เรื่องราวของพระเอกนานาชาติ บทที่ 2

ผู้ไม่มีหัวใจ

เมื่อคราวที่แล้ว ผลการต่อสู้ปรากฏว่าท่านเสมาขุนศึกเป็นฝ่ายได้ชัยชนะ เนื่องจากบรรดาคนดูส่วนมากจะเป็นคนไทยกัน ก็เลยทำให้ท่านเหล็งฮู้ต้องพ่ายแพ้ไป แต่ไม่เป็นไรครับ แพ้เป็นหลวงจีน ชนะเป็นพรรคมาร
        โฆษกสนามประกาศว่า  สวัสดีพี่น้องชาวไทยโพดำทุกท่าน วันนี้นะครับเราจะได้ชมคู่ต่อสู้ที่มีลีลาสูสี อายุก็สูสี มีเมียมากก็สูสี ก็จะได้รู้กับไปสักทีว่าใครจะแน่กว่าใคร
       นักสู้คนแรก เป็นนักสู้สมัยศตวรรษที่ 21 แต่มาดังในสมัยจิ่นซี ผู้หญิงที่ฝ่านทางหรือพบหน้า เมื่อได้เห็นหน้าเขา หุ่นเขา ลีลาการพูดการจากของเขาแล้ว มักจะเสร็จเขาเสมอๆ และที่สำคัญ เพลงกระบี่ม๊อจิ๊อ ของเขา 13 เพลงทำให้เขาได้ผงาดในยุคจิ๋น เขาก็คือ ท่านเซี่ยงเส้าหลงๆ ใช้วิชาตัวเบา ออกมายืนยิ้มอยู่บนเวที  ขอให้ทุกคนปรบมือด้วยครับ
       ว่าแล้วคนดูและตัวท่านผู้อ่านก็ปรบมือเกรียวกราว บางท่านยังมีความป่าเถิ่อนอยู่ก็ใช้การโห่ฮาป่า และแล้วพิธีกร ก็ชูมือเป็นสัญญลักษณ์ให้ทุกคนเงียบ นักสู้คนต่อไป เป็นศิษย์เอกแห่งกุโสดอ และ ตาคะยีครูดาบ หน้าตาสุดหล่อ คารมคมคาย และสาวๆเพียบ เขาก็คือ จะเด็ด ผู้ชนะสิบทิศ
       ทันใดนั้นเองผู้ชนะสิบทิศก็ขึ้น บรรดาผู้บังคับบัญชา หัวหน้าส่วนราชการ ก็พร้อมใจกันร้องเพลงนี้ ทำให้ในสนามประลองนั้นสนุกครึ๊กครื้นยิ่ง เจ้าจะเด็ดตัวสำคัญ ก็โพกผ้า ถือดาบออกมาอย่างสง่าผ่าเผยจนกระทั่งขึ้นมาบนเวที
       นักสู้ทั้งสองต่างมองหน้ากัน แล้วแต่ละคนก็ชักดาบอย่างพร้อมเพรียง แต่ทว่าคนดูทั้งหมดจะเห็นได้ว่า ขาทั้งสองข้างของทั้งสองคน นั้นสั่นอยู่พั่บๆ นั่นย่อมแสดงว่าผู้กล้าทั้งสองไม่เห็นความตายเป็นอ่ย่างไร คือเห็นการตายเหมือนการกับสู่มาตุภูมิ แต่ผมว่านั่นคือคนที่คิดมองโลกในแง่ดี แต่ถ้ามองโลกในแง่ร้ายบ้าบงแล้วจะเห็นได้ว่า ทั้งสองนี้เป็นตัวเอาจริงๆ แม้จะต้องเสี่ยงชีวิตแล้วก็ขอขอมเสียวก่อนที่จะมาเสี่ยงกัน เอ้าละครับไม่พูดแล้ว ขอเชิญจวกกันได้เลยครั
ว่าแล้วทั้งสองก็วิ่งเข้าใส่กัน แต่อนิจจาครับทั้งสองคนสะดุดผินผ้าบนเวทีล้มลงพร้อมๆกัน กรรมการมองหน้ากรรมการใหญ่ แล้วก็เรียกกรรมการบนเวทีเข้าไปหารือ แล้วก็พยักหน้า กรรมการบนเวทีก็เลยมาถือไมค์ประกาศดังต่อไปนี้
      กราบเรียนท่านพี่น้องที่เคารพ การชกระหว่าง ท่านเซี่ยง กับ ท่านมังฉงาย นี้ทางสนามไม่สามารถตัดสินได้ เนื่องจากทั้งสองล้มมวยทั้งคู่ ต่อสู้ไมสมศักดิ์ศรี และนอกจากนั้น ยังใช้ความเขี้ยวของตน มาหลอกลวงคนดู ดังนั้นจึงของให้ท่านได้สละเวทีออกไป
      เซี่ยวออกไป  ๆ  มังฉงายออกไป ๆ  ๆๆๆๆๆ
จะเห็นได้ว่า การที่มีเมียมากแล้วไม่บันยะบันยังบ้าง ก็ทำให้เสียชื่อเสียเสียง เสียโอกาศ เสียแรง และเสียอื่นๆอีกมากมาย
วันนี้แม้จะไม่มัน แต่อย่างไรก็ตาม วันหน้าจะเจอกันอีกครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ				
comments powered by Disqus
  • เหอะๆ

    23 เมษายน 2549 15:24 น. - comment id 90522

    เหอะๆ สั้นไปหน่อยนะ
  • ผู้ไม่มีหัวใจ

    23 เมษายน 2549 20:03 น. - comment id 90528

    เหะๆ เรื่องสั้น ครับ ขอบคุณที่ติดตาม

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน