ไม่เบื่อเหรอ ??? เขาคนนั้น ของวา (หรือเปล่า หรือ เราคิดไปเอง )  ก็จะตอบมาว่า ......
"   ที่พี่ชอบมาคุยกับวา เพราะดูท่าทางวาเป็นคนดี คุยสนุกด้วย ดูเป็นคนที่จริงใจ ออกจะซื่อ ( บื้อ )ด้วย พูดความจริงออกมาหมด บางครั้งวา ก็พูดตรงเกินไป ไม่ดีต่อตัวเองรู้ไหม ? " 
        ...... โห ...เจอคำตอบซึ้งๆหวานๆแบบนี้ ยัยวาปลื้มใจจังเลย นั่งอมยิ้มคนเดียวด้วยซิ 
.......... คุณ คนแปลกหน้าคะ คุณไม่ทราบหรอกค่ะ ว่าที่เราพูดคุยกันทุกคืน ทุกวันนั้นน่ะ เป็นความจริงใจ ที่ออกมาจากหัวใจที่แท้จริงของหญิงคนหนึ่งนะคะ 
            ไม่เป็นไรคะ แม้คุณ คนแปลกหน้าไม่รับรุ้ หรือ เขารุ้แต่ไม่รับ ช่างเขาเถอะคะ ขอเพียงวา ได้พูดคุย ได้ปรับทุกข์ ได้มาโม้เรื่องไร้สาระก็พอแล้วค่ะ  แค่นี้ก็สุขแล้ว
.......... อยากจะบอกคุณ คนแปลกหน้าจังเลยค่ะ ว่า ...รู้ไหมว่า ตอนนี้น่ะ คุณเป็นคนพิเศษในใจสาว(เหลือ)น้อย ไปแล้วนะคะ  แม้ว่า สาว ( เหลือ )น้อยคนนี้ไม่มีโอกาสได้เข้าไปนั่งในใจของคุณก็ตาม....
..... บางครั้ง เวลาพูดคุยกัน วา อาจมีแง่งอนไปบ้าง แต่ขอโทษด้วย นะคะ ก็เพราะเขา เพราะคุณนั้นแหละคะ ที่ทำให้วา เป็นแบบนี้ ก็คุณคุยกับวา แต่คุณชอบเอาเรื่องที่คุยกับสาวอื่นมาคุยให้ฟัง วาฟังนะคะ แต่ก็เจ็บจี๊ดในใจทุกที ที่คุณพูดแบบนั้น  ก็ทำใจน่ะยัยวา เพราะ เราอาจแค่เพื่อนแก้เหงา แค่เพื่อนออนไลน์ คลายเหงาก็ได้
 
 ........... แม้วาจะนิยม ชื่นชม ชื่นชอบเขา ( คนแปลกหน้า )คนนั้นมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่จริงๆแล้ว ยัยวา คนนี้มิอาจเอื้อมไปใกล้เขาหรอกค่ะ รู้ตัวเองดี คนละระดับ คนละเกรด 
เขาน่ะหน้าที่การงานดี ไม่เหมือนยัยวา แค่เด็กจิ๊กโก๋ ปากซอย ไม่กล้าไปดึงเขาลงมาต่ำกับเราด้วยหรอกค่ะ   แต่ก็เห็นใจ สงสารเขาจังเวลาเขามาพูดเรื่องงาน เรื่องภาระที่ต้องรับผิดชอบมากมาย อย่างงี้เรียกว่า ผูกพันธ์ได้ไหม เห็นใจ สงสารอยากให้เขาสบายใจ
......... วา มักจะพูดกับเขาคนนั้นเสมอ ว่า อย่ามารักเพราะความสงสาร ถ้าจะรักแล้ว อยากให้รักที่ใจมากกว่า รักที่การกระทำ  เขาก็แย้งว่า ความรักมักมาพร้อมกับความสงสาร เห็นอก เห็นใจซึ่งกันและกัน แค่นี้ก้สุขใจแล้ว 
"   วา... ยิหวา...  แหม... คิดอะไรน่ะ เห็นนั่งเหม่อๆ นานแล้วนะ เรียกตั้งหลายคำแน่ะ... กว่าจะได้ยิน จนต้องเอ่ยชื่อที่พ่อแม่ให้มาน่ะ เป็นไรไปอีกละเนี่ย หือ..คิดมากเรื่องนั้นอีกแล้วซิเราน่ะ อย่าคิดมากซิ ..." 
" อ้อ...   แล้วเรื่องจดหมาย ที่เขาบอกว่าจะส่งมาน่ะ ว่าไง ได้รับยังล่ะ ?
"  พี่อยากรู้จังว่า ในจดหมายนั้นมีความลับอะไรนักหนา "
........... เฮ้อ ..พี่ก้อย ช่างเป็นเพื่อนที่แสนดีจริงๆเลย รับรู้ปัญหาของยัยวาได้ทุกอย่าง ช่วยแก้ปํญหาได้หลายเรื่อง วาจึงรักและเคารพเพื่อนที่เป็นทั้งพี่สาวด้วยในตัว รักเหมือนพี่สาวคนหนึ่งเลยก็ว่าได้
"    ค่ะ พี่ก้อย ใช่ค่ะ  คืนก่อนโน้น ผ่านมา3 คืนแล้วค่ะ เขาบอกว่า ให้วา รอรับจดหมายด้วย ....จดหมายจากปลายฟ้า....เชียวนะคะ จดหมายจากปลายฟ้า ซึ่งซ่อนความลับอะไรบางอย่างให้วาได้ค้นหา จากจดหมายนั่น" 
"   วา ..ไม่ทราบหรอกค่ะ ว่าความหมายจากปลายฟ้าคือ อะไร แต่ วา ก็จะรอจดหมายเขาค่ะ วารอนะคะพี่ เพราะ วารอมานานแล้ว นานอีกสัก 3 วันทำไม วาจะรอไม่ได้เชียวหรือคะ ? " 
........... ยัยวา ตอบพี่ก้อยของเธอ ด้วยใจที่แน่วแน่รอจดหมายฉบับนั้น พร้อมด้วยดวงตาที่มุ่งมั่นว่า สักวัน จดหมายจากปลายฟ้า คงมาหาเธอโดยเร็ววัน เอาเถอะ เธอรอมานานแล้วนี่ นะ ยังไงก็จะรอ
"    เอาเถอะวา ในเมื่อวาเชื่อมั่นในตัวเขา เชื่อว่าสักวันหนึ่งจะมี จดหมายจากปลายฟ้า มาให้วาได้ชื่นชม พี่เป็นกำลังใจให้วา น้องสาวที่น่ารักของพี่เสมอนะจ๊ะ " 
"  จำไว้ว่า สิ่งใดจะเกิดขึ้น วาจะต้องทำใจยอมรับให้ได้นะจ๊ะ อย่าท้อแท้ อย่าสิ้นหวัง หนทางข้างหน้ายังยาวไกล ยังมีอีกมากที่เรายังเดินไปไม่ถึง วา ต้องพร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาต่างๆนะจ๊ะคนดี ....."
....... คำพูด ของพี่ก้อย ทำเอายัยวา น้ำตาแทบร่วง รับปากพี่เค้าเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น วาพร้อมที่จะยอมรับ เพราะ วาก่อขึ้นเอง วาก็ต้องยอมรับได้ ทำใจค่ะ 
              แต่อย่างไร ก็ตาม ยัยวา  ก็คือ ยัยวา ที่คิดจะทำอะไรแล้วก็ต้องรอพิสูจน์หัวใจคน 
ทุกวันนี้ เธอ ยัยวา เธอยังหวัง ตั้งตารอ จดหมายจากปลายฟ้า จากเขา ( คนแปลกหน้า )
     ....... วา รอคุณอยู่นะคะ รอจดหมายจากปลายฟ้า รอจดหมายจากคนคนดีของวาอยู่ค่ะ ....... 
                                    ............................................				
comments powered by Disqus
  • ฉางน้อย

    19 สิงหาคม 2548 23:40 น. - comment id 86147

    46.gif.... ฮี่ ฮี่ แหม ยัยวา อิอิ จินตนาการเพริดแพร้วเชียวนะเธอ 74.gif65.gif
    ....... แค่คิด ๆ แค่ เขียนๆค่ะ ......อย่าจริงจังมากมายนัก เนอะ ....74.gif
  • ยาจกกาม

    20 สิงหาคม 2548 07:17 น. - comment id 86166

    ฉางเหอจดหมายปลายฟ้า
    เสร็จแล้วแต่ไม่หาญส่งเด
    20.gif
  • เพียงพลิ้ว

    20 สิงหาคม 2548 08:44 น. - comment id 86168

    จดหมายจากปลายฟ้า 
    
    ได้ยินคำนี้บ่อยจังนะคะ
    ฟ้าแถบไหนล่ะคะฉางน้อย
    
    1 ปี 4 เดือน ไม่น้อยนะคะ36.gif
    
    
    โลกอินเตอร์เน็ตมีรักแท้จ้ะ74.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • เพียงพลิ้ว

    20 สิงหาคม 2548 08:49 น. - comment id 86169

    อ้อ ลืมบอกไปค่ะ 
    ทำไมคนแปลกหน้าของวาทำไมเหมือนพระเอกของพี่จัง74.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • ชายเมษ

    20 สิงหาคม 2548 09:39 น. - comment id 86171

    เป็นความซาบซึ้ง 
    หัวใจที่อ้างว้าง
    เป็นแค่เพียงควาหวัง
    น้อยนิด แต่แรงหวังยังมี8.gif29.gif23.gif
  • ฉางน้อย

    23 สิงหาคม 2548 02:15 น. - comment id 86217

    74.gif
    2.....ยาจกกาม ( โห ชื่อเหรอคะนั่นน่ะ อิอิ )
         ไหนล่ะ จดหมายจากแนวหน้าน่ะ รอๆๆน๊ะ อิอิ 74.gif (เอ เกี่ยวกันไหมเนี่ย )65.gif
  • ฉางน้อย

    23 สิงหาคม 2548 02:17 น. - comment id 86218

    3...คุณเพียงพลิ้วค่ะ จดหมายจากปลายฟ้าก็คือ จดหมายจากคนไกลที่อยุ่กันคนละฝั่งฟ้าไงคะ 
          เอ แถวไหนน๊า ม่ะบอก ๆๆ อิอิ เขิลลล์ 65.gif
  • ฉางน้อย

    23 สิงหาคม 2548 02:21 น. - comment id 86219

    4...... เอ คงไม่ใชคนเดียวกันมั้งคะ เพราะว่า คนไกลของฉางน่ะ เป็นคนเหนือนะคะ ... เหนือ มาเลย์ อิอิ  ( มาเลย์ ก็คือ มาเลย์เซียไงคะ )
    ........ เฮ้อ เป็นห่วง เขาจังเลย ยิ่งช่วงนี้เหตุการณ์ ทางใต้ไม่ปกติด้วย เฮ้ออออ...23.gif
  • ฉางน้อย

    23 สิงหาคม 2548 02:24 น. - comment id 86220

    5....... ชอบคุณ คุณชายเมษ ที่แวะเข้ามาอ่านเรื่องไร้สาระนะคะ 
    .....หวัง เพียงแค่หวัง 
    .....หวัง ทั้งที่รุ้ อาจไม่สมหวัง
    .....แต่ ขอเพียงหวัง เพื่อเป็นพลังให้ก้าวเดินตามหารอยฝันแห่งหวัง ......
    ...... ชีวิตเรา อยู่อย่างมีหวัง ดีกว่า อยู่อย่างหมดหวังนะคะ .... 74.gif65.gif
  • ก้องครับผมไปนอนแล้วครับ

    23 สิงหาคม 2548 22:24 น. - comment id 86239

    กดมามั่วๆครับ   สวัดีครับ ไม่อ่านเยอะๆมากครับพิมเยอะจริงน้าฉางน้อยครัยเก่งๆๆสุดยอดจ๊าบๆๆๆๆ 
    ๆ
  • ฉางน้อย

    2 พฤศจิกายน 2548 23:07 น. - comment id 87612

    10...... ขอบคุณพี่ก้องนะคะ ที่กดมามั่วๆๆ อิอิ
    
    19.gif19.gif20.gif20.gif19.gif19.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน