แล้วเราก็เข้าใจกัน(ตอนที่14)

เรียงร้อยเป็นเรื่องราว

"ครูขา..หวานเขาเป็นอะไรหรือเปล่าคะ พวกหนูไม่เห็นเขามาเรียนตั้งสามวันแล้ว" ไอซ์ชวนตุ๊กตาเข้ามาถามภาวิณีที่กำลังตรวจการบ้านนักเรียนอยู่ที่โต๊ะ
   "หวานเขาแค่ไม่สบายนิดหน่อย ไม่เป็นไรมากหรอกจ๊ะ" ภาวิณีให้คำตอบที่ทำให้นักเรียนทั้งสองของเธอคลายกังวล
   "เลิกเรียนแล้วไปเยี่ยมหวานก็ดีเหมือนกันนะจ๊ะ ไปกับครูนี่แหละ"
   "ดีเหมือนกันคะครู" ตุ๊กตากล่าวขึ้นมา
 
          กำลังตาที่เริ่มถดถอยไปตามอายุที่มากขึ้น ได้มองข้าวของเครื่องใช้ในห้องนี้ที่ยังคงเดิม เพียงไร้กายของคนเคยอยู่ ทิ้งไว้แค่ความทรงจำที่เจ็บปวด น้ำตาเอ่อล้น เมื่อภาพของผู้จากไปเข้ามาฉายในห้วงคำนึง
                                                                                                      .   .   .
 
           ดวงตาคู่โศกทอดออกไปนอกหน้าต่าง กำลังคอยใครสักคนด้วยความรู้สึกร้าวราน ช่วงเวลาที่ผ่านไปเนิ่นนาน แต่ทางข้างหน้าที่ทอดมอง ยังไร้คนซึ่งเฝ้าคอย ร่างโปร่งบางที่อยู่บนเตียงได้ไหวตามแรงสะอื้น น้ำตาไหลอาบแก้มพร้อมใจที่จวนเจียนแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ 
   "ทัศคะปรางค์กำลังรอคุณอยู่นะคะ!!!"
                                                                                                    .   .   .
   "ยายจ๋า!" ภาพต่าง ๆ เลือนหาย เมื่อถูกเสียงเรียกของหลานสาวปลุกให้ตื่นจากอดีต
   "ยายจ๋า..หวานคิดถึงแม่จ๋า! คิดถึงเหลือเกิน!" หวานเดินร้องไห้เข้ามาหาผู้เป็นยาย
   "ยายจ๋า ได้โปรดช่วยปลุกให้หวานตื่นจากฝันร้ายนี้ทีได้ไหม หวานกลัวเหลือเกินจ๊ะยายจ๋า!!!"
   "โถ! หลานยาย" ผู้เป็นยายร้องอุทานพร้อมเข้ากอดหลานด้วยความเวทนา
   "หวานกลัว! ยายจ๋าช่วยหวานด้วย! มันรู้สึกเจ็บปวดทรมานเหลือเกิน!"
   "โอ๋! ไม่ต้องกลัวนะลูก ยายอยู่นี้แล้ว ขวัญเอ๊ยขวัญมา"
   "หวาน หนูต้องเข้มแข็งให้ได้นะลูก แล้วหนูก็จะได้ตื่นจากฝันร้ายนี้เอง" อุษาที่เดินเข้ามาเห็นพอดี รู้สึกหดหู่เวทนาหลานอย่างจับจิต
 
   "เป็นอะไรไปหรือเปล่าครับผู้จัดการ" นายพงษ์เอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าทัศนัยดูไม่สดใสเท่าที่เคย
   "ผมไม่เป็นไรหรอกพี่พงษ์" ทัศนัยบอก แต่ดูเหมือนนายพงษ์จะรู้ว่าคำตอบที่เขาได้นั้นมันไม่ตรงกับใจของผู้จัดการคนนี้สักเท่าไร
   "ถ้าไม่มีก็ดีครับ แต่ถ้ามีแล้วมัวมานั่งกลุ้มอย่างนี้ไม่ดีแน่ ปัญหาเขามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้มานั่งกุมขมับอย่างนี้นะครับ" นายพงษ์พูดทิ้งท้ายก่อนเดินออกจากห้องทำงานของทัศนัย
   "หวานอยู่บ้านหลังนี้หรือคะครู" ตุ๊กตาถามอย่างแปลกใจ เมื่อบ้านที่เห็นไม่เหมือนกับที่หวานเคยเล่าให้ฟัง
   "นี่เป็นบ้านยายของหวานน่ะจ๊ะ" ภาวิณีตอบข้อสงสัยให้ลูกศิษย์ 
   "นั่นคงจะเป็นยายของหวานแน่เลยคะ" ไอซ์พูดเมื่อมองเข้าไปเห็นหญิงชรากำลังรดน้ำต้นไม้อยู่
   "คุณยายขา! คุณยาย!" หญิงชรามองไปที่ประตูอย่างแปลกใจว่าใครกันมาเรียกตน
   "หนูสองคนกับคุณครูมาเยี่ยมหวานน่ะคะคุณยาย" ตุ๊กตาส่งเสียงบอก....หญิงชรายิ้มให้แขกผู้มาเยือนพร้อมเปิดประตูต้อนรับ
   "สวัสดีคะคุณยายหนูชื่อภาวิณีเป็นครูประจำชั้นของหวาน วันนี้พาเด็ก ๆ มาเยี่ยมหวานน่ะคะ" ทั้งไอซ์และตุ๊กตาต่างยกมือไหว้หญิงชราตามคุณครูของพวกเธอ
   "หนูชื่อไอซ์นี่ตุ๊กตาคะคุณยาย เราสองคนเป็นเพื่อนร่วมห้องของหวาน เห็นเขาหยุดไปนานก็เลยเป็นห่วง" หญิงชรายิ้มให้กับความน่ารักของเด็กทั้งสอง 
   "หวานอยู่ในบ้านน่ะจ๊ะ" หญิงชราบอกแล้วเดินนำคนทั้งสามเข้ามาในบ้าน เมื่อเข้ามาในบ้านทั้งภาวิณีและเด็กทั้งสองต่างยกมือไหว้อุษาที่นั่งอยู่..อุษาเองก็ยกมือไหว้ตอบตามมารยาทอันควร
   "ตามสบายกันนะจ๊ะ" หญิงชราบอกแล้วเดินออกไปจากห้องรับแขก
   "เดี๋ยวฉันไปตามยัยหวานมาให้นะครู" อุษาบอกแล้วเดินออกไปเช่นกัน
   "บ้านคุณยายน่าอยู่ดีนะคะ ต้นไม้เต็มไปหมดเลย ดูร่มรื่นดี" ตุ๊กตาพูดกับจังหวะที่หญิงชราเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำหวานเย็น ๆ กับส้มโอที่ผ่านการแช่เย็นมาอย่างดี
   "อุ๊ย!ส้มโอน่าทานจังคะ" ไอซ์พูดขณะช่วยรับถาดจากหญิงชรา แล้วกล่าวพร้อมเพื่อนว่า
   "ขอบคุณนะคะ" หญิงชรายิ้มอย่างเอ็นดูและชื่นชมในมารยาทของเด็กทั้งสองที่คงถูกอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี
   "ขอบคุณมากนะคะคุณยาย ส้มโออร่อยมากเลยคะ" ภาวิณีเองก็กล่าวขึ้นเช่นกัน
   "ตามสบายเลยนะจ๊ะ เดี๋ยวทานข้าวเย็นด้วยกันที่นี่เสียเลยสิ" หญิงชราเอ่ยปากชวนขณะที่อุษาพาหวานเข้ามาพอดี....หวานยกมือไหว้ภาวิณี ก่อนพาตัวเองไปนั่งรวมกับเพื่อนทั้งสอง
   "เป็นอะไรมากหรือเปล่าหวาน ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า" ไอซ์กับตุ๊กตาต่างแย่งกันถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
   "ไม่เป็นไรมากหรอกจ๊ะ แค่เป็นไข้นิดหน่อย" 
   "พวกฉันเอาการบ้านและงานช่วงที่เธอขาดไปมาให้ทำด้วยนะ" ตุ๊กตาบอกพลางยิ้มสมุดออกจากกระเป๋านักเรียนส่งให้หวาน
   "ชวนเพื่อนขึ้นไปทำการบ้านบนห้องด้วยกันสิหวาน" อุษาบอก
   "คะน้าษา" แล้วหวานก็นำเพื่อนทั้งสองออกไป
   "สภาพจิตใจยัยหวานตอนนี้เป็นไงบ้างคะ" ภาวิณีอดที่จะเอ่ยปากถามอย่างเป็นห่วงไม่ได้
   "ยังแย่เหมือนเดิมคะครู ไม่รู้จะทำยังไงกันดีแล้ว" อุษาพูดอย่างจนใจ
   "ทุกสิ่งทุกอย่างมีทางแก้ไข อย่าวิตกไปเลยคะคุณษา ยังไงเราต้องร่วมมือช่วยยัยหวานกันนะคะ" ภาวิณีพูดแกมให้กำลังใจ
   "แต่ตัวยัยหวานเองก็ต้องช่วยเราอีกแรงด้วยนะครู" อุษาพูดพลางถอนใจ....
   "แล้วมันจะยอมหรือเปล่าน่ะสิ เพราะความแค้นมันฝังรากลึกออกอย่างนี้"				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน