แล้วเราก็เข้าใจกัน(ตอนที่5)

เรียงร้อยเป็นเรื่องราว

ทัศนัยครุ่นคิดไปถึงคำพูดของแม่ยายเมื่อหลายวันก่อน ด้วยความไม่เข้าใจนักว่า เหตุใดนางจึงพูดเช่นนั้น ตัวเขาน่ะหรือที่จะให้คำตอบตัวเองได้ ทั้งที่เขายังไม่รู้เลยว่า เพราะอะไรที่ทำให้ลูกสาวจงเกลียดจงชังเขามากมายขนาดนี้ ทำไมเมื่อตอนวันงานศพ เขาถึงได้ถูกลูกสาวตราหน้าว่าเป็นฆาตกร เขาน่ะหรือทำให้นวลปรางค์ต้องนอนร้องไห้ทุกคืน มันจะเป็นไปได้อย่างไร เมื่อตอนจบกัน เขาทำเลวกับเธออย่างที่อยากให้อภัย จึงไม่มีทางที่เธอจะร้องไห้เพื่อผู้ชายอย่างเขาแน่นอน แล้วอะไรล่ะที่เป็นสาเหตุทำให้เธอต้องฆ่าตัวตาย 
           "ก๊อก! ก๊อก!" 
เขาสะดุ้งเมื่อเสียงเคาะประตูทำลายความคิดเขาให้หยุดชะงักลง ร่างที่แบกน้ำหนักที่เขาเดาว่า 70กว่ากิโล เดินนวยนาดพร้อมกับแฟ้มเอกสารตรงเข้ามาหาเขา 
            "มีเอกสารมาให้ผู้จัดการเซ็นคะ" 
ด้วยความเป็นคนรอบคอบของเขา ทัศนัยจึงอ่านรายละเอียดทั้งหมดของเอกสาร ก่อนที่จะลงมือเซ็น 
            . . . 
           "นี่..พวกเธอวิ่งให้ช้าลงหน่อยได้ไหม" 
หวานส่งเสียงบอกเพื่อน ๆ ขณะกำลังวิ่งไล่จับกันอยู่ 
            "ขีนวิ่งช้าเธอก็จับพวกฉันได้สิจ๊ะคุณชมพู" 
ตุ๊กตาส่งเสียงพูดออกมา ตามด้วยฉายาของหวานที่เพื่อน ๆ ช่วยกันตั้งตามสีผิวที่เด่นชัดของหวาน
          "อ้าว! นี่หวานกำลังไล่จับพวกเธออยู่หรอนี่" 
คำพูดของหวานทำให้ไอซ์ต้องหยุดวิ่ง แล้วหันมามองอย่างสงสัย 
           "ก็ใช่น่ะสิยะ แล้วคุณเธอคิดว่ากำลังไล่จับอะไรอยู่ล่ะ" 
ไอซ์ยืนท้าวสะเอวพูด ท่าทางของแม่หนูตอนนี้ ช่างน่ารักน่าหยิกนักเชียว 
            "ลิง!" 
พอสิ้นเสียงของหวาน จากที่เป็นผู้ไล่ก็ได้กลายเป็นผู้หนีโดยอัตโนมัติ 
           "หนอยแน่..มาให้พวกเราจับเสียดี ๆ" 
            "ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!" 
          หวานไม่รู้ตัวเลยว่า ความร่าเริงและเสียงหัวเราะอันสดใสของเธอยามนี้ ได้อยู่ในสายตาของภาวิณีตลอดเวลา 
          มันคงจริงอย่างที่พนัศเคยพูดไว้ บางทีกับสิ่งที่ภาวีณีเคยเห็น คือความรู้สึกที่คิดไปเอง วันใดที่เด็กน้อยปรับตัวได้ วันนั้นทัศนัยจะได้เห็นความสดใสของเจ้าหญิงน้อย ๆ คนนี้เหมือนกับที่เธอกำลังเห็นอย่างแน่นอน 
           . . . 
          "นี่พวกเธอเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นผู้จัดการควงสาวคนไหนให้เห็นเลยเนอะ" 
          "อืมม์ นั่นน่ะสิ เอ..หรือว่ายังไม่ยอมเปิดตัว เพราะหมู่นี้ผู้จัดการพอแก
          เลิกงานปุ๊บก็กลับปั๊บ สงสัยคงไปหาเด็ก" 
          "อืมม์ ใช่ไปหาเด็ก และถ้าว่าคนนี้ ผู้จัดการรักมากกว่าคนไหน ๆ 
           เสีย ด้วย" 
         "จริงหรือพี่พงษ์" 
คำพูดของนายพงษ์สร้างความสนใจให้พวกสาว ๆ ที่กำลังนั่งนินทาทัศนัยไม่น้อยทีเดียว 
           "แล้วพี่พงษ์รู้เปล่าว่าเป็นใคร" 
           "ก็ลูกสาวไงล่ะ" 
             . . . 
           "ไปแล้วนะ พรุ่งนี้เจอกัน" 
          หวานส่งเสียงบอกเพื่อน ๆ พร้อมกับโบกไม้โบกมือ ก่อนจะวิ่งไปหาพ่อที่จอดรถรออยู่ และทันทีที่มาถึงหวานก็หุบยิ้มอันสดใสของเธอลงทันที 
          "เมื่อไรพ่อถึงจะมีโอกาสเห็นหนูยิ้มเหมือนที่หนูยิ้มให้เพื่อน
            สักทีล่ะหวาน" 
ทัศนัยถามเมื่อลูกสาวเข้ามานั่งในรถเป็นที่เรียบร้อย ไม่มีคำตอบจากหวาน เธอมองหน้าพ่อนิ่ง สักพักจึงหันหน้าหนีไปทางหน้าต่างรถ 
          "ไม่เป็นไร พ่อจะอดทนรอวันที่หนูยิ้มให้พ่อนะครับ" 
หวานเม้มริมฝีปากตัวเองแน่น ดวงตาทั้งสองข้างเปลี่ยนเป็นกร้าวแข็งอย่างฉับพลัน 
          "ไม่มีวัน..ไม่มีวันที่หวานจะให้คนใจร้ายที่ทำลายจิตใจ
            แม่จ๋ามีความสุขตลอดเวลาที่หวานยังอยู่กับเขาแน่นอน 
            แม่จ๋าเจ็บแค่ไหน เขาก็ต้องเจ็บกว่าแม่จ๋าเป็นล้านเท่า!"				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน